ตอนที่ 75 ดาบหมีต้องสาปของนักดาบปีศาจหมี

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

75 ดาบต้องสาปของนักดาบปีศาจ

 

มิส・เซอร์แวนท์ ริโนกิสตัดสินการต่อสู้ในพริบตา ทำให้ผู้ชมตื่นเต้นกันมาก

ม๊า แต่เสียงบ่นก็ค่อนข้างดังเช่นกัน บางทีคงเป็นพวกที่แพ้เดิมพัน

 

…………

 

ริโนกิสจริง ๆ ละนะ

มองยังไงก็ริโนกิส ฉันหวังว่ามันจะเป็นความเข้าใจผิดหรืออะไรทำนองนั้น แต่ก็ไม่ต้องข้อสงสัยอีกต่อไป

 

――เธอเหลือบมองมาทางนี้ ตอนนี้เธอกำลังมองมาทางนี้อย่างแน่นอน พูดให้ถูกคือมองมาที่ฉัน โดนรู้โดยสมบูรณ์แบบ

 

อืม……สำหรับตอนนี้ การจัดการเกี่ยวกับ คำขอโทษ ข้อแก้ตัว การท้าทาย การโต้กลับ ฯลฯ เอาไว้ค่อยคิดตอนขากลับ

 

“――เช่นนั้นแล้ว ได้เวลาเมนอีเว้นต์สำหรับค่ำคืนนี้แล้ว! และวันนี้เขาคนนั้นได้มาปรากฎตัวแล้ว!”

 

เมื่อเห็นว่าความตื่นเต้นมาถึงจุดสูงสุดแล้ว ในที่สุดก็มีการประกาศการเริ่มต้นของเมนอีเว้นต์ เมื่อ ริโนกิสและคู่ต่อสู้ของเธอถอยออกจากสังเวียน

 

ค่ำคืนนี้ได้หมุนวนไปได้พอสมควรแล้ว ดังนั้นแน่นอนว่าน่าจะได้เวลาเข้าจานหลักสักที

 

การปรากฎตัวอย่างไม่คาดคิดของริโนกิสทำให้ฉันเหงื่อแตกพลั่ก แต่――ในเมื่อมาไกลถึงขนาดนี้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรอีกแล้ว

 

สำหรับตอนนี้เรามาสนุกกันเถอะ

อุตส่าห์ผลักดันตัวเองให้มาถึงที่นี่อย่างเป็นไปไม่ได้แล้ว มาเติมเต็มจุดประสงค์ดั้งเดิมของพวกเราให้สมใจปรารถนากันเถอะ

 

ซ้า รีบส่งนักดาบปีศาจออกมาซะ!

 

“――นักทำลายดันเจี้ยน นักล่าเงินรางวัล และนักดาบผู้เก่งกาจที่สามารถโค่นได้แม้แต่โกเล็ม!อาซึมะ・ฮิโนกิ นักผจญภัย ผู้ได้รับฉายาว่า นักดาบปีศาจ!”

 

ฉันตื่นเต้นมากที่ในที่สุดก็ได้ยินว่าอีเว้นต์หลักกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว และในคืนนี้ ความคาดหวังของฉันก็ยิ่งขึ้นไปถึงจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเขาประกาศ 「นักทำลายดันเจี้ยน」「นักล่าเงินรางวัล」「นักดาบผู้เก่งกาจ」ทำให้มั่นใจขึ้นเป็นทวีคูณ

 

นักดาบผู้เก่งกาจสินะ ดีจัง

ฉันยังไม่เคยพบหรือเห็นนักดาบที่แข็งแกร่งเลย

                      

ความแข็งแกร่งของคนที่ถูกเรียกว่านักดาบปีศาจจะเป็นของจริงหรือถูกเรียกเกินจริงกันนะ……อะ

 

――ชายหนุ่มที่แต่งตัวด้วยชุดยามาโตะ*ที่ดูเหมือนผ้าขี้ริ้วปะเดินเหยียบทรายปรากฎตัวขึ้นมาบนสังเวียน

(*ดินแดนญี่ปุ่นโบราญ บริเวณแถบจังหวัดนาราในปัจจุบัน)

 

ผอม สัดส่วนก็จัดว่าเตี้ย

อายุก็ราว ๆ ยี่สิบกลาง ๆ ถึงยี่สิบปลาย ๆ ล่ะมั้ง ผมสีดำที่ผูกไว้ด้านหลังอย่างตั้งใจเป็นข้อพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้มาจากประเทศนี้

 

นอกจากนั้น ดาบโค้งคมเดียวซึ่งเหน็บไว้ที่เอว――วาโต(วอตาว)*

(*ดาบญี่ปุ่น (ดาบที่เลียนแบบดาบญี่ปุ่นที่ผลิตในจีนและเกาหลี))

 

“นั่นคือนักดาบปีศาจ……อายุน้อยกว่าที่คิดไว้”

 

แกนดอล์ฟพูดถึงเรื่องนั้น แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ควรไปแตะต้อง

 

“เป็นรูปแบบที่ฉันไม่ชอบใจเอาซะเลย”

 

วาโตะเล่มนั้น เป็นดาบต้องสาป

เป็นของแบบเดียวกับที่ฉันหักเป็นชิ้น ๆ ในชาติที่แล้ว

 

 

 

ดาบต้องสาป

พูดง่าย ๆ คือ ดาบที่มีพลังเวทมนตร์ที่จะแย่งชิงเจตจำนงของผู้ใช้

 

เจตจำนงของดาบคืออะไร?

ความหมายของการดำรงอยู่คืออะไร?

 

ปลายทางของคำถามนั้นคือการฆ่า

ดาบแสวงหาความหมายของการดำรงอยู่ และค้นพบว่าคือ「การฆ่า」 ฉันเกิดมาเพื่อจุดประสงค์นั้น ดังนั้นฉันคิดว่าผลลัทธ์ที่ออกมาจึงเป็นเรื่องธรรมชาติ

 

ยังไงก็ตาม ดาบไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง

ดังนั้นอย่างที่เห็นอยู่ แม้ว่าจะมีพลังเวทมนตร์มากแค่ไหน สุดท้ายก็ยังเป็นแค่เครื่องมือ

 

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมดาบจึงแย่งชิงเจตจำนงของผู้ใช้

ทั้งความมีเหตุผล ทั้งศีลธรรม ต่างถูกเพิกเฉยใน「สถานการณ์ที่จะฆ่าไม่ได้」

 

และฉันเกลียดดาบต้องสาปที่เข่นฆ่าผู้คนโดยไม่สนใจต่อเจตจำนงของผู้ใช้

สิ่งที่ลดทอนศิลปะการต่อสู้ให้เหลือเพียงความรุนแรง หรือกลายเป็นแค่เทคนิคที่เอาไว้เข่นฆ่า อภัยให้ไม่ได้

 

เหตุผล การควบคุมตนเอง ความเชื่อมั่น และความทะเยอทะยาน

เมื่อพวกเขายึดมั่นเท่านั้น ที่ศิลปะการต่อสู้จะกลายเป็นศิลปะการต่อสู้

 

ไม่มีเหตุผลที่จะต้องให้อภัยต่อตัวตนที่เพิกเฉยต่อสิ่งนั้น และมีอยู่เพื่อต้องการฟันผู้คน และคร่าชีวิต

 

――ดาบต้องสาปจะมีพลังเวทมนตร์เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของจำนวนชีวิตที่ได้ดูดซับ

 

ในตอนแรก ผู้ใช้จะรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากดาบ

จะทำให้รู้สึกปลื้มปีติ และทำให้ต้องการที่จะมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

ในขณะที่ใช้งานไปเรื่อย ๆ สิ่งต่าง ๆ จะเริ่มเคลื่อนไหวโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว ความทรงจำลอยหาย กวัดแกว่งดาบโดยไม่รู้ตัว

และในท้ายที่สุด สติของเขาก็จะถูกแย่งชิงไปโดยดาบต้องสาป

 

นอกจากนี้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพ จำนวนของซากศพ และวิญญาณที่กินเข้าไป แม้แต่อัตตาที่บริสุทธ์ก็พัฒนาขึ้นภายในดาบ

ในตอนนี้ ไม่สามารถเรียกว่าดาบต้องสาปได้อีกต่อไป

 

ทำได้แม้แต่การสร้างร่างกายให้ตัวเอง แทนที่จะแย่งชิงจิตสำนึกของผู้ใช้ต่อไป

ฉันรู้สึกเหมือนว่าจะมีแม้แต่ดาบต้องสาปที่เรียกตัวเองว่า จอมมาร

 

――หากเติบโตขึ้นไปได้ถึงขั้นนั้น ต้องเป็นการต่อสู้ที่สนุกสุด ๆ แน่ ๆ

 

การรุกและการป้องกันที่ทำให้ไม่สามารถลดการป้องกันทั้งร่างกายและจิตใจได้แม้เพียงชั่วขณะที่สามารถดำเนินต่อไปได้ไม่รู้จบทั้งกลางวันและกลางคืน  นั่นไม่ใช่สิ่งที่คู่ต่อสู้ที่เป็นมนุษย์จะสามารถทำได้ง่าย ๆ เลย ตอนนั้นทำเอาฉันลืมกินลืมนอน และเอาแต่เล่นไม่รู้จบ

บางทีน่ะนะ

ฉันจำได้ไม่ชัดเท่าไหร่

 

แต่ก็เป็นอะไรที่ชวนคิดถึง

ชาติที่แล้ว ฉันน่าจะหักไปหลายเล่มเหมือนกัน แต่แม้แต่ในยุคนี้ก็ยังมีดาบต้องสาปอยู่สินะ

 

อย่าเข้าใจฉันผิดไป

ฉันไม่ชอบดาบต้องสาปที่ครอบงำจิตใจผู้ใช้ แต่ฉันไม่ได้รังเกียจปรมาจารย์ที่ใช้ดาบต้องสาปได้หรอกนะ ดาบสองคมก็คือดาบ ดาบคมเดียวก็คือดาบ ต่อให้มีพลังเวทมนตร์ก็ตาม

หากผู้ใช้ถือดาบด้วยเจตจำนงเสรีของตนเอง ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องตำหนิพวกเขา 

 

สำหรับดาบต้องสาปนั้นจะถูกสร้างขึ้นมาอย่างดี และมักจะสร้างโดยช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ที่ทุ่มเทจิตวิญญาณลงไป ดาบวิเศษและดาบที่มีชื่อเสียง มีเส้นกั้นที่บางดีจริงๆ ฉันเข้าใจความรู้สึกที่อยากใช้ดาบดี ๆ

 

ทว่า ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น

ถ้าเป็นรูปแบบที่ฉันไม่ชอบล่ะก็

 

ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันอาจจะไปหักทิ้งในภายหลังก็ได้ หากปล่อยไว้อาจทำร้ายผู้คนตามอำเภอใจ

 

 

 

” ――นักดาบปีศาจอาสีมะ จัดการมาแล้วหกคน!จัดการหกคนดุจคลื่นโหมกระหน่ำ!”

 

ตามข้อมูลก่อนหน้านี้จากอันเซล ทัวร์นาเมนต์การต่อสู้ของนักดาบปีศาจที่ผ่านมา……หกคนถูกจัดการอย่างรวดเร็ว

 

มีทั้งผู้ใช้ดาบ ผู้ใช้หอก และผู้ใช้คทา(mace) 

เนื่องจากปีศาจดาบใช้วาโตจึงไม่มีคู่ต่อสู้มือเปล่าออกมา แต่แม้คู่ต่อสู้จะใช้อาวุธ เขาก็มักจะชนะขาดลอย

 

แขนค่อนข้างดีเลย

ดูเหมือนว่าดาบต้องสาปจะมีส่วนช่วยเหลืออยู่บ้าง แต่ผู้ใช้เองก็ดูเหมือนว่าจะสามารถใช้งานได้เช่นกัน

 

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงยังยากที่จะระบุ

 

ถูกยึดร่างไปโดยดาบต้องสาปแล้วรึยัง?

หรือจะทำโดยความประสงค์ของผู้ใช้เอง?

 

แต่ไม่ว่าจะทางไหน ความสามารถของเขาก็ยังดูครึ่ง ๆ กลาง ๆ ล่ะนะ……ถ้าถามฉันล่ะก็ ก็ไม่ได้รู้สึกแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ

 

นอกจากนี้ ถึงนักดาบปีศาจจะฟันคู่ต่อสู้ แต่ก็ไม่ได้ปลิดชีวิต เป็นการเฉือนเนื้อมือและเท้าออกจนไม่สามารถลุกขึ้นได้ จับอาวุธไม่ได้ ยังนับว่ามือสะอาดอยู่จริง ๆ

 

เห็นได้ชัดว่าเป็นวิธีการต่อสู้ที่มีความมีเหตุมีผล

นั่นเป็นจุดที่ทำให้ยากที่จะตัดสิน

 

――หรือจะบอกว่าคู่ต่อสู้อ่อนแอเกินไปก็ได้ หากไม่มีความสามารถในการต่อสู้มากพอ นักดาบปีศาจก็คงไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถเช่นกัน

 

ยังไงก็ตาม เลือดก็ยังคงสาดกระเซ็น และความแข็งแกร่งของนักดาบปีศาจก็ได้รับการพิสูจน์แล้ว ดังนั้นสังเวียนในรอบนี้จึงดูมีชีวิตชีวา

 

…………

 

อยากเข้าร่วม

อยากรู้ว่าทำได้แค่ไหน อยากรู้ว่ามีฝีมือเท่าไหร่ ฉันอยากสำรวจสถานะทั้งหมดของนักดาบปีศาจด้วยมือคู่นี้เอง

 

“――เงียบ! เงียบ!”

 

ในขณะที่จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง นักดาบปีศาจก็เปล่งเสียงอันทรงพลังออกมา นขณะที่เขามองดูคู่ต่อสู้ของเขาซึ่งถูกฟันจนไม่สามารถยืนขึ้นได้ และถูกผู้รับผิดชอบพาตัวออกไป

 

หลังจากส่งเสียงหลายครั้ง ในที่สุดสังเวียนก็เงียบลง

ฉันสงสัยจังว่าแขกรับเชิญที่แสดงชัยชนะได้โดยปราศจากอันตรายอย่างต่อเนื่องต้องการที่จะพูดอะไร

 

ผู้ชมเงียบลง และสายตาที่คาดหวังก็พุ่งตรงไปที่นักดาบปีศาจจากทั่วทุกสารทิศ

 

และแล้ว เขาก็ประกาศ

 

“――ตัวข้าต้องการสู้กับมิส・เซอร์แวนท์!”

 

ว่ายังไงนะ

 

มิส・เซอร์แวนท์ หรือริโนกิสพึ่งจะได้ขึ้นไปบนสังเวียนแห่งนี้เป็นครั้งแรกในคืนนี้ และเลือกที่จะปิดบังตัวตนจึงน่าจะไม่เคยแสดงให้เห็นการชนะในพริบตาแบบนี้ที่ไหนมาก่อน

แล้วหมายความว่ายังไงกันถึงได้เสนอชื่อเธอเป็นคู่ต่อสู้แบบนี้

 

เมื่อเอ่ยชื่อของเธอ ปฏิกิริยาของผู้ชมก็แบ่งออกเป็นสองส่วน

 

แขกประเภทที่เชียร์นักสู้ท้องถิ่น ที่ปรารถนาอยากให้ได้สู้กับนักสู้มากฝีมือและกลายเป็นแชมป์ของสังเวียนใต้ดินแห่งนี้

แขกประเภทที่เป็นนักพนันตัวจริง ที่ต้องการรู้ความแข็งแกร่งของมิส・เซอร์แวนท์สำหรับการเดิมพันครั้งต่อไป

 

ม๊า อาจจะมีข้อยกเว้นบ้าง แต่โดยทั่วไปแล้วก็ส่งเสียงเชียร์และเสียงคำรามให้ทั้งสองคนมาสู้กันซะ คิดว่านะ

 

“สาวใช้ของเนียโดโนะ จะเป็นอะไรรึเปล่าขอรับ?”

 

“ฉันก็ไม่รู้”

 

ฉันรู้เกี่ยวกับความสามารถของริโนกิส แต่ไม่รู้เกี่ยวกับความสามารถของนักดาบปีศาจ หกนัดที่ผ่านมาก็เป็นแค่การแสดงเรียกน้ำย่อยเท่านั้น

 

ฉันรู้สึกว่ารู้สึกว่าริโนกิสในตอนนี้สามารถชนะได้ แต่――ก็มีปัจจัยที่น่ากังวลอย่างมาก

 

“ม๊า แต่ ริโนกิสจะโผล่มาหรือเปล่า”

 

ในจังหวะที่ฉันพูดแบบนั้นเอง

 

“――มิส・เซอร์แวนท์ที่ถูกเสนอชื่อ ปรากฎตัวออกมาแล้ว!!”

 

อะ ออกมาล่ะ

 

……ดีจังน๊า เสนอชื่อ ฉันเองก็อยากโดนเสนอชื่อเหมือนกัน

 

 

 

มิส・เซอร์แวนท์ที่สวมชุดทะมัดทะแมงและสวมหน้ากาก กลับขึ้นมายืนบนสังเวียนอีกครั้ง

 

จากที่เห็น ดูเหมือนว่าเธอกำลังคุยอะไรบางอย่างกับนักดาบปีศาจ ฉันไม่ได้ยินเนื้อหาของการสนทนา

 

“――เช่นนั้น เริ่มการ……”

 

ก่อนสัญญาณเริ่ม ริโนกิสและนักดาบปีศาจก็เตรียมพร้อม

 

“――ต่อสู้ได้!!”

 

ฉับ

 

 

 

เสียงดาบฟาดฟันผ่านอากาศดังขึ้นอย่างเงียบ ๆ โดนกลบหายไปในเสียงของการเริ่มต้น

 

ในเวลาเดียวกัน แขนขวาของริโนกิสก็ลอยขึ้นไปในอากาศ เลือดสด ๆ สาดกระจายไปทั่ว

 

 

 

 

 

 

 

 

ปล.ลองอ่านตอนต่อไปแล้ว เดี๋ยวสปอยแบบไม่สปอยตอนต่อไปไว้สักหน่อยดีกว่า ฮา

ท่าระบายน้ำผ่านสนามหญ้าหน้าบ้านทรุดจนพื้นเป็นหลุม สงสัยจะได้ขุดพิ้นหน้าบ้านครั้งใหญ่แน่ๆ