ตอนที่ 73 อย่าทำตัวไม่ไว้หน้า

รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ

บทที่ 73 อย่าทำตัวไม่ไว้หน้า

เห็นได้ชัดว่าเมิ่งเสี่ยวหลงไม่รู้ว่าตนเองควรทำอย่างไรอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังถูกลากมู่เทียนซิงออกจากห้องไป!

วินาทีต่อมา เขาก็ตอบโต้ขึ้นมา แต่เธอกลับเร็วกว่าก้าวหนึ่งและล็อกประตูอย่างรวดเร็ว!

“เทียนซิง ฉันรู้ว่าฉันผิด จากนี้ไปฉันจะไม่รับโทรศัพท์ของเธออีก เทียนซิง ~”

“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ ฉันเสียใจจริงๆ เธอช่วยเปิดประตูและฟังคำอธิบายของฉันหน่อย ให้โอกาสฉันได้ไหม?”

เขาตบประตูอย่างอ่อนแรง และขอโทษซ้ำแล้วซ้ำอีก เกลี้ยกล่อมครั้งแล้วครั้งเล่า เมิ่งเสี่ยวหลงไม่เคยรู้เลยว่า ลูกหมูตัวน้อยของเขาวันหนึ่งเมื่อโตขึ้นมาแล้วจะโกรธเขามากขนาดนี้!

เธอไม่ได้เป็นเด็กผู้หญิงที่ให้น้ำพุทราเปรี้ยวหรือทำดีกับเธออีกสักหน่อย เด็กน้อยก็จะฉีกยิ้มดึงแขนของเขาอย่างมีความสุขอีกต่อไป!

มู่อี้เจ๋อสองสามีภรรยากลับไปหลังจากที่มู่เทียนซิงขึ้นไปชั้นบน ดังนั้นในบ้านจึงไม่มีใครมายุ่งเรื่องของพวกเขา ส่วนคนรับใช้ก็ไม่กล้าสอดมือเข้ามายุ่ง อีกทั้งยังไม่กล้าพูดอะไรมากความอีกด้วย

บนทางเดินบนชั้นสอง เมิ่งเสี่ยวหลงปลอบโยนอยู่เป็นเวลานาน จนในที่สุดฟางฉีก็ขึ้นมา

“คุณชายเสี่ยวหลง คุณหนูใหญ่ยังมีอารมณ์โมโหอย่างเด็กๆอยู่ ยิ่งตอนนี้คุณกล่อมเธอเท่าไหร่ ในใจของเธอก็ยิ่งต่อต้านมากขึ้นเท่านั้น เท่าที่ผมเห็น ผมว่าคุณควรให้เวลาเธอสักหน่อย ให้เธอสงบลงมาก่อน ให้เธอได้คิดว่าจากนี้ไปจะทำอย่างไร”

คำพูดของพ่อบ้านทำให้เมิ่งเสี่ยวหลงสงบลงมากขึ้น

เขาจ้องมองที่ประตูอย่างไม่อาจตัดใจ วินาทีนี้เองที่เขาได้เข้าใจแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าความสิ้นหวัง!

ในขณะที่เวลานี้มู่เทียนซิงกลับสวมหูฟังเอาไว้ ด้านหนึ่งฟังเพลงร็อค ในขณะที่อีกด้านหนึ่งก็เต้นดิสโก้ไปมาอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ของตน เพลงแล้วเพลงเล่า จนกระทั่งเพลงสุดท้ายจบลง เธอจึงค่อยรู้สึกว่าโลกทั้งโลกเงียบลงมา

เธอถอดหูฟังออก บนตัวเต็มไปด้วยเหงื่อ

เธอเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างตัว จากนั้นจึงใส่ชุดนอนและนอนลงบนเตียงใหญ่ ดวงตาจ้องมองไปที่ป้ายโฆษณาด้านนอกหน้าต่าง มองดูใบหน้าของหลิงเล่ รู้สึกไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ยังไม่พอ

นี้มันมีความหมายเช่นประโยคนั้นหรือไม่: ไม่รู้ว่ารักเริ่มจากหนใด แต่นับวันยิ่งล้ำลึก?

เธอคิด เมื่อครู่ที่คุณอาโทรมาบางทีอาจจะมีเรื่องที่ต้องหาเธอจริงๆก็ได้ แต่เธอกลับไม่ทันระวังและถูกเมิ่งเสี่ยวหลงรับสายไป เกือบจะเปิดเผยความลับของคุณอาไปแล้ว

คุณอาจจะโกรธไหม?

นั่งคิดกับตัวเองอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเธอจึงส่งข้อความถึงหลิงเล่อย่างระมัดระวัง “คุณอา”

มีเพียงคำสองคำเท่านั้น

หลังจากส่งออกไป เป็นเวลานาน ไม่มีการตอบกลับ!

มู่เทียนซิงโหยหวนกับเพดานห้อง เธอดึงผ้าห่มขึ้นมาเพื่อคลุมศีรษะของตน แต่มันกลับยิ่งยุ่งเหยิง!

ในเวลานี้ มู่เทียนซิงกลับไม่ทราบว่า ตำแหน่งของหลิงเล่ในตอนนี้ เป็นที่ที่พ่อของตนและพี่ชายทั้งสามล้วนไปทุกวัน แต่เขากลับไม่เคยเจอ——บริษัทหลิงหวินกรุ๊ป สำนักงานของผู้จัดการอาวุโสชั้น88 ห้องทำงานของผู้อำนวยการ

เธอส่งข้อความถึงเขาในตอนเช้า แต่เขาตอบเพียงคำๆเดียว นั่นเป็นเพราะเขาเพิ่งมาถึงที่จอดรถใต้ดินของบริษัทหลิงหวินกรุ๊ป และพี่ชายคนรองของเขาก็กำลังเดินเข้าไปหาเขาด้วยรอยยิ้มที่แฝงด้วยเลศนัย

เขาไม่เคยเห็นเด็กหญิงตัวน้อยนั่นเริ่มต้นพูดจาน่าฟังกับตัวเองมาก่อน

ข้อความสั้นง่ายๆ: คุณอาฉันคิดถึงคุณ

แต่กลับมาความหมายมากกว่าคำหนึ่งพันคำ

กลัวว่าเธอจะรีบร้อน เขาจึงใช้เวลาครู่หนึ่งเพื่อให้จั๋วซีพากลับไปที่รถ และโทรกลับไปหาเธอ แต่คิดไม่ถึงเลยว่า คนที่รับสายจะเป็นเมิ่งเสี่ยวหลง

จากนั้น หลิงหยวนก็มา

เลขาของหลิงหยวนเชิญให้หลิงเล่ขึ้นไป และเขาก็ไม่ได้มีโอกาสพูดอะไรกับเธอมากนัก

ในสำนักงาน ——

หลังจากจั๋วซีเข็นหลิงเล่เข้าไป ก็ค้นพบว่า สีหน้าของหลิงหยวนนั้นย่ำแย่อย่างยิ่ง!

อันที่จริง สามารถเรียกได้ว่ากำลังจ้องมองหลิงเล่อย่างโกรธเคือง

ในใจของจั๋วซีระแวงขึ้นมาเล็กน้อย เขากำรถเข็นเอาไว้แน่น เมื่อเห็นว่าหลิงหยวนใช้สายตาฟาดฟันให้จั๋วซีออกไปข้างนอก จั๋วซีจึงเบนสายตาออกไปทางอื่นแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น ยืนกรานที่จะอยู่ด้านหลังของหลิงเล่ ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น!

เห็นอย่างนี้ หลิงหยวนจึงยิ่งโกรธมากขึ้น “ผู้คุ้มกันตัวเล็กๆ กล้าทำตัวต่อกรกับฉัน!”

ใจของจั๋วซีสั่นเทา แต่ก็ยังคงเงยหน้าขึ้นอย่างเป็นปกติเช่นเดิม และสบเข้าให้กับสายตาของหลิงหยวน เขาเอ่ย “ขอประทานอภัย ผมเป็นคนที่คุณหญิงเยว่หยาส่งมาให้ดูแลซือซ่าว จึงฟังแค่คำสั่งของซือซ่าวเท่านั้น”

หลิงหยวนกำกำปั้นของเขาเอาไว้แน่น เขารอหลิงเล่ “ให้เขาออกไป!”

หลิงเล่ไม่เอ่ยปาก และไม่สามารถเอ่ยปาก นั่นก็เพราะเขาเป็นใบ้!

อีกทั้งจั๋วซียังเอ่ยขึ้น “ท่านหลิง ขอประทานอภัย คุณหญิงเยว่หยาเคยกำชับพวกเราเอาไว้ ไม่ให้ห่างจากซือซ่าวแม้แต่นิ้ว ป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น!”

“เขาเป็นลูกชายของฉัน ฉันสามารถฆ่าเขาได้! ถ้าแกยังกล้ามาหยุดฉันอีกครั้ง เชื่อหรือไม่ว่าฉันจะไม่เกรงใจแกอีกต่อไป!”

หลิงหยวนโกรธมาก ท่าทางทั้งหมดเมื่อครู่นี้ ผู้ชายบนรถเข็นกลับทำแค่เขียนคำๆหนึ่งอย่างใจเย็น และส่งไปให้จั๋วซี

จั๋วซีมองดู แล้วส่งไปที่โต๊ะของหลิงหยวนอย่างนับถือ

ชายชรามองดูกระดาษ

ทิศเหนือ

จู่ๆหลิงหยวนก็ชะงักลง อีกทั้งยังไม่สร้างปัญหาให้กับจั๋วซีอีกต่อไป

นั่นเพราะเขาจำได้ว่า ปู่ของจั๋วหรันและจั๋วซี ก็คือเย่นเป่ยที่เขาไม่กล้าเข้าไปตอแย!

“แค่กแค่ก” หลิงหยวนนั่งลงที่โต๊ะทำงานของเขา เลขานุการของเขารีบนำชาเข้ามาเสิร์ฟให้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบออกไป หลิงหยวนจ้องมองหลิงเล่ ก่อนจะเอ่ยปากอย่างไม่ได้ดั่งใจ “สรุปแล้วแกกำลังทำอะไรอยู่กันแน่? ฉันบอกแกไปแล้วไม่ใช่หรือไง การหมั้นหมายระหว่างตระกูลมู่กับตระกูลหลิงของเราถูกยกเลิกไปแล้ว แต่แกกลับเอาเรื่องการหมั้นไปกระจายเสียทั่วทั้งเมือง แกกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่?”

หลิงเล่ไม่ขยับ ไม่พูด

ดวงตาคู่นั้น ล้ำลึกราวกับว่าสามารถมองผ่านทุกสิ่งในโลกใบนี้ ท่ามกลางความเงียบคล้ายว่ามีรังสีชนิดหนึ่งส่งผ่านออกมา และทำให้ผู้คนไม่กล้ามองหน้าเขาโดยตรง

ทั้งที่รู้ว่าเขาเป็นใบ้ แต่เมื่อคิดว่าเขาแม้ว่าจะค่อนข้างมีนิสัยสันโดษไปบ้าง แต่กลับค่อนข้างเชื่อฟัง ดังนั้นเขาจึงเอ่ยสั่ง “ให้คนของแก ไปถอดป้ายโฆษณาการหมั้นหมายพวกนั้นออกไปซะ! ภายในวันนี้ ทั้งหมดให้มันหายไป!”

หลิงเล่ยังคงไม่ขยับเช่นเดิม

หลิงหยวนกล่าวอีก “แกรู้หรือเปล่า พรุ่งนี้เย็นตระกูลเมิ่งก็จะมาแล้ว หากพวกเขาเห็นโฆษณาเยอะขนาดนั้น แล้วพบว่าภาพลูกสะใภ้ของตนกับลูกชายของฉันยังแขวนอยู่ข้างนอกนั่น คิดว่ามันคงไม่ดีแน่ๆ จริงไหม?”

หลิงเล่ยกมือข้างหนึ่งขึ้น จากนั้นจึงเท้าคางของเขาเอาไว้ และจ้องมองเขา

แต่ กลับไม่เขียนอะไรสักคำ!

ไม่แม้แต่พยักหน้า!

หลิงหยวนหลับตาลงแล้วถอนหายใจ เมื่อเขาเปิดมันขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็ใช้สายตาไม่เป็นมิตรมองไปที่หลิงเล่ “แกควรรู้จักฐานะของตัวเอง ครอบครัวเลี้ยงแกมาจนโตได้ขนาดนี้ แกควรสำนึกบุญคุณถึงจะถูกต้อง! ก่อนหน้านี้งานแต่งงานของแกจะเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวเรา ดังนั้นแกควรทำอย่างดีที่สุด ตอนนี้ถ้าแกยังคงยึดมั่นกับมู่เทียนซิง มันจะส่งผลเสียต่อตระกูล ท่านั้นถึงเวลาที่แกจะต้องหยุดได้แล้ว!”

เสียงนั้น สีหน้านั้น ราวกับหลิงหยวนกำลังเอ่ยกับหลิงเล่ว่า “อย่าทำตัวไม่ไว้หน้ากัน!

อย่างไรก็ตาม หลิงเล่กลับยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์อย่างยิ่ง

มือขาวใหญ่ยกขึ้นมาด้านข้าง จากนั้นจึงดีดนิ้วไปทางจั๋วซี

ในวินาทีต่อมา จั๋วซีหยิบของออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นมือไปทางหลิงหยวนด้วยความเคารพอีกครั้ง จากนั้นวางไว้หน้าโต๊ะของหลิงหยวน

หลิงหยวนก้มลงมอง เป็นการ์ดเชิญฟ้าน้ำทะเล ที่ถูกทำออกมาอย่างประณีตสวยงาม

เขาเปิดดู บนนั้นเขียนไว้ว่า “ในวันที่ 28 ของเดือนนี้ เวลา18:00 นาฬิกา คุณหลิงเล่และคุณหนูมู่เทียนซิงจะจัดงานฉลองงานหมั้น ขอเชิญครอบครัวของคุณหลิงหยวนทั้งหมดเข้าร่วมงาน ณ คฤหาสน์จื่อเวย