“ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มกันเลย”
อัลเฟรียยื่นมือออกมาด้านหน้า
ฝ่ามือของเธอเปล่งแสงเล็กน้อย อากาศรอบด้านสั่นไหวจากพลังเวทย์ที่ถูกปล่อยออกมา
เธอจัดรูปแบบมือให้กลายเป็นวงกลม แสงส่องประกายในทุกท่วงท่าของเธอ สร้างขึ้นเป็นวงแหวนแห่งแสง
เอาล่ะ ที่เหลือก็แค่ให้เธอปิดงานสินะ…
…ไม่ดิ เธอน่าจะทำคนเดียวไม่ไหวซะล่ะมั้งเนี่ย
การเคลื่อนไหวของอัลเฟรียหยุดลงชั่วขณะ หน้าผากของเธอมีเหงื่อไหลออกมาอย่างเห็นได้ชัด พลังเวทย์หมดใช่มั้ยน่ะ?
เอาเหอะ ชั้นก็แค่วางมือลงบนไหล่ของเธอเพื่อถ่ายทอดพลังเวทย์ให้
ชั้นไม่รู้หรอกนะว่าเธอใช้พลังเวทย์ไปมากแค่ไหนในการต่อสู้กับแม่มดน่ะ แต่จากนิสัยของเธอแล้ว ดูท่าจะจัดเต็มซะไม่เหลือพลังเวทย์พอสำหรับเวทมนตร์ผนึกเลยล่ะสิ
“หืม? อู้ว… พลังมันเอ่อล้นขึ้นมาเลย! เยี่ยม ทีนี้ก็มีพลังพอแล้ว”
แบตหมดจริงๆด้วยสินะ
อุตส่าห์บอกไปแล้วว่าให้โจมตีประสานกับเอเทอร์น่าเพื่อเป็นการผ่อนแรง เพราะจะต้องใช้เวทย์ผนึกทันทีหลังสู้เสร็จ ดูเหมือนว่าพูดอะไรไปก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาหมดเลย
อ่ะนะ มันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรเท่าไหร่หรอก
“อะ-อะไร…? เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่? จะ เจ้าคงจะรู้สินะว่าถ้าสังหารข้าไป…?”
“เซนต์ผู้ที่สังหารแม่มดจะกลายเป็นแม่มดคนต่อไป…สินะ? ไม่ต้องห่วง เราไม่ได้คิดจะฆ่าเจ้าอยู่แล้ว แค่จับผนึกไว้เท่านั้นล่ะ”
อเล็กเซียพยายามหาข้ออ้างเพื่อหวังให้หยุดการโจมตี
จริงๆนั่นถือเป็นสปอยล์นะเนี่ย แต่อัลเฟรียก็ไม่ได้สนอะไรอยู่แล้ว
“ถ้าเราผนึกเจ้าไว้โดยที่เจ้าไม่ตาย ก็จะไม่มีการส่งทอดพลังไปยังแม่มดรุ่นต่อไป วังวนที่ถือกำเนิดขึ้นจากตัวเราและท่านแม่ก็จะจบลงในยุคสมัยนี้”
พอพูดมาแบบนั้น มันก็ดูจะง่ายจริงๆนั่นแหละ
ทำไมผ่านมาตั้งพันปีถึงไม่มีใครคิดวิธีนี้ได้นะ
แสงจากมือของอัลเฟรียเข้าห้อมล้อมอเล็กเซียเอาไว้
อเล็กเซียพยายามที่จะหนี แต่ไม่ปล่อยให้ทำได้หรอกนะ
ชั้นสร้างโซ่แสงขึ้นมาเพื่อมัดอเล็กเซียเอาไว้ไม่ให้หนีได้
“ดะ เดี๋ยว! หยุดนะ! การผนึกนี่มัน…! ไม่จริง! ไม่ ไม่ ไม่! ทำไม…ทำไม! ทำไมถึงมีแค่ข้าที่ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ตลอดเลย!”
อเล็กเซียแทบจะเสียสติพร้อมกับกรีดร้อง ดวงเธอก็ซวยจริงๆนั่นแหละ
สมัยที่ยังเป็นเซนต์ เซนต์คนก่อนเธอทำภารกิจไม่สำเร็จ ความเชื่อและนับถือในตัวเซนต์ก็น้อยลง มีแต่แรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้น
พอกลายมาเป็นแม่มดก็ต้องประจัญหน้ากับเซนต์สองคนกับเซนต์เก๊อีกหนึ่ง
ในตอนจบ เธอก็จะโดนจับผนึกไว้กลายเป็นมนุษย์เสาหิน
จะไปโลกหน้าก็ไม่ได้ เกิดใหม่ก็ไม่ได้ เป็นจุดจบที่เลวร้ายที่สุด
…เอาจริงๆ ไม่น่าสงสารไปหน่อยเหรอเนี่ย?
ให้ชั้นจัดการเธอให้มันจบๆตามแผนเดิมจะดีกว่ามั้ง
ถ้าแบบนั้นก็จะมีชั้นที่ตายคนเดียว ส่วนชั้นก็จะไปโลกหน้าได้อย่างสงบ
ในช่วงที่เล่นเกมน่ะ อเล็กเซียเป็นตัวละครที่ชั้นไม่ชอบที่สุดเลยนะ
ในตอนที่เล่นรูทเธอ ก็ได้แต่คิดว่า”ทำไมถึงทำหน้าระรื่นในระหว่างที่เอเทอร์น่าร้องไห้แบบนั้น” แล้วก็ไม่กลับไปเล่นรูทนั้นอีกเลย
เพราะอย่างนั้นตอนที่ชั้นลยเอาแต่คิดว่า”โดนซะได้ก็ดี” ตอนที่วางแผนว่าจะผนึกเธอ
แต่ก็นะ มนุษย์เรานี่ถ้าไม่ถึงเวลาจริงๆก็คงไม่รู้หรอกว่าความคิดในตอนนั้นจะเป็นยังไง
พอเวลามาถึง ชั้นไม่รู้สึกสะใจเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะสงสาร
จู่ๆคำขอของตาลุงดิแอสก็ขึ้นมาในหัว
อ๊า! ไม่สนเว้ย! ไม่ได้สัญญิงสัญญาอะไรด้วยซักหน่อย!
ลุงแกขอมาจากนั้นก็สลบไปก่อนที่ชั้นจะได้ตอบด้วยซ้ำ
ตั้งแต่แรกแล้ว ตูน่ะไม่ใช่เซนต์ตัวจริงนา
ตัวตนที่แท้จริงของชั้นก็คือขยะที่ดูดีแค่ภายนอกเท่านั้นแหละ
ไม่มีทางที่จะยอมช่วยโดยไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอยู่แล้ว
ตัวอเล็กเซียเองก็ใช่จะเป็นเหยื่อผู้บริสุทธิ์ซะเมื่อไหร่ล่ะ
ถึงจะไม่ได้ทำเลวไว้ขนาดรุ่นก่อนๆ แต่ก็ทำชั่วไว้ไม่น้อยเลยจยถึงตอนที่ชั้นมา อย่างน้อยที่สุดเหยื่อที่เธอสร้างทั้งในทางตรงและทางอ้อมก็ต้องขึ้นเลขสามหลักไปแล้ว
ไม่สิ ถ้ารวมพวกที่ตายเพราะความอดอยากนี่ก็คงเป็นเลขสี่หลักด้วยซ้ำ
ถ้าเอากฏหมายในโลกปัจจุบันมาใช้ล่ะก็ ยังไงเธอก็โดนโทษประหารชัวร์ๆ
ชั้นไม่ได้ใจดีขนาดที่จะเอาฉากจบแฮปปี้เอนดิ้งที่วาดฝันไว้มาเสี่ยงให้กับคนแบบนี้หรอกนะ
ถึงเธอจะไม่ใช่สาเหตุหลักก็จริง แต่ถ้าตัดสินให้เธอเป็นผู้บริสุทธิ์นี่ พวกคนที่ตายด้วยฝีมือของเธอคงสาปส่งกันแย่เลย
ที่เราต้องผนึกอเล็กเซียให้กลายเป็นมนุษย์เสาหินก็เพื่อความสงบสุขของโลก จากนั้นพอจบเรื่องชั้นก็จะสารภาพทุกอย่าง แล้วก็หนีหายไปอยู่ในหุบเขาที่ไหนซักแห่ง เป็นอันจบเรื่อง! จบบริบูรณ์!
“ไม่! ม่าาาาาย! ช่วยข้าด้วย! ช่วยข้าทีเถอะ ดิแอส! โปจิ! ออคโต! ไม่ ไม่!”
อเล็กเซียส่งเสียงกรีดร้องในขณะที่บรรยากาศรอบๆตัวเธอค่อยๆหยุดการเคลื่อนไหวลง
ต่างจากผนึกที่ขังอัลเหรียเอาไว้ นี่ไม่ใช่ผนึกที่ทำให้เธออยู่ในสภาพ”เสมือนตาย”ด้วยซ้ำ
ที่แม่มดคนแรกผนึกอัลเฟรียไว้ก็เพื่อกันไม่ให้เธอกลายเป็นแม่มด
การผนึกไว้ในสภาวะเสมือนตายทำให้โลกเข้าใจว่าเซนต์คนก่อนได้เสียชีวิตลงไปแล้ว และเซนต์คนใหม่ก็จะเกิดมาแทนที่
การผนึกในครั้งนี้จะต้องปล่อยให้อเล็กเซียมีชีวิตต่อไปเพื่อกันไม่ให้เกิดการถ่ายเทพลัง
หรือก็คือ อเล็กเซียจะยังคงสติเอาไว้ตลอดตราบที่ผนึกยังคงอยู่
…ว่าละ นี่มันเกินไปจริงๆนะเนี่ย
เวรเอ๊ย ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ มันจะทำให้รู้สึกไม่ดีทีหลังนะเนี่ย
ในระหว่างที่คิดอย่างนั้น เลย์ล่าก็มาขวางชั้นเอาไว้
“ไม่ได้นะคะท่านเอลริส กรุณาอดทนด้วย”
จู่ๆก็มาพูดแบบนี้ทั้งๆที่ชั้นยังไม่ได้ขยับเลย
ทำไมอ่ะ
“หากเป็นท่านแล้ว คงจะคิดที่จะช่วยเหลือท่านอเล็กเซียด้วยความสงสารสินะคะ แต่นี่เป้นเรื่องที่จำเป็นสำหรับสันติสุขของโลกใบนี้ค่ะ ดิฉันเคารพในความเมตตาของท่าน แต่ในครั้งนี้เท่านั้น กรุณายั้งตนเองเอาไว้ด้วยเถิดค่ะ”
ดูเหมือนเลย์ล่าจะมองออกมาชั้นคิดที่จะช่วยอเล็กเซีย
ว้าว หรือว่าตูจะเป็นคนดีขนาดนั้นจริงๆ?
ในระหว่างที่คุยกันอยู่นี้ เวทย์ผนึกก็เสร็จสมบูรณ์
พอรู้ตัวอีกที อเล็กเซียก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกับที่อัลเหรียเคยเป็น โดนขังไว้ในคริสตัล
เออ แต่ใส่เสื้อผ้าไว้ตามปกติน่ะนะ
แล้วทำไมอัลเฟรียถึงโป๊อยู่ในผนึกล่ะเนี่ย…สงสัยจะถอดเสื้อผ้าตัวเองออกตอนเมาล่ะมั้ง…?
เอาจริงๆชื่อทั้งสองคนมันขึ้นด้วย อะ เหมือนกันอีก สับสนจังแฮะ
คนนึงเปลี่ยนชื่อเป็นฮานาโกะไรงี้ไม่ได้เหรอ?
“เอาล่ะ ผนึกเสร็จสิ้น!”
เฮ้ย เพราะโดนเลย์ล่าบังเอาไว้ เลยพลาดช่วงสำคัญที่สุดไปเลยอ่ะ
ยัยสต๊อกโกะนี่!
ชั้นมองผ่านไหล่เลย์ล่าเพื่อจะดูอเล็กเซียที่อยู่ในคริสตัลให้ชัดๆ
ว่าไงดีล่ะ…เป็นสีหน้าที่แย่จริงๆนั่นแหละ
ในตอนที่อัลเฟรียถูกผนึกไว้ เธอยังคงความงามของตัวเองไว้ได้ ส่วนอเล็กเซียนี่สีหน้ามีแต่ความหวาดกลัวแบบสุดขีด
ไม่ใช่ว่าร้อยปีผ่านไปจะมีใครมาปลดผนึกนี้จนเธอหนีไปได้นะ ในหนังนี่เห็นพล็อตนี้บ่อยๆ
ไม่ใช่แค่ชั้นเท่านั้นที่มอง ทุกๆคนที่นั่นก็หันมาดูสภาพของอเล็กเซียที่อยู่ในคริสตัล
10 วินาที…1 นาที…10 นาทีผ่านไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยืนยันได้แล้วว่าผนึกนั้นสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ
“นะ นี่คือจบแล้วใช่มั้ย…? ทุกๆอย่างคือจบแล้วสินะ?”
ไอน่ากลั้นความยินดีในน้ำเสียงเอาไว้ไม่อยู่
จากนั้นความสุขก็แพร่กระจายออกไป ทุกๆคนเฉลิมฉลองให้กับชัยชนะ และโห่ร้อง
“สำเร็จแล้ว! ชนะแล้ว! จบกันซะที!”
บุปผานิรันดร์ร่วงโรย END!
—ทว่า ในชั่วขณะนั้นเอง—
จู่ๆพลังความมืดของเวอร์เนลก็ขึ้นรูปร่างกลายเป็นหอก และแทงทะลวงเข้าไปยังอเล็กเซียที่อยู่ในคริสตัล
…อื้ม ตูว่าแล้ว
มันมาจากทางนี้เองสินะ เพราะทุกคนเอาแต่ให้ความสนใจอเล็กเซีย เลยทำให้ไม่มีใครมองไปที่เวอร์เนล
ก็นะ ก็ไม่ได้คิดอยู่แล้วว่าการผนึกมันจะเป็นไปอย่างราบรื่นน่ะ
เวอร์เนลเองก็อึ้งไปเลย เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าให้ชั้นเดา พลังความมืดของเขาคงจะคลั่งขึ้นมา
พลังนั้นน่ะแต่แรกแล้วเป็นของอเล็กเซีย
คิดว่ามันคงจะตอบสนองต่อความต้องการสุดท้ายของเธอที่ “อย่างน้อยก็ขอตายยังจะดีซะกว่า”
เป็นความพยายามสุดท้ายในการปลิดชีพตนเอง
แปลกจังแฮะ เพราะรู้อยู่แล้วว่าพลังของเวอร์เนลมันคลั่งง่าย เลยอุตส่าห์ให้จี้ห้อยคอที่ช่วยกดพลังไว้ให้แท้ๆ…
…อ๊ะ มันตกอยู่ที่พื้นตรงนั้นเอง…จี้อันนั้น
สงสัยจะตกในระหว่างสู้ ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป เวอร์เนลก็จะถูกตัดสินว่าเป็นผู้สังหารอเล็กเซีย และการถ่ายทอดพลังก็จะเริ่มขึ้น
และเป็นเพราะว่าเวอร์เนลไม่ใช่เซนต์ เขาก็จะทนพลังนั้นไม่ไหวและตายลงในที่สุด ถึงมันจะจบลงที่วังวนนี้ถูกทำลายอยู่ดี…แต่นั่นน่ะมันแบดเอนดิ้ง
ก็นะ มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ และก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรใหญ่ด้วย
ก็ใช่ว่ารู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น แต่ยังไงก็มีแผนเตรียมไว้อยู่แล้ว
เพราะอย่างนั้น—ชั้นจึงถ่ายพลังเวทย์เข้าไปยังโซ่แสงที่รัดเธออยู่ ปล่อยให้พลังเวทย์นั้นไหลเข้าไปหยุดหัวใจของเธอ ทำให้เธอตกอยู่ในสภาพเสมือนตาย
การโจมตีจากเวอร์เนลเมื่อครู่น่ะเพียงพอที่จะฆ่าเธอได้ก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะตายในทันที
ชั้นเลยฆ่าเธอซะก่อนที่เธอจะตายจากแผลนั้น
ชั้นยังรักษาแผลที่เวอร์เนลสร้างให้ด้วย เผื่อไว้ก่อน
เท่านี้ เป้าหมายของการถ่ายทอดนั้นก็จะเปลี่ยนมาที่ชั้นแทน
มันช่วยไม่ได้นี่นะ
สุดท้ายก็แค่กลับไปใช้แผนแรก
ยังไงซะอายุขัยของชั้นก็เหลืออีกไม่มาก แถมชั้นเองก็เคยตายไปแล้วด้วย
ชั้นไม่กลัวความตายเลยสักนิด…จะว่าบ้าก็ได้นะ
จะให้เทียบไอ้บ้าอย่างชั้นกับเวอร์เนลแล้ว มันเห็นได้ชัดเลยว่าชีวิตใครมีค่ามากกว่ากัน
ชั้นน่ะด้อยค่ากว่าเป็นไหนๆ
เพราะอย่างนั้นถึงเป็นตัวแทนได้ยังไงล่ะ
ระหว่างเราสองคนน่ะ…ให้ชั้นที่ไม่มีอนาคตรออยู่ตายแทนดีกว่า
“ทะ ท่านเอลริส… ท่านทำอะไรลงไป!? เมื่อสักครู่ท่านทำอะไรลงไปกันคะ!?”
เลย์ล่าถามด้วยเสียงสั่นเครือ
ทันทีที่โซ่นั้นเปล่งแสงขึ้นมา มันก็ชัดอยู่แล้วว่าชั้นทำอะไรลงไป
มาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่มีเหตุผลที่ต้องปิดบังอีกแล้วล่ะ ชั้นจะสารภาพทุกอย่างก่อนตาย
“ชั้นได้ทำการสังหารท่านอเล็กเซีย เพราะเช่นนั้นพลังของแม่มดจึงจะถ่ายทอดมาสู่ตัวชั้นแทนค่ะ”
พอพูดแบบนั้น สีหน้าของทุกคนก็กลายเป็นสิ้นหวัง
ทุกคนคงจะกลัวที่แม่มดผู้ไร้เทียมทานจะเกิดขึ้นมาสินะ
ไม่ต้องห่วงน่า ใจเย็น แม่มดไม่เกิดขึ้นมาหรอก
วังวนนี้น่ะได้จบลงแล้ว
และการแสดงของชั้นในฐานะเซนต์ก็จะจบลงเช่นกัน
นี่คือจุดไคลแมกซ์แล้ว
ชั้นรู้สึกแย่นะที่ต้องหลอกเลย์ล่าให้มารับใช้ตัวปลอมอย่างชั้น… อย่างน้อยที่สุด ชั้นก็จะแสดงจนถึงหยดสุดท้ายให้เธอรู้สึกว่า “ช่วยไม่ได้ที่โดนคนแบบนี้หลอก”
อย่างน้อยก็ขอให้เลย์ล่าไม่โดนล้อเรื่องที่โดนหลอกมากนักแล้วกันนะ
เพื่อให้ทุกนสงบลง ชั้นส่งรอยยิ้มเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตนี้