ตอนที่ 68 สงครามระงับคนป่าเถื่อน ③ เขาสายฟ้า

ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi

68 สงครามระงับคนป่าเถื่อน ③ เขาสายฟ้า

 

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】

 

หลังจากที่ได้ทำให้กลุ่มใหญ่ของคนป่าเถื่อนติดกับ และกำจัดพวกเขา กองทัพของเราเดินหน้าไปที่ดินแดนของพวกเขา ไล่ตามผู้ที่รอดชีวิตที่หนีไป ทหารม้าเบาที่ตามไปได้ถูกสลัดออกเนื่องจากความเร็วของม้าของพวกเขา แต่เรารู้ทิศทางหลักๆของพวกเขา คิดเกี่ยวกับขนาดของการโจมตีก่อนหน้า การต่อสู้ก่อนหน้าทำสร้างความเสียหายที่ถึงจุดจบให้พวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย มันจะเป็นการต่อสู้ในดินแดนที่ไม่คุ้นเคย แต่เราจะเอาชนะพวกเขาด้วยจำนวน

 

「อย่างไรก็ตาม ชั้นคิดว่าเมื่อมันเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรในดินแดนของชั้นคือเรื่องหมายเลขหนึ่ง แต่ชั้นเทียบกับที่นี่ไม่ได้เลย」

 

ดินแดนรกร้างไกลเท่าที่ตาเห็น แม้ว่าพื้นจะเรียบ มันขรุขระและเป็นเนินขึ้นเล็กน้อย

 

「ถ้าเราไปทิศตะวันออกจากที่นี่ เราจะไปถึงเทือกเขาที่ยิ่งใหญ่」

 

เทือกเขาที่ยิ่งใหญ่ที่แยกทวีปเหนือและแต่ และตัดเข้ามาในที่ราบกลาง ก่อนจะปรากฏอีกครั้งข้างหน้า ยอดเขาไม่ใช่ที่ที่คนจะขึ้นไปได้ มีรายงานว่ายอดเขามันสูงมากกว่า 10,000 ม – พูดง่ายๆเป็นดินแดนของพระเจ้า

 

「อย่างที่คาด กองกำลังหลักของพวกเขาจะไม่อยู่ในเทือกเขานี้ เผ่าภูเขาจะอยู่ในดินแดนรกร้างไกลจากภูเขาเหล่านี้ไปหน่อย」

 

ลีโอโพลต์สอนเพื่อผม ผมปลื้มปิติ แต่ถูกทำเหมือนเป็นคนโง่ก็ทำให้เลือดผมเดือดด้วย

 

ดินแดนที่รกร้างแต่กว้างขวาง ถ้าพวกเขาวิ่งไปรอบๆบริเวณนี้ได้อย่างอิสระ มันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเจอพวกเขา

 

「ถ้าเรามีความคิดเรื่องทิศทางหลักๆ เราจัดการได้ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง」

 

ม้าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้กับวิถีชีวิตของพวกเขา มันไม่ได้แค่ใช้ในการต่อสู้ แต่ในการล่า ขนส่ง และมันดูเหมือนผู้ใหญ่ทุกคนจะได้ม้าคนละตัว

 

เพิ่มเติมจากนั้น ม้าต้องการน้ำและอาหารสัตว์จำนวนมาก ระดับทักษะของเผ่าภูเขาอยู่ต่ำและพวกเขาต้องปล้นสะดม ขโมยรถเกวียนและหม้อกระเบื้อง – เพราะไม่สามารถที่จะสร้างเองอย่างเป็นที่น่าพอใจได้ พวกเขาไม่สามารถจะขนส่ง โดยเฉพาะน้ำที่รวบรวมจำนวนมากที่สำคัญ ดังนั้นพวกเขาต้องเดินทางไปที่ที่ราบหรือแหล่งน้ำอื่นไม่ว่าอย่างไร เมื่อเรารู้ทิศทางของแม่น้ำหรือบ่อน้ำเล็กๆแล้ว เราจะโอเค

 

「โออ้ งั้นคุณก็รู้มากขนาดนั้น?」

 

ลีโอโพลต์มองผมในความประหลาดใจ

เฮ๋ สิ่งต่างๆอย่างระดับทักษะต่ำและพวกเขามีม้าคนละตัว มันเป็นข้อมูลที่นายไม่รู้ใช่มั้ย?

 

「พ่อได้ยินมาจากคนป่าเถื่อนผู้หญิงระหว่างที่คุยบนหมอน ไม่ใช่เหรอ?」

 

「อย่าพูดอะไรที่ไม่จำเป็นสิ」

 

ผมดีดหน้าผากซีเลีย นั่นรู้สึกดี ดังนั้นมันทำให้เธอจับหน้าผากของเธอในความเจ็บปวด

 

เราให้นักโทษของสงครามที่เราจับในการต่อสู้ก่อนหน้าเดินไม่ได้ เราเลยมัดมือพวกเขาและให้มีทหาร 100 คนคอยเฝ้าดูพวกเขาอยู่ในหมู่บ้าน จำนวนของทหารของเราจะลดลง แต่ผมคิดว่าเรากำลังจะสรุปสิ่งต่างๆ ดังนั้น ไม่มีเหตุผลที่จะประหยัดกับพวกเขา

 

ในหมู่พวกเขา ผมเลือกสาวที่ผมโปรดปรานที่สุด และพาเธอขึ้นไปบนเตียงกับผม แต่ผมไม่รู้ว่าทักษะของเผ่าภูเขาบนเตียงก้าวหน้ามั้ย หรือสาวนั้นไร้เดียงสาเกินไป สาวร้องให้ระหว่างทำให้ตัวเธอพอใจซ้ำแล้วซ้ำอีก และเมื่อถึงเวลาที่ผมปลดปล่อยอสุจิผมครั้งหนึ่ง จำนวนครั้งที่เธอถึงจุดสุดยอดก็เลขสองหลักแล้ว เมื่อเข้าตอนเช้า สาวได้เป็นนักโทษของผมอย่างสมบูรณ์และบอกผมทุกอย่างที่ผมถาม

 

「ไม่ว่าจะวิธีแบบไหน นั่นเป็นข้อมูลสำคัญ อย่างที่คาด」

 

ผมไม่เคยได้ยิน ‘อย่างที่คาด’ ที่ประชดประชันมากกว่านั้นเลย

 

「ผู้หญิงคนนั้น เธอถามชั้นว่าชั้นเป็นน้องสาวของกัปตันมั้ย! ไม่ใช่แค่นั้น เมื่อชั้นบอกเธอว่าเอเกอร์-ซามะมีภรรยาสามคนแล้ว เธอแนะนำตัวเธอเองให้เป็นคนที่สี่!!」

 

พูดถึงแล้ว เธอพูดว่ามันปรกติที่ผู้ชายที่แข็งแกร่งในเผ่าภูเขาจะมีเมียหลายคน อย่างไรก็ตาม อย่างที่คาด ผมไม่อยากจำทำให้ผู้หญิงที่ผมเจอไม่นานเป็นภรรยาของผม

 

「เพราะมันไม่ดี ต่อไปจะเป็นตาหนู……หนูหมายถึง ถ้าพ่อ ‘กิน’ ผู้หญิงอย่างไม่รับผิดชอบต่อไป พ่อจะมีปัญหานะ」

 

มันสนุกที่ได้เห็นซีเลียพยายามอย่างสิ้นหวังตลอดเวลา แต่ไม่นานมานี้ มันดูเหมือนเธอได้รับอิทธิพลมาจากอิริจิน่า และเสียงของเธอดังขึ้น ถ้าเธอรู้ว่าคนรอบข้างมองดูเธอ เธอจะอายจริงๆ

 

ถ้าคุณไม่พยายามจะสร้างบทสทนาที่ไร้ประโยชน์หรืออะไรบางอย่าง ในดินแดนนี้ที่ไม่มีอะไรนอกจากภูเขา มันจะน่าเบื่อจนทนไม่ได้ ผมอยากจะรีบเจอและปราบพวกเขา ผมน่าจะเห็นว่ามีกิจกรรมอะไรมั้ยในรอบข้างของราเฟน เมื่อไม่มีอะไรอยู่ที่นี่

 

「เต็นท์หลายเต็นท์ที่ดูเหมือนพวกมันเป็นของคนป่าเถื่อนได้ถูกเจอในร่องสายน้ำใหญ่ข้างหน้า」

 

สถานการณ์เคลื่อนไหวทันทีจากรายงานของผู้คุ้มกันด้านหน้า

 

「ทหารม้าหอก โดยไม่ต้องปะทะกับศัตรู ล้อมพวกเค้าจากข้างหลัง คิดไว้ว่าทุกคนของคนพวกนั้นจะขี่ม้า รวมไปถึงผู้หญิง ถ้านายไม่ล้อมพวกเค้า พวกเค้าจะหนีไป」

 

「ให้ธนูอยูข้างหน้า คนเหล่านั้นเป็นทหารม้าธนู หอกยาวจะกันพวกเค้าไม่ได้ทั้งหมด」

 

แต่ละทีมจำประสบการณ์ในการต่อสู้ว่าพวกคนเหล่านี้น่ารำคาญแค่ไหน แม้ว่าเราเจอกับไม่กี่คน เราไม่ลดการป้องกันลงและจัดแถว

 

「มันจะเปลี่ยนเป็นการต่อสู้มั้ย?」

 

ผมพูดความรู้สึกจากใจ

 

「ยังไงซะ วิธีที่พวกเค้าทำสิ่งต่างๆนั้นไม่รู้」

 

ลีโอโพลต์ก็มีความสงสัยจากก้นบึ้งของหัวใจ

 

ศัตรูสังเกตว่าเรามาและเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่พวกเขามีแค่อาวุธไม่กี่ชิ้นที่เตรียมสำหรับการโจมตี แต่อุปกรณ์สำหรับขี่ม้า เมื่อดูผิวเผิน พวกเขามีมากสุดก็ 100 คน และที่เหลือไม่คนแก่ก็เด็น แม้ว่าเราได้ลดจำนวนของเราไปบ้าง ถ้าคุณรวมกองทัพส่วนตัว จำนวนเราใกล้กับ 2000 และอย่างที่คาด พวกเขาจะไม่มีโอกาส คือที่ผมคิด พวกเขาจะยอมแพ้ถ้าเราแสดงจำนวนให้เขาดู

 

「ทหารม้าหอกที่นั่นได้ไปข้างหลังแล้ว พวกเค้าถูกล้อมอย่างสมบูรณ์」

 

ซีเลียให้ข้อมูลเรา ด้วยสิ่งนี้ ชะตาของพวกเขาถูกผนึก

 

「พวกเค้ามีเจตนาจะต่อต้านมั้ย?」

 

「เห็นว่าเป็นอย่างนั้น ทหารม้าของพวกเค้าเริ่มจัดแถว」

 

แน่นอนว่า ลีโอโพลต์จะไม่อนุญาตอะไรบางอย่างแบบนั้น นักธนูเริ่มยิงพวกเขาเต็มกำลังก่อนที่พวกเขาจะรวมกลุ่มเสร็จ และส่วนใหญ่ของพวกเขาถูกกำจัดก่อนที่พวกเขาจะเริ่มเคลื่อนไหวได้ดีๆ

 

แค่เมื่อผมกำลังจะจบพวกเขาโดยการจุดไฟใส่พวกเขา ชายคนหนึ่งได้ปรากฏ ชายได้ใส่ชุดแฟนซี และตะโกนอะไรบางอย่างเสียงดัง ระหว่างที่มองเรา มันดูเหมือนเขาเรียกร้องการดวล

 

「ดวล……」

 

「อย่าไป! การต่อสู้ได้ถูกตัดสินแล้ว นำตัวเองไปใส่ในสถานการณ์แบบนี้มันไม่มีจุดหมาย!」

 

ซีเลียเตือนผมเมื่อเธอเห็นผมจะกรุณากับข้อเรียกร้องของพวกเขา

 

อย่างไรก็ตาม มันไม่มีความหมาย จากข้อมูลจากสาวที่ผมกล่อม มีประเพณีที่ผู้นำจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด และมันตัดสินโดยการสู้หนึ่งต่อหนึ่ง ผมบอกได้จากเครื่องประดับของชายที่ตะโกนใส่ แต่เขาน่าจะเป็นหัวหน้าของตระกูล หรือหัวหน้าเผ่า ถ้าผมเอาชนะเขาได้ งั้นศัตรูที่เหลืออาจจะหยุดต่อต้านและยอมแพ้แก่เรา

 

「แค่เมื่อชั้นเจอทหารม้าที่ยอดเยี่ยม มันจะเป็นเรื่องน่าอายที่จะฆ่าพวกเค้าทั้งหมด」

 

แล้วก็ ถ้าเราฆ่าพวกเขาทั้งหมดที่นี่ เราไม่รู้ว่าคนที่ยอมแพ้ไปแล้วจะทำอะไรมั้ย และยังมีการบาดเจ็บของคาร์ล่าด้วย แต่เพราะสาวที่ผมโอบกอดเมื่อวาน ผมจะยกโทษให้พวกเขา ด้วยซีเลียที่ถอนหายใจอยู่ข้างหลังผม ผมเดินหน้าไป ไม่ใช่ว่าผมแค่อยากจะสู้

 

「พวกโง่ที่ทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเราแปดเปื้อน! ถ้าแกกลัวความโกรธแค้นของดินและภูเขานี้ ให้ข้อเรียกร้องของข้าถูกตอบ ให้เราสรุปสิ่งต่างๆในการดวลที่ศักดิ์สิทธิ์นี้!」

 

「ชั้นไม่ได้กลัวภูเขาจริงๆ แต่ชั้นยอมรับ」

 

ชายนั้นอยู่ในอายุ 40 และมันเป็นข้อยกเว้นของเผ่าภูเขา เพราะกายของเขาเล็ก แต่เขาดูจะเป็นนักรบผู้มีประสบการณ์

 

「โออ้! งั้นเรามีฮีโร่ที่นี่ ภูเขาก็มองดูอยู่ ตอนนี้เข้ามาหาข้า!」

 

ชายส่งเสียงแห่งความสุขออกมา ขณะที่เขาให้ม้าของเขาวิ่งและปล่อยลูกธนู

 

ธนูในการดวล? อย่างไรก็ตาม พวกเขาเป็นคนที่สู้ด้วยดาบและธนูตั้งแต่ทีแรก ดังนั้นนี่ปรกติสำหรับพวกเขา มากกว่านั้น ลูกธนูเองไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น ผมหลบลูกธนูที่ยิงมาข้างหน้าผมได้อย่างง่ายๆ ผมปัดไปด้วยหอก และชิดระยะทันที

 

ชายเห็นหอกของผม และโดยไม่ให้โอกาสผมสู้ระยะใกล้ ถอยไปและพยายามจะจบผมด้วยธนูของเขา เขาเคลื่อนไหวม้าอย่างเชี่ยวชาญ และใช้อุปสรรคต่างๆเป็นโล่ระหว่างที่รักษาระยะ

 

แต่ผมยังสามารถจะปิดระยะได้ในการหายใจครั้งเดียว เหตุผลนั้นเรียบง่าย ม้าของเขาไม่สามารถหนีจากชวาร์ซได้ ชวาร์ซนั้นต่างจากม้าศึกตัวอื่น และขาของเขาหนาและทน เขาเลี้ยวหลบอุปสรรคที่ไหร่ค่าเหล่านั้นและควบไป ทดแทนทักษะการควบคุมม้าที่ธรรมดาของผม และเลือกทางที่สั้นที่สุดด้วยตัวเอง

 

รางวัลที่เขาอยากได้คือการที่มีสาวสวยดูแลและแปรงเขา ถ้าเขาไม่ได้สิ่งนั้น งั้นเขาจะบูดบึ้งอย่างเร็ว

 

ในพริบตา ระยะระหว่างเขาและผมใกล้กับ 10 ม และเมื่อเห็นว่าเขาหนีไม่ได้แล้ว ชายชักดาบของเขา เขามีบางอย่างเหมือนมาเชเต้ ซึ่งสั้นกว่า 1 ม ระหว่างที่ผมมีหอกยาย 3 ม เขาใช้ธนูด้วย ดังนั้นผมไม่คิดว่ามันไม่แฟร์

 

ระหว่างที่ผมพึมพำกับตัวเองในหัวใจของผม ผมเหวี่ยงหอกและเล็งไปที่คอของชาย เขากันมันอย่างสิ้นหวังด้วยดาบของเขา แต่ด้วยความต่างในกำลังที่ท่วมท้น ดาบของเขาบินไป และแขนของเขางอไปข้างหลัง

 

「-!!!」

 

เขาไม่มีแม้แต่เวลาจะกรีดร้อง ในแรงตอนกลับ หอกของผมลงไปที่คอของเขา ส่งให้หัวเขาบินไป อย่างที่คาด ผมจะไม่แพ้ ชายอายุ 40 ตัวเล็กๆ เมื่อมันเป็นเรื่องการแลกเปลี่ยนการโจมตี เสียหัวของเขาไป ตัวของเขาทรุดและหล่นไปที่พื้น ขณะที่ม้าหยุดอย่างเงียบๆ

 

「หัวหน้าเผ่าตายแล้ว! พวกนายจะยังสู้อยู่มั้ย?!」

 

ผมหันไปหาคนภูเขาที่ล้อมอยู่และตะโกน พวกเขาหยุดเคลื่อนไหวและทิ้งดาบและธนูลงที่พื้น ผู้หญิงที่กำลังจะวิ่งหนีก็มารวมกันรอบผม ปกปิดพื้น

 

มันดูเหมือนที่สาวพูดนั้นถูกต้อง ด้วยสิ่งนี้ ตอนนี้ผมจะเป็นหัวหน้าเผ่าของคนพวกนี้ กองทัพตะวันออกก็หยุดการโจมตีอย่างแม่นยำเพราะคำสั่งลีโอโพลต์ด้วย

 

การต่อสู้จบแล้ว

คนป่าเถื่อน……คนภูเขาไม่ได้ถูกทำลาย แต่พวกเขาถูกยึดครอง

 

หนึ่งในคนภูเขาถอดเครื่องประดับของหัวหน้าและนำมันมาให้ผม มันทำให้ผมดูเหมือนคนป่าเถื่อนจริงๆ ดังนั้น ผมต่อต้านมัน แต่มันจะทำให้พวกเขาพอใจดังนั้นมันดีกว่าที่จะใส่ ด้วยนั่นอยู่ในใจ ผมยื่นมือออกไป ในทันใดนั้น เสียงฟ้าคำราม

 

ผู้ชายการเผ่าภูเขาที่คุกเขาตรงหน้าผมและเสนอเครื่องประดับให้ผม ถูกผ่าโดยฝ้าผ่า และไหม้เป็นตอตะโก ตายทันที

 

สงครามยังไม่จบ

—————————————————————

นี่มันเป็นความรู้สึกที่แย่ที่สุด นั่นเพราะหลังจากที่ได้รับชัยชนะ ผมพบกับมนุษย์ที่กลายเป็นบาร์บีคิว

 

「เอเกอร์-ซามะ!」

 

ซีเลียรีบมาหาผม แต่ผมควบคุมเธอด้วยมือของผม ตอนนี้ไม่มีแม้แต่เมฆเดียวในท้องฟ้าที่โปร่ง และถ้าคุณคิดเกี่ยวกับมันปรกติแล้ว ฝ้าจะไม่ผ่า ผมไม่รู้ว่านี่อะไร แต่มีบางอย่างที่เป็นอันตรายอย่างชัดเจน ซึ่งผมจะไม่ปล่อยให้มันทำซีเลียเจ็บ

 

「ชั้นจะไม่ยอมรับมัน ชั้นจะไม่ยอมรับเรื่องนี้!」

 

เสียงที่ดูเหมือนคลานมากับพื้น มันไม่ได้เป็นเสียงที่ดังจริงๆ แต่มันเป็นเสียงที่อยู่ในหูอย่างค่อนข้างไม่น่าพึงพอใจ

 

「คนโง่อย่างแกที่ไม่เคารพภูเขา ไม่เหมาะสมกับการเป็นหัวหน้า แม้ว่ากฎจะบิดเบี้ยว ชั้นจะไม่ยอมรับเรื่องนี้!」

 

เต็นท์ที่ตกแตงอย่างน่าขนลุก ด้วยกระโหลกของม้าและแกะ……ผมไม่อยากจะคิดมัน แต่มีแม้แต่บางอย่างที่ดูเหมือนกระดูกมนุษย์แขวนอยู่ที่นั่น คนคนหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างช้าๆจากบริเวณนั้น ใส่เสื้อผ้าเน่าๆที่เรียกว่าเสื้อผ้าไม่ได้อีกแล้ว ผมไม่เห็นหน้าพวกเขา และไม่มีอะไรเห็นได้นอกจากปากของเขา ผมบอกไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นชายหรือหญิง ขณะที่มันเข้าหาผมอย่างช้าๆ ระหว่างที่ลากผ้าขี้ริ้วเก่าที่ทำหน้าที่เป็นชุด

 

「มันโอเคถ้าเจ้ายอมรับมันไม่ได้ แต่อย่างน้อยเจ้าก็บอกชื่อเราได้ใช่มั้ย?」

 

สิ่งนั่นหยุดซักพัก จากนั้นส่งเสียงที่ไม่น่าพึงพอใจอีกครั้ง

 

「พวกโง่ เตรียมตัวเองซะ เคารพชั้น ชั้นเป็นการเกิดใหม่ของภูเขาดอร์บากะ และแค่พวกนั้นที่ต้องการให้ถูกลงโทษควรจะยกหน้าของพวกเค้าขึ้น!」

 

มีเสียงกรีดร้อง และพร้อมกัน คนภูเขาคุกเข่าอยู่ที่พื้นและร้องขอการให้อภัย ก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่ได้คุกเขามากขนาดนี้ เหมือนที่พวกเขาคุกเข่ากับผมหลังจากที่ผมเอาชนะหัวหน้า แต่ตอนนี้มันต่างไปอย่างสิ้นเชิบ และพวกเขาสั่นและขอร้องขอการให้อภัย

 

ระหว่างนั้น ทหารกองทัพตะวันออกไม่ได้ลดหัวของพวกเขาอย่างเป็นธรรมชาติ บางทีนั่นอาจจะกวนใจดังนั้นดอร์บากะตะโกนอย่างโกรธแค้น

 

「พวกโง่ที่ไม่เคารพภูเขาจะถูกมอบความตาย!!」

 

จากนั้น แสงได้สว่างจากคทาที่ถืออยู่ ลำแสงวิ่งเข้าไปสู้ตรงกลางของทหาร มันเป็นเสียคำรามที่ดังกว่าก่อนหน้าหลายเท่า และหลายคนได้ไหม้ทันที เป่าประมาณ 10 คนในบริเวณนั้นไปด้วย

 

มันสร้างความปั่นป่วนใหญ่

 

「นักเวทย์?!」

 

ผมได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีคนที่ใช้สปิริตและสามารถจะใช้ไฟ ลม และพลังลึกลับอื่นๆ มันต้องการคนที่เกิดมากับพรสวรรค์ ดังนั้นปรกติแล้วพวกเขาถูกปกป้องและต้อนรับจากประเทศและขุนนางชั้นสูง ดังนั้นมันหายากสุดขีดที่คนธรรมดาจะเจอพวกเขา

 

แล้วก็พวกเขามีจำนวนน้อยด้วย ข้อมูลของพวกเขาคลุมเครือและมีความไม่แน่นอนหลายอย่าง บางคนพูดว่าผู้ใช้เวทมนตร์ไม่มีอะไรไปกว่านักมายากลที่ฉูดฉาด ระหว่างที่คนอื่นพูดว่ามันขึ้นอยู่กับจะใช้งานอย่างไร แม้ว่าสามารถที่จะตัดสินผลของการต่อสูง จุดมันก็คือ แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นนักเวทย์ ความต่างในบุคคลในพรสวรรค์หลากหลายไป และอาจจะมีลูกกระจ๊อกที่ถือพลังทำลายล้างที่ยิ่งใหญ่ได้

 

ในอดีต ผมได้ยินจากลูซี่ว่านักเวทย์ส่วนใหญ่เอาชนะได้คนหรือสองคน ถ้าพวกเขาสามารถเอาชนะหลายคนได้พร้อมกันทีเดียว งั้นพวกเขาจริงๆแล้วค่อนข้างมีทักษะ

 

สามารถที่จะเป่าศัตรู 10 คนได้จากระยะไกล คนที่อยู่ตรงหน้าเราไม่ต้องสงสัยว่าเป็นนักเวทย์ชั้นหนึ่ง

 

「แต่ชั้นไม่ได้ยินว่าบางอย่างแบบนี้มีตัวตนจากสาวคนนั้นนะ」

 

บางทีเธออาจจะจงใจไม่พูดเกี่ยวกับมัน หรือบางทีมันเป็นตัวตนที่เธอไม่รู้ ไม่ว่าแบบไหน ความปั่นป่วนกระจายไปทั้งกองทัพทิศตะวันออกแล้ว เพื่อระงับมัน เราควรจะให้ผู้บัญชาการออกคำสั่งให้ยิงธนูให้เป็นฝนโดนมัน คนที่ฆ่าศัตรู 10 คนได้นั้นน่าเกรงขาม แต่ไม่ควรจะเอาชนะ 2000 คนได้ อย่างไรก็ตาม ถ้านั่นเกิดขึ้น งั้นจะมีความตายจากความโกลาหล และเราอาจจะต้องทิ้งคนภูเขาที่เพิ่งยอมแพ้กับเราอีกครั้ง

 

「ไม่มีทางเลือกนอกจากจะทำมันด้วยตัวเอง」

 

ผมส่งสัญญานด้วยหอกของผมและให้สัญญานคนรอบๆผมให้ถอยไป ผมไม่ได้มีเจตนาจะปกป้องพวกเขา แต่พวกเขาจะมาขวางทางถ้าพวกเขายืนอยู่ข้างผม

 

「ไอ้เวรตะไล แกจะท้าทายอำนาจภูเขาด้วยเหมือนกันรึ?!」

 

「ชั้นเข้าใจว่าเจ้าน่าทึ่ง แต่การต่อสู้ถูกตัดสินแล้ว ถ้าเจ้าเชื่อฟัง งั้นชีวิตเจ้าจะไม่เสียไป」

 

มันไม่เหมือนว่าผมอยากให้พวกเขายอมแพ้ ผมแค่อยากส่งสัญญานศัตรูให้โจมตีผมด้วยการโจมตีของพวกเขา

 

「ช่างไร้สาระ คนโง่นี่!」

 

แสงรวมไปอยู่ที่ไม้เท้า ผมเดินหน้าทันที ฟันมัน แต่แสงจากไม้เท้าบินมาหาผมเร็วกว่า และขณะที่ผมพยายามจะปัดกลุ่มของแสง

 

ผมถูกเป่ากระเด็นค่อนข้างงดงาม

 

「กุ่ห์…………!」

 

จากส่วนลึกของหน้าอกผม ลมเล็ดออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ ขณะที่ภาพที่ผมเห็นสั่นไหว ผมนอนอยู่ที่นี่ตลอดระหว่างที่ผมอยู่ระหว่างสู้ไม่ได้ ผมเลยลุกขึ้น แต่ทั้งตัวของผมจั๊กจี๋ด้วยความรู้สึกชา

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีความรู้สึกแบบนี้ ผมคิดว่าผมปัดป้องมันด้วยหอกของผมได้ แต่ผมเดาว่าผมบอกไม่ได้เมื่อมันเป็นเวทมนต์

 

「อะไร!? หลังจากที่รับเวทย์ของชั้นไปแล้ว ทำไมแกไม่ตาย?! แก ไอ้เวร แกเป็นปีศาจบางอย่างเหรอ?」

 

「แกคือคนที่น่าสงสัยกว่านะ มีอะไรแปลกบินอยู่รอบตัวแก!」

 

สิ่งเดียวที่จะบินออกจากผมไปคือความรักผู้หญิง แม้ว่า เมื่อมันเข้าไปในตัวแล้ว ความรักของมันจะกลายเป็นเด็กทารก

 

「แค่นั้นเหรอ? งั้นมันตาชั้นต่อไปนะ」

 

ผมใส่แรงเข้าไปในมือของผม แต่มือที่ถือหอกชา และผมใช่ความแข็งแกร่งของผมแบบที่ผมต้องการไม่ได้ เมื่อผมมองดูดีๆ ฝ่ามือของมือผมไหม้ค่อนข้างเต็มตา ความจริงที่ว่ามันไม่ไหม้เป็นตอตะโก อาจจะขอบคุณผ้าคลุมที่ผมใส่อยู่

 

ผมชักแอ่งคู่ที่เบากว่ามากและพุ่งเข้าตีอีกครั้ง

เมื่อเห็นว่าผมถูกสั่งสอนระหว่างการร่ายแต่ละครั้ง มันดูเหมือนว่าเวทมนตร์แสงของเขาจะยิงต่อเนื่องไม่ได้

 

ระยะคือ 20 ม แต่สำหรับผมระยะนั้นแค่นิดเดียว และมันไม่ได้ดูเหมือนว่าคู่ต่อสู้ของผมเคลื่อนไหวได้เร็วด้วย ถ้าดาบของผมไปถึง งั้นมันก็ควรจะจบ

 

「ไร้สาระ! ถูกทำลายซะ ไอ้ปีศาจ!」

 

ขณะที่ผมเข้าหมา แสงไม่บินมา ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมทำได้ ด้วยนั่นอยู่ในใจ ผมเตรียมที่จะเหวี่ยงดาบ แต่ไม่เท้าสองแสงที่ต่างจากก่อนหน้า

 

มันไม่ใช่เสียงคำรามที่สร้างกับสายฟ้าก่อนหน้า แต่มันเป็นเสียงแตกเหมือนน้ำมันร้อน และกำแพงของแสงปรากฏขึ้น ล้อมนักเวทย์

 

「เอาจริงอ่ะ แกมีทักษะมากแค่ไหนกัน?」

 

กำแพงของแสงไหม้แม้แต่หญ้าบนพื้น ดังนั้นแม้แต่ผมก็บอกได้ว่ามันจะแย่ถ้าสัมผัสมัน เห็นว่าการเคลื่อนไหวของเราหยุด ทหารเล็กปืนธนูไปที่นักเวทย์และยิงลูกธนูออกไป แต่พวกมันติดไฟทันทีเมื่อมันโดนกับกำแพงแสง เผาไหม้และโดยปัดป้อง

 

「ถ้านายแตะคนนี้ งั้นเราจะเจอกับชะตาที่ย่ำแย่เหมือนก่อนหน้า」

 

ฝ่ามือที่ไหม้ของผมเจ็บ ผ้าคลุมของผมก็มีกลิ่นไหม้ด้วย ถ้าผมเสียผ้าคลุมนี้ไปด้วย ผมอาจจะร้องไห้

 

「แต่ ไม่มีทางอื่นนอกจากนั่น」

 

ถ้าผมมีเสาไฟ งั้นผมอาจจะสามารถต่อต้านกับนักเวทย์ระหว่างการเผชิญหน้าของเรา แต่โชคร้าย ผมมีแต่ดาบเป็นอาวุธอยู่ตอนนี้ ผมหยิบแอ่งคู่และเตรียมพร้อมที่จะเหวี่ยงมันด้วยสองมือ หายใจออกครั้งใหญ่

 

ด้วยเสียงคำรามของสงครามที่หยาบ ผมเหวี่ยงดาบลงไป มันทำหรือตาย และผมทำอะไรไม่ได้นอกจากจะเชื่อในดาบล้ำค่าที่เป็นสัญลักษณ์ของนนน่า

 

เมื่อดาบโดนกับแพงแสง มันเหมือนพยายามจะตัดบางอย่างที่นุ่มด้วยกำลัง และมีเสียงแตกที่เข้มข้น เหมือนกันกับที่เผาตัวผมก่อนหน้า ผมไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่สิ่งเดียวที่ผมทำได้คือใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของผมและเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยกล้ามเนื้อ

 

และจากนั้น ผมชนะพนัน ดาบที่สวยแพรวพราวไม่ถูกปัดไปโดยแสง แทนที่อย่างนั้น มันสามารถฟันผ่านกำแพงไป

 

เสียงเชียร์ขึ้นมาจากคนภูเขาที่รวมกันและกองทัพตะวันออก หลังจากที่กำแพงถูกตัด มันหายไป เหมือนหมอกที่หายไป

 

「อะไรกัน-! พรจากภูเขา สามารถที่จะฟันพลังที่ศักดิ์สิทธิ์ของชั้นได้ แกเป็นอะไรกัน?!」

 

「ชั้นสงสัย!」

 

ผมไม่รู้สึกเหมือนอยากพูด ผมดึงดาบจากกำแพงและเข้าหานักเวทย์ เป็นอีกครั้งที่กลุ่มแสงยิงมาระยะเผาขน

 

แต่มันไม่มีประโยชน์ เพราะดาบนี้ได้พิสูจน์กับผมแล้วว่าวันตัดผ่านแสงได้ ผมจะไม่โดนเวทมนตร์อีกต่อไปแล้ว

 

ด้วยการเหวี่ยงหนึ่งครั้ง ผมหันหอกแสงที่บินมา และเตะตัวของคู่ต่อสู้ ทำให้กระเด็นไปอย่างน่าสงสาร ผมเหยียบหลังคนรูปลักษณ์ที่ร่วงหล่นของมัน และพร้อมที่จะเหวี่ยงดาบของผม เสียงของระเบิดสองเสียงได้ดังก้องอยู่ข้างหลังผม มันดูเหมือนเวทมนตร์ที่ถูกตัดโดยผมบินไปถึงข้างหลัง ทหารที่โชคไม่ดีควรจะแค้นคนนี้ ไม่ใช่ผม

 

「ห-หยุดมัน! ถ้าแกฆ่าชั้น ลงทะ-! แกจะโดนลงโทษ! ดินถล่มจะลงโทษ-! หิมะถล่มจะลงโทษ-!」

 

ความสนใจของผมกับคนนี้หายไปกระทันหัน คนนี้ไม่ได้ใช้ภูเขาหรือมีอะไรเกี่ยวกับมัน คนนี้แค่นักเวทย์ที่ทรงพลังที่ให้คนภูเขาอยู่ในความกลัว เมื่อคุณทำลายเวทมนตร์ที่พวกเขามั่นใจมาก พวกเขาเริ่มตื่นตกใจ และเมื่อพวกเขากำลังจะถึงก้นบึ้งของความตาย พวกเขาเปลี่ยนเป็ฯมนุษย์ที่ร้องขอชีวิต

 

「ทักษะของนายน่าทึ่ง เจอกัน」

 

เหมือนดึงลำต้นของผัก หัวถูกแยกจากตัว

 

เสียงซ้อนทับกันของคนโห่ร้องปะทุขึ้น ที่มันดูเหมือนมันจะสั่นภูเขา ทหารทุกคนในกองทัพตะวันออกยกมือทั้งสองและชื่นชมผม

 

「อัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดในโกลโดเนีย!」

 

「แม้แต่นักเวทย์ก็ไม่ทำให้เค้ากลัว!」

 

「ชื่นชมกัปตันที่เอาชนะไม่ได้!」

 

「คนรักผู้หญิงที่เหลือเชื่อ!」

 

ผมจะจัดการกับคนสุดท้ายทีหลัง แต่เสียงเชียร์ไม่ได้รู้สึกแย่ แต่ครั้งนี้ค่อนข้างอันตรายนะ มะของผมและทั้งตัวของผมต้องการการรักษา และมากกว่าอะไรทั้งสิ้น ผมกังวลเกี่ยวกับผ้าคลุมของผม……มันจะดีถ้ามันไม่ไหม้หรือเต็มไปด้วยรู

 

ในทางกลับกัน เป้าหมายของความกลัวของคนภูเขาหายไป และผมเหลือเป็นคนเดียวที่พวกเขายอมแพ้ ดังนั้น พวกเขาจบที่การคำนับหัวของพวกเขารอบผมอีกครั้ง

 

แต่ครั้งนี้ มันจบจริงๆ ผมประกาศชัยชนะและจุดจบการต่อสู้กับทุกคน และผมจะให้ซีเลีย ที่วิ่งมาหาผมระหว่างที่น้ำตานองหน้าของเธอ รับมือกับการรักษาของผม

—————————————————————

「โอ้ย! มันแย่มาก」

 

ผมปล่อยการประมวลผลหลังสงครามให้ลีโอโพลต์และให้ซีเลียดูอาการบาดเจ็บของผม มือของผมอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ แต่นอกจากนั้น มีที่ที่ไหม้แม้ว่าผมใส่เกราะ

 

「มันดูเหมือนพ่อโดนฟ้าผ่าจริงๆเลย」

 

กลับไปเมื่อวันที่เป็นทหารรับจ้าง ผมมีโชคร้ายที่ได้เห็นคนถูกฟ้าผ่า และแผลนั้นดูเหมือนแบบนี้ แม้ว่าชายคนนั้นมีทั้งตัวของเขาลุกไหม้และตายทันที

 

「พ่อเห็นทหารไหม้เป็นตอตะโกใช่มั้ย?! ทำไมพ่อทำตัวบุ่มบ่ามมาก!?」

 

มันเป็นเพราะผมคิดว่าผมปัดมันด้วยหอกได้ แต่ซีเลียไม่ได้มองหาคำตอบแบบนั้น

 

「พ่อผิดเอง พ่อทำให้ลูกกังวล」

 

ผมกอดซีเลียที่ตามีน้ำตาและบอกเธออย่างอ่อนโยน สำหรับซีเลีย ที่โตแล้ว นี่เป็นคำตอบที่ถูก

 

โดยบังเอิญ เพราะผมมียาทาอยู่ทั่วตัวผม อิริจิน่าถูกห้ามไม่ให้เข้ามา และเกี่ยวกับผ้าคลุมสำคัญ………….

 

「มันค่อนข้างไหม้และมีรูนิดหน่อยที่นี่ที่นั่น หนูคิดว่ามันดีกว่าที่จะหาผืนใหม่」

 

「…………」

 

「เอเกอร์-ซามะ? มันจะต้องการวัตถุดิบที่หนูไม่เคยเห็นมาก่อนเพื่อที่จะเย็บใหม่ งั้นทำไมไม่โยนมันทิ้งไปล่ะ」

 

「ซีเลีย อย่าพูดไปมากกว่านั้น」

 

เสียงของผมรุนแรงกว่าที่ผมคิด มือที่ทายาผมหยุด

 

「ย-ยังไงซะ หนูขอโทษ……อย่างมาก」

 

ซีเลียซีด แม้ว่าเธอรักษาผม ผมทำบางอย่างที่แย่ แม้ว่าผมไม่อนุญาติสิ่งนี้ การที่จะโยนผ้าคลุมนี้ทั้งไป มันเป็นบางอย่างที่ไร้สาระสำหรับผม อีกครั้ง ผมลูบซีเลียที่มีน้ำตาและดมกลินของผ้าคลุม ผมรู้สึกว่าผมได้กลิ่นที่รำลึกความหลังของดินแดนรกร้างนั้นภายในหมู่กลิ่นไหม้

—————————————————————

「คนภูเขาเป็นยังไงบ้าง?」

 

「พวกเค้าใจเย็นลงแล้ว ไม่ได้ดูเหมือนว่ามีใครที่จะอยากหนี」

 

ลีโอโพลต์บอกผมเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากสงครามจบลง

 

คนภูเขาตัดสินหัวหน้าของพวกเขาผ่านการดวลทุกครั้ง ดังนั้นหลังจากที่ผมฆ่าหัวหน้าคนเก่า ไม่มีอะไรที่ผิดปรกติเกิดขึ้น และมันไม่ได้ดูเหมือนว่าพวกเขาถือความแค้นกับผมด้วย แต่ สิ่งที่มีปัญหาคือระบบการเมืองของพวกเขา

 

พวกเขาปฏิบัตกับหัวหน้าเหมือนเป็นตัวตนที่แน่นอนที่สุด และจะตามคำสั่งเขาทุกอย่าง และจากตรงนั้น ผู้นำหลายคนขยับตามนั้น พูดอีกอย่างคือ มันเป็นระบบอำนาจรวมศูนย์ คนอื่น นอกเหนือจากหัวหน้าที่สามารถออกเสียงความคิดเห็นได้คือหมอผี แต่เขาถูกฆ่าโดยผมดังนั้นไม่มีคนที่คล้ายอย่างนั้นแล้ว

 

หลังจากที่ได้เป็นหัวหน้าของพวกเขา ถ้าผมไม่ออกคำสั่งอะไรกับพวกเขา พวกเขาจะไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเอง และพวกเขาทำอะไรไม่ได้

 

คนที่สอนสิ่งนี้กับผมคือสาวที่นั่งอยู่ข้างผมชื่อของเธอคือปีปี้ และเป็นลูกสาวของหัวหน้าคนก่อน แต่เขามีเมียประมาณ 20 คน และเธอเป็นแค่หนึ่งในลูกของเขา ดังนั้นไม่มีความผูกพันทางอารมณ์อะไรจริงๆ

 

「งั้น ปีปี้จะร่วมมือกับชั้นเหรอ?」

 

「มันธรรมชาติสำหรับหนูที่จะให้ความร่วมมือกับหัวหน้า หนูจะทำทุกอย่าง หนูจะตามหัวหน้าทุกที่ที่นายไป」

 

เธอมีวิธีพูดที่รวบรัดที่ไม่มีความลังเลมันดูเหมือนมันเป็นครั้งแรกที่คนที่ราบ (ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่พวกเขาเรียกทุกคนที่ไม่ได้มาจากเผ่าภูเขา) เป็นหัวหน้า ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องพยายามที่จะเข้าใจเรา ในเวลาเดียวกัน พวกเขาอยากจะให้ผมได้รับการสนับสนุนเพราะคนภูเขาให้ค่าความแข็งแกร่ง และได้เห็นผมฟันหัวหน้าคนเก่าขาดครึ่ง และรับรู้ว่าผมเป็นคนที่ยิ่งใหญ่

 

ดังนั้น พวกเขาเสนอบรรณาการที่จะทำให้ผู้ชายทุกคนมีความสุข พูดอีกอย่าง มันดูเหมือนพวกเขาตัดสินใจว่าจะเสนอเลดี้สวยๆให้ผม เธอน่ารัก และปีปี้ค่อนข้างเด็ก แต่นี่คือสิ่งที่ผมได้ยินมาจากเธอ

 

「หนูได้ยินมาว่าความสุขของผู้ชายคือการย้อมสีสาวๆอายุเท่าๆกันกับปีปี้*ด้วยสีของตัวเอง」

«TLN: ปีปี้เรียกตัวเองว่าปีปี้»

 

「ตัวของปีปี้เล็ก ดังนั้นมันง่ายที่ผู้ชายจะครอบงำ ผู้ชายตื่นเต้นเมื่อพวกเค้าได้ครอบงำผู้หญิง」

 

วัฒนธรรมของเราค่อนข้างต่างกัน แม้ว่าผมไม่ได้ไม่ชอบเรื่องนั้น

 

ไม่ว่าอย่างไร เรามีข้อมูลน้อยเกี่ยวกับคนภูเขา และถ้าปีปี้เต็มใจที่จะมากับผม มันจะง่ายสำหรับผมที่จะปกครองพวกเขา ดังนั้นผมเลยรับข้อตกลงนี้โดยไม่ลังเล

 

「งั้น เราควรจะทำยังไงกับคนที่ยังเหลือ?」

«TLN: พูดถึงเผ่าภูเขาที่ถูกทิ้งไว้ให้สู้»

 

สีหน้าของปีปี้มืดมนไป

 

「หนูไม่รู้ คนส่วนใหญ่ที่ไปที่ที่ราบไม่กลับมา มันจะยากถ้าจะล่าต่อแบบนี้ เราต้องสร้างเด็กมากมายเพื่อเพิ่มจำนวน และเราต้องคัดพวกนั้นที่ล่าไม่ได้และอ่อนแอ」

 

มันต้องเป็นอย่างนั้นถ้าพวกเขามีแค่ไม่กี่คนและเราเอาคนสุขภาพดีไป 1000 คนจากประชากรของพวกเขา มันจะเป็นสถานการณ์วิกฤติ แต่คนภูเขาที่รอดชีวิตจะถูกปฏิบัติเป็นนักโทษของสงคราม

 

「เกี่ยวกับเรื่องนั้น เธอพูดอะไรบางอย่างกับผู้นำของเผ่าได้มั้ย? ได้โปรดบอกพวกเค้า เกี่ยวกับครึ่งนึงที่ไม่กลับมาที่ถูกจับไม่ก็ฆ่า ถ้าพวกเค้าสาบานความภักดีกับชั้น ชั้นจะให้นักโทษกลับไป」

 

ตาของปีปี้เปิดกว้าง

 

「ถ้าพวกเค้าครึ่งนึงกลับมา เราจะโอเค! อย่างที่คาดกับหัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่ ชั้นจะให้พวกผู้นำรู้!」

 

วิธีที่เธอวิ่งยังเด็กและน่ารัก มันรู้สึกเหมือนเธอเป็นสาวน้อยตัวเล็กๆ

 

「…………」

 

ซีเลียได้มองผมด้วยหน้าที่อธิบายไม่ได้ เธออาจจะกังวลว่าจุดยืนของเธอจะถูกเอาไปจากเธอ

 

「อย่าสงสัยมาก ลูกเป็นเป็นซีเลียที่น่ารักของพ่อ」

 

หน้าของซีเลียผ่อนคลายทันที

 

「หัวหน้า! พวกผู้นำพูดว่าพวกเค้าจะถวายความภักดีของพวกเค้าอย่างยินดี แล้วก็ผู้หญิงสามคนมันน้อยเกินไปที่หัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่จะมี พวกเค้าพูดว่ามันโอเคถ้านายอยากจะเลือก 20 และนำพวกเธอไปกับนาย」

 

สีหน้าของซีเลียได้เครียด

—————————————————————

การต่อสู้ระหว่าวคนภูเขาจบด้วยการที่พวกเขาถูกครอบครองโดยผม ในวัฒนธรรมของพวกเขา สิ่งต่างๆเหมือนสัญญาหรือสนธิสัญญาไม่มีตัวตนอยู่ เพราะพวกเขาไม่มีกระดาษตั้งแต่ทีแรก ผู้นำแค่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าผมที่ภูเขาเห็นได้ และถวายความภักดีของพวกเขา นี่จะเป็นการกระทำที่เป็นพิธีของความภักดี

 

ผมสัญญาจะปล่อยนักโทษของสงครามและผมนำ ผู้เจรจาต่อรอง/เครื่องบรรณาการ ปีปี้ กลับไปที่ราเฟน

 

「เธอทำไม่ได้ เธอยังเล็กอยู่ ดังนั้นเธอถูกโอบกอดไม่ได้」

 

「ทำไมไม่ล่ะ? ปีปี้เป็นผู้หญิงแล้ว ชั้นอยากได้ลูกของหัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่」

 

「เธอพูดอย่างนี้โดยไม่เห็นของของเอเกอร์ซามะ! มันเป็นไปไม่ได้ด้วยตัวเล็กๆของเธอ」

 

「อะไรที่ชั้นยังไม่ได้เห็น?」

 

「หืม? ยังไงซะ ไม่ใช่มัน ‘นั่น’ เหรอ? ของฮาร์ดเลตต์ซามะที่มันใหญ่คือคว- โอ้ย!」

 

ผมตีหัวอิริจิน่าเพื่อให้เธอเงียบ เธอทำหน้าที่เป็นผู้เจรจาต่อรอง แต่จำนวนของสาวเพิ่มขึ้นอีกแล้ว

 

「อออุ จำนวนผู้หญิงเพิ่มขึ้นอีกแล้วหนูควรจะพูดยังไงกับนนน่าและคนอื่นๆ……」

 

「มันโอเคไม่ใช่เหรอ? ปีปี้เหมือนทูต」

 

ซีเลียก็ไม่มั่นใจกับเรื่องนั้นด้วย

 

「ไม่! เธอจะถูกกินโดยทันทีอย่างแน่นอน แล้วก็มีผู้หญิงสองคนที่พื้นเมื่อวาน ใช่มั้ย? มีรอยเปื้อนแดงสองรอยบนเตียง ใช่มั้ย!?」

 

นั่นชวยไม่ได้ ผู้นำของเผ่าพูดว่าเขาอยากให้ลูกสาวของเขาทั้งสองคนรับเมล็ดพันธุ์จากคนที่ยิ่งใหญ่ และพวกเธอน่ารักด้วย ดังนั้นผมปฏิเสธไม่ได้

 

ผมจับซีเลียที่จุกจิกและเลี่ยงคำถามที่ถามโดยอิริจิน่า ผ้าคลุมไหม้ และหอกหัก – พวกมันเป็นของขวัญที่มีแผลที่ลูซี่ทิ้งไว้ให้ผม และผมรู้สึกเหมือนกับช่วงเวลานี้จะเพิ่มความสำคัญอย่างช้าๆทีหลัง

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 20 ปี ฤดูใบไม้ผลิ

(วิธีนับอายุแบบดั้งเดิม)

สถานะ: วิสเคาน์อาณาจักรโกลโดเนีย ผู้บัญชาการกองทัพอิสระตะวันออก จำนวนทหาร: 1900

ลอร์ดศักดินาของบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ กองทัพส่วนตัว: 120

สินทรัพย์: 5050 ทอง (หนี้ 5000 ทอง)

อาวุธ: แอ่งคู่ (ดาบใหญ่), หอกใหญ่

อุปกรณ์: ผ้าคลุมสีดำ, เกราะทอง (หัวเราะออกมาดังๆ)

ครอบครัว: นนน่า (ภรรยา), คาร์ล่า (ภรรยาน้อย), เมล (ภรรยาน้อย), ซู (ลูกสาว), คู, รู,

ริต้า (เลียนแบบแม่บ้าน), เซบาสเตียน (พ่อบ้าน)

เมืองหลวง: เมลิสซ่า, มาเรีย, มิทตี้, อัลม่า, ครอลล์, แคทเธอรีน

ลูกน้อง: ซีเลีย (ผู้ช่วย), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการกองทัพส่วนตัว), ปีปี้ (ชาติภูเขา),

ลีโอโพลต์ (รองผู้บัญชาการกองทัพอิสระ), อดอล์ฟ (เจ้าหน้าที่กิจการภายใน), ชวาร์ซ (ม้า)

คู่นอน: 44, เด็กที่เกิดแล้ว: 6

—————————————————————

 

 

 

ต้องหยุดเพิ่มอีก 5 วันนะครับ ขอโทษด้วยจริงๆครับ

ขอบคุณสำหรับเงิน 100 บาท

เป้าหมายเดือน 4/66

ค่าเน็ต 200/200

กาแฟ 280/300

ค่าไฟ 20/1000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

กสิกรไทย

 

แปลโดย: wayuwayu

ติดตามได้ที่ดิสคอทส่งข้อความมาขอได้ที่ facebook: “wayuwayu แปล”

pdfไว้อ่านตอนกลางคืน  สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ทั้ง facebook และ discord