บทที่ 27 ท่านพ่อจะกลับมาไหม?
เหยาซูจูงมือลูกทั้งสองคนไปที่ห้องหลัก พลางตอบพวกเขาว่า “จริงหรือ? ต้าเป่ากับเอ้อเป่าได้ช่วยท่านยายป้อนข้าวน้องชายด้วยหรือไม่ แม่ไปค้าขายในเมือง รอให้ต้าเป่าและเอ้อเป่าโตขึ้นกว่านี้อีกหน่อยก็สามารถไปช่วยแม่ขายของได้…”
เมื่อเข้ามาภายในห้องทั้งครอบครัวก็นั่งล้อมวงกันที่โต๊ะ เมื่อเห็นเหยาซูและเหยาเฉากลับมาพวกเขาดีใจมากเช่นกัน พี่สะใภ้ทั้งสองรีบดึงเหยาซูเข้ามาสอบถาม
พ่อเฒ่าเหยาพูดขึ้นว่า “อาเฉาเอาของไปเก็บ อาซูไปล้างมือ ถึงเวลากินข้าวเย็นแล้ว”
อาหารเย็นมื้อแรกที่กลับมาถึงบ้านทำให้เหยาซูรู้สึกอบอุ่นเป็นพิเศษ ตอนนี้พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว ตะเกียงน้ำมันก็สว่างขึ้นในห้อง ทุกคนพูดคุยกันจนดึกก่อนจะแยกย้ายกันกลับห้องตัวเอง
เนื่องจากลูกทั้งสองร้องขอออดอ้อน เหยาซูจึงพาต้าเป่าและเอ้อเป่ากลับไปที่ห้องตะวันออกเพื่อพักผ่อนด้วยกัน ส่วนในตอนกลางคืนซานเป่ายังคงนอนอยู่กับแม่ของนาง
เมื่อรู้ว่าเหยาซูจะกลับมาบ้านในวันนี้ แม่เฒ่าเหยาได้ตากผ้าห่มให้ตั้งแต่เช้า ส่วนพี่สะใภ้ทั้งสองเตรียมถ่านไฟใหม่ไว้ให้
ตกกลางคืนแม่ลูกสามคนนอนอยู่บนเตียงและห่มผ้าอุ่น ๆ จากนั้นเริ่มมีการสนทนากัน
“ท่านแม่ ข้ากับน้องสาวสามารถแก้ปริศนาเก้าห่วงได้แล้วและข้าเองก็ได้เรียนรู้ตัวอักษรหลายคำ”
“ต้าเป่าและเอ้อเป่าเก่งถึงเพียงนี้เชียวหรือ? แล้วพวกเจ้าได้เรียนรู้คำว่าอะไรบ้าง?”
“สวรรค์, โลก, ดวงอาทิตย์, ดวงจันทร์… และยังมีชื่อของท่านแม่ ต้าเป่า และเอ้อเป่า”
“ใครเป็นคนสอนพวกเจ้า?”
เอ้อเป่ารีบตอบ “ ป้ารองเป็นคนสอน และพี่ชายต้องท่องศัพท์ ‘พันคำ’ ด้วย!”
ค่ำคืนนี้เป็นคืนฤดูหนาวที่เงียบสงัด มีเพียงเสียงถ่านในห้องที่ส่งเสียงดัง ‘เปรี๊ยะ’ ‘เปรี๊ยะ’ เป็นระยะ อาซือที่ยังเด็กจึงผล็อยไปหลับอย่างรวดเร็ว
ขณะที่เหยาซูใกล้เคลิ้มหลับก็ได้ยินเสียงอาจื้อถามนางเสียงเบา “ท่านแม่ ท่านคิดถึงท่านพ่อหรือไม่ขอรับ?”
เหยาซูที่กำลังสะลึมสะลือก็ตื่นขึ้นมาทันที
“หืม? ทำไมต้าเป่าถึงถามเช่นนั้น? คิดถึงท่านพ่อหรือ?”
อาจื้อไม่ได้ตอบในทันที กระทั่งผ่านไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยเสียงเบาว่า “อืม…ท่านแม่ ท่านพ่อจะไม่กลับมาจริง ๆ หรือ?”
เหยาซูตกตะลึง ตั้งแต่ที่นางทะลุมิติเข้ามายังนิยายเรื่องนี้ เด็กทั้งสองคนรวมทั้งนางล้วนถูกตระกูลหลินรังแกจนไม่สามารถที่จะทนอยู่ต่อไปได้
เหยาซูคิดมาตลอดว่าในใจของเด็กทั้งสองคน ตระกูลหลินก็คือรังเสือรังหมาป่า แม้แต่ตัวละครผู้เป็นบิดาก็ยังด่างพร้อย
นางเองก็ตั้งใจจะหย่า!
ทว่าพอได้ยินต้าเป่าพูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาคิดถึงพ่อ ในฐานะแม่นางไม่สามารถทำให้ลูกลืมพ่อตัวเองได้
เหยาซูลูบหัวเขาราวกับให้กำลังใจ
“ท่านพ่อจากไปนานเกินไป ข้าแทบจำเขาไม่ได้แล้ว”
อาจื้อดึงผ้าห่มขึ้นถึงคาง ส่งเสียงกระซิบกระซาบว่า “แต่เขาดีกับข้าและน้องสาวจริง ๆ รวมทั้งท่านแม่ด้วย”
“ตอนที่ท่านพ่อยังอยู่ แม้ว่าพวกท่านอาจะชอบรังแกพวกเราเสมอ แต่ตราบใดที่ท่านพ่อเห็นเขาจะโกรธแทนพวกเรา”
“ตอนนั้นท่านแม่ชอบทะเลาะกับท่านพ่อเสมอ บางครั้งพอทะเลาะกันรุนแรง ท่านพ่อก็จะออกไปข้างนอก ข้าเคยเห็นอยู่ครั้งหนึ่งในยามดึกท่านพ่อนั่งอยู่ที่ธรณีประตูของลานบ้าน มองดูดวงจันทร์ท่าทางเศร้าโศกเสียใจ…”
“แต่ในวันรุ่งขึ้น ท่านพ่อยังกลัวว่าท่านแม่จะโกรธจนไม่ยอมกินข้าว เช้าตรู่เขาจึงต้มไข่แล้วกลับไปที่ห้องเพื่อให้ท่านได้กิน”
“ข้ากับเอ้อเป่ามักจะได้กินอาหารอร่อย ๆ เช่นกัน ท่านย่าไม่ยอมให้ไข่พวกเรากิน ทุกครั้งจะแอบเก็บไข่ไว้ให้อาสาม แต่ท่านพ่อไปทำงานในไร่จนมืดค่ำบางครั้งก็ได้ไข่นกมาจากบนต้นไม้ อีกทั้งยังมีกระต่ายให้พวกเรากิน…”
“ท่านพ่อเก่งมากเมื่อฤดูหนาวที่แล้ว เขายังล่าหมีจากภูเขา หลังจากขายหมีให้กับนายพรานแล้วเขาก็ซื้อกำไลเงินให้เอ้อเป่า แม้ว่าต่อมาท่านพ่อจะจากไปและกำไลเงินนั้นก็ถูกท่านย่าแย่งไป…”
“วันนี้หลังจากกินข้าวเสร็จ ลุงรองถามข้าว่า หากท่านพ่อกลับมาข้ากับเอ้อเป่าจะกลับตระกูลหลินหรือไม่… ข้าบอกกับเขาว่า ท่านแม่อยู่ที่ไหนข้าจะอยู่ที่นั่น”
“ท่านแม่ ท่านพ่อจะกลับมาจริง ๆ หรือขอรับ”
ในคืนที่เงียบสงัด อากาศหนาวเย็น เหยาซูขยับแขนกอดลูกชายไว้ในอ้อมแขน ความฉลาดเฉลียวของเขาทำให้นางรู้สึกเศร้า ในทำนองเดียวกันก็คิดถึงความคิดของเด็กที่มีต่อพ่อของเขา เป็นสิ่งที่นางไม่สามารถหยุดความคิด ทำได้เพียงต้องยอมรับ
เหยาซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงทำได้เพียงเอ่ยว่า “ต้าเป่า แม่รู้ว่าเจ้าเป็นเด็กดี ท่านพ่อก็ดีกับพวกเรา เจ้าจงจดจําไว้ในใจเสมอ” เหยาซูครุ่นคิดทุกคำพูด นางโอบกอดเขาเบา ๆ แล้วเอ่ยเสียงอ่อน “ท่านแม่คิดมาตลอดว่าท่านพ่อของเจ้าจะกลับมา แต่ตอนนี้ต้าเป่าอย่าคิดมากเลย แค่ให้น้องสาวและน้องชายของเจ้าเติบโตอย่างแข็งแรง สุขภาพดีจากนั้นค่อย ๆ รอให้ท่านพ่อกลับมา ตกลงหรือไม่?”
เด็กชายในอ้อมแขนพยักหน้าอย่างว่าง่าย แล้วหลับตาลง ทว่ามุมปากยังคงประดับไปด้วยรอยยิ้มที่อุ่นใจ
อ้อมกอดของท่านแม่และสัญญาที่อ่อนโยนทำให้เขารู้สึกปลอดภัยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ภายใต้ความอบอุ่นนี้เขาค่อย ๆ เข้าสู่ความฝัน
…………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
สงสารเด็ก ๆ นะคะ ที่ต้องกลายเป็นสนามอารมณ์ของผู้ใหญ่ในบ้าน
จริง ๆ แล้วสามีของเหยาซูเจ้าของร่างเป็นคนอย่างไรกันนะ
ไหหม่า(海馬)