ตอนที่ 127 บอสของเรา
เพราะซูฟ่านได้รีเซ็ตเวลาไปครั้งหนึ่ง ดังนั้นเหอต้าและหลีหนานจึงไม่รู้ว่าซูฟ่านมีรถยนต์และสร้างรายได้มหาศาล
แม้ว่าในที่สุดซูฟ่านจะยอมรับว่าเขาร่ำรวยขึ้นมาทันใด แต่ก็ดีกว่าถูกค้นพบในตอนที่เขายังไร้ความสามารถแบบเมื่อก่อน
หากคนรอบข้างเขารู้ในตอนนั้นวายร้ายอย่างหยางเหวินป๋ออาจทําร้ายเขาได้
แต่ตอนนี้ซูฟ่านไม่กลัวเลย ทุกคนไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเขาด้วยซ้ำ
ตอนนี้ซูฟ่านเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทขนาดใหญ่และกําลังทําธุรกิจกับคนระดับสูงอย่างทั้งหมิงฟู
ตัวตนเล็ก ๆ อย่างหยางเหวินป๋อจะนับเป็นอะไร?
อันที่จริงเขาต้องการเอาชนะหยางเหวินป๋อเมื่อนานมาแล้ว แต่เขาไม่ต้องการทําเรื่องไร้สาระแบบนั้นหลังจากที่คิดว่าเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับอีกฝ่ายแล้ว
สุนัขอาจกัดคนแต่คนไม่สามารถกัดพวกมันกลับได้ใช่ไหมล่ะ?
หลี่หนานและเหอต้านั่งอยู่ในรถและคลําไปทั่วเบาะจนกระทั่งพวกเขามาถึงโรงแรม พวกเขาก็ยังไม่หายจากอาการช็อก
“ซูฟ่าน บอกเราหน่อยทําไมจู่ ๆ นายถึงรวยได้”
เหอต้าถาม
ซูฟ่านยิ้ม
“หุ้นแล้วฉันก็ทําธุรกิจบางอย่างด้วย”
ทําธุรกิจ?!
หลี่หนานและเหอต้าตกใจมากจนกรามของพวกเขาเกือบจะหลุดออกมา!
“ธุระอะไรน่ะ?”
“ไม่มีอะไรหรอก ไม่น่าพูดถึงเลย”
ซูฟ่านไม่ต้องการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของเขากับเพื่อน ๆ เพราะมันจะดูเหมือนขี้อวดมากเกินไป
อีกอย่างมันลําบากที่จะพูดหลาย ๆ อย่าง
แต่หลีหนานยังคงอยากรู้อยากเห็นและเมื่อเห็นว่าซูฟ่านไม่ยอมพูดอะไร เขาจค้นหาข้อมูลของซูฟานบนแพลตฟอร์มออนไลน์
ข้อมูลนั้นแสดงให้เห็นชัดเจนว่าซูฟ่านเป็นผู้ถือหุ้นที่มีอํานาจควบคุมบริษัทจัดเลี้ยงเจียงตูและเป็นผู้ถือหุ้นของ Pinfeng Investment
เมื่อเห็นข้อมูลนี้หลี่หนานก็อุทานออกมา
ในฐานะนักเรียนมหาลัยธุรกิจ แม้ว่าเขาจะเป็นคนโง่แต่ยังไงก็ต้องเคยได้ยินชื่อ Pinfeng Investment เช่นกัน
เขารู้จักฉินเสี่ยวหยุนอัจฉริยะด้านการลงทุนหญิงคนนั้นด้วย!
เสียงอุทานของเขาทําให้เหอต้าเงยหน้าขึ้นมอง
ทั้งสองมองหน้ากันแล้วอุทานอีกครั้ง
“ซูฟ่านนายเข้าร่วม Pinfeng Investment จริงเหรอ!”
“โอ้ พระเจ้า อัจฉริยะฉินเสี่ยวหยุนใช่ไหม เธอสวยมากใช่ไหม!”
เหอต้าก็ประหลาดใจเช่นกัน
ในใจของเขามีร่างระดับเทพธิดาสองคน คนหนึ่งคือชูหยุนซีและอีกคนคือฉินเสี่ยวหยุน
เขาได้รู้การกระทําหลายอย่างของฉินเสี่ยวหยุนและสนใจผู้หญิงที่ดื้อรั้นและฉลาดคนนี้มาก
และตอนนี้ซูฟ่านกลายเป็นผู้ถือหุ้นของ Pinfeng Investment
“สวยเหรอ? แน่นอน เธอสวย”
ซูฟ่านตอบกลับ
ฉินเสี่ยวหยุนเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถและน่าดึงดูดมาก และยังมุ่งมั่นในความรักและความชอบธรรม
น่าเสียดายที่ซูฟ่านไม่ได้ชอบเธอ
เหอต้ากระพริบตา
ทันใดนั้นความคิดที่กล้าหาญก็ปรากฏขึ้น
“นายช่วยให้ฉันพบประธานฉินตอนที่นายมีเวลาได้ไหม ฉันชื่นชมเธอเป็นพิเศษเลย”
“ได้ แต่ต้องรอโอกาสก่อน”
ซูฟ่านตอบอย่างไม่ใส่ใจ
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการพาเหอต้าไปพบฉินเสี่ยวหยุน แต่เหอต้าจะพูดอะไรได้อีกเมื่อเขาพบกับฉินเสี่ยวหยุน?
หลี่หนานหายจากความประหลาดใจของเขา ตอนนี้เขามองไปที่อาหารที่น่าทานในร้านและน้ำลายของเขาก็กําลังจะไหลออกมา
“ในเมื่อเพื่อนของฉันรวย นายช่วยหาอาหารดี ๆ หน่อยได้ไหม”
ดวงตาของหลี่หนานเป็นประกาย!
เหอต้าพูดไม่ออกเกี่ยวกับพฤติกรรมของหลี่หนาน
“นายเพิ่งกินบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปมาไม่ใช่เหรอ เพราะค่าขนมเดือนนี้ใช้เพื่อซื้อลอตเตอรีหมดใช่ไหม?”
เหอต้าถาม
หลี่หนานโบกมือด้วยความตื่นตระหนก
“เอาที่ไหนมาพูดจะเป็นไปได้ยังไง! ไปกินข้าวกันเถอะ!”
หลังจากพูดเสร็จหลี่หนานก็รอรถขับไปที่ประตูและลงจากรถ
เหอต้าถอนหายใจเล็กน้อยอยู่ที่เบาะหลัง
“ตั้งแต่ครั้งที่แล้วเขาถูกรางวัล 500 หยวน หลี่หนานก็หลงใหลกับลอตเตอรี่เมื่อไม่นานนี้”
“เขาไม่ฟังฉันด้วยซ้ำ นายมีโอกาสเกลี้ยกล่อมเขาไหม”
เหอต้าถามกับซูฟ่าน
ซูฟ่านขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาจําได้ว่าจุดเริ่มต้นในการรีเซ็ตเวลาคือวันที่หลี่หนานกําลังจะไปซื้อลอตเตอรี่
ถ้าเขาไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับการซื้อลอตเตอรีของหลี่หนานในวันนั้นก็ไม่น่าจะถูกรางวัล
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือหลี่หนานสูญเสียเงินทั้งหมดในกระเป๋าของเขาไป
“แล้วหลี่หนานที่เสียเงินไปหมดแล้วทําไมถึงซื้อมันอีกได้”
ซูฟ่านถาม
“ฉันคิดว่าเขากินบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปมานานกว่าหนึ่งสัปดาห์แล้วล่ะนะ”
เหอต้าพูดอย่างเป็นห่วง
ซูฟ่านพยักหน้าและตัดสินใจช่วยเพื่อนสนิทของเขาเมื่อจําเป็น
ลอตเตอรี่เป็นสิ่งที่ดีที่จะเล่นด้วย แต่ถ้าคุณใช้มันทําเงินจริง ๆ จัง ๆ ก็เกรงว่ามันจะทําลายตัวคุณเอง
ทั้งสามคนเข้าไปในร้านอาหาร
นี่คือร้านอาหารหม้อไฟระดับไฮเอนด์
มันเพิ่งเปิดใหม่ที่นั่งมีไม่มากแต่ก็แทบเต็มแล้ว
“สวัสดีครับ คุณได้จองไว้หรือเปล่า”
เมื่อเห็นชุดสุดพิเศษของซูฟาน บริกรก็รีบเข้าไปถาม
“ใช่ นามสกุลซู”
“คุณซูใช่ไหมครับ”
พนักงานเสิร์ฟดูเหมือนจะรู้จักซูฟ่าน
เมื่อเห็นซูฟ่านพยักหน้าตอบกลับ เขาก็ยิ้มทันที
“รอมานานเลยครับ เจ้านายของเราสั่งให้พวกเราสร้างความบันเทิงให้คุณอย่างดี”
“เจ้านายของคุณ?”
ซูฟ่านคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่รู้จักเจ้าของร้านนี้
เจ้านายคนนั้นจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นใครและยังรอให้เขามาที่ร้านเพื่อทานอาหาร?
“ใช่ครับ พวกเราคือคนของคุณชิว”
หลังจากพูดจบพนักงานเสิร์ฟก็ไม่ตอบอะไรอีก และพาซูฟ่านเข้าไปในห้องส่วนตัวด้านใน
ซูฟ่านคิดอยู่นานแต่ไม่เคยคิดว่าเจ้านายคนไหนที่เขารู้จักที่ชื่อชิว
“คุณซู เจ้านายของเราบอกว่าคุณสามารถสั่งอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ เจ้านายของเราจะเลี้ยงคุณในมื้อนี้”
“เจ้านายของคุณชื่อเต็มว่าอะไร”
“ชิวหมิงหยุน”
เมื่อได้ยินชื่อนี้ซูฟ่านก็ตกตะลึง
ทําไมจู่ ๆ ชิวหมิงหยุนถึงกลายมาเป็นเจ้าของร้านหม้อไฟ?
“ฉันเข้าใจแล้ว เจ้านายของคุณอยู่ที่ไหนล่ะ”
“ขอโทษด้วยคุณซู เจ้านายออกจากร้านไปชั่วคราวและเขาบอกให้เราทักทายคุณก่อนออกเดินทางไปโดยเฉพาะเลย”
“ฉันเข้าใจแล้ว”
หลังจากพูดแล้วซูฟ่านก็สั่งอาหารด้วยความสงสัย
หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟออกไปเหอต้าและหลี่หนานก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น
“อ้าว นายรู้จักเจ้าของร้านนี้ด้วยเหรอ”
“มันโคตรเกินไป! ร้านนี้ดูหรูหรามากเมื่อพูดถึงการตกแต่ง เจ้าของร้านควรจะเป็นคนใหญ่คนโตแน่!”
ทั้งสองพูดอย่างตื่นเต้น
ซูฟ่านส่ายหัว
“เท่าที่ฉันรู้ เจ้านายคนนี้ไม่มีเงินมากหรอกเอาจริง ๆ”
ซูฟ่านตอบกลับ
น่าเสียดายที่เขาไม่มีเบอร์ของชิวหมิงหยุนเลยไม่สามารถโทรหาเพื่อขอบคุณเป็นการส่วนตัว
แต่ดูเหมือนว่าชิวหมิงหยุนกําลังอยากคืนดีกับตัวเขานะ
ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นแล้วกัน ค่อยคุยกันเมื่อเขามีโอกาสพบชิวหมิงหยุนในอนาคต
สักพักบริกรก็นําจานมาให้
เนื้อแกะ ผัก และอื่น ๆ
อาหารหลากหลายมีความละเอียดอ่อนมาก
ฐานหม้อไฟนี้ยังมีกลิ่นหอมมากด้วย
ทั้งสามกินอย่างบ้าคลั่ง
หลี่หนานและเหอต้ารู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอจึงสั่งเพิ่มอีกสองสามจาน
หลังจากเห็นราคาแล้ว ทั้งสองก็ยิ่งโง่มากขึ้นไปอีก
“พวกเราสามคนสามารถใช้เงินเกือบสองพันกับมื้อนี้”
“โชคดีที่มีคนเลี้ยงไม่งั้นซูฟ่านได้ถูกขูดเลือดแน่”
หลี่หนานอ้าปากค้าง
เหอต้ามองหลี่หนานแล้วพูด
“มันแค่สองพันเท่านั้นเอง รู้มั้ยว่าตอนนี้ซูฟ่านมีเงินมากแค่ไหน?”
หลี่หนานเป็นคนเรียบง่ายและไร้เดียงสา ทําให้เหอต้ารู้มูลค่าทางการเงินดีกว่าเขา