บทที่ 55 สองสาวเฝ้ารอ

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 55 สองสาวเฝ้ารอ[รีไรท์]

ฉู่เหินรีบถอยหลังไป 2-3 ก้าว เมื่อเห็นปลาครีบพัดว่ายมาอยู่ข้าง ๆ แบบนี้ ตัวเขาต้องรักษาระยะห่างจากปลานี้ไว้ให้ดี ถ้าปล่อยให้มันเข้ามาใกล้ งานนี้ศพไม่สวยแน่ ๆ

เจ้าปลาครีบพัดไม่นึกว่าเหยื่อร่างใหญ่คนนี้จะมีความยืดหยุ่นสูงมาก แต่อาหารเองไม่ได้หากันได้ง่าย ๆ จะปล่อยให้หลุดมือไปได้อย่างไร ว่าแล้วฉู่เหินก็เห็นปลาครีบพัดว่ายรอบตัวเขา จนก่อให้เกิดเป็นวงคลื่น

เดิมที จากจุดที่ฉู่เหินยืนอยู่ เขาสามารถมองเห็นไกลได้หลาย 10 เมตร แต่ด้วยวงคลื่นดังกล่าว นั่นก็ทำให้การมองเห็นของเขาเหลือเพียงแค่รอบ ๆ ตัวเท่านั้น เมื่อเห็นแบบนี้เข้ามันก็ทำให้ฉู่เหินรู้สึกตกอยู่ในอันตราย ในจังหวะนั้นเขาเห็นปลาครีบพัดว่ายขึ้นไป ก่อนที่มันจะเหยียดหางตรงเหมือนดาบคม ๆ เล็งมาที่ฉู่เหิน!

เมื่อปลายหางเข้ามา ฉู่เหินรีบก้มหลบในทันที แต่ด้วยความเร็วของศัตรู ปากของมันก็ยังเฉี่ยวเข้าที่แขนซ้ายของเขาอยู่ดี ตอนนี้เลือดได้ฟุ้งกระจายไปทั่วทะเล

ฉู่เหินได้แต่อดทนกับความเจ็บปวด สายตาของเขายังจ้องไปที่ปลาครีบพัดเขม็ง เขาเห็นว่าลักษณะของปลาครีบพัดเป็นเหมือนพัดในมือเขาไม่มีผิด ซึ่งเจ้าปลาตัวนี้เอง มันก็ใช้ลำตัวของมันเป็นอาวุธ แล้วถ้าแบบนี้เขาจะใช้พัดทำแบบเดียวกันได้ไหม?

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฉู่เหินก็ตื่นเต้นมาก ถึงเขาจะมีทักษะ แต่งานนี้เขาไม่รู้อะไรเลย ถ้าไปเจอคนเก่งพอ ๆ กัน ป่านนี้เขาคงแพ้ราบคาบไปแล้ว สำหรับคนอื่นเมื่อพวกเขาเผชิญกับอันตรายเช่นนี้ ฉู่เหินคิดว่าพวกเขาคงหาทางออกได้นานแล้ว

ปลาครีบพัดมองฉู่เหินด้วยความตกตะลึงเมื่อเห็นฉู่เหินตั้งท่าจะโจมตีมัน ตอนนี้ฉู่เหินได้ถ่ายทอดพลังดวงดาวลงไปในพัด ก่อนที่เขาจะปั่นพัดไว้บนนิ้ว พัดทั้งอันหมุนวนเหมือนกับเจ้าปลาที่กำลังหมุนอยู่รอบตัวเขาในตอนนี้ไม่มีผิด

เมื่อพัดหมุน น้ำรอบ ๆ พัดก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครา ครั้งนี้สิ่งที่ถูกสกัดกั้นไม่ใช่การมองของฉู่เหินอีกต่อไป แต่เป็นการมองเห็นของอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน เมื่อได้โอกาสฉู่เหินก็รีบสะบัดพัดในมือ จนทำให้พัดพุ่งเข้าไปสับที่ตัวปลา

ปลาครีบพัดมีขนาดไม่ใหญ่มาก ด้วยเหตุนี้มันจึงสามารถหลบคมดาบไปได้ แต่ถึงกระนั้น เรื่องนี้ก็สร้างความประหลาดใจให้ปลาตัวนี้ไม่น้อย ตอนนี้มันเริ่มไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเป็นพวกเดียวกับมันหรือเปล่า เพราะแม้แต่การโจมตีก็เหมือนกับมันไม่ผิด

แต่ยังไงก็ไม่สำคัญ ขอแค่ได้มีอะไรตกถึงท้องก่อน เรื่องอื่นไว้ที่หลัง เมื่อคิดได้แบบนี้เจ้าปลาครีบพัดที่เหมือนดาบคม ๆ ก็ว่ายไขว้ไปมาที่ตัวของฉู่เหิน มันว่ายอย่างรวดเร็ว ส่วนฉู่เหินก็พยายามที่จะหลบให้พ้น ผลก็คือเสื้อที่หน้าอกของเขาขาดเป็นริ้ว ๆ

เท้าฉู่เหินยังไม่ทันได้แตะถึงพื้น ปลาครีบพัดก็เข้าโจมตีเขาอีก ครั้งนี้มันสะบัดหางมาปะทะกับพัดของฉู่เหินที่ยื่นออกไป ด้วยความที่ฉู่เหินลอยอยู่บนพื้นที่โล่ง ๆ เมื่อทั้งสองปะทะกัน นั่นก็ทำให้เขาถึงกับเซถอยหลังไป

ฉู่เหินได้เรียนรู้และเลียนแบบการจู่โจมของปลาครีบพัดมาแล้ว อันที่จริงปลาครีบพัดไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย รวม ๆ แล้วมันน่าจะมีกระบวนท่าแค่เพียง 7-8 ท่าเท่านั้น แต่เพียงแค่นั้นมันก็พอแล้วที่จะทำให้ฉู่เหินรู้สึกแปลกใจ

เจ้าปลาที่ได้เปรียบในตอนแรก เมื่อเวลาผ่านไป ฉู่เหินก็สามารถใช้พัดของเขาได้เก่งขึ้นทุกที ๆ ทั้งคู่ผลัดกันโจมตีด้วยวิธีและท่วงท่าเดียวกัน แต่ฉู่เหินแข็งแกร่งกว่าคู่ปรับมาก ถึงแม้เขาจะต้องใช้พลังดวงดาวที่มีอยู่ในร่างกายไปมากกว่าครึ่งเพื่อระงับอาการบาดเจ็บก็ตาม แต่มันก็เทียบไม่ได้เลยกับบาดแผลของเจ้าปลาในตอนนี้

หลังจากต่อสู้กันมานาน 1 ชั่วโมง เจ้าปลาก็รีบว่ายหนีไป เมื่อมันจากไปได้ไกลแล้ว ปลาครีบพัดก็หันมามองหน้าฉู่เหินและเปล่งเสียงร้อง ทันใดนั้นเองฉู่เหินก็เห็นควันสีดำปรากฏขึ้นใกล้ ๆ ปลาครีบพัด

เมื่อเห็นเช่นนั้น ฉู่เหินก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้ เจ้าปลาน้อยตัวนี้ เมื่อมันสู้เขาไม่ได้ มันก็ตดใส่ก่อนจะว่ายหนีไป เขาไม่นึกเลยว่ามันจะร้ายได้ขนาดนี้ แต่นั่นก็แปลว่าปลาตัวนี้ฉลาดมาก

เมื่อเห็นปลาว่ายหนีไปแล้ว ฉู่เหินก็รีบโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ เมื่อเขาโผล่ขึ้นมาบนบก เขาก็พบกับเรือตกปลาที่ถูกระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ ไปแล้ว ตอนนี้จะมีก็แต่เศษซากไม้ของเรือลอยอยู่ในบริเวณ แถมยังมีคราบน้ำมันเครื่องเปื้อนอยู่หน้าเขาอีกด้วย

ฉู่เหินพอจะจินตนาการออกเลยว่ามันเลวร้ายเพียงใดตอนเรือระเบิด เขาได้แต่ถอนหายใจ ถ้าตอนนั้นเขาอยู่เหนือน้ำทะเลละก็ ป่านนี้ก็ฉู่เหินคงเละเป็นโจ๊กไปแล้ว เมื่อคิดได้แล้วเขาก็ตัดสินใจว่ายน้ำกลับเข้าฝั่ง มันคงใช้เวลาไม่นานนัก

ด้วยความที่ฉู่เหินมีลูกปัดกันน้ำอยู่ในมือ เขาจึงว่ายน้ำไปข้างหน้าได้เร็วมาก ด้วยความเร็วเท่านี้ ฉู่เหินก็สามารถว่ายน้ำกลับถึงฝั่งได้ภายใน 2 ชั่วโมง ทั้งหมดนี่ก็เป็นเพราะลูกปัดกันน้ำ

สิ่งที่ฉู่เหินไม่รู้ก็คือที่หมู่บ้านชาวประมงตอนนี้กำลังเซ็งแซ่เป็นอย่างมาก แรงระเบิดจากในทะเลรุนแรงเสียจนทำให้หน้าต่างบ้านที่อยู่ใกล้ชายหาดแตกร้าว ซึ่งพี่รองที่เห็นหน้าต่างแตกก็พูดขึ้นว่า “ทำไมต้องเป็นฉันอยู่เรื่อย”

แต่เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด พวกเขาไม่พบอะไรผิดปกติ ชาวบ้านจึงรู้สึกโล่งอก การสื่อสารในปัจจุบันนี้ก็สะดวกสบายขึ้น คนในหมู่บ้านชาวประมงไหก่างรีบโทรหาคนที่ออกทะเลไป ถ้าอีกฝ่ายบอกว่าปกติ คนที่บ้านจึงจะรู้สึกวางใจ

การระเบิดน่ากลัวมากจริง ๆ แม้จะเกิดขึ้นแค่เพียงช่วงเสี้ยววินาที แต่นั่นก็ทำให้น้ำทะเลพุ่งขึ้นมา ถ้าคลื่นไม่ได้ไหลกลับลงทะเลอย่างช้า ๆ คนที่ออกทะเลไปก็คงจะคิดว่าพวกเขากำลังเจอพายุไต้ฝุ่นเข้าให้แล้ว

หลังจากที่ทุกคนขึ้นจากทะเลไปทีละคนในช่วงเวลาสั้น ๆ ก็เหลือเพียงคนสามคนที่รออยู่ที่ทะเล และนั่นก็คือเสี่ยวชิง หวงลี่ลี่และซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ โชคดีที่สาว ๆ มีเรื่องกังวลใจ พวกเธอจึงไม่ทะเลาะกัน

“เสี่ยวชิง ลี่ลี่ ไม่ต้องห่วงหรอก ฉู่เหินเป็นคนมีความสามารถ ถ้าเขาเจออันตรายจริง ๆ ฉันเชื่อว่าเขาต้องกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน” หวงลี่ลี่และเสี่ยวชิงจับมือกันแน่น ขณะมองออกไปนอกทะเลอันบ้าคลั่ง ด้านซ่างกวนเสี่ยวฟู๋เอง เธอก็อดที่จะกลุ้มใจตามไปด้วยไม่ได้

ทั้งสองโทรหาชายหนุ่มเป็นร้อย ๆ สาย และปลายสายก็เอาแต่ตอบว่า ‘หมายเลขที่ท่านเรียกอยู่ในพื้นที่ไม่มีสัญญาณ โปรดติดต่อใหม่อีกครั้ง’ พวกเธอรู้อยู่ลึก ๆ ว่าด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ สัญญาณมีอยู่ทุกหนทุกแห่งแม้แต่ในใต้ท้องทะเลลึก มันจะไม่มีสัญญาณได้อย่างไร

หวงลี่ลี่และเสี่ยวชิงพากันเฝ้ามองจนพระอาทิตย์ตกดิน น้ำตาของพวกเธอไหลลงเป็นสาย คนที่พวกเธอรักยังไม่กลับมา ทั้งสองสาวมองพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกลับขอบฟ้า พวกเธอไม่สามารถกลั้นใจได้อีกต่อไป พวกเธอได้แต่นั่งและร้องไห้อยู่เงียบ ๆ

“เสี่ยวชิง ลี่ลี่ ดูนั่นสิ นั่นอะไรน่ะ” ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋เห็นอะไรบางอย่างในน้ำ มันดูเหมือนจะกำลังลอยคออยู่ มันดูเหมือนเป็นเงาจากระยะไกล แต่เมื่อดูให้ดี มันคือคนที่กำลังว่ายน้ำเข้าหาฝั่ง

เสี่ยวชิงกับลี่ลี่รีบลุกเมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเธอรีบวิ่งไปที่ชายหาด ถึงจะยังอยู่อีกไกล แต่พวกเธอรู้ดีว่าคนที่กำลังว่ายกลับเข้าฝั่งนั้นต้องเป็นฉู่เหินแน่ ๆ

Next