บทที่ 28 สิ่งที่สามารถทำได้

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม

บทที่ 28 สิ่งที่สามารถทำได้

นับตั้งแต่วันนั้นที่อาจื้อเปิดเผยความในใจให้เหยาซูได้รับรู้ นางจึงรู้สึกผิดต่อเด็ก ๆ ไม่มากก็น้อย

หลังจากที่พวกเขาไม่มีพ่อ ขาดความรักจากพ่อ อีกทั้งช่วงนี้นางยังง่วนอยู่กับการค้าขาย ทำให้ขาดความรักจากแม่ด้วยเช่นกัน

อาจื้อและอาซือเป็นเด็กที่รู้ความมาก แม้ว่าทุกครั้งที่พวกเขาเห็นแม่ของตัวเองออกไปทำงานพวกเขาจะรู้สึกเศร้า แต่ก็รู้ว่ามารดาของพวกเขาออกไปค้าขายเพื่อหาเงินมาเลี้ยงตนเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ยอมออกไปเล่นเหมือนเด็กคนอื่น ๆ

ทำให้เหยาซูรู้สึกคิดมากเมื่อต้องอยู่คนเดียว

……

ในชั่วพริบตาฤดูเหมันต์ก็จะผ่านพ้นไป เทศกาลวสันตฤดูก็จะมาถึงเร็ว ๆ นี้

ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา กิจการของเหยาซูค่อย ๆ ดำเนินไปอย่างเป็นขั้นตอน เหยาซูเริ่มมีเงินทองมากขึ้น ผนวกกับการแนะนำของฮูหยินในอำเภอทำให้ชาดทาแก้มที่บรรจุกล่องแกะสลักของนางขายได้สองกล่องอย่างรวดเร็ว

เหยาซูเริ่มรู้สึกว่าการเริ่มทำการค้าในตอนนี้ทำให้ตนสูญเสียเวลาที่อยู่กับลูกทั้งสาม ดังนั้นนางจึงบอกเถ้าแก่หลิวว่าชาดทาแก้มจะไม่มีขายจนกว่าฤดูใบไม้ผลิจะมาถึง

นางซื้อของฉลองปีใหม่ และกลับไปยังหมู่บ้านตระกูลเหยา เพื่อเตรียมตัวสำหรับเทศกาลต้อนรับปีใหม่ ใช้เวลาอยู่กับลูก ๆ ของนาง

เมื่ออาจื้อกับอาซือพบว่าแม่ของพวกเขาไม่ได้ออกไปค้าขายอีก จึงรู้สึกดีใจเป็นพิเศษ และไม่ยอมออกไปเที่ยวเล่น แต่กลับเดินวนเวียนอยู่ข้างกายมารดาไม่ห่าง

ทำให้เหยาซูที่อุ้มซานเป่า เดินอยู่ในหมู่บ้านพร้อมกับมีเด็กตัวเล็ก ๆ ทั้งสองคนเดินตามติดเป็นขบวน

อากาศวันนี้แจ่มใสนัก เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นเต็มที่นางก็พาเด็กทั้งสามคนออกไปเดินเล่น สามแม่ลูกเดินไปพลางหัวเราะไปพลาง พลันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนมาแต่ไกล

“อาซู อากาศหนาวขนาดนี้ เหตุใดถึงอุ้มลูกออกจากบ้านอีกเล่า”

เป็นป้าหูที่รู้จักกันมักคุ้นกันดี หญิงชราซื้อของปีใหม่ และกำลังลงจากเกวียนที่ทางเข้าหมู่บ้าน

เหยาซูอุ้มซานเป่าพลางยิ้มให้กับป้าหู “ซานเป่าชอบออกมาข้างนอกน่ะเจ้าค่ะ แค่ใส่เสื้อหนา ๆ ก็พอแล้ว ป้าหู ป้าพึ่งกลับมาจากซื้อของฉลองปีใหม่อย่างงั้นหรือเจ้าคะ? เหตุใดพี่สะใภ้หูถึงไม่ตามไปด้วย?”

ครอบครัวของป้าหูเป็นตระกูลแซ่อื่น ซึ่งหาได้ยากในหมู่บ้านตระกูลเหยา ทั้งสองสามีภรรยาย้ายมาจากต่างถิ่น ลูกสะใภ้ของนางพึ่งคลอดลูกในปีนี้ ปกติแล้วนางมักจะมีเรื่องสนทนากับเหยาซูไม่น้อยเพื่อทำความรู้จักกัน

ตระกูลหูเพิ่งได้ให้กำเนิดหลานชาย ทำให้พวกเขาดีใจกันมาก วันขึ้นปีใหม่นี้ก็ต้องฉลองกันเป็นพิเศษเสียหน่อย “เรื่องมันเป็นแบบนี้ นี่ก็ใกล้ปีใหม่แล้วที่บ้านจะต้องมีคนเก็บกวาด เจ้าหูกับสะใภ้ก็ยุ่งอยู่กับลูกจนแทบเวียนหัว ไหนเลยจะมีเวลาเข้าไปในเมืองกับข้า…”

ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยอยู่ อาจื้อและอาซือก็พากันไปช่วยป้าหูถือของ พวกเขาตะโกนว่า “ท่านยายหู ท่านยายหู” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ป้าหูปฏิเสธอยู่นาน แต่ก็ไม่สามารถโน้มน้าวใจเด็กทั้งสองได้ สุดท้ายอาจื้อก็ได้ถือประทัดส่วน อาซือได้ถืออักษรคู่กับโคลงกลอน

ป้าหูรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น นางถอนหายใจ “ดูลูก ๆ เจ้าสิ ช่างฉลาดนัก! เด็กคนอื่น ๆ เหมือนลิงตัวใหญ่เสียเปล่าแต่ไม่เคยช่วยผู้หลักผู้ใหญ่เลย เฮ้อ ไม่สร้างปัญหาให้ก็ดีเท่าไรแล้ว!”

เหยาซูไม่ได้ทำตัวเหมือนพ่อแม่คนอื่นเมื่อลูกของนางถูกชมเชย นางไม่ได้ถ่อมตัวและยังคงพูดกับลูก ๆ ทั้งสองว่า “ต้าเป่า เอ้อเป่า ทำได้ดีมาก! เมื่อพวกเจ้าโตขึ้นวันหน้าก็ต้องปฏิบัติเหมือนเช่นวันนี้ ช่วยคนอื่นที่สามารถช่วยได้…”

เด็กทั้งสองที่ถูกชมเชย พวกเขารู้สึกว่าทำถูกแล้วจึงเชิดอกขึ้นและยืดหลังตรง แต่เมื่อเหยาซูพูดจบอาซือก็เผยสีหน้าไม่เข้าใจพลางเงยหน้าถาม “ท่านแม่ ข้าสามารถทำอะไรได้หรือเจ้าคะ?”

ป้าหูยิ้มและตั้งใจรอฟังเหยาซูอธิบายให้บุตรสาวฟัง แต่เหยาซูกลับไม่ตอบ กลับย้อนถามอาซือ “เอ้อเป่าลองคิดดู ลองทายสิ เจ้าจะเดาความหมายมันได้หรือไม่”

หลายวันนี้หากพบเจอสิ่งที่ไม่เข้าใจ เหยาซูก็จะสอนให้พวกเขาคิดก่อน ซึ่งอาจื้อกับอาซือเคยชินกับมันแล้ว

เมื่อได้ยินคำพูดของเหยาซู เด็กน้อยก็จมดิ่งอยู่ในห้วงแห่งความคิด เมื่อเห็นนางคิดไม่ออกจริง ๆ อาจื้อที่อยู่ด้านข้างก็ร้อนใจ แอบทำท่าทำทางหิ้วของเตือนน้องสาวไม่หยุด

……………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ภารกิจสอนลูกไม่ให้เป็นตัวร้ายของเหยาซูได้เริ่มต้นแล้ว เด็ก ๆ จะเติบโตด้วยดีไหมนะ

ไหหม่า(海馬)