ตอนที่ 70 อยากได้น้องชาย
หลังจากที่มู่เถาเยาพบว่าเธอไม่จำเป็นต้องคิดหนักเกี่ยวกับการนับญาติกับคนตระกูลเย่ว์อีกต่อไป หญิงสาวก็อารมณ์ดียิ้มแย้มได้ตลอดทั้งวัน!
เซียวเซียวและเพื่อนร่วมชั้นกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาล้อมโต๊ะและจ้องไปที่เธอ
“มีอะไรเหรอ” มู่เถาเยารู้สึกสับสน
หมิ่นชีสยา “เสี่ยวเยาเยา เธอคงไม่ได้กำลังอินเลิฟอยู่ใช่ไหม”
“อินอะไรนะ” มู่เถาเยาตอบไม่ถูกไปชั่วขณะ
เมื่อเห็นท่าทีของเธอ ทุกคนก็ร้องโอ้พร้อมกัน
ที่แท้ก็ไม่ใช่!
ก็ว่าสิเสี่ยวเยาเยายังเด็กมาก เธอจะไปมีแฟนได้ยังไง!
มู่เถาเยา “?” มีเครื่องหมายคำถามแปะเต็มหน้าของเธอ
เซียวเซียว “เสี่ยวเยาเยา หรือว่าที่บ้านเธอกำลังมีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้น”
“เปล่านี่” เรื่องที่เธอตามหาครอบครัวพบแล้วจะพูดออกมาไม่ได้ จำเป็นต้องปกปิดไปอีกสักระยะหนึ่ง
หวังหมิ่นชิ่น “งั้นเธอมีความสุขเรื่องอะไร เห็นเธออารมณ์ดีตลอดทั้งวันเลย”
“วันนี้ฉันดูอารมณ์ดีมากเลยเหรอ”
“ใช่น่ะสิ ยิ้มมาทั้งวันแล้ว!” เซียวเซียวยกนิ้วชี้ทั้งสองข้างขึ้นแตะที่มุมปากของเธอ ดันขึ้นเบาๆ จากนั้นก็เกิดเป็นรอยยิ้มตื้นๆ ให้เห็น
“แล้วปกติฉันไม่ยิ้มหรือไง”
เซียวเซียว “น้อยมาก! แต่ก็น่ารักมากเหมือนกัน! แต่วันนี้น่ารักที่สุด! น่าเอ็นดูมากเลย!”
ทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน
ปาอิน “เสี่ยวเยาเยาเป็นคนสวย เธอน่าจะยิ้มให้มากกว่านี้”
มู่เถาเยามองไปที่ปาอิน
ปาอิน “…มีอะไรเหรอ ฉันพูดผิดหรือไง ตอนที่เธอยิ้มน่ะอย่างกับเป็นนางฟ้าตัวน้อยๆ เลย…” ทำไมเสี่ยวเยาเยาถึงมองเธอแบบนี้
“ปาอิน ปาเฝ่ยพี่ชายเธอกำลังจะมาที่นี่”
“!”
“อีกเดี๋ยวเธอกลับไปพร้อมกับฉันนะ ไปกินข้าวด้วยกัน”
“…เสี่ยวเยาเยา…เธอรู้หมดทุกอย่างแล้วเหรอ” ปาอินพูดตะกุกตะกัก
“อื้ม”
“คือว่า…ฉัน…ไม่ได้…” ปาอินเป็นกังวลเล็กน้อยที่จะอธิบายสถานการณ์ทั้งหมด เพราะตรงนี้มีคนอยู่มากเกินไป
“อื้ม ไม่เป็นไรหรอก”
“พวกเธอกำลังเล่นทายคำอะไรกันอยู่ เสี่ยวเยาเยารู้จักพี่ชายของเสี่ยวอินอินด้วยเหรอ”
เซียวเซียวและคนอื่นๆ มีเครื่องหมายคำถามเต็มหน้า
“รู้จักผ่านเพื่อนน่ะ พอดีเขาฝากพี่ชายของปาอินให้เอาหนังสือมาส่งให้ฉัน”
ทุกคนร้องอ้อออกมาพร้อมกัน
หวังหมิ่นชิ่นพูดอย่างเอาใจใส่ว่า “ในเมื่อพี่ชายของเสี่ยวอินอินมาหา ฉันว่าวันนี้พวกเธอทั้งคู่กลับบ้านเร็วหน่อยเถอะ พวกเราค่อยคุยกันต่อวันหลัง”
มู่เถาเยาพยักหน้า
ปาอินวิ่งไปเก็บข้าวของที่โต๊ะของตัวเองและออกจากห้องเรียนไปพร้อมกับมู่เถาเยา
“เจ้าหญิงน้อย พี่รองเย่ว์แค่เป็นห่วงคุณ” ปาอินอธิบายเสียงเบา เดินตามหลังมู่เถาเยาหนึ่งก้าวเหมือนกับภรรยาตัวน้อยๆ
“เธอไม่จำเป็นต้องอธิบายหรอก ฉันไม่ได้โกรธ” คนที่เธอวางไว้ข้างกายเยี่ยนหังมีน้อยซะเมื่อไหร่กัน
พฤติกรรมนี้เธอจึงเข้าใจดี
ปาอินก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความสุขและจับแขนของมู่เถาเยา “เจ้าหญิงน้อย คุณใจดีมาก!”
“เรียกฉันว่าเยาเยาเหมือนเดิมเถอะ”
“ตกลง เสี่ยวเยาเยา”
“ไหงเพิ่มมาอีกคำล่ะ” เธอสูงถึงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบกว่าเซนติเมตร สูงมากกว่าผู้หญิงทุกคนในห้องอีกโอเคไหม
“คิกๆ ก็ใครใช้ให้เธอหน้าเด็กขนาดนี้ล่ะ ดูอย่างกับเด็กมัธยมอายุสิบห้าสิบหกปีแน่ะ น่ารักมากเลย!”
มู่เถาเยามองลงไปที่ปาอินซึ่งสูงเพียงหนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตรพลางกะพริบตา “เธอไม่คิดว่าฉันค่อนข้างเฉยเมยเหรอ” คนจำนวนมากไม่ชอบคนที่มีอารมณ์แบบนี้
“ไม่นะ! เสี่ยวเยาเยาที่ตีหน้านิ่งก็ยังน่ารักสุดๆ! เหมือนเด็กที่แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่เลย! คิกๆ…”
“…” แสร้งทำเป็นผู้ใหญ่บ้าอะไรกัน! เห็นได้ชัดว่าเธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว!
“เสี่ยวเยาเยา เธอจะกลับไปที่เผ่าหรือเปล่า”
“เรื่องกลับเผ่าไว้ค่อยคุยกันในอนาคต” ขึ้นอยู่กับว่าพี่ชายทั้งสองคนของเธอเต็มใจที่จะรับช่วงต่อตำแหน่งหัวหน้าเผ่าพระจันทร์ไหม
ถ้าไม่ เธอจะรับช่วงต่อเสด็จ…อาเอง ท้ายที่สุดในปีนั้นก็เป็นอาที่เอ่ยขอตำแหน่งนี้มาก่อน
อีกอย่างเธอยังต้องการให้อาแต่งงานกับอาเล็กอวิ๋น
ไม่สำคัญว่าน้าเล็กอวิ๋นจะแต่งเข้าหรืออาจะแต่งออกมาอยู่ที่ประเทศเหยียนหวง อย่างไรก็ตาม เธอได้ตัดสินใจแล้วที่จะให้อาได้ใช้ชีวิตที่มีความสุข ชีวิตแบบคนธรรมดาๆ ที่เรียบง่ายและก็ไม่ต้องกังวลอะไร!
ให้มีความสุขแบบคูณสองไปเลย!
เธออยากได้น้องชาย! น้องชายที่เหมือนกับเยี่ยนหัง!
“เสี่ยวเยาเยา ทำไมพี่ชายฉันถึงมาที่นี่ล่ะ เขาไม่ควรอยู่ที่หมู่บ้านเถาหยวนซานเพื่อเรียนรู้กับหมอเทวดาหยวนเหรอ”
“เขามาส่งหนังสือให้ฉันน่ะ”
“โอ้ งั้นที่เธอพูดเมื่อกี้นี้ก็จริงน่ะสิ? ฉันนึกว่าเป็นข้ออ้างซะอีก ว่าแต่ทำไมต้องเป็นพี่ชายที่มาส่งหนังสือด้วย นอกจากทักษะทางการแพทย์โดดเด่นมาก คนคนนั้นแทบจะไม่เคยก้าวเท้าออกจากเผ่า ครั้งนี้ที่เขายอมมาประเทศเหยียนหวงก็เพื่อติดตามคุณผู้หญิง”
“อืม พี่ชายเธอคือหมอเทวดาประจำเผ่าใช่ไหม ฉันอยากแลกเปลี่ยนความรู้ทางการแพทย์กับเขา”
“พี่ชายฉันไม่เก่งเท่าเสี่ยวเยาเยาแน่นอน!”
แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้ใกล้ชิดกัน แต่ปาอินก็รู้สึกว่าเจ้าหญิงน้อยเก่งกาจกว่าพี่ชายเธอมาก!
มู่เถาเยา “…” พี่ชายเธอจะรู้ไหมว่าน้องสาวของตัวเองเข้าข้างคนนอกมากกว่าเขา
“เสี่ยวอิน เธอเคยเข้าไปในภูเขาเทพจันทราไหม”
“ไม่เคยหรอก นอกจากสายเลือดตระกูลเย่ว์ คนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในภูเขาเทพจันทราก็มีเพียงปู่ที่ล่วงลับไปแล้วของฉันเท่านั้น” ไม่รู้ว่าทำไมคุณปู่เธอถึงได้รับสิทธิ์ให้เข้าไปในภูเขาเทพจันทราได้
“บนภูเขาเทพจันทรามีอะไร” นอกจากคำว่า ‘ภูเขาเทพจันทรา’ ไม่กี่คำนี้ ก็ไม่มีข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องปรากฏบนอินเทอร์เน็ตอีก
ปาอินส่ายหัว “ฉันเองก็ไม่รู้ คุณปู่ไม่เคยเล่าให้พวกเราฟัง เสี่ยวเยาเยา เธอเป็นคนของตระกูลเย่ว์ สามารถเข้าไปเมื่อไหร่ก็ได้ตราบเท่าที่เธอต้องการ!”
“อืม ไว้คุยเรื่องนี้กันทีหลัง” หนูขาวตัวน้อยของเธอยังไม่ได้รีบขนาดนั้น
“เอ๋ เสี่ยวเยาเยา พวกเราไม่นั่งรถไปลงหน้ามอเหรอ”
“ไปที่ลานจอดรถ ศิษย์หลานฉันจะขับรถส่งพวกเรากลับ”
“ศิษย์หลาน? เขาเป็นศิษย์เหลนของหมอเทวดาหยวนด้วยหรือเปล่า”
“อื้ม เขาคือลูกชายของศิษย์พี่ใหญ่ของฉัน”
มู่เถาเยาพาปาอินไปที่ลานจอดรถที่อยู่ใกล้ที่สุด และขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังที่เฉิงอันนั่วเปิดประตูรอไว้แล้ว
“อาจารย์อาเล็ก นี่คงเป็นเพื่อนร่วมชั้นของคุณที่จะกลับไปที่เขตเรือนอุ่นรักด้วยกันสินะครับ”
“ใช่ เธอชื่อปาอิน มาจากเผ่าหมาป่าพระจันทร์”
เฉิงอันนั่วตระหนักได้ในทันที
มิน่าล่ะถึงย้ายเข้ามากลางเทอมอย่างฉุกละหุกแบบนี้ ต้องเป็นเพราะเพื่อมาคอยดูแลอาจารย์อาเล็กของเขาแน่นอน!
“เสี่ยวอิน นี่คือศิษย์หลานของฉันเฉิงอันนั่ว เขาเรียนปริญญาเอกอยู่มหา’ลัยเดียวกับเรานี่แหละ”
“สวัสดีค่ะรุ่นพี่…เอ๋ ไม่สิ เขาน่าจะอ่อนกว่าฉันรุ่นหนึ่งหรือเปล่า! เสี่ยวอันนั่วดีจ้า ยินดีที่ได้รู้จักนะ!” เธอกับเสี่ยวเยาเยาอยู่ในรุ่นเดียวกัน!
เฉิงอันนั่ว “…”
เด็กสาวตัวเล็กๆ อายุต่ำกว่ายี่สิบปีอย่างเธอ เรียกผู้ชายที่สูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรอย่างเขาว่า ‘เสี่ยว’ เธอกล้าพูดมันออกจากปากได้ไง!
“…อาจารย์อาเล็ก ไปกินข้าวด้วยกันที่บ้านก่อนไหมครับ แล้วค่อยกลับเรือนอุ่นรักทีหลัง”
“ไม่ล่ะ แขกที่นัดไว้น่าจะลงจากสนามบินแล้ว ตอนนี้คงกำลังเดินทางมา”
“เชิญคุณปาไปกินข้าวด้วยกันก็ได้นี่” ขนาดน้องสาวยังกระเตงมาด้วยแล้ว เพิ่มพี่ชายอีกคนจะเป็นไรไป
ปาอินยกมือขึ้นทันที “ฉันทำกับข้าวเป็นนะ แถมยังอร่อยมากๆ ด้วย รับประกันได้เลยว่าเสี่ยวเยาเยาจะต้องติดใจและอยากกินอีกบ่อยๆ แน่!”
คุณย่าของเธอคือแม่ครัวที่เก่งที่สุดอันดับสองของเผ่า!
ส่วนอันดับหนึ่งนั้นอยู่รับใช้หัวหน้าเผ่ามาตั้งแต่สมัยโบราณกาลแล้ว
เฉิงอันนั่ว “…” จุ๊ๆ ถึงกับกล้าแย่งคน…ปล้นลูกค้าไปจากแม่ของเขา!
“เสี่ยวเยาเยาที่บ้านเธอยังเหลือวัตถุดิบอยู่อีกหรือเปล่า วันนี้ฉันจะแสดงฝีมือให้เห็นเอง”
“เหลือสิ” เธอชักจะตั้งตารอแล้ว ไม่รู้ว่ารสชาติอาหารของเผ่าหมาป่าพระจันทร์จะเป็นแนวใด
ปาอินยิ้มกว้างจนตาหยี นำเสนอรายการอาหารอันโอชะของเผ่าหมาป่าพระจันทร์ให้มู่เถาเยาฟังจนจบรอบหนึ่ง
สาเหตุที่พี่รองเย่ว์เลือกเธอ นอกจากอายุที่ใกล้เคียงกับเจ้าหญิงน้อยและยังเรียนแพทย์เหมือนกันแล้ว อีกหนึ่งเหตุผลที่สำคัญที่สุดก็คือทักษะในการทำอาหารของเธอยอดเยี่ยมมาก!
คิกๆ ในที่สุดก็มีโอกาสโชว์สิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากคุณย่าแล้ว!
ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์มากกว่าพี่ชายที่รู้จักกันในฐานะหมอเทวดาของเผ่าพระจันทร์เสียอีก!
พี่รองเย่ว์มีวิสัยทัศน์กว้างไกลจริงๆ!
อย่าว่าแต่มู่เถาเยาฟังชื่ออาหารแล้วน้ำลายสอเลย กระทั่งเฉิงอันนั่วที่มาเป็นสารถีให้สองสาวก็ยังต้องลอบกลืนน้ำลายหลายอึก
อีกเดี๋ยวเขาอยู่ฝากท้องด้วยละกัน!
ไม่สิ อยู่เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ทางการแพทย์กับหมอเทวดาปาต่างหาก สวนกินข้าวนั้นเป็นเพียงผลพลอยได้!
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอายุใกล้เคียงกัน แต่ปาเฝ่ยถูกขนานนามว่าเป็นหมอเทวดาแล้วในขณะที่เขายังเรียนมหา’ลัยอยู่เลย!
เฉิงอันนั่วรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย!
แพ้ให้กับอาจารย์อาเล็กที่อายุเพียงสิบแปดปีก็ช่างเถอะ แต่เขาจะไม่ยอมแพ้คนนอกเด็ดขาด!
ดังนั้นเขาต้องรั้งอยู่ต่อ ไม่ใช่เพื่อกินข้าว! ไม่ใช่แน่นอน!
ชายหนุ่มตัวโตคนหนึ่งจะให้มาตะกละเหมือนเด็กสาวตัวเล็กๆ ใช้ได้ที่ไหน!