บทที่ 49 ขายปลาล็อตใหม่

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 49 ขายปลาล็อตใหม่[รีไรท์]

ระหว่างที่พวกมันกินอาหาร ตัวของปลาเกล็ดขาวที่เดิมใหญ่แค่เพียงหนึ่งฝ่ามือก็เริ่มโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อลำตัวมันยาวถึง 20 เซนติเมตร มันก็หยุดโต

จากนั้นปลาเกล็ดขาวตัวเล็กก็เริ่มล่าปลาตัวอื่นในบ่อ ยิ่งกิน ตัวมันก็ยิ่งโตขึ้นไปอีก ดีนะที่ฉู่เหินเพิ่งซื้อปลาล็อตนี้มาจากบ่อปลาอีกแห่งเมื่อ 2-3 วันก่อนมาเตรียมไว้แล้ว

เขาเชื่อว่าปลาล็อตนี้น่าจะมีมากพอให้ปลาเกล็ดขาวโตถึงขั้นสอง และแน่นอนว่าเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ปลาเกล็ดขาวกว่าครึ่งก็จะถึงขั้นสอง เมื่อตัวมันโตยาวกว่า 1 เมตร มันก็เริ่มคายก้อนไข่ปลาออกมาอีกครั้ง

หากไข่ปลาล็อตนี้โต การเลี้ยงปลาของฉู่เหินถึงจะมีปริมาณมากกว่าทุกครั้ง

เมื่อฉู่เหินมองปลา 3,000-4,000 ตัวที่เพิ่มขึ้นในพริบตา ตัวเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอีกครั้ง

ฉู่เหินรีบติดต่อทหารระดับหัวหน้าที่เซ็นสัญญากับเขา ด้วยความที่บ่อปลาของเขาไม่ได้ใหญ่โตอะไร ถ้าเขาไม่ขายปลา 3,000 ตัวนี้ บ่อปลาของเขาคงเลี้ยงไม่ไหวแน่ ๆ

“สวัสดีครับ นี่ฉู่เหินพูดนะ ผมมีปลา 3,000 ตัวพร้อมขายแล้ว คุณรีบมาจับไปดีกว่า เพราะตอนนี้มันคับบ่อปลาผมจนจะล้นอยู่แล้ว” เมื่อฝ่ายตรงข้ามได้ยินอย่างนั้น เขาก็ตอบตกลงอย่างไม่ลังเลและรับปากว่าจะไปถึงในอีก 3 ชั่วโมง

ตอนแรกฉู่เหินนึกว่าเขาจะเอารถบรรทุกคันใหญ่มาใส่ปลา แต่ที่ไหนได้มันกลับเป็นเฮลิคอปเตอร์นับ 10 ลำ เฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวดูเหมือนจะถูกสั่งทำพิเศษ เพราะมันใหญ่กว่าเฮลิคอปเตอร์ที่ฉู่เหินเคยเห็นมา ใต้เครื่องมีตะขอเหล็กหลายตัวและมีแทงก์น้ำขนาดใหญ่อยู่ใต้ตะขอนั้น

แทงก์หนึ่งสามารถใส่ปลาได้ 200 ตัว เครื่องบิน 50 ลำสามารถใส่ปลาได้ 3,000 ตัว เสี่ยวชิงกับลี่ลี่ยืนคุมอยู่ด้วยความกลัวว่าอีกฝ่ายจะจับปลาไปเกิน

แต่ฉู่เหินกับหัวหน้าทหารเดินไปที่บ้านเพื่อหารืออะไรบางอย่างเสียก่อน

“คุณฉู่ มีอะไรก็ว่าเลย” อีกฝ่ายถามฉู่เหินตรง ๆ

“ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณสองเรื่อง เรื่องแรกคือปลาเกล็ดขาวพันธุ์นี้ ผมเลี้ยงให้พวกมันโตมากกว่านี้ได้ ซึ่งผมเรียกระยะนั้นว่าขั้น 3 พอปลาพวกนี้ถึงขั้น 3 พวกมันก็จะมีสรรพคุณดีกว่าก่อนหน้าเป็นเท่าตัว แต่ปกติกว่าจะเลี้ยงให้ถึงขั้นนั้นมันยากมาก ปีหนึ่งได้สักสิบกว่าตัวหรือหลายร้อยตัวก็โชคดีแล้ว”

“เพราะค่าเลี้ยงดูให้ถึงขั้น 3 ก็แพงมากด้วย แต่ถ้าอยากได้ ผมเลี้ยงให้ได้อยู่นะ 2-3 ตัวแรกผมให้ฟรีเลยก็ได้” หลังจากฟังฉู่เหินพูด อีกฝ่ายก็ยังทำท่าถมึงทึง เพราะเขารู้ว่าฉู่เหินฉลาดและไม่มีทางยอมขาดทุนแน่ เขาต้องมีเหตุผลอะไรแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำแบบนี้

‘ถ้าคุณฉู่ซ้อนแผนอะไรไว้ เขาคงไม่ยอมบอกแน่ ๆ’

เมื่อฉู่เหินมองอีกฝ่าย เขาก็อดกระซิบเบา ๆ กับตัวเองไม่ได้ว่า ‘หมอนี่นิ่งเกินไป ทำเป็นไม่ดีใจ แต่จริง ๆ แล้วดีใจจนเนื้อเต้นชัวร์ ๆ’ เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว เขาก็เลยพูดเงื่อนไขข้อสองออกไปทันที

“ส่วนข้อสอง จริง ๆ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่อยากให้คุณก่อไฟที่มีความร้อนสูงมาก ๆ หรืออะไรก็ได้ที่สามารถเพิ่มอุณหภูมิให้สูงถึง 500,000 องศาได้” เมื่อได้ยินฉู่เหินพูด อีกฝ่ายที่หน้ามุ่ยอยู่นาน แต่เขาก็ยอมตกลง

ปลา 3,000 ตัวนี้ทำให้เขามีเงินในมือ 15 ล้าน ถึงแม้จะดูเยอะ แต่รายจ่ายในอนาคตของฉู่เหินก็เยอะมากเช่นกัน เรือตกปลาของฉู่เหินเก่ามากแล้ว เขาคงต้องเปลี่ยนเรือใหม่ ถ้าอยากให้มันใช้งานได้ดีในทุก ๆ ด้าน มันก็น่าจะราคา 100,000 ถึง 800,000 หยวน

เขาต้องเหลือเงินอย่างน้อย 2 ล้าน เพื่อเอาไว้รักษาพี่ชาย เขาเอาไปใช้อย่างอื่นไม่ได้จริง ๆ แถมหวงลี่ลี่ก็ต้องไปโรงเรียนอีก ฉู่เหินจะต้องเอาเงิน 1 ล้านมาช่วยเธอ เก็บ 1 ล้านไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ตอนนี้เขาจึงเหลือเงินเพียง 10 ล้าน

ฉู่เหินจะสร้างบ้านเล็ก ๆ ที่บ่อปลา เขาว่ากว่าจะเสร็จ มันต้องใช้เงินหลายล้านแน่ แต่เมื่อเขานึกถึงพี่ชายที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล ถ้าพี่ของเขาได้อยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ แล้วทำให้สุขภาพดีขึ้นได้ละก็จะกี่ล้านเขาก็ยอม

ความสัมพันธ์ของเขากับเสี่ยวชิงก็มั่นคงดี เขาต้องหาเวลาไปเยี่ยมบ้านของเสี่ยวชิงบ้าง อย่างน้อยก็ต้องไปเจอพ่อแม่ของกันและกัน แต่เขายังไม่มีเวลาไปเพราะพี่ชายเข้าโรงพยาบาล ตามกฎของหมู่บ้านชาวประมงของอ่าวนี้ อันดับแรกคุณต้องมีผู้เฒ่าผู้แก่พาไปแนะนำตัวก่อน มันคือการแสดงความเคารพ

ด้วยเหตุนี้ ฉู่เหินจึงไม่ได้ไปมาสักพัก ถึงเขาจะอยากจัดการให้เรียบร้อยตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะไม่อยากให้พ่อแม่ของเสี่ยวชิงจะได้ไม่ต้องลำบากก็ตาม

เมื่อฉู่เหินบอกทั้งสองสาวเรื่องเตรียมสร้างบ้านใหม่ ทั้งสองก็ดีใจมาก

“อ้อ ฉันมีข่าวดีมาบอกด้วยนะถ้าเธอสองคนอยากฟัง” ฉู่เหินยิ้มให้เสี่ยวชิงและหวงลี่ลี่เมื่อกลับถึงบ้าน

“ฉันมีอะไรดี ๆ ให้ดู ฉันว่าเธอสองคนน่าจะชอบ” เมื่อกลับถึงบ้าน ฉู่เหินยิ้มให้เสี่ยวชิงและหวงลี่ลี่อีกรอบ

“มันคืออะไรเหรอพี่ รีบเอามาให้ดูเร็วเข้า” เมื่อหวงลี่ลี่ได้ยินว่าเป็นของดี เธอก็รีบดึงแขนฉู่เหินไปทันที

“เธอนี่มันเหลือเกินนะ อายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย” ฉู่เหินกล่าวหลังจากมองหวงลี่ลี่อย่างเอ็นดู แต่พอเขาเห็นปากเบะ ๆ ของสาวน้อย เขาก็ชูมือยอมแพ้ ขืนยังไม่ยอมตามใจ เธอต้องลงไปนั่งร้องไห้แน่ น้ำตาของน้องสาวคือสิ่งที่ฉู่เหินกลัวที่สุด

“มากับพี่สิ มาดูกันว่ามันคืออะไร” ฉู่เหินเดินมาที่ลานกว้าง เขาหยิบดินวิเศษออกมาจากแหวนแล้วโรยมันลงไปบนแปลงดอกไม้กว้าง 2 ตารางเมตรจนทั่ว

“ไหนล่ะของวิเศษ มันก็แค่ดินดำ ๆ เท่านั้นเอง” หวงลี่ลี่รู้สึกเหมือนถูกหลอก มันก็แค่ดินดำ ๆ ไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นตรงไหน

“สาวน้อย เธอไม่เชื่อพี่เหรอ พี่บอกเธอก็ไม่เชื่อ งั้นเอาเมล็ดมาปลูกไว้ ตื่นมาพรุ่งนี้แล้วเธอจะแปลกใจ”

หญิงทั้งสองคนมองหน้ากัน ทั้งสองรู้สึกว่าฉู่เหินกำลังอำพวกตนอยู่ แต่สุดท้ายพวกเธอก็ยอมหว่านเมล็ดตามที่เขาบอกแต่โดยดี

จากนั้นหวงลี่ลี่ก็เริ่มถามว่าดินมันวิเศษอย่างไร แต่ฉู่เหินนั้นไม่ยอมบอกออกมาสักที นั่นทำให้หวงลี่ลี่กัดฟันกรอดด้วยความโกรธ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อเห็นทั้งคู่หัวเราะ เสี่ยวชิงก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอคงจะมีความสุขมากที่ได้มีชีวิตแบบนี้ทุกวันในอนาคต

เมื่อถึงช่วงกลางคืนอันเงียบสงบ นี่ก็ถึงเวลาที่ฉู่เหินจะเริ่มฝึกวิทยายุทธอีกครั้ง หลังจากที่สองสาวไปดูฉู่เหินฝึกอยู่นานสองนาน พวกเธอก็รู้สึกเหนื่อยจึงกลับไปนอนที่ห้อง เมื่อเห็นพวกเธอไปแล้วฉู่เหินนั่งยอง ๆ ก่อนจะเรียกแมวนพเวทย์ออกมา

ดูเหมือนแมวนพเวทย์จะเชื่องมากตั้งแต่เกิด มันทำตามฉู่เหินทุกอย่าง ฉู่เหินไม่ลังเลเกี่ยวกับมันเลย เนื้อสัตว์ประหลาดที่เขาเก็บมาได้มันมากพอที่จะให้แมวตัวนี้กิน

เวลากินไปแต่ละครั้ง แมวตัวนี้จะนอนหลับไปสักพัก พอตื่นขึ้น มันก็ดูจะปราดเปรียวขึ้นเรื่อย ๆ แมวตัวนี้น่ารักมากเสียจนเมื่อสาว ๆ เห็นมัน นั่นก็ทำให้หวงลี่ลี่และเสี่ยวชิงหลงรักมันมากเลยทีเดียว

Next