ตอนที่ 63 ลูกหมาป่าไล่แขก

เก็บตกนักฆ่า มาเป็นหนุ่มบ้านนา

หลินซือเย่าได้ยินเสียงสตรีแปลกหน้าส่งเสียงเรียกอ่อนหวานอยู่ที่ลานด้านนอก ก็ตัวแข็งทื่อแอบสงสัยว่าความสามารถในการได้ยินของตนเองแย่ลงหรือ หรือว่ามาอยู่ที่ห่างไกลเงียบสงบอย่างเมืองฝานฮัวนานไป ทำให้ความรู้สึกระแวดระวังฉับไวที่ติดตัวมาตลอดลดลงไปมาก ถึงกับมีสตรีแปลกหน้ามาปรากฏตัวที่บ้านยังไม่รู้ตัว หากคนที่มาคิดลงมือกับสุ่ยเลี่ยน ใช่ว่าสายเกินไปแล้วหรือ

สายตาเยียบเย็นกวาดมองไปยังเสี่ยวเสวี่ยที่หลับสัปหงกอยู่ในบ้านไม้ตนเอง ดูท่าพรุ่งนี้คงต้องเข้มงวดการฝึกให้มากยิ่งขึ้นแล้ว ข้างกายนายหญิงมีคนแปลกหน้าปรากฏตัวขึ้น มันถึงกับยังกล้านอนอุตุอยู่ในรัง!

เสี่ยวฉุนเห็นดังนี้ ก็นึกรู้นิสัยหลินซือเย่าทันที แอบหนาวยะเยือกขึ้นมา รีบวิ่งไปข้างเสี่ยวเสวี่ย แฮ่ แฮ่ คำรามขู่ว่า ยังไม่รีบลุกอีก! หากเจ้านายเป็นอะไรไป เจ้าและข้าคงต้องมีจุดจบโดนฝังไปด้วย!

เสี่ยวเสวี่ยลืมตาขึ้นเหมือนไม่เข้าใจ ปากก็ส่งเสียง โบร๋ว ตอบ ข้าเองก็คิดอยู่ แต่ว่าข้าง่วงมากนี่! เจ้านายไม่มีอันตรายหรอก นางผู้นั้นไร้วิทยายุทธ์ ไม่ต้องกลัว โอย ข้ายังอยากนอนต่อ…พี่ชาย ข้าป่วยหรือเปล่า…

ลูกหมาป่าสองตัวส่งเสียง โบร๋ว โบร๋ว คุยกันเป็นภาษาหมาป่าดังอยู่ในบ้านไม้

ต้าเป่าจำลู่หว่านเอ๋อร์ได้ทันทีที่นางปรากฏตัวขึ้น ก็คือพี่สาวคนสวยที่ถามถึงอาจารย์คนนั้นอย่างไร ดังนั้นจึงไปนั่งยองดูอยู่หน้าครัวอย่างสนใจ หาที่กำบังแดดและลมรอดูเรื่องสนุก

หลินซือเย่าถลึงตาใส่ต้าเป่า เห็นเขายิ้มร่าจ้องมองแต่ลู่หว่านเอ๋อร์ ไม่ได้สนใจสายตาเขาแม้แต่น้อย จึงได้แต่ขมวดคิ้วสีหน้าเย็นเยียบ หันกลับมามองลู่หว่านเอ๋อร์ที่ทำหน้าตาไม่รู้เรื่อง กำลังจะก้าวผ่านนางเข้าไปในบ้าน ก็เห็นซูสุ่ยเลี่ยนตามอยู่หลังสตรีผู้นี้ กำลังจะออกมา

เห็นนางนอกจากมีแววตาแปลกประหลาดแล้ว ที่เหลือก็ปกติดี จึงได้เบาใจลดความระแวงเมื่อครู่ลง

ก้าวพรวดเดียวก็มาถึงตรงหน้านาง ดึงมือนางมากุมไว้ รู้สึกมือเย็นเยียบอยู่บ้าง จึงถ่ายทอดพลังวัตรเข้าสู่ร่างกายนาง ไล่ความหนาวให้นาง

“ไม่ได้บอกหรือว่า ตอนข้าไม่อยู่ อย่าได้ออกมาข้างนอก” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก

ซูสุ่ยเลี่ยนมองตาปริบๆ ชี้ไปที่ลู่หว่านเอ๋อร์ที่ยืนเอียงอายอยู่ด้านหลัง “อาเย่า นาง…”

“พี่หลิน ยังจำข้าได้ไหม ข้าก็คือลู่หว่านเอ๋อร์จากตระกูลลู่ในเมือง เอ่อ ข้ากับท่านพ่อข้ามาเมืองฝานฮัวเยี่ยมท่านลุง เอ่อ ชื่อฮัวอัน พี่หลินน่าจะรู้จัก? ท่านลุงว่าท่านอยู่ที่นี่ ดังนั้นข้า…เลยมาเยี่ยมท่าน” ลู่หว่านเอ๋อร์เห็นว่าในที่สุดหลินซือเย่าก็หันมามองนาง จึงรีบเก็บท่าทีเอียงอาย ปรับสีหน้าเป็นหวานหยดย้อยดึงดูดใจ แต่งเรื่องมาดึงความสนใจเขา นางแทบไม่ได้เจอฮัวอัน แต่จ่ายเงินซื้อข่าวมาต่างหาก

“ผ่านทาง?” หลินซือเย่าสีหน้าเรียบเฉยกวาดตามองนางแวบหนึ่ง ก็ช่างผ่านทางได้ดีนี่นะ ตระกูลฮัวก็ดี ปากทางหมู่บ้านก็ดี ห่างจากบ้านตนเองไกลร่วมสิบลี้ได้ ผู้ใดเรียกการอ้อมทางมาสิบลี้ว่าผ่านทาง?

“อืม ที่จริง…ไม่นับว่าผ่านทาง ข้า…มาเยี่ยมเยือนพี่หลินโดยเฉพาะ” ลู่หว่านเอ๋อร์เห็นใบหน้าหลินซือเย่าก็เพียงพอจะทำให้ในใจนางรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาแล้ว ในใจก็สั่นไหว ปากก็หลุดพูดความจริงออกมา

“เยี่ยมข้า? ข้าไม่ใช่ญาติอะไรกับเจ้า แม่นางจำคนผิดแล้วกระมัง” หลินซือเย่ายิ้มเยาะกล่าวน้ำเสียงเยียบเย็น

อยากจะลงมือไล่นางออกจากบ้านไปจริงๆ เขาถอนหายใจ เข้าใจดีว่านี่คือเมืองฝานฮัว ไม่ใช่ยุทธภพที่จะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ ทำร้ายคนบาดเจ็บคงนำความยุ่งยากมาให้ไม่น้อย

“ไม่ได้จำผิด ก็คือท่าน หลินซือเย่า ข้าหาท่านมานานจึงได้รู้ว่าท่านพักอยู่ที่นี่ ข้า…ข้า…ข้าไม่ถือสาที่ท่านแต่งงานแล้ว ให้โอกาสข้าได้ไหม…เรื่องนั้น…บิดาข้ารับปากแล้ว ขอเพียงท่านยินยอม วันหน้าตระกูลลู่ ทุกอย่างก็เป็นของท่านคนเดียว” ลู่หว่านเอ๋อร์พูดวัตถุประสงค์ที่มาครั้งนี้ออกมาพรวดเดียว ถูกต้อง นางต้องการเขา แม้ว่าเขาจะแต่งงานมีภรรยาแล้ว แต่ภรรยาก็เลิกได้นี่ นางไม่เชื่อว่าเงื่อนไขล้ำเลิศของนางจะสู้ภรรยาในตอนนี้ของเขาไม่ได้

“ฮ่าๆ”

ลู่หว่านเอ๋อร์ส่งเสียงดังพูดออกมาจบ บรรยากาศก็แปลกไป ไม่มีคนรับคำนาง

มีแต่เถียนต้าเป่า ตบหน้าขาดังฉาด ยิ้มกว้าง “อาจารย์…อาจารย์ โอย…โอยๆ มารดาข้าสิน่า ขำจนข้าปวดท้องไปหมดแล้ว…อาจารย์…ข้าเดาถูกต้องไหม ฮา ฮา ฮา…โอ๊ย อาจารย์” เถียนต้าเป่าถูกหลินซือเย่าซัดพลังฝ่ามือลมกรดใส่ ซัดข้ามหลังคาบ้านออกไปยังพื้นสนามหญ้าลานทิศใต้ จึงไม่ได้ยินเสียงหัวเราะเกินเหตุของเขาอีก

“ต้าเป่า…” ซูสุ่ยเลี่ยนเห็นดังนี้ก็จะรีบไปดูเถียนต้าเป่าที่ลานทิศใต้ของบ้าน ไม่คิดว่าจะถูกหลินซือเย่ารั้งนางไปกอดไว้แน่น

“ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น” เขาเตือนเบาๆ รู้ว่านางเป็นห่วงต้าเป่า แต่เขาเชื่อว่าเขากะแรงได้พอดี ไม่ได้ทำร้ายอีกฝ่ายบาดเจ็บ ก็แค่คิดให้เขาไสหัวไปให้ไกลหน่อยเท่านั้น อย่ามาร่วมวงวุ่นวายตรงนี้

แต่ว่าสตรีตัวน้อยนี้ออกไปก็คงไม่ได้เป็นเด็กดียอมกลับมาในระยะเวลาอันสั้น หรือว่านางไม่รู้ว่าสามีตนเองกำลังถูกหญิงใจหมาป่ามางาบไป?

“พี่หลิน…” ลู่หว่านเอ๋อร์ขัดการพูดคุยกันของเขาและซูสุ่ยเลี่ยนขึ้น จากวาจาเมื่อครู่ของเถียนต้าเป่าที่พ่นออกมา ทำให้นางรู้สึกมีความหวัง หรือว่าเขารู้ก่อนแล้วว่านางจะมาเมืองฝานฮัว หรือว่าแท้จริงแล้วเขาก็หวังให้นางมาหาเขา

พอคิดเช่นนี้ ลู่หว่านเอ๋อร์ก็ก้าวเข้ามาอย่างยินดี ไม่ได้มองว่าหลินซือเย่ากอดซูสุ่ยเลี่ยนอยู่ กล้ากล่าวเปิดเผยออกมาตรงๆ ว่า “พี่หลิน เมื่อครู่ที่ข้ากล่าวมาล้วนจริง ขอเพียงท่านยอมแต่งกับข้า วันหน้าทุกอย่างของตระกูลลู่ย่อมเป็นของท่าน”

“ประตูอยู่ข้างหน้า ไม่ส่ง” หลินซือเย่าแววตาเย็นเยียบ อ้อมผ่านนางไปอย่างรังเกียจ กอดซูสุ่ยเลี่ยนเดินเข้าบ้าน ไม่หันมามองแม้แต่นิด กล่าวกับลูกหมาป่าสองตัวว่า “หากยังไม่ดูแลบ้านให้ดี พรุ่งนี้ไม่ต้องกินเนื้อ” จากนั้นก็เดินเข้าห้องปิดประตูดัง ปัง ตามมา

ลู่หว่านเอ๋อร์ที่ถูกทิ้งให้ตากลมหนาวอยู่ด้านนอก ยังมีเสี่ยวฉุนนอกบ้านที่ถูกข่มขู่ก็รีบลุกขึ้นวิ่งไปข้างขาของลู่หว่านเอ๋อร์ งับขากางเกงนางไว้ พยายามลากออกไป

สำหรับเสี่ยวเสวี่ยที่เพิ่งจะลืมตาสะลึมสะลือขึ้นมา หมอบหมดแรงอยู่ในบ้านไม้ ก็กำลังชมภาพลู่หว่านเอ๋อร์ถูกเสี่ยวฉุนงับขากางเกงลากไปพลางส่งเสียงหวีดร้องไปพลาง เยี่ยม! ใครใช้ให้เจ้าอยู่ๆ มาสร้างความยุ่งยากให้เจ้านายของพวกเรา ยังทำให้เจ้านายผู้ชายด่าข้าอีก หากไม่โยนเจ้าออกไป พรุ่งนี้พวกเราคงถูกเจ้าทำจนไม่มีเนื้อกินแล้ว!

“ไม่ต้องสนใจ” หลินซือเย่ารั้งซูสุ่ยเลี่ยนที่คิดจะออกไปดูไว้พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

“แต่ว่าอาเย่า อย่างไรก็เป็นแม่นางนะ หากว่าถูกเสี่ยวฉุนกับเสี่ยวเสวี่ยกัดบาดเจ็บไป…”

เอาละ ที่จริงแล้วนางกังวลถึงลูกหมาป่าสองตัวนั่น หากไม่ระวังกัดลู่หว่านเอ๋อร์บาดเจ็บไป ถูกคนตระกูลลู่ไปฟ้องทางการ ที่ต้องซวยก็คงไม่พ้นพวกมันไม่ใช่หรือ แม้มีนางกับหลินซือเย่ารับรอง แต่ว่ามีประวัติทำคนบาดเจ็บไปครั้งหนึ่ง ก็ยากจะรับประกันว่าจะไม่มีชาวบ้านมาแอบดู จากนั้นก็จะรู้ว่าแท้จริงแล้วคือลูกหมาป่า ไม่ใช่หมาธรรมดา จากนั้นก็ไม่รู้ว่าจะรวมตัวกันมาเอาเรื่องขับไล่พวกมันไหม

ซูสุ่ยเลี่ยนอยู่ๆ คิดถึงผลลัพธ์สุดท้ายขึ้นมา นางใจร้ายใช่ไหม ถึงกับห่วงลูกหมาป่า ไม่ได้ห่วงอันตรายของลู่หว่านเอ๋อร์

เพียงแต่ พอได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างตกใจของลู่หว่านเอ๋อร์แล้ว นางก็แอบเห็นใจลู่หว่านเอ๋อร์ขึ้นมาจริงๆ