74 ในห้องรอ
――คนนั่น สาวใช้ของคุณไม่ใช่เหรอขอรับ?
ฉันรู้สึกสับสนและหวาดกลัวกับคำพูดน่าตกใจที่ดูเหมือนจะบีบเข้าที่หัวใจของฉัน
ฉันบิดคอที่เคลื่อนไหวไม่ได้ด้วยเหตุผลบางอย่างให้มองลงไปที่ลานประลองด้านล่าง
ผลลัพธ์ของการต่อสู้ที่ประกาศออกมานั้นแม่นยำ ผู้หญิงที่แต่งตัวทะมัดทะแมงเป็นผู้ชนะ แต่ฉันที่พยายามจะไม่พลาดสิ่งที่เธอจะทำ ก็พลาดไปโดยสิ้นเชิง
……………
…………
ริโนกิสล่ะ
ตอนนี้สามารถพูดได้เลยว่า ไม่ว่าจะมองยังไง นั่นก็คือริโนกิสล่ะ เมื่อพิจารณาจากร่างกายและท่าทางของเธอแล้ว เธอคือริโนกิสอย่างแน่นอน
เป็นจุดบอด
ตั้งแต่แรกแล้ว ฉันเชื่อมั่นจากก้นบึ้งของหัวใจว่าไม่มีทางที่สาวใช้จะมาอยู่ในสถานที่เช่นนี้ได้ ดังนั้นฉันจึงไม่สงสัยเลย
แต่ว่า ไม่ว่าจะมองยังไง ก็ริโนกิสล่ะ
ใช่แล้ว
ไม่ใช่ว่านั่นคือ ร่างกายที่ฉันสั่งให้สร้างขึ้นโดยการชี้นำการไหลเวียนของ「คิ」ที่ฉันเห็นอยู่ทุกวันรึไง ร่างกายที่ใกล้เคียงกับอุดมคติของฉันมากที่สุด เพราะฉันสั่งให้เธอสร้างร่างกายในแบบที่ฉันชอบ
“ดะ ได้ยังไง……”
แกนดอล์ฟพูดกับฉันที่ยังคงตกตะลึงอยู่
“หากถามว่า ทำไม……ข้าก็คิดว่ามีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้นขอรับ”
“เอ๊ะ เป็นเพราะอยากสู้กับคนที่แข็งแกร่งงั้นเหรอ?”
“……ไม่เลยขอรับ ข้าแน่ใจว่า เพื่อปกป้องคุณ”
เอ๊ะ ทั้งที่ไม่ต้องปกป้อง? ทั้งที่ฉันแข็งแกร่งกว่า?
…………
ไม่ ไม่ไม่
ใช่แล้ว นั่นเป็นเรื่องจริง
ข้อโต้แย้งของริโนกิสเป็นแบบนั้นมาโดยตลอด
ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอกังวลเกี่ยวกับร่างกายของฉันและตระกูลลิสตัน นั่นเป็นเหตุผลที่เธอยืนกรานที่จะไม่ให้ฉันไปที่สังเวียนใต้ดินด้วยท่าทางที่แน่วแน่ และความรู้สึกที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อคำขู่ของอาจารย์
ถ้าอย่างงั้นทำไม ริโนกิสถึงมาอยู่ที่นี่ได้
ไม่ใช่ว่าคำตอบได้ถูกกำหนดไว้แล้วไม่ใช่หรือ
――เพราะเธอไม่สามารถอยู่เคียงข้างฉันได้อย่างซึ่ง ๆ หน้า ดังนั้นเธอจึงเลือกที่เข้ามาอยู่ใกล้ ๆ ในฐานะนักสู้แทน
หากไม่มีผู้แนะนำ ก็ยากที่จะแอบเข้าไปในสังเวียนใต้ดินได้
ฉันนั้นใช้เส้นสายของอันเซล แต่กับริโนกิสซึ่งคงไม่มีหนทางด้านนั้น จึงไม่มีทางที่จะสามารถเข้ามาจากด้านหน้าได้
ถ้าเป็นแบบนั้นต่อไป เธอจะไม่สามารถอยู่เคียงข้างฉันได้
นั่นคือเหตุผลที่เธอเลือกที่จะแอบเข้ามาในฐานะนักสู้เพื่อให้สามารถอยู่ใกล้ ๆ ฉันได้ แม้ว่าสถานการณ์จะแตกต่างกัน
ในขณะที่ฉันขอความช่วยจากแกนดอล์ฟและอันเซล ฉันเดาว่าเธอคงอาละวาดอย่างบ้าคลั่งไปทั่วตรอกด้านหลังเพื่อให้ได้รับการสเคาท์เข้าสู่สังเวียนใต้ดิน ดูแล้วน่าสนุกจนน่าอิจฉาจริง ๆ ……ไม่สิ ถ้าฉันพูดแบบนี้ฉันโดนโกรธแน่
“……ยอมแพ้เลย”
ฉันไม่เคยคิดเลยว่าริโนกิสจะมาได้ไกลขนาดนี้
นั่นเป็นเหตุผลที่เธอบอกฉันว่า「อย่าไปในที่อันตราย」
แม้ตัวเธอเองจะพูดแบบนั้น แต่เธอก็พร้อมกระโดดเข้าไปอยู่ท่ามกลางภยันตราย
แม้ว่าจะอ่อนแอกว่าฉัน
ความรู้สึกที่แท้จริง จะไปในที่ที่ฉันต้องการ
ค่อนข้างเหมือนเรื่องประชดประชัน ―― ไม่ ไม่ใช่เลย
คราวนี้เป็นความผิดของฉันเอง
ไม่ว่าจะลำบากเพียงใด ไม่ว่าสาวใช้จะไม่ฟังแค่ไหน ถึงกระนั้น ฉันก็ควรจะเกลี้ยกล่อมให้เธอมาด้วยให้ได้ แต่ว่าก็ยังดีกว่าอุทธรณ์ด้วยการใช้กำลัง
ก็ดีจะได้ดูการต่อสู้ที่จริงจังเพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของลูกศิษย์
จากนักสู้ที่ฉันเห็นจนถึงตอนนี้ ริโนกิสไม่มีเหตุผลที่จะแพ้เลย
―― ยังไงก็ตาม มีอยู่หนึ่งคนที่ฉันเป็นกังวล
เหตุผลที่ทำให้ฉันตัดสินใจมาที่สังเวียนใต้ดินในครั้งนี้คือการปรากฏตัวของคนที่มีฉายาว่า นักดาบปีศาจ
นักดาบปีศาจที่คาดว่าจะปรากฎในเมนอีเว้นต์
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ริโนกิสกับนักดาบปีศาจอาจได้ปะทะกัน
เรื่องนั่น……อุมุ น่าอิจฉาชะมัด
ย้อนเวลากลับไปเล็กน้อย
ในช่วงเวลาที่เนียและแกนดอล์ฟกำลังเตรียมการปลอมตัวกันอยู่ที่「ที่พักหนูเงาสนธยา」และเริ่มมุ่งหน้าสู่สังเวียนใต้ดิน
ริโนกิสก็มาถึงห้องรอของสังเวียนใต้ดินแลว
อย่างที่เนียคาดเดา เธอมาที่นี่ได้ เป็นเพราะได้รับการสเกาท์หลังจากอาละวาดไปทั่วตรอกด้านหลัง
ในช่วงเวลาที่เนียกำลังทุ่มเทให้กับการเรียนในห้องเรียน ริโนกิสก็ออกจากสถาบันไปยังตรอกด้านหลัง และทุ่มเทให้กับการกระทืบแก๊งอันธพาล
ริโนกิสต้องการเชื่อจนถึงที่สุด
หากคัดค้านจนถึงที่สุด เนียจะยอมแพ้และยกเลิกแผนที่จะไปยังสังเวียนใต้ดิน เธอควรจะตระหนักถึงอายุและตำแหน่งของตัวเอง และทำตัวให้เหมือนกับเด็กที่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ไม่สำคัญว่าสิ่งนั้นจะเป็นสามัญแค่ไหน ก็จะปกป้องขอบเขตที่ไม่ควรข้าม หรืออย่างน้อยก็ทำให้เธอลังเลที่จะข้ามไป เดาว่าอย่างน้อยก็ต้องมีลังเลกันบ้าง
ทว่าเมื่อเปิดฝาออก ก็พบกับความจริงที่ช่างห่างไกลจากคำว่าเลิก เนียแอบออกไปในเมืองหลวงยามราตรี โดยไม่ลังเล ไม่ยอมแพ้
ผลลัพท์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกอย่างที่เตรียมไว้สำหรับกรณีนี้กลายเป็นสิ่งที่จำเป็น
สิทธิ์ในการเข้าร่วมสังเวียนใต้ดิน
เพราะไม่ต้องการเปิดเผยใบหน้าในที่แบบนี้ ดังนั้นจึงได้เตรียมหน้ากากมาด้วย แม้ว่าจะใส่ชุดฝึกซ้อมปกติของตัวเองก็ตาม
คงจะดีกว่าดีถ้าไม่มีคิวของตัวเอง แต่ว่า――
“――โอ้ย เด็กใหม่ ไหนคำทักทาย”
ห้องรอเป็นห้องขนาดใหญ่ และผู้เข้าร่วมไม่ว่าจะเพศใดก็ตามกำลังรอคิวของตัวเอง
พวกเขาทุกคนได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี และแตกต่างจากอันธพาลตามตรอกซอกซอยอย่างชัดเจน นอกจากจะดูแข็งแกร่งแล้ว เหนือสิ่งอื่นใด เลือดร้อนกันมาก
แม้แต่ผู้มาใหม่อย่างริโนกิสที่เข้าร่วมด้วยความจำเป็นก็ไม่ได้รับการยกเว้น เขาเป็นชายร่างใหญ่ วางแผนที่จะสู้ด้วย หรือแค่ทำไปเพราะตื่นเต้น
ยังไงก็ตาม ไม่มีความตั้งใจที่จะจัดการกับเขา
“โอ้ย ได้ยินไหม!?”
เพราะน่าหนวกหู จึงตัดสินใจทำให้เงียบลงด้วยการตบเพียงครั้งเดียว
มีเสียงดังโครมครามพอสมควร และนักสู้ที่เฝ้าดูสถานการณ์โดยรอบต่างประหลาดใจ
ไม่สิ เหตุผลที่ประหลาดใจกันก็เพราะ การตบของริโนกิสนั้นเร็วจนผิดปกติ
ทุกคนมีประสบการณ์การต่อสู้กันพอสมควร
คู่ต่อสู้คนนั้นถูกโจมตีครั้งด้วยความเร็วสู้จากการตบซึ่ง ๆ หน้า ซึ่งเร็วมากจนแม้แต่คนที่ถูกตบก็ยังต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่จะรู้ตัวว่าเขาถูกตบ
“ไปซะ ออกไปให้พ้นสายตาฉัน”
ด้วยเหตุผลบางอย่างชายร่างใหญ่ดูมีความสุขเล็กน้อยที่ถูกทุบตี ขณะที่ถูกริโนกิสตะโกนใส่อย่างเย็นชา ―― ราวกับบางอย่างตื่นขึ้นมา
――อะ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองค่อนข้างหงุดหงิดมากกว่าปกติ และ
เธอก็พึ่งมาเข้าใจเอาที่นี่เองว่า อารมณ์ไม่ดีมากขนาดนี้ก็เป็นเพราะ เธอรู้สึกเหมือนถูกทรยศโดยเนีย
“――ไม่มีเลยงั้นเรอะ คนที่คู่ควรกับการฆ่าด้วยดาบเล่มนี้”
ชายที่มีฉายาว่า นักดาบปีศาจกำลังมองไปที่ริโนกิสด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง
เกลียดฟ้ามืดๆแบบครึ้มฟ้าครึ้มฝนจริงๆ จะตกก็ไม่ตก กลัวเอาฝ้าไปตากที่โล่งปุ๊บฝนตกปั๊บเหลือเกิน ตากในร่มก็ชื้นซะ ฮา