บทที่ 56 พี่ชายว่ายกลับฝั่ง[รีไรท์]
ฉู่เหินไม่คิดเลยว่าการหว่านแหในรอบนี้จะซวยได้ขนาดนี้ แหที่หว่านดันเอาระเบิดมาด้วย ไม่พอ เรือของเขายังพังยับเยินไปหมดแล้ว ไอ้เรือที่มันพังก็ให้มันพังไปเถอะ แต่ตอนที่เขากำลังว่ายน้ำอยู่กลางทะเลมาเนิ่นนาน พอหันไปมองรอบตัวถึงได้รู้ว่าเขาหลงทิศซะแล้ว
โชคดีที่เขากับแมวนพเวทย์มีความผูกพันกันอย่างมาก หลังจากพยายามจับทางด้วยความรู้สึก เขาก็รู้ว่าชายฝั่งอยู่ทางไหน
ถึงเขาจะล่องเรือในเส้นทางนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแต่ปกติเขาจะใช้เรือ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาว่ายน้ำเข้าฝั่ง มันเลยไม่แปลกที่เขาจะหลงทิศ หลังจากสับสนอยู่พักหนึ่ง เขาก็สามารถว่ายน้ำเข้าฝั่งได้ในเวลา 2 ชั่วโมงตามที่คำนวณเอาไว้ ทั้งที่จริง ๆ แล้วต้องใช้เวลา 6 ชั่วโมง มันเป็นเพราะลูกปัดกันน้ำในมือของเขาที่ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้นเป็น 10 เท่า โบราณว่าน้ำและไฟไม่เคยปรานีใครซึ่งก็น่าจะจริงอย่างเขาว่า
ขณะที่กำลังว่ายน้ำกลับเข้าฝั่ง เขาได้ยินเสียงของคนสองคนเรียกเขาไม่หยุดหย่อน ก่อนหน้านี้เขายังรู้สึกอ่อนล้า แต่เมื่อได้ยินเสียงจากทั้งสอง ฉู่เหินรู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่จะฮึดสู้ เขากะว่าจะตะโกนกลับไปเพื่อไม่ให้ทั้งสองคนเป็นห่วง แต่เมื่อเขาอ้าปาก เขาก็พบว่าตัวเองพูดอะไรไม่ได้เลย
การออกแรงอย่างยาวนานทำให้ปากเขาแห้งผาก รวมทั้งลูกปัดกันน้ำก็เป็นอีกหนึ่งในสาเหตุ มันช่วยไม่ให้เขาไม่สำลักน้ำทะเลก็จริง แต่การแช่น้ำนาน ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องดีเช่นกัน
ไม่กี่นาทีผ่านไป สองสาวก็กระโดดลงน้ำมาว่ายอยู่ข้าง ๆ เขา ก่อนที่พวกเธอจะเอามือคล้องแขนเขากันคนละข้าง ก่อนจะจ้วงน้ำว่ายเข้าหาฝั่ง
ขณะที่ฉู่เหินกำลังว่ายกลับเข้าฝั่ง สองสาวก็กล่าวย้ำ ๆ ว่าพี่ว่ายน้ำกลับมาแล้ว เมื่อถึงฝั่งฉู่เหินก็หมดสติไปทันที
ตอนฉู่เหินขึ้นมาจากทะเล เขารู้สึกอับอายพอสมควร เขาไม่รู้ว่าผมสีดำของเขามีสาหร่ายติดอยู่ได้อย่างไร เสื้อผ้าที่เขาใส่ก็ไม่รู้หายไปไหน เขาอยากจะวิ่งกลับลงทะเลให้สำลักน้ำตายให้มันรู้แล้วรู้รอด ยังดีที่เหลือเสื้อยืดติดตัวอยู่ แต่ใส่ก็เหมือนไม่ใส่เพราะเสื้อมันขาดรุ่งริ่งไปหมด อีกทั้งบาดแผลเต็มตัวที่ไม่ว่าใครเห็นก็ทำให้คนอื่นรู้สึกเจ็บแทนแล้ว แค่นับร่างกายส่วนบนของเขาก็มีแผลไม่น้อยกว่า 10 แผล
เขายืนใส่กางเกงในแค่ตัวเดียว แถมมันยังอยู่ในสภาพเยินเสียด้วย เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันขาดได้อย่างไร แถมมันยังมีคราบสีแดงเปื้อนอยู่ ซึ่งนั่นก็น่าจะเป็นเลือดของเขา
เขาแช่น้ำทะเลมาอย่างยาวนาน แต่ก็ยังมีคราบเลือดหลงเหลือ นั่นบ่งชี้ว่าจริง ๆ แล้วเขาเสียเลือดมากแค่ไหน แม้ของสงวนในร่างกายของเขาจะโผล่ออกมาจากรอยขาดของกางเกงใน แต่ในเวลานี้ แต่ทั้งสามสาวไม่ได้ใส่ใจมันเลย…. สิ่งเดียวที่พวกเธอสนใจคือ ฉู่เหินยังมีชีวิตอยู่ไหมและมีบาดแผลฉกรรจ์ตามร่างกายหรือไม่
ร่างกายส่วนบนของฉู่เหินมีแผลไม่น้อยกว่า 10 แผล แต่ส่วนล่างของเขามีมากกว่า 20 แห่งเลยทีเดียว ทั้งหมดก็เป็นเพราะเจ้าปลาครีบพัด
สาว ๆ พากันน้ำตาคลอเมื่อเห็นบาดแผลและเลือดของฉู่เหิน เสี่ยวชิงรีบนำผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเศษทรายบนตัวของฉู่เหินออกให้เบาๆ เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้หน้าเธอแดงไม่ต่างจากลูกแอปเปิ้ลเนื่องจากออกแรงมาก ถ้านี่เป็นฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วง พวกเธอคงถอดเสื้อมาห่มให้ฉู่เหินไปแล้ว แต่ในหน้าร้อนอย่างนี้ พวกเธอใส่ชุดกระโปรงมาแค่ชุดเดียว สาว ๆ ทั้งสามคนจึงผลัดกันพยุงฉู่เหินเดินกลับบ้าน
โชคดีที่ตอนนี้มืดแล้ว มีคนไม่กี่คนอยู่นอกบ้าน และด้วยความที่บ้านของพวกเขาอยู่ไม่ไกลจากชายหาด หลังผ่านไป 10 นาที พวกเธอก็พาฉู่เหินมาถึงบ้าน
เสี่ยวชิงรีบเอาน้ำเปล่ามาเช็ดตัวให้ฉู่เหินตั้งแต่หัวจรดเท้า ถึงมันจะน่าอาย แต่ตอนนี้ฉู่เหินก็ยังไม่รู้สึกตัว เธอนำแอลกอฮอล์มาทำความสะอาดแผลให้ฉู่เหิน เมื่อเธอเห็นแผลเหวอะหวะนั่นก็ให้เสี่ยวชิงรู้สึกตกใจ
แต่แล้วเสี่ยวชิงก็ต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อแผลของฉู่เหินค่อย ๆ เริ่มดีขึ้นอย่างช้า ๆ แม้จะไม่ได้เร็วปุบปับ แต่มันก็เริ่มเยียวยาตัวเอง เมื่อเห็นอย่างนั้นเธอจึงออกไปหาเสื้อสะอาดเพื่อจะเอามาใส่ให้เขา ถึงตอนนี้แผลของเขาก็เริ่มมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าอีกต่อไปแล้วก็นี่มันราวกับปาฏิหาริย์!
เสี่ยวชิงไม่รู้ว่าทำไมร่างกายของฉู่เหินถึงสามารถเยียวยาได้อย่างรวดเร็วราวกับผ่านการรักษามาหลายเดือนแบบนี้ แต่ร่างของฉู่เหินที่นอนอยู่บนเตียงตอนนี้ที่กำลังเปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งดูแล้วก็ตลกดี
ฉู่เหิน เขามารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนเช้าวันถัดไป เขามองเสี่ยวชิงที่นอนอยู่ข้างเขา เมื่อเห็นดังนั้นก็อดที่จะรู้สึกอบอุ่นใจไม่ได้ เขาจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากเขาสลบไป แต่เขารู้ดีเลยว่าเสี่ยวชิงน่าจะนอนเฝ้าเขาทั้งคืน
เมื่อฉู่เหินลุกขึ้น เขาก็มองบาดแผลของตัวเอง ก่อนจะพบว่ามันหายหมดแล้ว ตอนนี้เหลือแค่อาการบาดเจ็บภายในที่ยังไม่หาย ซึ่งเขาก็คิดว่าไม่กี่วันก็น่าจะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมได้แล้ว
ฉู่เหินมองเสี่ยวชิงเงียบ ๆ ด้วยความสงสัย เขารู้ว่า เสี่ยวชิงเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ แม้เขาจะเรียนมหาวิทยาลัยมาแค่ 3 ปี แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ทั้งปิดเทอม ฤดูร้อนหรือว่าปิดเทอมฤดูหนาว ทำไมหลิวเสี่ยวชิงถึงกลับมาทั้งที่ผ่านไปครึ่งเดือน ดูเหมือนเขาจะต้องถามตอนเธอตื่นเสียแล้ว
หวงลี่ลี่กำลังจะต้องกลับไปเริ่มเรียนแล้ว ฉู่เหินวางแผนว่าจะพาหวงลี่ลี่ไปส่งที่โรงเรียนก่อน แล้วเขาค่อยหาซื้อเรือใหม่เพื่อเข้าถึงระบบโลกาอีกครั้ง
“เป็นอะไรรึเปล่าพี่ เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น พี่ทำฉันกลัวนะ” เมื่อเห็นฉู่เหินเดินออกมาจากในห้อง หวงลี่ลี่ก็รีบเดินมาพยุงแขนฉู่เหิน แล้วมองสภาพร่างกายของพี่ชายตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องห่วงน่า เมื่อวานเรือมีปัญหานิดหน่อย แล้วมันก็ระเบิด แต่ตอนนั้นพี่กระโดดลงทะเลทัน เลยไม่เป็นอะไรมาก” ฉู่เหินโกหกไปบ้าง แล้วตบไหล่ของสาวน้อยเบา ๆ เพื่อเธอจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง
“เธอต้องกลับไปเรียนแล้วนะ ไปกัน เดี๋ยวพี่พาไปส่ง แล้วก็จะไปแวะหาพ่อของเธอด้วย” เมื่อได้ยินฉู่เหินพูด หวงลี่ลี่ก็ก้มหน้ากะพริบตา เธอยังไม่แน่ใจว่ายังควรไว้ใจโรงเรียนอยู่หรือไม่
“เด็กโง่ ไม่ต้องกังวลแล้ว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นที่โรงเรียน ก็ไปหาอาจารย์ใหญ่หวังได้เลย ถ้าอาจารย์ใหญ่ไม่ช่วย ก็โทรหาพี่ ไม่ว่าใครก็ห้ามรังแกน้องสาวของฉู่เหิน” ฉู่เหินพูดปลอบใจหวงลี่ลี่
“ไม่ต้องห่วง หนูไม่ทำอะไรโง่ ๆ อีกแล้ว อีกอย่างครอบครัวของเราก็ไม่ได้ลำบากอะไร ถ้าหนูรู้ หนูคงไม่ทำอะไรโง่ ๆ แบบนั้นหรอก” เด็กหนอเด็ก ตอนนี้เธอกังวลไปหมดแต่ก็ยังยิ้มออกมาได้
“เธอนี่มันเจ้าเด็กซื่อบื้อจริง ๆ วันนี้รีบออกกันแต่เช้าหน่อย พี่ชายอย่างฉันจะซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้ เครื่องเก่ามันพังไปแล้ว ครั้งนี้ฉันจะซื้ออย่างดีให้เลย” ระหว่างที่พี่ชายกำลังคุยกับน้องสาว ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ก็เดินงัวเงียออกมาจากห้อง
“ว้าวพระเจ้า! ฉู่เหินนายหายดีแล้วนี่ นายเป็นตัวอะไรเนี่ย เมื่อวานแผลนายเหวอะไปหมด ดูวันนี้สิแผลนายหายไปหมดกระทั่งแผลเป็นก็ไม่เหลือ” ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋กล่าว พร้อมกับเปิดเสื้อของฉู่เหินเพื่อดูแผลจากเมื่อวานไปด้วย ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอพบว่ามันหายไปหมดแล้ว ไม่หลงเหลือไว้แม้แต่รอยแผลเป็น
Next