ตอนที่ 73 การแข่งขันดนตรีพื้นเมือง

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 73 การแข่งขันดนตรีพื้นเมือง

วันนี้มู่เถาเยาตั้งใจไปที่มหาวิทยาลัยเช้าเป็นพิเศษ หลังจากวางถุงที่ใส่ผลนมหมาป่าไว้บนโต๊ะเรียนหนึ่งถุง เธอก็อุ้มอีกถุงไปที่ห้องทำงานของอธิการบดีเพื่อเอาไปให้อาจารย์อาเล็กของเธอ

ที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจก็คือ กู่ย่าอาจารย์อาสะใภ้เล็กของเธอก็อยู่ที่นั่นด้วย

“เสี่ยวเยาเยา ทำไมหนูถึงมาที่นี่ตั้งแต่เช้าเลยล่ะจ๊ะ มีธุระอะไรหรือเปล่า ที่จริงโทรมาบอกก็ได้นะจะได้ไม่ต้องมามหา’ลัยเช้าตรู่แบบนี้”

“ไม่ได้มีอะไรมากหรอกค่ะอาจารย์อาสะใภ้เล็ก เพียงแต่ว่าเมื่อวานนี้คุณปาหมอเทวดาของเผ่าหมาป่าพระจันทร์เอาหนังสือมาส่งให้หนูที่บ้านเลยได้ของกินเล่นและผลไม้มาด้วย วันนี้เลยเอามาฝากอาจารย์อาเล็กและอาจารย์อาสะใภ้เล็กกับเสี่ยวเหมี่ยนให้ได้ลองชิมกัน”

กู่ย่ายิ้มพลางพูดว่า “ฉันได้กลิ่นน้ำนมเข้มข้นลอยมาตั้งแต่หนูเดินเข้ามาแล้วล่ะ ใช่ผลนมหมาป่าหรือเปล่า”

“มันคือผลนมหมาป่าค่ะ อาจารย์อาสะใภ้เล็กเคยกินมันด้วยเหรอคะ”

“ตอนที่ฉันกับอาจารย์อาเล็กของหนูแต่งงานกันเราเคยไปฮันนีมูนที่เผ่าพระจันทร์ น่าจะเกือบยี่สิบปีแล้วนะ ฉันยังคงติดใจในรสชาติหวานล้ำของน้ำนมตามธรรมชาติของผลนมหมาป่าไม่เคยลืม!”

“ถ้าอาจารย์อาสะใภ้เล็กชอบ หนูจะบอกให้คนส่งมาเพิ่มนะคะ ได้ยินว่ามันเก็บไว้ได้นานทีเดียว” เสด็จ…อาจะมาถึงที่นี่พรุ่งนี้

“ถ้าไม่ลำบากจนเกินไปละก็รบกวนหนูแล้ว รสปากของเฟิงเหมียนกับอาจารย์อาเล็กของหนูคล้ายกัน ดังนั้นพวกเขาน่าจะชอบเหมือนกัน”

“ไม่ลำบากอะไรเลยค่ะ อาจจะยากสักนิดสำหรับคนนอกที่จะเข้าไปในเผ่าหมาป่าพระจันทร์ แต่ถ้าเอาของออกมาล่ะก็ง่ายนิดเดียว”

“ถ้างั้นอาจารย์อาสะใภ้เล็กก็จะไม่เกรงใจหนูแล้ว”

“อื้ม ว่าแต่ทำไมอาจารย์อาสะใภ้เล็กถึงมาหาอาจารย์อาเล็กที่นี่ตั้งแต่เช้าเลยล่ะคะ วันนี้ไม่เข้างานเหรอคะ ได้ยินว่าอาทิตย์หน้าก็จะมีการจัดแข่งขันดนตรีพื้นเมืองแล้ว”

“เฮ้อ ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไปจากเสียงฉินของฉันน่ะ เลยออกมาเดินเล่น ถือโอกาสแวะมาหาอาจารย์อาเล็กของหนูที่นี่ด้วยเลย จริงสิ อีกเดี๋ยวพี่สะใภ้ของหนูก็จะมาหาฉันด้วยนะ เรานัดกันว่าจะออกไปเดินเล่นหาแรงบันดาลใจด้วยกันน่ะ”

กู่ย่าและหลี่อวี้เสวี่ยทำงานอยู่ในวงดนตรีเดียวกัน ทั้งสองคนล้วนเป็นไข่มุกของเมืองเย่ว์ตู

กู่ย่าเป็นหัวหน้าวงและก็เป็นผู้เล่นกู่ฉิน ส่วนหลี่อวี้เสวี่ยเป็นผู้เล่นระฆัง

ทั้งสองคนล้วนมีสถานะที่ไม่ธรรมดาในแวดวงดนตรีพื้นเมือง

มู่เถาเยาถามว่า “มีตรงไหนที่รู้สึกผิดปกติเหรอคะ”

“พี่สะใภ้เธอบอกว่าเธอไม่สามารถกลมกลืนไปกับบรรยากาศได้เมื่อเธอตีระฆัง” กู่ย่าไม่คิดว่ามีอะไรแปลกที่จะพูดคุยเรื่องปัญหาที่ต้องใช้ความเป็นมืออาชีพสูงในด้านเครื่องดนตรีโบราณกับคนที่ไม่เคยเรียนดนตรีอย่างจริงจังมาก่อน

“ได้จำลองกับบรรยากาศจริงแล้วเหรอคะ”

“จำลองแล้ว เริ่มจำลองกันตั้งแต่สัปดาห์นี้ แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้กลมกลืนเข้ากับบรรยากาศได้”

“เล่นในงานพิธีแบบไหนเหรอคะ งานเลี้ยงรับรอง งานบวงสรวง งานรณรงค์ทางการทหาร งานเชื่อมสัมพันธ์ทางการทูต หรือว่างานเลี้ยงสนุกสนานทั่วไป?”

“งานเลี้ยงเชื่อมสัมพันธ์จ้ะ”

“ระฆังถูกใช้อย่างแพร่หลายในสมัยโบราณ เพราะไม่เพียงแต่เป็นเครื่องดนตรีเท่านั้น แต่ยังเป็นภาชนะที่ใช้ในพิธีกรรมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสถานะและอำนาจอีกด้วย ระฆังนี้จัดอยู่ในอันดับหนึ่งในบรรดาเครื่องดนตรีทั้งแปดชนิด ได้แก่ ทอง หิน ไหม น้ำเต้า ดิน หนัง ไม้ และไม้ไผ่”

ดวงตาของกู่ย่าอดไม่ได้ที่จะเป็นประกาย “เสี่ยวเยาเยาเข้าใจเครื่องดนตรีโบราณด้วยเหรอ”

“หนูรู้นิดหน่อยค่ะอาจารย์ป้าเล็ก วันเสาร์นี้ถ้าหากว่าไม่มีธุระอะไร หนูกับอาจะไปชมการซ้อมแสดงของอาจารย์อาสะใภ้เล็กนะคะ”

“หัวหน้าเผ่าเย่ว์เลี่ยงจะมาเหรอ”

“ค่ะ เธอจะมาหาหนูวันศุกร์นี้”

“เสี่ยวเยาเยา หนู…” กู่ย่ารู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับเด็กสาวตัวเล็กๆ ตรงหน้าเธอ เธอคิดว่าคนตระกูลเย่ว์ใจร้อนมากเกินไปหน่อย!

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูรับได้”

“…ถ้างั้นหนูไปอยู่กับอาของหนูเถอะจ้ะ ไว้ค่อยมาหาพวกเราวันอื่นก็ได้”

“แต่อาของหนูเธอรู้เรื่องเครื่องดนตรีโบราณมากกว่าหนูอีกนะคะ”

“นั่นสินะ ฉันลืมไปได้ยังไงว่าหัวหน้าเผ่าเย่ว์เลี่ยงเคยแสดงฝีมืออย่างยอดเยี่ยมในงานแสดงดนตรีนะดับนานาชาติเมื่อตอนที่เธออายุยี่สิบปี! พี่สะใภ้ของเธอและฉันเห็นเธอแสดงพิณคงโหวผ่านทางทีวี มันเป็นภาพที่สวยจนแทบหยุดหายใจเชียวล่ะ ทั้งที่ก็ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าฉันจะยังคงจดจำเสียงดนตรีและการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยมเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน”

“เสี่ยวเยาเยา ทำไมหนูไม่มาที่วงดนตรีพื้นเมืองของเราล่ะ” ความรักในตัวผู้มีพรสวรรค์ของกู่ย่าถูกปลุกให้ตื่นขึ้นตามธรรมชาติ

“อาจารย์อาสะใภ้เล็กคะ หนูไม่ค่อยแตะเครื่องดนตรี อีกอย่างความสนใจของหนูก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย”

เธอเรียนรู้วัฒนธรรมของโลกนี้ตั้งแต่ยังเด็ก แต่ขณะเดียวกันก็ลอบเปรียบเทียบความแตกต่างกับหลายอย่างในชีวิตที่แล้ว ดังนั้นเมื่อเธอเห็นสิ่งที่ ‘สดใหม่’ จากในหนังสือและทีวี เธอจึงแสร้งทำเป็นสนใจอย่างมาก

อาจารย์รักและเอ็นดูเธอมาก ไม่จำเป็นต้องให้เธอพูดพวกเขาก็จะนำของเหล่านั้นมาวางไว้ตรงหน้าเธอพร้อมสรรพ

ในชีวิตนี้พิณ หมาก โครงกลอน และภาพวาด มู่เถาเยาเรียนในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น

อาจารย์ทั้งสองของเธอคิดว่าเธอเพียงสนใจมันชั่วครั้งชั่วครู่ แต่พวกเขาก็ไม่เคยรู้สึกว่าการออกไปรวบรวมสิ่งที่จำเป็นในการเรียนรู้ของเธอเหล่านี้มันสูญเปล่า

“เสี่ยวเยาเยา ทั้งๆ ที่หนูมีพรสวรรค์มากขนาดนี้…” กู่ย่ารู้สึกว่ามันน่าเสียดาย

“ที่รัก ล้มเลิกความคิดไปซะเถอะ ขนาดฉันขอให้เสี่ยวเยาเยาเรียนรู้เทคนิคการผ่าตัดกับฉันเธอยังปฏิเสธเลย!” หรือว่ามีดผ่าตัดมันน่ารักไม่เท่าฉินหรือไง

อาจารย์อาเล็กดูหงอยเล็กน้อย

“เสี่ยวเยาเยาของเราช่างเก่งกาจ ไม่ว่าอะไรเรียนแป๊บเดียวก็เป็นแล้ว แม้แต่การแพทย์และกฎหมายที่ว่ายากนักหนา เธอก็ยังเรียนมันไปพร้อมกันได้อย่างไม่ยากเย็น” กู่ย่าลูบเส้นผมดำขลับที่ยาวจนถึงเอวของมู่เถาเยา ในแววตาของเธอมีแต่ความรักและเอ็นดู

ริมฝีปากสีแดงสดของมู่เถาเยายกยิ้มจางๆ “หนูสนใจสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนมากกว่าค่ะ”

กู่ย่ามองไปที่เด็กสาวที่ผอมบางด้วยความรักและพูดว่า “เรียนส่วนเรียน แต่หนูก็ต้องรู้จักแบ่งเวลาพักผ่อนด้วย เด็กสาวรุ่นหนูออกไปช็อปปิ้งบ้าง เที่ยวเล่นบ้าง เล่นเกมบ้าง อย่าได้ให้ความสนุกที่ควรจะมีในวัยนี้ต้องสูญเสียไป”

“อื้ม อาจารย์อาเล็ก อาจารย์อาสะใภ้เล็ก หนูขอตัวไปเรียนก่อนนะคะ”

“ไปเถอะ”

มู่เถาเยาลงมาจากห้องทำงานของอธิการบดีแล้วขับรถจักรยานไฟฟ้าคันเล็กไปยังอาคารเรียนของเธอ

ทันทีที่เข้าไปในห้องเรียนเสียงกริ่งก็ดังขึ้น

ทุกคนไม่ได้ให้ความสนใจกับคาบเรียนนี้มากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนร่วมชั้นปีที่นั่งอยู่ที่โต๊ะด้านหน้าและด้านหลังของมู่เถาเยา

กลิ่นหอมของผลนมหมาป่าโชยมาจากโต๊ะของมู่เถาเยา กลิ่นนมที่เข้มข้นหอมหวานนี้ก็อบอวลไปทั่วทั้งห้องเรียน

หลังจากอดทนจนกระทั่งชั้นเรียนเลิก ทุกคนก็รีบปรี่เข้าไปหามู่เถาเยา แม้แต่ศาสตราจารย์ในวัยห้าสิบเศษก็ยังไม่เว้น

“เสี่ยวเยาเยา นี่มันอะไรน่ะ หอมมาก!” เซียวเซียวเพื่อนร่วมโต๊ะสูดน้ำลายอย่างอดใจไม่ไหว

“ผลนมหมาป่า”

มู่เถาเยายิ้มพร้อมกับยกถุงผลไม้ขนาดใหญ่จากข้างโต๊ะไปวางไว้บนโต๊ะ หยิบผลนมหมาป่ายื่นให้ทุกคนคนละผล

เพราะมีเพื่อนร่วมคลาสหลายคน แต่ละคนจึงได้แบ่งเพียงผลเดียว

ผลนมหมาป่ามีขนาดเท่ามะหลอด ถุงขนาดใหญ่จึงใส่ได้เพียงไม่กี่สิบผลเท่านั้น

มีนักเรียนมากกว่าห้าสิบคนคนในคลาส หลังจากแบ่งให้ทุกคนคนละผล ก็เหลืออยู่ประมาณสิบกว่าผลเท่านั้น

เซียวเซียวกินหมดทันทีในสองสามคำ แล้วมองดูที่เหลืออยู่ในถุงอย่างกระตือรือร้น

“เสี่ยวเยาเยา ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นผลไม้ชนิดนี้มาก่อนเลยล่ะ เธอซื้อมาจากที่ไหนเหรอ อร่อยมาก!”

“เพื่อนเอามาฝากให้จากต่างประเทศน่ะ”

เผ่าหมาป่าพระจันทร์เป็นเขตการปกครองตนเองที่แยกตัวออกไป ไม่ขึ้นกับประเทศเหยียนหวงหรือประเทศใดๆ ดังนั้นเรียกว่าต่างประเทศจึงไม่นับว่าผิดนัก

มู่เถาเยายื่นให้เซียวเซียวอีกผลหนึ่ง จากนั้นก็หยิบให้ศาสตราจารย์ราวๆ หนึ่งกำมือ

“…”

ศาสตราจารย์ชราขยับกรอบแว่นของเขาและพูดว่า “เสี่ยวเยาเยา ขอให้ฉันเพิ่มอีกสักหน่อยได้ไหม ช่วงนี้อาจารย์สะใภ้ของเธอไม่ค่อยอยากอาหารกินอะไรไม่ค่อยได้เลย ฉันเลยตั้งใจว่าจะเอาผลไม้แปลกใหม่นี้กลับไปให้เธอลองชิม”

มือที่กำลังยื่นออกไปของนักเรียนหดกลับไปพร้อมกันทันที

เซียวเซียวใส่ผลนมหมาป่าที่เขากำลังจะกัดกลับเข้าไปในถุงอย่างเก่า

มู่เถาเยาพยักหน้าพร้อมกับยื่นถุงนั้นให้กับศาสตราจารย์ทั้งถุง

ศาสตราจารย์ชราเองก็ไม่เกรงใจ ภรรยาของเขากินอะไรไม่ลงมาสองสามวันแล้ว ดังนั้นเธอจึงดื่มได้แต่น้ำข้าวต้ม

“ขอบคุณนะเสี่ยวเยาเยา ขอบคุณนักเรียนทุกคนด้วย”

มู่เถาเยา “ศาสตราจารย์หลิน อาจารย์สะใภ้ไม่สบายเหรอคะ”

อาจารย์หลินส่ายหัวแล้วพูดว่า “เธอแค่ไม่อยากอาหาร แต่ฉันคิดว่าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไปเธอคงได้ป่วยเป็นโรคเบื่ออาหารแน่”

“ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมาหรือยังคะ”

“ไปมาแล้ว ไม่พบอะไรผิดปกติ แต่ถ้าอีกสองวันนี้อาการแย่ลง ฉันว่าจะลองไปขอให้ศาสตราจารย์สาขาแพทย์แผนโบราณช่วยตรวจดู”

“ถ้าจำเป็น อาจารย์ไปขอให้อธิการบดีช่วยหรือพาอาจารย์สะใภ้ไปหาผู้อำนวยการโรงพยาบาลผิงคังโดยตรงก็ได้นะคะ”

“อืม”

ศาสตราจารย์หลินต้องรู้อยู่แล้วว่าอธิการบดีเป็นศิษย์น้องเล็กของหมอเทวดาหยวน

แค่ว่าอธิการบดียุ่งมากในช่วงนี้ ดังนั้นจึงไม่สะดวกนักหากจะไปรบกวนเขา

ศาสตราจารย์หลินจึงคิดว่าจะขอให้ศาสตราจารย์จากสาขาแพทย์แผนโบราณจับชีพจรให้ก่อน และถ้ายังไม่ได้ผล ค่อยไปรบกกวนอธิการบดีหรือไม่ก็ขอให้อธิการบดีช่วยออกหน้าเชิญผู้อำนวยการเฉิงหรานมารักษาให้

อุปกรณ์ทันสมัยตรวจไม่พบ บางทีวิธีการรักษาโบราณอย่างการดู ดม ถาม และจับชีพจรอาจได้ผล อย่างไรเสียอาการเจ็บป่วยเรื้อรังแบบนี้ก็เหมาะที่จะรักษาโดยการแพทย์แผนโบราณมากกว่า

ศาสตราจารย์หลินขอบคุณมู่เถาเยาอีกครั้งและหิ้วถุงใบใหญ่ที่มีผลนมหมาป่าเหลืออยู่ประมาณสิบกว่าผลกลับไป