ตอนที่ 72 เภสัชกรฝีมือดี

ตอนที่ 72 เภสัชกรฝีมือดี

ฉินมู่หลานได้ยินแล้วก็รีบกลับไปห้องที่เธออาศัยอยู่

เมื่อเสิ่นหรูฮวนเห็นประตูเปิด หล่อนก็รีบซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มด้วยความหวาดกลัว ครั้นเห็นว่าเป็นฉินมู่หลาน หล่อนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ในไม่ช้าความหดหู่ก็เข้าปกคลุมหัวใจอีกครั้ง หล่อนพูดด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ: “มู่หลาน วันนี้ฉันจะถูกพาตัวไปแล้ว พวกเราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วนะ”

“อย่าเพิ่งร้องไห้ บางทีเธออาจจะยังไม่ถูกพาตัวไป”

เสิ่นหรูฮวนที่กำลังจะร้องไห้ได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึง แล้วถามอย่างไม่อยากจะไม่เชื่อ “จริงเหรอ? เธอรู้ได้ยังไง?”

“ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดพลาด ตอนนี้เธอเลยปลอดภัย”

เสิ่นหรูฮวนมองฉินมู่หลานพลางน้ำตาคลอเบ้า แล้วพูดว่า “มู่หลาน ดีมากเลย ได้อยู่ต่ออีกหนึ่งวันก็นับว่ายังพอมีความหวังอยู่บ้าง บางทีก่อนที่ฉันจะถูกจับตัวไป พวกเราอาจหนีไปได้”

หล่อนรู้ว่าฉินมู่หลานได้วัตถุดิบทำยามาแล้ว และรู้สึกว่ามู่หลานอาจมีวิธีหลบหนีไปพร้อมกับหล่อนได้

ฉินมู่หลานปลอบโยนเสิ่นหรูฮวน แล้วเริ่มคิดหาวิธี

เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานไม่พูด เสิ่นหรูฮวนก็ไม่รบกวนเธอ เพราะกลัวว่าอาจจะรบกวนสมาธิ

ขณะที่ฉินมู่หลานคิดว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป เจ้าผอมก็เข้ามา

“หมอมู่ นี่คือสมุนไพรและอุปกรณ์ที่คุณต้องการ ผมซื้อมาหมดแล้ว”

หลังจากที่ฉินมู่หลานรับมา เธอก็มองเจ้าผอมด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดว่า “ค่ะ ขอโทษด้วยที่รบกวนคุณ การผลิตยาเม็ดต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งวัน ดังนั้นวันนี้เจ้านายของคุณยังต้องดื่มยาต้มเหมือนเดิมนะคะ”

“ไม่มีปัญหา ยาชุดเดิมยังอยู่ ผมจะไปต้มยาให้”

คนที่มีความสามารถจะได้รับการปฏิบัติดีเป็นพิเศษ ดังนั้นทัศนคติของเจ้าผอมที่มีต่อฉินมู่หลานจึงเรียกได้ว่าดีมาก

“ค่ะ งั้นก็ต้องรบกวนคุณแล้ว”

หลังจากที่เจ้าผอมจากไป เสิ่นหรูฮวนก็ยื่นหน้าออกมาอย่างระมัดระวัง มองฉินมู่หลานด้วยความชื่นชม แล้วพูดว่า “มู่หลาน เธอสุดยอดมาก ฉันเห็นแล้วว่าทุกคนที่นี่ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี”

“นั่นเป็นเพราะตอนนี้ฉันยังคงมีประโยชน์สำหรับพวกเขา ไม่อย่างนั้นจุดจบของฉันต้องน่าอนาถแน่นอน”

แน่นอนว่าฉินมู่หลานยังคงจำได้ว่า เจ้าหน้าบากยังคงจับตามองเธออยู่เสมอ เธอจึงต้องรีบลงมือ คิดถึงเรื่องนี้ก็มองเสิ่นหรูฮวนแล้วพูดว่า “ต่อไปฉันจะยุ่งกับการทำยา เธอต้องจำรายละเอียดทุกย่างก้าวตั้งแต่มาที่นี่ อย่าให้พลาดแม้แต่น้อย ทางที่ดีควรจดรายละเอียดทั้งหมดของที่นี่ที่เธอจำได้เอาไว้”

“ได้ ไม่มีปัญหา”

เมื่อเห็นว่ามีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ เสิ่นหรูฮวนก็รู้สึกฮึกเหิม

หลังจากที่ฉินมู่หลานนำสมุนไพรทั้งหมดมาแล้ว อันดับแรกก็เลือกสมุนไพรที่จำเป็นในการทำยาเม็ด จากนั้นจึงเก็บสมุนไพรอื่นที่เธอเขียนในใบสั่งยาไว้

ความจริงแล้วการทำยาเม็ดให้ชางไห่ใช้เวลาไม่นานนัก เนื่องจากปริมาณมีไม่มาก ฉินมู่หลานจึงทำให้เสร็จได้ภายในสามหรือสี่ชั่วโมง แต่เธอยังคงไม่หยุด เธอนำสมุนไพรที่เหลือออกมา แล้วเริ่มทำสิ่งที่จำเป็นต้องใช้

ขั้นแรกเธอนำสมุนไพรหลายชนิด เช่นโกฐน้ำเต้า โฮ้วผู่และอีกมากมายมาบดให้เป็นผง เพื่อทำเป็นยาระบาย

จากนั้นเธอก็แยกลูกจันทน์เทศออกมา

ลูกจันทน์เทศสามารถใช้รักษาม้ามและกระเพาะอาหารได้ แต่หากใช้ไม่ถูกต้อง จะทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง เกิดอาการประสาทหลอน หมดสติ และถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพียงแต่ปริมาณที่เธอมีอยู่ไม่สามารถทำให้ออกฤทธิ์ถึงขนาดนั้น แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้คนเวียนหัวได้

หลังจากทำสิ่งที่จำเป็นเสร็จแล้ว ฉินมู่หลานก็เก็บออกไปอย่างระมัดระวัง

เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานหยุดมือ เสิ่นหรูฮวนก็รีบถามว่า “มู่หลาน เธอทำยาเสร็จแล้วเหรอ?”

“ใช่ ในที่สุดก็เสร็จแล้ว”

ฉินมู่หลานหันไปมองเสิ่นหรูฮวน แล้วถามว่า “แล้วภาพเขียนของเธอเป็นยังไงบ้าง เอามาให้ฉันดูหน่อย” แต่เธอก็ไม่ได้คาดหวังมากนัก เพราะอย่างไรเสียเสิ่นหรูฮวนก็ถูกขังอยู่ในห้องตั้งแต่ถูกลักพาตัวมา จึงไม่น่าจะคุ้นเคยกับสถานที่นี้มากนัก

เมื่อได้ยินดังนั้น เสิ่นหรูฮวนก็รีบยื่นสิ่งที่วาดไว้มาให้ แล้วพูดว่า “มู่หลาน เธอดูสิว่าสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์หรือเปล่า”

หลังจากรับไปแล้ว ฉินมู่หลานก็พิจารณาอย่างละเอียด เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เสิ่นหรูฮวนวาดแผนผังโครงสร้างของบ้านเล็ก ๆ หลังนี้ได้จริง ๆ และยังได้จดลักษณะที่ปรากฏ และรายละเอียดบางส่วนของทุกคนที่เธอได้เจอด้วย ตัวอย่างเช่นเจ้าผอม หล่อนจดไว้บนกระดาษว่าเป็นชายร่างผอม มีไฝที่คอด้านขวา สูงประมาณร้อยเจ็ดสิบสองเซนติเมตร หนักประมาณห้าสิบสองกิโลกรัม ถนัดมือซ้าย

เมื่อเห็นดังนั้น ฉินมู่หลานก็ถามด้วยความสงสัย: “สิ่งที่เธอเขียนเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”โนเวลพีดีเอฟ

“แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริง ฉันจำได้ทั้งหมดตั้งแต่มาที่นี่ครั้งแรก ฉันมีความจำเป็นเลิศ” ในตอนท้ายเสิ่นหรูฮวนรู้สึกภาคภูมิใจ แต่ไม่นานก็รู้สึกหดหู่อีกครั้ง “แต่เสียดายที่การมีความจำเป็นเลิศไม่มีประโยชน์ เพราะยังติดอยู่ที่นี่”

ฉินมู่หลานรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินเสิ่นหรูฮวนบอกว่าหล่อนเป็นคนมีความจำเป็นเลิศ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอกับคนแบบนี้ แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริงก็คงมีความหวังที่จะหนีรอดได้มากขึ้น คิดได้ดังนั้น เธอก็รู้สึกตื่นเต้น แล้วถามตามตรง “เธอจำแผนที่มณฑลซานตงได้ไหม?”

“มณฑลซานตง? ที่นี่คือมณฑลซานตงเหรอ?”

เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินมู่หลานก็มองหล่อ่นด้วยความประหลาดใจ แล้วถามว่า “เธอไม่รู้เหรอว่าที่นี่คือมณฑลซานตง?”

“ฉันหมดสติทันทีหลังจากที่ถูกจับได้ พอตื่นขึ้นมา คนพวกนั้นก็พาฉันลงจากรถแล้ว” เสิ่นหรูฮวนเล่าสถานการณ์อีกครั้ง และในที่สุดก็ตอบคำถามของฉินมู่หลาน โดยกล่าวว่า “ฉันจำได้ เดี๋ยวฉันจะวาดให้ดู”

เสิ่นหรูฮวนเริ่มวาดภาพอีกครั้ง แต่เนื่องจากหล่อนกำลังวาดแผนที่มณฑลซานตงโดยละเอียด จึงต้องใช้เวลานาน เมื่อวาดเสร็จ ก็มีความเคลื่อนไหวที่ประตู

ด้วยสายตาเฉียบคมและมือที่ว่องไว ฉินมู่หลานรีบซ่อนทุกอย่างไว้ เหลือเพียงยาเม็ดที่เธอทำให้ชางไห่

ไม่นานประตูก็เปิดออก แล้วพี่จูก็เข้ามา เมื่อเห็นฉินมู่หลาน หล่อนก็พูดอย่างประหม่าเล็กน้อย: “หมอมู่ คุณใจดีมากที่เคยสอนฉันทำอาหาร ทำให้คุณต้องเดือดร้อนไปด้วย”

ได้ยินดังนั้น ฉินมู่หลานก็พูดด้วยรอยยิ้ม: “พี่จู ฉันต่างหากที่ควรจะเป็นคนที่ขอโทษพี่ เพราะฉันตัดสินใจเอง เลยทำให้พี่โดนดุ”ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

“ไม่หรอก ไม่หรอก คุณสอนฉันทำอาหาร ฉันก็ดีใจมากแล้ว คืนนี้ฉันทำหมูนึ่งข้าวคั่วที่คุณสอน พวกเขาทุกคนชอบมาก” พูดจบหล่อนก็ยื่นกล่องอาหารให้ แล้วพูดว่า “หมอมู่ ฉันเก็บไว้ให้คุณด้วย คุณมีประสาทรับรสดี หากมีอะไรผิดปกติกับรสชาติ ช่วยรีบบอกฉันด้วยนะคะ”

“ได้ค่ะ ขอบคุณพี่จู”

หลังจากที่พี่จูจากไป ฉินมู่หลานก็ปิดประตูอย่างรวดเร็ว จากนั้นหยิบแผนที่ที่เสิ่นหรูฮวนวาดออกมา แล้วอนุมานอย่างรอบคอบตามเส้นทางที่เธอถูกพามาที่นี่ โดยชี้ไปที่มุมซ้ายบน แล้วพูดว่า “ตอนนี้พวกเราน่าจะอยู่ตรงนี้”

เสิ่นหรูฮวนรีบมองตาม “ภูเขาเจี๋ยในอำเภอตี้เหรอ?”

“ไม่เชิง มันน่าจะเป็นที่นี่ ฉันถูกจับมาที่นี่จากอำเภอหนิงในเมืองเต๋อ”

เสิ่นหรูฮวนย่อมเชื่อฉินมู่หลาน “งั้นก็ไม่ผิดแน่นอน แต่การจะหนีออกไปจากที่นี่ได้ก็ยังเป็นปัญหาเหมือนกัน”

“เอาล่ะ เรากินข้าวกันก่อน แล้วค่อยวางแผนให้รอบคอบ”

“ได้เลย”

……………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

วางแผนจะหนีกันแล้ว ขอให้หนีได้สำเร็จนะคะ

ไหหม่า(海馬)

***************************************