ตอนที่ 135 ฝาแฝด

ถึงแม้ว่าเจสสิก้าจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ความแข็งแกร่งของเธอมันก็ได้กระตุ้นความสนใจของซูเจินขึ้นมาแล้ว

ซึ่งมันอาจจะเป็นเพราะความแตกต่างอะไรบางอย่าง ซึ่งภายในร่างของเจสสิก้าในตอนนี้ก็มีดวงวิญญาณอยู่ 2 ดวงภายในร่างเดียวกัน ทําให้สามารถเรียกได้ว่าเขาสามารถยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว โดยการพิชิตพวกเธอทั้งสองคนไปพร้อมๆกัน!

และแน่นอนว่าความรู้สึกแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสัมผัสกับคนอื่นๆแล้วจะได้แบบนี้ ทันใดนั้นพลังงานของแหวนอีเทอร์ก็ถูกใช้งานขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทําให้ในพริบตามือของเจสสิก้าก็ถูกมัดเอาไว้ด้วยเชือกสีเขียวเข้มอย่างแน่หนา

การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันทําให้เจสสิก้าตื่นตระหนกขึ้นมาเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอมองไปยังซูเจินที่กําลังทําสายตาอันร้อนแรงมาทางเธออยู่ ทําให้เจสสิก้าเริ่มออกแรงเพื่อทําลายเชือกเส้นนี้ทิ้ง ทันใดนั้นเชือกมันก็เริ่มแกว่งไปมาดูเหมือนว่ามันกําลังจะขาดออกจากกัน

ทําให้ซ่เงินที่เห็นเช่นนั้นก็รีบพุ่งเข้าไปหาเธออย่างรวดเร็ว แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมา

“ได้โปรดอย่าทําแบบนี้ อย่า … ฉัน .. นี่ยังเป็นครั้งแรกของฉัน ได้โปรด… “

นี่คือเสียงที่อยู่ภายในจิตใจของเจสสิก้า ทําให้ซูเจินที่กําลังจะพุ่งเข้าไปถึงกับหยุดชะงักด้วยค วามแปลกใจเล็กน้อย ” จริงๆอย่างงั้นหรอ?

“คุณ คุณหมายความว่ายังไง ?” เจสสิก้าไม่เข้าใจความหมายที่ซูเจินต้องการจะสื่อ

“สิ่งที่คุณกําลังคิดอยู่ภายในจิตใจของคุณในตอนนี้มันเป็นความจริงใช่ไหม ? เรื่องนี้ทําให้ผมรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก แต่ครั้งแรกที่คุณหมายถึงนี่หมายถึงของคุณใช่ไหม? แล้วครั้งแรกที่หมายถึงนั่นมันหมายถึงจิตวิญญาณของคุณ หรือครั้งแรกของร่างกายนี้?” ซูเจินถามขึ้นมาด้วยความสนใจพร้อมกับมองไปที่เธอ

เจสสิก้าเงียบไปครู่หนึ่งและพูดขึ้นมาว่า “คุณรู้จักฉันอย่างงั้นหรอ ?”

“ถ้าเกิดว่าคุณหมายถึงดวงวิญญาณอีกดวงหนึ่งที่อยู่ภายในร่างกายของคุณ … แน่นอนว่าผมรู้! เธอชื่อว่านิกกี้ใช่ไหม? และผมก็คิดว่าคนที่ครอบครองร่างกายในตอนนี้อยู่ก็คือ เจสสิก้า ไม่ใช่นิกกี้ไม่ใช่หรอ?”

“คุณรู้ได้อย่างไร?” เจสสิก้าถึงกับตกตะลึง เพราะน้อยคนมากที่จะรู้ความลับนี้ของเธอ

“เรื่องนี้ผมจะเล่าให้คุณฟังในภายหลังอย่างช้าๆ แต่ตอนนี้พวกเรามาทําธุรสําคัญกันก่อนดีกว่า ไม่ต้องกังวล … ผมจะไม่แสดงท่าทางที่โหดร้ายแบบนั้นอีกแล้ว” ซูเจินพูดขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ปล่อยฉันไป!”

“ไม่มีทาง … ผมจะไม่ปล่อยคนที่มีเสน่ห์แบบคุณไปอย่างแน่นอน!”

ซูเจินยิ้มขึ้นมาพร้อมกับค่อยๆเดินเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ

หลังจากเวลาล่วงเลยผ่านไป ซูเจินก็ค่อยๆตื่นขึ้นมาพร้อมกับถามสารทุกข์สุกดิบกับเจสสิก้า

ปรากฏว่าเจสสิก้าหรือนิกกี้ยังไม่เคยผ่านพิธีแต่งงานกันมาก่อนเลยสักครั้งในชีวิต ซึ่งในตอนเด็กนิกกี้เกิดประสบอุบัติเหตุทําให้วิญญาณของเธอล่องรอยเข้าไปอยู่ในร่างของเจสสิก้า ทําให้พวกเธอกลายเป็นคนที่มีดวงวิญญาณ 2 ดวงภายในร่างเดียวกัน และนี่ก็คือเหตุการณ์ที่แตกต่างกับที่ซูเจินรู้มาเล็กน้อย

เพราะว่านี่คือร่างของเจสสิก้า เธอจึงสามารถควบคุมร่างของเธอเอาไว้ได้โดยธรรมชาติ แถมเธอยังกลายเป็นลูกน้องของลินดามันอีกด้วย และด้วยเหตุนี้เธอจึงถูกส่งตัวให้มาเฝ้าซูเจินเอาไว้ ซึ่งงานที่ดินดามันได้มอบให้กับเธอนั้นง่ายมาก นั่นก็คือการทําให้ซูเจินรู้สึกพอใจและคอยติดตามเขาเอาไว้ และจะเป็นการดีที่สุดถ้าเกิดว่าเธอสามารถทําให้ซูเจินสามารถเชื่อฟังเธอได้ ซึ่งเธอก็ไม่คิด เหมือนกันว่าภารกิจนี้มันจะเสร็จได้รวดเร็วแบบนี้ และมันก็ใช้เวลาไม่นานสําหรับการที่เธอจะไปถึงจุดนั้น

” สาวน้อยจอมพลัง : เจสสิก้า/นิกกี้ ค่าความสัมพันธ์เพิ่มขึ้น 80 % กําลังเปิดสนามประลอง

เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ ซูเจินก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาก็ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะเพิ่มสูงถึง 80% และถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกของเธอ แต่มันก็ไม่น่าจะสูงมากขนาดนี้หรอกจริงไหม ? ดูเหมือนว่าค่าความสัมพันธ์นี้มันจะไม่ใช่แค่ของเจสสิก้าเพียงคนเดียวแต่มันยังรวมนิกกี้เข้าไปด้วย

” คุณ … คุณต้องการเจอเธอไหม ?” เจสสิก้าหันไปถามกับซูเจินด้วยความลังเล

ซึ่งที่เธอหมายถึงก็คือนิกกี้

ซูเจินพยักหน้าขึ้นมาเบาๆ และพูดว่า ” แน่นอน ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณและเธอแตกต่างกันอย่างไร ?”

“ฉันชื่อนิกกี้ ส่วนเธอก็คือเจสสิก้า นั่นแหละคือสิ่งที่แตกต่างระหว่างพวกเรา” เจสสิก้าพูดขี้นมาอย่างกะทันหัน พร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกายของเธอเอาไว้

“เจสสิก้า ไม่สิ … คุณในตอนนี้น่าจะเป็นนิกกี้ คุณคือนิกกี้ใช่ไหม?”

เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงกับร่างกายของเจสสิก้า แต่ถึงอย่างนั้นสีหน้าและอารมณ์ของนิกกี้ก็แตกต่างจากเจสสิก้าอย่างสิ้นเชิง ทันใดนั้นนิกกี้ก็รู้สึกสนใจซูเจินขึ้นมา

และเมื่อซูเจินลองมองสํารวจไปที่เธอดีๆ เขาก็พบว่ามันมีความแตกต่างบางอย่าง

อย่างแรกเลยก็คือนิสัย เพราะว่านิสัยของเจสสิก้าค่อนข้างที่จะเป็นคนที่ดื้อรั้นและมีเสน่ห์ในแบบผู้หญิงร้ายๆ

แต่นิสัยของนิกกี้ที่ซูเจินสัมผัสได้ก็คือความอ่อนโยน และเห็นได้ชัดว่าพวกเธออยู่ภายในร่างเดียวกัน แต่นิสัยของพวกเธอมันต่างกันคนละขั้ว ทําให้ความรู้สึกที่ซูเจินสัมผัสได้ในตอนนี้มันช่างไม่เหมือนใครเลยจริงๆ !

“พวกเธอช่างเป็นฝาแฝดที่วิเศษมากจริงๆ งั้นในตอนนี้เจสสิก้าก็สามารถได้ยินเสียงและมอง เห็นผมด้วยใช่ไหม?” ซูเจินถามขึ้นมาอย่างสงสัย

นิกกี้พยักหน้าและพูดขึ้นมาว่า “ใช่ เธอสามารถรู้ได้ว่าฉันกําลังทําอะไรอยู่ และในทางกลับกันฉันก็รู้ได้เหมือนกันว่าเธอกําลังทําอะไรอยู่เช่นกัน ก็แค่ …. คนที่อยู่ข้างในไม่สามารถควบคุมร่างกายได้แค่นั้นเอง”

“งั้นก็หมายความว่าคุณรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าผมได้ทําอะไรกับเจสสิก้าไปเมื่อครู่นี้ ?”

คําถามของซูเจินทําให้นิกกี้ถึงกับนั่งก้มหน้าลงอย่างเงียบๆ พร้อมกับพึมพําขึ้นมาในลําคอเบาๆ

“น่าสนใจ!”

ซูเจินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “มีวิธีที่ทําให้พวกคุณปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกันได้ไหม? อย่างเช่นสื่อสารกันผ่านทางกระจก ?”

“ไม่ได้!” นิกกี้พูดขึ้นมาอย่างผิดหวังเล็กน้อย

ลองคิดดูเธอเป็นคนนอก และนี่ก็ไม่ใช่ร่างกายของเธอ และถ้าเกิดว่าเธอมีโอกาสที่จะเป็นอิสระจากร่างกายนี้เธอก็อยากจะคว้ามันเอาไว้เหมือนกัน

“อย่าเศร้าไปเลย มันจะต้องมีหนทางแน่ในอนาคต” เมื่อเห็นว่านิกกี้เริ่มซึมเศร้า ซูเจินก็เลยพูดขึ้นมาเพื่อให้เธอสบายใจ

ในตอนแรกเขายังไม่ได้มีจุดมุ่งหมายอะไรมากนัก และไม่เคยคิดเกี่ยวกับเจสสิก้าหรือนิกกี้เลยแม้แต่น้อย และเขาถึงกับวางแผนที่จะกลืนกินความสามารถของเธออีกด้วย แต่ในตอนนี้ดูเห มือนว่าเขาจะเปลี่ยนใจแล้ว

เพราะการกลืนกินมันไม่ได้ให้อะไรมากไปกว่าการได้รับพลังงานที่ใช้สําหรับการอัพเกรดระบบซึ่งการกลืนกินอนุภาคอีเทอร์ก็ให้พลังงานนี้เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงไม่มีความจําเป็นที่จะต้องกลืนกินความสามารถของเธอเลยแม้แต่น้อย

ในทางกลับกันการเก็บรักษาความสามารถของเธอเอาไว้ย่อมเป็นการดีกว่า แถมการที่เขาจะเก็บเธอเอาไว้ข้างกาย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มีความสามารถ ซูเจินก็ไม่สามารถปล่อยเธอไปได้อยู่ดี

เมื่อมองไปยังนิกกี้ผู้อ่อนโยน ซูเจินก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอันนุ่มนวลว่า “คุณอยากลองสัมผัสมันอีกรอบไหม ? ไม่ใช่ในสถานะของผู้มองดู แต่เป็นผู้กระทํา! และผมก็คิดว่า …. เจสสิก้าก็น่าจะไม่คัดค้านใช่ไหม? เจสสิก้า”

ทันใดนั้นการแสดงออกของนิกกี้ก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “ไม่มีปัญหา”

ซูเจินถึงกับตกตะลึงขึ้นมาอีกครั้ง กับสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเธอ

และแน่นนอนว่าเจสสิก้ากําลังพูดถึง …