บทที่ 55 เรื่องที่คาดไม่ถึง

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 55 เรื่องที่คาดไม่ถึง

สาวใช้นางนั้นนับว่ากล่าวด้วยความเคารพ ที่นอบน้อมแบบนี้ก็เพียงเพราะนางเกรงกลัวก็เท่านั้น

หลานเยาเยาเหลือแลไปทางพวกนางแวบหนึ่ง แล้วจึงถือถ้วยชิดริมฝีปาก เผยอริมฝีปากออกเล็กน้อย แล้วกลับหยุดชั่วครู่

ริมฝีปากนางแย้มยิ้มขึ้น แต่ไม่ได้ดื่มน้ำเข้าไป แต่กลับวางกลับไปไว้เหมือนเดิม จากนั้นเอ่ยขึ้นกับเหล่าสาวใช้ด้วยเสียงราบเรียบ

“เจ้าบ้วนปากให้ข้าดูซิ ข้าคนนี้เป็นคนขี้ระแวงนัก และที่กลัวที่สุดคือถูกคนวางยาพิษ”

กล่าวเสร็จก็หัวเราะกับสาวใช้อย่างมีเลศนัย สายตามีแววตาประหลาดขึ้น

เมื่อคำพูดนางหมดลง สาวใช้นางนั้นก็หน้าซีดราวนัยน์ตาขาวขึ้นมาทันใด สองมือของนางเริ่มสั่นเทา หลบหลีกสายตาไม่กล้าสบตานางตรงๆ

เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว!

แม่นมรีบยกถ้วยขึ้นดื่มหนึ่งอึก แล้วก็แย้มยิ้มขึ้น พลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“คุณหนูหก ข้าได้ลองดูแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร”

“อ้อ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็คงไม่มีอะไร เมื่อตอนแรกที่มาถึงข้าได้บ้วนปากไปแล้วหล่ะ”

อย่างไรนางได้กลิ่นแปลกๆ ให้ตายอย่างไรนางก็จะไม่ดื่ม แม่นมคิดว่าเพียงเพราะนางทดลองดื่มให้แล้ว แล้วนางจะดื่มหรือ?

ช่างน่าหัวเราะนัก!

หากนางชอบดื่มนักก็เรื่องของนาง เกี่ยวอะไรกับนางด้วย?

เมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของแม่นม หลานเยาเยาก็ทำเป็นมองไม่เห็น แล้วก็เอ่ยขึ้นกับสาวใช้ที่ยืนถือชุดแต่งสีแดงฉานข้างๆ

“เอาชุดมาให้ข้า ข้าใส่เองได้ พวกเจ้าออกไปรอข้างนอกก่อน”

ที่จริงอยากจะเล่นอยู่กับพวกนาง แต่มันช่างน่าเบื่อจริงๆ

สาวใช้เหล่านั้นในตอนแรกก็ลังเลเล็กน้อย แต่เห็นสีหน้าบูดบึ้งดูไม่ได้ของแม่นม ก็รีบเดินออกไปทันที แม้คำเคารพลาก็ลืมบอกไป

โอ้!

รีบออกหายารักษาขนาดนี้เลยหรือ?

เมื่อเห็นแม่นมจอมเจ้าเล่ห์รีบรุดนำออกไป คนอื่นๆ ก็รีบพยุงชิวซวนเดินออกไปตาม

หลานเยาเยาในห้องตรวจดูชุดแต่งงาน เมื่อพบว่าไม่มีปัญหาอันใด จึงสวมเข้าด้วยตัวเอง

ชุดแต่งงานนับว่าออกแบบได้พอดิบพอดี ไม่ใช่แบบที่อึดอัด หนา และสวมใส่ยุ่งยาก

นางคล่องแคล่วว่องไว ครู่เดียวก็แต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จ

พอดีกับที่ประตูถูกผลักเปิดออกเสียง “เอี๊ยด” จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก

“คุณหญิง คุณหนู”

นิ่งซื่อและหลานชิวหยุนมาแล้ว”

ดูแล้วน่าจะไม่ใช่เรื่องดี!

เพียงพริบตาเดียว ผ้าม่านก็ถูกฉีกออก นางทั้งสองต่างเดินเข้ามาในห้อง เบื้องหลังตามมาด้วยองครักษ์สี่คน หนึ่งในนั้นมีองค์รักหนึ่งคนที่นางคุ้นหน้าเหลือเกิน เนื่องเพราะรอยแผลบนศีรษะยังไม่แห้งดี

องค์รักคนนั้นเมื่อเห็นนางเข้า ก็รีบก้มหน้างุดทันที

“นางคนชั้นต่ำนะ นางคนชั้นต่ำ ทุกสิ่งเป็นเพราะเจ้าทำร้าย เจ้าดูสิว่าเจ้าทำร้ายข้าจนเป็นยังไง?ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเสกสมรสออกไปได้อย่างสบายใจหรอก ข้าจะทำให้เจ้าถูกทำลายชื่อเสียงป่นปี้เหมือนข้า”

ตาที่ผ่านการร้องไห้จนบวมแดงของหลานชิวหยุน เมื่อพบกับหลานเยาเยานัยน์ตาราวกับมีเพลิงแห่งความโกรธเกรี้ยวแผดเผา สายตาราวกับจะกลืนกินนางทั้งเป็นอย่างไรอย่างนั้น

เนื่องเพราะข่าวลือที่เล่าลือกันในเมือง ว่าองค์รัชทายาทถอนหมั้นกับนางแล้ว แต่นางเพิ่งจะถูกถอนหมั้น ท่านอ๋องเย่ที่สาวๆ ไม่รู้เท่าไหร่ทั้งเมืองต่างเฝ้าใฝ่ฝันแอบหลงใหลกลับสู่ขอหลานเยาเยา อย่างนี้แล้วจะไม่ให้นางโกรธเกลียดได้อย่างไรกัน?

หลานเยาเยานางคู่ควรอย่างไร?

นางก็เป็นแค่ลูกเดนที่เกิดจากคนชั้นต่ำ นางจะทำลายหลานเยาเยาเอง

“อา!คือเจ้าเองหรือหลานชิวหยุน นี่ก็ผ่านมานานแล้วที่ไม่ได้พบกัน เจ้ากลับโทรมลงได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ จุ๊ๆ จุ๊ๆ ช่างน่าเวทนาจริงๆ!”

เมื่อมองดูใบหน้าหลานชิวหยุนอันผ่ายผอม หลานเยาเยายกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

สมควรตาย!

นี่จะเป็นจุดจบของการแย่งว่าที่สามีคนอื่น

“น่าสงสารหรือ ฮ่าๆๆๆ … นังแพศยา รอดูก็แล้วกันว่าคนที่น่าสงสารจริงๆ คือใคร?”

หลานชิวหยุนบีบกำมือแน่น แค้นจนทนไม่ไหวอยากจะฉีกปากหลานเยาเยาให้ขาด แล้วก็สับนางให้เป็นหมื่นชิ้น

แต่นางต้องอดทนให้ถึงที่สุด!

เพราะท่านแม่ของนางกล่าวไว้ ไม่รีบ ไม่รีบ ต้องค่อยเป็นค่อยไป

นางมีวิธีรับมือกับหลานเยาเยา

ดังนั้น นางกดเก็บความโกรธเกลียดพลางหันมามองนิ่งซื่อ ใจเต็มไปด้วยความคาดหวัง ต่อไปท่านแม่จะมีวิธีรับมือกับหลานเยาเยาอย่างไร

กลับพบเพียง ใบหน้าของนิ่งซื่อเต็มไปด้วยรอยยิ้ม…

ไม่พูดอะไรเพียงแต่โบกมือขึ้น องครักษ์ทางด้านหลังสี่คนก็รีบมายืนประกบหลานเยาเยา ทั้งล้อมนางเอาไว้

หลานเยาเยาแทบไม่ได้เขยิบตัวใดๆ ยอมให้พวกเขาล้อมนางเอาไว้ นางอยากรู้ว่านิ่งซื่อคิดจะทำอะไรกันแน่?

ขณะที่คิดอยู่ ก็เห็นสาวใช้คนหนึ่งเดินเข้ามา ในมือถือชุดแต่งงานสีแดงสดอีกชุดเข้ามา

นิ่งซื่อใช้มือข้างเดียวคว้าชุดแต่งงานยื่นมาที่หลานชิวหยุน พลางกล่าวกับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ชิวหยุน เจ้ารีบสวมชุดแต่งงานนี้ซะ เมื่อสวมชุดแต่งแล้ว ข้าจะสั่งให้คนมัดตัวเจ้าไว้

หากเมื่อถึงห้องหอและถูกอ๋องเย่พบเข้า เจ้าก็ให้เหตุผลว่าหลานเยาเยาไม่ยอมเสมสมรสกับเขา ดังนั้นจึงมัดเจ้าไว้แล้วให้แต่งแทน”

อย่างไรเมื่อถึงตอนนั้นก็ไหวฟ้าดินแล้ว นับเป็นสามีภรรยากันแล้ว ท่านอ๋องเย่จะไม่รับก็ไม่ได้

แม้ท่านอ๋องเย่จะโมโหขึ้นมาแล้วจะเป็นอย่างไร?

เขาจะฆ่าชิวหยุนหรือ?

ไม่ ไม่ ไม่ ไม่มีทาง

นั่นเพราะรูปลักษณ์ของชิวหยุนงดงามกว่าหลานเยาเยามากมายนัก เมื่อนั้นหากท่านอ๋องจะลงโทษ ก็จะลงความโกรธทั้งหมดไปที่หลานเยาเยา

แต่บุตรสางสุดที่รักของนางก็จะได้เป็นพระชายาที่ท่านอ๋องเย่มาสู่ขอด้วยตนเองเชียว!

“แต่งแทนหรือ? ท่านแม่ ทำไมข้าต้องแต่งแทนไปด้วย แม้นจะต้องแต่งข้าจะแต่งอย่างโอ่อ่าเปิดเผย”

นางจะไปเป็นตัวแทนของคนชั้นต่ำอย่างหลานเยาเยา แม้ดูจากรูปลักษณ์ของนาง ท่านเย่อ๋องจะต้องถูกใจเป็นแน่ เหมือนกับองค์รัชทายาทที่หลงใหลนางปานนั้น

“เจ้าลูกโง่ ก็มีเพียงทางนี้ก็จะสามารถแต่งเข้าจวนเย่อ๋องได้ ได้เป็นพระชายาท่านอ๋องเย่ และยังขโมยทุกอย่างของหลานเยาเยาไปได้”

เมื่อคิดว่าจะได้ขโมยตำแหน่งพระชายาท่านอ๋องเย่ของหลานเยาเยา หลานชิวหยุนก็รีบตกลงทันที จากนั้นก็รีบไปยังฉากบังสายตาแล้วเปลี่ยนชุดแต่งงานทันที

“จับนางมัดขึ้น” นิ่งซื่อตะโกนสั่ง

ในคนจับหลานเยาเยาเอาไว้ ไม่เพียงเพราะจะให้ชิวหยุยแต่งงานแทนนาน แต่เพื่อจะทำลายนาง

ดังนั้น!

มุมปากนิ่งซื่อกระตุกขึ้นอีกครั้ง แววตามาดร้ายเปิดเผยอย่างไม่ปิดบัง

ในที่สุดก็เผยอปากขึ้น พลางเอ่ยปากเตรียมพ่นคำผรุสวาท

“แม้เจ้าหลานเยาเยาจะอัปลักษณ์ แต่ข้าก็จะขอทำลายรูปโฉมเจ้า ทำลายตัวเจ้า ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของเจ้าซะ ให้ชีวิตทั้งชีวิตของเจ้าแม้ไม่ตาย ก็อย่าได้คิดจะแต่งออกไปเลย”

นี่คือจุดจบชีวิตของนาง ทั้งยังให้นางลำบากลำบน ให้การมีชีวิตนั้นแย่ยิ่งกว่าความตาย

“เจ้าต้องการจะทำลายรูปลักษณ์ข้า?และยังอยากจะทำลายชีวิตข้า?เจ้าคิดว่าเจ้ามีปัญญาหรือ?หึ?”

หลานเยาเยายังคงรอยยิ้มไว้บนใบหน้า มองหน้านิ่งซื่อที่แดงจัดราวกับแต้มด้วยชาด พลางทอดถอนหายใจอย่างประชดประชัน

“ฮ่าๆๆ… นังคนชั้นต่ำ หรือเจ้าคิดจะหนีออกไปงั้นรึ?”

“หนีงั้นรึ?เจ้าคิดมากไปแล้วมั้ง”

นางเพียงแค่จะนำคำพูดที่นางเอ่ยชั่วครู่ ทำมันออกมาจริงๆ

จะหนีออกไปได้อย่างไร?

“ลำพังเพียงตัวเจ้า คิดจะสู้หรือ?เหอะ!”

นางในตอนนี้ นิ่งซื่อนางไม่สนใจสักนิด เพราะนางมีกำลังคนมากกว่า แล้วนางก็กำชับขึ้นกับองครักษ์….