บทที่ 54 ต้องเป็นสมบัติล้ำค่าแน่ ๆ[รีไรท์]
ถ้าหลินเจี้ยนหยางใช้เจ้าโกเล็มเหล็กแห่งพายุนี้ละก็ ถึงเขาจะใส่เสื้อเกราะก็คงโดนระเบิดเละจนไม่เหลือซากในพริบตาอยู่ดี ตอนนี้หูโย่วเมิ้งถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นพลังพายุ เขารู้แล้วว่าวันนี้ตัวเขาต้องพ่ายแพ้แน่นอน ด้วยพลังพายุนี้ เขารู้ดีว่าเขาไม่มีทางรอดชีวิตไปได้
เมื่อฉู่เหินหว่านแหร้อยปีออกไป เขาก็ค่อย ๆ สำรวจพื้นที่บริเวณนั้น ก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นคนกลุ่มหนึ่ง คนกลุ่มนี้ดูเหมือนจะหวาดกลัวโกเล็มเหล็ก ดูท่าเจ้าโกเล็มเหล็กนี้จะมีพลังมากทีเดียว
“เจ้าโกเล็มเหล็กนี้ต้องเป็นสมบัติล้ำค่าแน่ ๆ ฉันต้องหาทางขโมยมันมาให้ได้” แต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่เอาออกมา เขาก็ยังไม่มีจังหวะจะเข้าไปขโมยในตอนนี้
เอาไว้รอเมื่อทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน เขาจะรีบไปเอาโกเล็มออกมา ถึงตอนนั้น เขาก็มีเซอร์ไพรส์ของตัวเองเตรียมไว้ เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็อดยิ้มกับตัวเองไม่ได้
“หลินเจี้ยนหยาง ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะงัดอาวุธร้ายแรงขนาดนี้มากำจัดข้า ถ้ามันระเบิดแล้ว ข้าจะเหลือซากอะไรให้เจ้าฆ่าอีก” หูโย่วเมิ้งหรี่ตามองขณะพูดกับหลินเจี้ยนหยาง
“นั่นมันเรื่องของข้า เจ้าไม่ต้องคิดให้ปวดหัวหรอก ข้าจะให้เจ้าตายอย่างสงบ ไม่ต้องห่วง เมื่อเจ้าตายแล้ว ข้าจะตามเก็บกวาดซากที่เหลือของเจ้าเอง” เมื่อสิ้นเสียง หลินเจี้ยนหยางก็ส่งเจ้าพายุที่อยู่ในมือออกไป วินาทีที่เขาปล่อยพลัง ร่างของเขาก็กระเด็นไปข้างหลัง เมื่อพายุระเบิด เขาไม่รู้สึกสงสารเลยสักนิด ถ้านี่คือผลของมัน งั้นจากฝีมือของเขาตอนนี้ เขาก็คงฆ่าคนได้เป็นสิบ ๆ คน
“โอกาสมาถึงแล้ว” ในจังหวะที่ชายเจ้าของพายุปล่อยมือ แหร้อยปีของฉู่เหินก็แผ่ลงไปทันที เมื่อพายุอยู่ในแหแล้ว ฉู่เหินก็รีบลากแหกลับมา
ระหว่างที่หลินเจี้ยนหยางและคนอื่น ๆ วิ่งไปข้างหน้า พร้อมกับนับเลขในใจไปด้วย… หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ แต่ตัวเลขสิบตัวผ่านไปในชั่วพริบตา ทำไมถึงไม่ได้ยินเสียงระเบิดล่ะ?
เมื่อมันหันหลังกลับไปดูก็พบว่าโกเล็มเหล็กมันหายไปแล้ว! ตอนนี้ทั้งหลินเจี้ยนหยาง ตงฟางป้า และหูโย่วเมิ้ง พวกเขาได้แต่สับสนงงงวย ส่วนหูโย่วเมิ้ง เขาเห็นกับตาว่ามีแหโผล่มากลางอากาศ มีคนหว่านแหมาขโมยมันแล้วก็รีบหนีไป ทั้งหมดนี้มันเป็นกลลวงของใครบางคนกัน
ตอนนี้ฉู่เหินดีใจมาก สิ่งที่ทำให้คนกลัวมากขนาดนี้ต้องเป็นสมบัติที่ดีแน่ ๆ เขาคิดในใจว่ามันต้องเป็นอาวุธโจมตีที่ทรงพลังที่สุดแน่นอน ตอนนี้เขาอยากรู้เต็มแก่แล้วว่ามันคืออะไรกัน
ในวินาทีนั้นเอง แหเงินร้อยปีก็โผล่กลับในโลกนี้ ตอนนี้แหก็ลอยนิ่งอยู่เหนือท้องทะเล ฉู่เหินที่กำลังดีใจสุดขีดเขาก็ได้ยินเข้ากับเสียงจากระบบดังขึ้นมาว่า
“โปรดระวัง ผู้ถือครองฉู่เหิน โปรดระวัง พลังพายุกำลังจะระเบิด ระดับความอันตรายถึงตายอยู่ที่ 99 %” เมื่อได้ยินอย่างนี้ ฉู่เหินถึงกับตัวสั่น เขารีบดึงแหเข้ามาโดยไม่พูดไม่จา คลี่เขย่าเพื่อเปิดปากแห ก่อนจะโยนเจ้าโกเล็มเหล็กพลังพายุขึ้นไปในอากาศ
ฉู่เหินรีบทำทั้งหมดนั่นด้วยความรวดเร็ว เมื่อพายุร่วงหล่นลงไปในทะเล ทันทีที่มันถึงพื้นน้ำท้องทะเล ฉู่เหินก็ได้ยินเสียงตูมดังสนั่น ฉู่เหินร้องออกมาเบา ๆ เขารีบนำลูกปัดกันน้ำออกมากำไว้ในมือ แล้วดำลงไปในมหาสมุทร
ถึงแม้ฉู่เหินจะกระโดดลงน้ำทันที แต่เขาก็ยังได้รับผลกระทบจากการระเบิดอยู่ดี ตอนนี้ฉู่เหินรู้สึกถึงแรงดันกระแทกเข้าที่หลัง นั่นทำให้เขากระอักเลือดออกมาคำโต
แรงกระแทกที่ว่ามันทำให้เขาบาดเจ็บอย่างหนัก และยังส่งผลกระทบแม้เหตุการณ์จะผ่านพ้นต่อจากนี้ไป ถ้าเขาลังเลแม้เพียงชั่ววินาที ป่านนี้เขาก็อาจไม่รอดชีวิตแล้วก็ได้ ฉู่เหินยังคงดำน้ำลงไปยังก้นมหาสมุทร สำหรับตอนนี้แล้ว ยิ่งลงไปลึกเท่าไหร่ก็ยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น
ขณะที่เขาดำลงไป ฉู่เหินก็รู้สึกถึงมีบางอย่างตกลงมาแถวเหนือหัวของเขา เมื่อแหงนหน้าขึ้นไปมอง เขาก็กลัวสุดขีด ฉู่เหินไม่รู้เลยว่าเจ้าหินก้อนยักษ์หล่นมาจากไหน แต่ตอนนี้มันตกลงมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ดูจากขนาดของก้อนหิน ถ้าเขาโดนมันทับต่อให้เขามีอีกกี่ชีวิตก็คงไม่รอด
โชคดีที่ตอนนี้ฉู่เหินมีลูกปัดกันน้ำ มันทำให้เขาสามารถเดินได้อย่างอิสระใต้ท้องทะเล และถึงแม้เขาจะรอดจากก้อนหินใหญ่มาได้ แต่บาดแผลของเขาตอนนี้ก็สาหัสพอดู
ฉู่เหินรู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาพัก เขาต้องรีบดำลงไปใต้น้ำให้เร็วที่สุด การเดินไปคือหนทางที่ดีที่สุด โชคดีที่วันนี้เขามีลูกปัดกันน้ำ ไม่อย่างนั้นเขาคงตายไปแล้ว
ฉู่เหินอดยิ้มอย่างเจื่อน ๆ ไม่ได้ มิน่าคนถึงกลัวเจ้าพายุนี่นัก พลังของมันร้ายกาจมาก รู้อย่างนี้แล้วใครจะไปอยากเก็บมันไว้ แต่เอาเถอะ อย่าคิดมากน่า ก็แค่โชคไม่ดี
ฉู่เหินยังคงดำน้ำลงไปก้นทะเลต่อ โชคดีที่ก้นทะเลแห่งนี้ไม่ลึกมาก ไม่กี่นาทีต่อมา เท้าของเขาก็แตะพื้น เขานึกกับตัวเองว่าเรือตกปลาของเขาก็คงจะไม่เหลือแล้วละมั้ง
ทันทีที่เขายืนได้ ฉู่เหินก็เห็นหินก้อนใหญ่กำลังตกลงมาใส่ตัว โชคดีที่อยู่บนพื้นก้นทะเลแล้ว เขาจึงสามารถวิ่งหลบได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องห่วงเรื่องอากาศหายใจหรือแรงกดที่ก้นทะเล ตอนนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับการยืนบนพื้นดินสักเท่าไหร่หรอก
20 นาทีผ่านไป ทะเลก็สงบลง ฉู่เหินยังหวาดกลัว โชคดีที่เขาหัวไว ไม่อย่างนั้นเขาก็คงตายจนไม่เหลือซากแล้ว
ขณะที่เขากำลังดูทิศทางเพื่อหาที่ทำแผล ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา ฉู่เหินกำลังจะชักดาบวงพระจันทร์ออกมา แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้เอามาด้วย
เขาอดเกลียดความสะเพร่าของตัวเองไม่ได้ และนั่นก็ทำให้ตัวเขาต้องจำใจนำพัดที่กำลังดูดซับพลังจากจุดตันเทียนออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขานำพัดออกมาใช้ต่อสู้
เขากำมันไว้ในมือ ที่ปลายใบพัดมันมีใบมีดอันแสนคมกริบอยู่ เมื่อเตรียมพร้อมรับมือแล้ว ฉู่เหินก็มองไปรอบ ๆ พยายามสังเกตว่ามีสิ่งมีชีวิตอะไรว่ายน้ำอยู่ไกล ๆ บ้าง…ไม่จริงใช่ไหม? มันคือปลาครีบพัด
ปลาที่มีรูปร่างเหมือนพัด มันแปลกมาก ทั้งตัวของมันเป็นเหมือนพัดที่กางออกมา ว่ากันว่าปลาชนิดนี้ดุร้ายมาก ตัวใหญ่กว่าปลาทะเลเป็นสิบเท่า การโจมตีด้วยการสะบัดของมันสามารถทำให้ศัตรูขาดครึ่งได้เลยทีเดียว โชคดีหน่อยที่ปลาชนิดนี้หายากมาก เพราะงั้นคงเป็นไปได้น้อยมากที่จะได้เผชิญหน้ากับมันแบบนี้
ฉู่เหินมองปลาครีบพัดที่กำลังว่ายตรงมาที่เขาพร้อมกับตั้งท่าระวังตัว เขารู้ว่ามันดุร้ายมาก ถ้าเขาไม่ระวัง เขาอาจได้เป็นผีเฝ้าทะเลภายในวันนี้ก็เป็นได้
Next