ตอนที่ 75 หากว่า

สามีข้า คือพรานป่า

สามีข้า… คือพรานป่า

ตอนที่ 75 หากว่า

ชายชราตัวสั่นด้วยความโกรธ แม้ว่าผู้เฒ่าสี่จะดูแคลนเฉินเถียนเถียนมาตลอดก็ยังมองเฉินผิงอันด้วยความรังเกียจ ผู้เฒ่าหกซึ่งนั่งเงียบอยู่นานก็มองเฉินผิงอันราวกับเป็นอาจมเหม็นเน่า!

ชาวบ้านที่อยู่นอกประตูก็พูดถึงเรื่องนี้อย่างอื้ออึง!

ทุกคนต่างคาดเดากันว่าเฉินเถียนเถียนเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของเฉินผิงอันหรือไม่! แต่นางหยุนก็ให้กําเนิดเฉินเถียนเถียนออกมา!

หลังจากที่เงียบไปนาน ผู้เฒ่าหกซึ่งรักในความสงบสุขก็เดินออกมา…

“นังหนู ข้าไม่คิดมาก่อนว่าเจ้าจะถูกทําร้ายขนาดนี้! ตัวข้าถูกเรียกจานว่าผู้เฒ่าหก ถือเรื่องความสงบสุขเป็นสิ่งสําคัญ แต่ข้าไม่เคยคิดบีบบังคับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คราวนี้พ่อของเจ้าทําเกินไปจริง ๆ อีกทั้งเจ้าเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้เฒ่าหกจึงไม่อาจให้เจ้าไปไปร้องเรียนกับทางการได้!”

“อย่างแรก ลูกสาวจะฟ้องร้องพ่อได้ ก็ต่อเมื่ออายุถึงยี่สิบปี นังหนู เจ้ายังเด็กเกินไปที่จะทําเช่นนั้น! เราไม่จําเป็นต้องเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง!”

“อย่างที่สอง หากเจ้าไปฟ้องร้องพ่อของเจ้า ถึงจะชนะก็จริง แต่คนอื่นจะไม่คิดเช่นนั้น! ตรงกันข้ามเขาจะรู้สึกว่าเจ้าช่างอกตัญญ! ลูกเอ๋ย… โลกใบนี้ไม่ได้ยุติธรรมกับทุกคน!”

“อีกอย่างหนึ่ง เจ้าไม่อยากให้น้องชายได้เรียนหนังสือหรอกหรือ? เรื่องในครอบครัววุ่นวายเยี่ยงนี้ ย่อมส่งผลต่อการเล่าเรียนของน้องชายเจ้าในภายหน้าอย่างแน่นอน! และในอนาคตคนในหมู่บ้านของเราจะไม่มีชื่อเสียงดีงาม! ท้ายที่สุดเรื่องอื้อฉาวก็เกิดขึ้นในหมู่บ้าน… นังหนู เจ้าลองคิดดูให้ดี!”

เฉินเถียนเถียนพยักหน้า นางเข้าใจสิ่งเหล่านี้อย่างถ่องแท้ แต่อย่างไรก็ตามคนที่ทุกข์ใจไม่ใช่คนอื่นจะให้นางยินยอมได้อย่างไร?

แม้ว่าที่ผ่านมาผู้เฒ่าสี่จะไม่ชอบเฉินเถียนเถียน แต่ตอนนี้เขาต้องจัดการให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับหญิงสาวผู้นี้ ไม่อย่างนั้นผู้ที่สูญเสียก็คือคนในหมู่บ้าน!

“เฉินผิงอัน แม้ว่าตอนนี้โฉนดที่ดินและโฉนดบ้านจะอยู่ในมือของเจ้า แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่คําพูดสุดท้ายของเจ้าในหมู่บ้านเทพธิดา! หากเจ้าทําสิ่งเลวร้ายเช่นนี้ ย่อมได้รับการลงโทษในหมู่บ้าน! จับตัวเขาไป.. หลังจากทุบสามสิบไม้กระดานค่อยว่ากันอีกที!”

ผู้เฒ่าสี่เป็นคนเด็ดขาดจึงไม่มีใครเถียงเขาได้ อีกทั้งเฉินผิงอันได้กระทําความผิดต่อหน้าผู้คนมากมาย จึงไม่มีใครแก้ต่างแทนเขา ในไม่ช้าวัวหนึ่งตัวและม้าตัวใหญ่สองตัวก็มาถึงหมู่บ้าน พวกเขาพาตัวเฉินผิงอันไปและกดเขาลงกับพื้น แม้ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างสิ้นหวังก็ไม่สามารถหลบหนีจากไม้กระดานขนาดใหญ่สามสิบแผ่นได้

เมื่อได้ยินเสียงไม้กระดานที่ฟาดลงบนร่างกายของเฉินผิงอันจนแตก!

เฉินผิงอันจ้องมองไปยังเฉินเถียนเถียนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง! ไม้กระดานพวกนี้หนักมาก เขาเกลียดเพชฌฆาตพวกนี้

จากนั้นไม่นาน เฉินผิงอันก็เริ่มก้มศีรษะลงและส่งเสียงคร่ำครวญอันเจ็บปวดออกมา เฉินเถียนเถียนยังคงยืนก้มหน้านิ่งอยู่ตรงนั้นราวกับว่าคนที่ถูกทุบตีต่อหน้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาง!

หลังจากทุบตีไปยี่สิบไม้กระดาน เฉินเถียนเถียนถึงยืนขึ้นเพื่ออ้อนวอน!

ไม่ใช่ว่าเห็นอกเห็นใจที่เฉินผิงอันถูกทุบตี เขาสมควรโดนแล้ว แม้แต่ตัวเฉินเถียนเถียนเองยังอยากฟาดเขาสักสองสามที!

แม้จะดีใจที่เฉินผิงอันถูกโบยตี แต่เกรงว่าหลังจากนี้จะถูกผู้คนมองว่าเฉินเถียนเถียนใจไม้ใส้ระกํา แม้แต่พ่อตัวเองก็ไม่ละเว้น?

เพื่อสร้างชื่อเสียงที่ดี เฉินเถียนเถียนจึงต้องลุกขึ้นทักท้วง!

“ท่านผู้เฒ่า! พอเถิด! อย่างไรเขาเป็นพ่อของข้า ได้โปรดหยุดตีเถิด!”

ในครานี้เฉินเถียนเถียนยอมอ้อนวอนขอร้องเพื่อพ่อของตน เรื่องนี้ได้รับความสนใจจากชาวบ้านเป็นอย่างมาก ผู้คนต่างพากันทอดถอนใจให้กับความมีเมตตาของนาง

ผู้เฒ่าสี่โบกมือให้คนเหล่านั้นหยุด! แม้ว่าเหลืออีกไม่กี่ครั้งก็จะครบสามสิบไม้กระดาน!

หลังของเฉินผิงอันเต็มไปด้วยรอยแตกของผิวหนัง แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสําหรับเขา! ยิ่งไปกว่านั้นคือผู้หญิงที่เขารักที่สุดได้แต่ยืนมองอย่างโง่งมอยู่ข้าง ๆ ไม่แม้แต่จะเอ่ยปากอ้อนวอน!

หลินชวนฮวาหวังให้เฉินผิงอันถูกตีจนตายอยู่ที่นี่ สมบัติทั้งหมดของเขาจะได้ตกเป็นของเฉินเฉิน!

เจ้านั่นยังเด็กนัก อย่างไรก็ต้องอยู่ในเงื้อมมือของหลินชวนฮวาไม่ใช่หรือ? หากเฉินผิงอันตายย่อมเป็นเรื่องดี! เพราะชายผู้นี้ไม่มีประโยชน์อื่นใดให้ตนได้อีก!

แต่ตอนนี้เฉินเถียนเถียนกลับร้องขอให้เฉินผิงอัน แม้ว่าในใจของหลินชวนฮวาจะไม่ยินดีนัก แต่นางก็ทําได้เพียงแค่ยืนขึ้นร้องไห้

“สามี! ท่านอดทนไว้”

คนที่ฉลาดเฉียบแหลมย่อมมองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง แต่เฉินผิงอันนั้นกลับมองสถานการณ์นี้ไม่ออก!

หัวใจของเฉินผิงอันเต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อนังเด็ก เหลือขอที่ทําให้เขาต้องถูกทุบตี แล้วจากนั้นก็ออกมาขอร้องอ้อนวอน!

แต่ในเวลานี้ ความคับข้องใจได้ถูกปลอบประโลมโดยผู้หญิงตนรัก มันทําให้เขารู้สึกผ่อนคลายยิ่ง

“นังหนู พ่อของเจ้าได้รับการลงโทษไปแล้ว เจ้าต้องการอะไรอีก”

ผู้เฒ่าสี่กล่าวประโยคนี้ขึ้นมาด้วยความเป็นปฏิปักษ์อย่างเห็นได้ชัดต่อเฉินเถียนเถียน!

“เถียนเถียนไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ขอเพียงแค่แยกจากตระกูล! สายตาที่ท่านพ่อจ้องมองข้าช่างน่ากลัวนัก! เกรงว่าหากกลับไปคราวนี้ ข้าคงไม่มีชีวิตที่ดีอีกต่อไป ได้โปรดช่วยข้า… ปล่อยข้าไปเถอะ!”

ท่านผู้เฒ่าใหญ่นั่งดูเฉินผิงอันถูกทุบตีอย่างมีความสุข!

”แยกออกไปเถิด!”

ผู้เฒ่าสี่มองผู้เฒ่าใหญ่ด้วยแววตาประหลาด การตัดสินใจเช่นนี้ย่อมทําให้ชาวบ้านได้รับความอับอาย! นี่คือสิ่งที่ท่านผู้เฒ่าไม่เคยทํามาก่อน!

“อย่างแรกเลย ข้าเป็นผู้นำหมู่บ้านแห่งนี้! หากเกิดอะไรขึ้น ข้าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ! ถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ลูกสาวของนางหยุนคงต้องตายอยู่ที่นี่!”

“พวกเจ้ารู้ไหมว่านางหยุนในตอนนั้นยอดเยี่ยมแค่ไหน เพียงแค่ปิ่นปักผมสองอันบนหัวก็ทําให้ตระกูลเฉินมีชีวิตที่ดีมาเป็นเวลาหลายปี! หญิงสาวเช่นนี้ต้องเป็นลูกสาวของคนรวยในเมืองหลวง วันใดวันหนึ่งพวกเขาคงค้นพบหมู่บ้านของพวกเราแน!”

“นางหยุนจากไปแล้วแต่ลูกสาวยังถูกทรมานจนตายในหมู่บ้านแห่งนี้ เมื่อถึงตอนนั้นหมู่บ้านของเราจะกลายเป็นคนบาป เจ้าคิดว่าคนในหมู่บ้านจะมีชีวิตรอดหรือไม่? ข้ารู้ว่าบางคนช่างโชคดีนัก จึงคิดว่าเวลาผ่านมาหลายปีแล้ว คงไม่มีมาใครตามหาเจอ!”

“แต่ถ้าหากว่า สมมุติว่ามีคนมาตามหานางจริง ๆ ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ? ในหมู่บ้านของเรา ใครจะสามารถต่อสู้กับนางหยุนในตอนนั้นได้?”

คําพูดของผู้เฒ่าทําให้ทุกคนตกตะลึง! โดยเฉพาะหลินชวนฮวา นางรู้สึกเย็นยะเยือกที่แผ่นหลังอีกทั้งแขนขาอ่อนแรง!

สิ่งที่ผู้เฒ่าพูดนั้นเป็นความจริง เฉินผิงอันไม่โต้แย้งอันใด นั่นหมายความว่าเขายอมรับแต่โดยดี!

แล้วเหตุใดเฉินผิงอันถึงบอกว่านางไร้ประโยชน์? เวลาล่วงเลยมานานขนาดนี้คงไม่มีใครสนใจนั่งเด็กบ้านอีกต่อไป!