ตอนที่ 76 ข้อเสียของการโลลิเกินไป

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

76 ข้อเสียของการแข็งแกร่งเกินไป

 

แขนขวาของริโนกิสลอยอยู่กลางอากาศ

ทุกคนตกตะลึงราวกับว่าพวกเขาลืมทุกสิ่งทุกอย่าง

 

ช่วงเวลาแห่งความว่างเปล่าผ่านไปไม่กี่วินาที――เสียงเหมือนพายุฝนฟ้าคะนองก็ดังไปทั่วสังเวียนอันมืดมิด

 

เสียงเชียร์

เสียงกรีดร้อง

เสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว

เสียงที่ต้องการความบ้าคลั่งมากขึ้นในเสียงที่ไม่แม้แต่จะหยุดพักหายใจ

 

เสียงที่ผสมกับอารมณ์ต่าง ๆ ดังขึ้นจนไม่มีช่องว่าง

 

“เนียโดโนะ!นั่นอะไร นั่น…… !”

 

แกนดอล์ฟกำลังสั่นสะท้าน

ดูเหมือนว่าเขาจะมองเห็นเหมือนกันสินะ แต่อย่าเรียกชื่อฉันเสียงดังสิ ……ถึงน่าจะไม่มีใครได้ยินภายใต้เสียงดังขนาดนี้ก็ตาม

 

“อุมุ ยอดเยี่ยมอย่างน่าตกใจเลยล่ะ”

 

และ ฉันคว้าขวดไวน์บนโต๊ะเตี้ยตรงหน้าแล้วลุกขึ้นยืน

 

―― จริง ๆ เลย

 

ทั้งที่ยังเป็นแค่นักรบที่ยังเยาว์วัย แต่ก็ยังน่าหลงใหลไม่น้อยเลยจริงไหม

 

นั่นคือเหตุผลที่ฉันต้องไป

 

 

“……นุ?”

 

ไม่เลว

แต่ว่า หนทางยังอีกยาวไกล

 

ท่ามกลางเสียงเชียร์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด――ฉันวิ่งลงมาและร่อนลงบนสังเวียน

 

ผู้คนรอบตัวเต็มไปด้วยความตื่นเต้นจนสับสนอลหม่าน หลายคนไม่ทันสังเกตว่ามีเด็กอย่างฉันได้ก้าวเข้าสู่สังเวียน

 

แน่นอนว่า นักดาบปีศาจรับรู้ตัวตน และมองมาที่ฉันทันที

 

“เด็ก……? ทำไมถึงมีเด็กอยู่ที่นี่”

 

อุมุ

 

“ข้าจะตอบคำถามของเจ้า แต่ก่อนหน้านั้น วางดาบของเจ้าลงเสีย เจ้าได้ข้อสรุปแล้วไม่ใช่หรือ?”

 

ริโนกิสซึ่งถูกพรากแขนออกไป กำลังคุกเข่าด้วยความเจ็บปวด และใช้มือซ้ายจับไหล่ขวาแน่น

 

และที่ข้างเธอ นักดาบปีศาจกำลังยกวาโตขึ้น

ดูราวกับเขากำลังจะช่วยทำให้เธอพ้นทุกข์

 

――พูดให้ถูกคือ เขาจะทำแน่ ๆ หากฉันไม่เข้ามาขวางไว้ซะก่อน

 

“ที่นี่คือสังเวียนใต้ดิน การฆ่าเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ ไม่มีเหตุผลที่ข้าจะหยุด”

 

“ก็อาจเป็นเช่นนั้น แต่ข้าก็อยากขอให้เจ้ามองข้ามสิ่งเหล่านั้นไปก่อน”

 

ในการต่อสู้ ชัยชนะและความพ่ายแพ้เป็นของธรรมดา

เพียงแต่ริโนกิสได้พ่ายแพ้ให้กับนักดาบปีศาจอย่างหมดจด

 

ฉันไม่มีข้อตำหนิเกี่ยวกับเรื่องนี้

ไม่สิ ฉันอยากชมเธอเสียมากกว่า เป็นการต่อสู้ที่ดีจริง ๆ

 

ในช่วงเวลานั้น

ริโนกิสเป็นฝั่งที่เริ่มก่อน

 

ในเวลาเดียวกันกับที่สัญญาณเริ่มต้น ริโนกิสก็ปล่อยหมัดขวาในพริบตาใส่ช่วงลำตัว

ความเร็วในการก้าวและกำปั้นของเธอเร็วมากจนแม้แต่ฉันที่เฝ้าดูเธอเติบโตผ่านการฝึกฝนทุกวันยังตะลึง ไม่มีใครสามารถตอบสนองต่อสิ่งนั้นได้

 

แต่ทว่า นักดาบปีศาจกับตอบสนองทัน

 

เขารับกำปั้นที่ท้องด้วยวาโต กระแทกออก แล้ววาดคมดาบลงบนแขนของริโนกิสเป็นการเคาน์เตอร์

และจากนั้นแขนของเธอก็ขาดกระเด็น

 

เป็นรายละเอียดที่มีมิติขั้นสูงสำหรับการต่อสู้ของคนที่ยังเยาว์วัยเหมือนกัน

สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจศิลปะการต่อสู้ ต้องมีหลายคนที่มองไม่เห็น เพราะเร็วเกินไป

 

แต่――ฉันคิดจากประสบการณ์โดยตรงว่านี่เป็นการรุกและป้องกันที่เกิดขึ้นในระดับที่ค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็น

 

เพราะแบบนั้นแขกจึงถูกดึงดูด

ฉันไม่รู้แน่ชัด แต่การที่แขนถูกตัดออกอย่างง่ายดาย ดูเหมือนสิ่งที่สุดยอดได้เกิดขึ้นแล้ว

 

แกนดอล์ฟเองก็สั่นสะท้านเช่นกัน เมื่อได้เห็นศิลปะการต่อสู้ที่เขายังไม่เคยเข้าถึง นั่นคือการตัวสั่น ด้วยความตื่นเต้น เนื้อและกระดูกสั่นไหวเพราะเลือดที่สาดกระเซ็น

 

เป็นการต่อสู้ระหว่างนักรบอย่างแท้จริง

ฉันคิดว่ามันเป็นการต่อสู้ที่คู่ควรกับการถูกเรียกว่าเป็นเมนอีเวนต์

 

แต่ก็เพราะแบบนั้น

 

“เธอยังอ่อนแอ เธอจะแข็งแกร่งขึ้นหลังจากนี้ไป นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม การตายในตอนนี้จึงเป็นการเสียของเกินไป”

 

“……”

 

“เจ้าเองก็เช่นกัน ――หรือพูดให้ถูก ในกรณีของเจ้า เจ้าตั้งใจที่จะฆ่าเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้นงั้นหรือ? เป็นประสงค์ของดาบต้องสาป? หรือเป็นประสงค์ของตัวเจ้าเอง?”

 

อย่างที่คาดไว้ คำพูดของฉันในตอนนี้เป็นสิ่งที่เขาเพิกเฉยไม่ได้

นักดาบปีศาจชี้ดาบมาที่ฉัน

 

“ทำไมเจ้าถึงรู้เรื่องดาบต้องสาปกัน?”

 

“ทำไมน่ะหรือ?”

 

เมื่อเป้าหมายของเขาเปลี่ยนไป ในที่สุดฉันก็สามารถเดินเข้าไปใกล้ริโนกิสได้ หากฉันเขาหาโดยไม่ระวัง เขาจะฟันเธอทันที ดังนั้นฉันจึงให้ความสำคัญกับการหันเหความสนใจของอีกฝ่าย

 

――แน่นอนว่า ถ้าเขาพยายามฟันฉันโดยไม่ไตร่ตรองให้ดี ฉันจะซัดเขาอย่างไร้ปราณี

 

ฉันวางมือบนไหล่ซ้ายของริโนกิสที่ยังคงคุกเข่าอยู่ และกระซิบ

 

“――รวบรวม『คิภายใน』ไปไว้ที่แขนขวาตรงที่โดนตัด จะห้ามเลือดและบรรเทาความเจ็บปวดได้”

 

“――”

 

ไม่ไหวสินะ เธอพยายามทนความเจ็บปวดอย่างเข้าตาจน และดูเหมือนจะไม่ได้ยินฉัน

 

“ไหนดูสิ”

 

ฉันส่ง『คิ』เข้าสู่ร่างกายของริโนกิสเพื่อนำทาง『คิ』ที่ปั่นป่วนของเธอพุ่งไปยังแขนขวา

 

เลือดที่ไหลออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดค่อย ๆ ลดลง

 

“……คะ คู หนุ……?”

 

ดูเหมือนในที่สุดเธอก็มีกำลังมากพอที่จะหันมาสนใจสิ่งรอบข้าง ถึงจะเลือดออกมาก แต่ถ้ายังรู้สึกตัวล่ะก็ไม่เป็นไร

พูดให้ถูกคือ จะเป็นปัญหาได้ถ้าเธอเป็นอะไรไป

 

“ตั้งสมาธิแบบนี้ต่อไป”

 

――สภาพของริโนกิสยังถือว่าดีอยู่ การตัดนั้นสวยงามและถ้าได้รับการรักษาเร็วพอ แขนของเธออาจจะกลับมาติดกันได้

 

ต่อไปก็

ฉันต้องรีบรักษาริโนกิส มารีบทำให้จบไว ๆ กันดีไหม

 

 

 

ฉันหันไปเผชิญหน้ากับนักดาบปีศาจที่เป้าหมายเปลี่ยนมาที่ฉันโดยสมบูรณ์

 

“นี่คือรางวัล เป็นรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ จากข้าที่เจ้าได้แสดงให้เห็นถึงการต่อสู้เอาชีวิตอันยอดเยี่ยม และแสร้งทำเป็นไม่เห็นมิส・เซอร์แวนท์”

 

ฉันคว่ำขวดไวน์ลง และสาดไวน์ไปทั่วพื้น

 

“ข้าจะแสดงพลังขั้นสูงให้ดูเอง นั่นไม่ใช่รางวัลที่ดีที่สุดสำหรับนักรบหรอกหรือ?”

 

“……ด้วยขวดนั้น?”

 

“อะ นี่เหรอ?”

 

ฉันถือขวดไว้อย่างนั้น หลังจากที่ฉันเททุกอย่างออกจนว่างเปล่า

 

“เจ้าเป็นคนดังจริงไหมล่ะ? คงจะน่าสงสาร”

 

ทั้งมีเด็กโผล่มา ทั้งเรื่องที่เด็กพูด และตอนนี้ยังพล่ามอะไรไม่รู้

ฉันแน่ใจเลยว่าไม่ว่าเรื่องไหน เขาก็ไม่สามารถเข้าใจได้

 

โดยการขมวดคิ้วของเขา นักดาบปีศาจแสดงให้เห็นว่าเขาไม่เข้าใจสถานการณ์ แบบนี้นับประสาอะไรกับความหมายของคำพูด

 

แต่ทว่า เรื่องพวกนั้นไม่สำคัญ

 

สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือ การมีนักรบสองคนอยู่ที่นี่ คนหนึ่งเยาว์วัย อีกคนแข็งแกร่างกว่าเหนือชั้น ก็แค่นั้นแหละ

 

“――ถ้าเจ้าแพ้เด็กมือเปล่า กับ ถ้าเจ้าแพ้เด็กมีอาวุธ ความประทับใจที่ส่งผลต่อผู้คนโดยรอบจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจริงไหม?”

 

ณ ที่แห่งนี้ มีผู้ชมจำนวนมากที่ส่งเสียงดังราวกับว่าพวกเขาเสียสติ

หลังจากนี้ นักผจญภัยผู้มีชื่อเสียงโด่งดังจนได้รับสมญานามว่านักดาบปีศาจจะถูกทำให้ต้องอับอาย

 

ยังไงก็ตาม การพ่ายแพ้ต่อเด็กด้วยอาวุธน่าจะยังมีอากาสเป็นทางรอดมากกว่ามือเปล่า

 

“……ฟุ เจ้าพูดยังกับว่าเจ้าชนะไปแล้ว”

 

และ นักดาบปีศาจก็หัวเราะก่อนตั้งท่า ――อุมุ ดีจังน้า แต่ตาไม่ยิ้มเลย

 

“อย่าเข้าใจว่าข้าเป็นแค่เด็ก ข้าจะทดสอบแขนนั้นให้เอง”

 

ใช่ แบบนี้ดีแล้ว

ฉันจะรู้สึกผิดหวังมาก ถ้าเขาออมมือ เพราะเห็นฉันเป็นแค่เด็ก

 

“อะ คำถามสุด ใครเป็นคนที่ตีดาบเล่มนั้นขึ้นมา?”

 

“ดาบ? ……คุโด้ ซาซาโนะสุเกะ”

 

โอ ซาซาโนะสุเกะ! เป็นชื่อที่ชวนคิดถึงล่ะ!

 

“ถ้าอย่างงั้น นั่นก็เป็นผลงานช่วงแรกใช่ไหม? เป็นของที่งดงามมากจริง ๆ เพราะผลงานในช่วงกลางถึงท้ายชีวิตของซาซาโนะสุเกะเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่แฝงอยู่ภายในรุนแรงจนบิดเบี้ยว ถึงแม้ของช่วงท้ายชีวิตจะทรงพลังมาก็ตาม”

 

สิ่งนี้ทำให้ฉันมั่นใจ

 

หากเป็นงานช่วงแรกของ คุโด้ ซาซาโนะสุเกะ ช่างตีดาบที่ป่วยซึ่งใช้เวลาทั้งชีวิตในการไล่ตามดาบสำหรับฆ่าผู้คนมาทั้งชีวิต ไม่ใชดาบต้องสาปที่แย่งชิงจิตสำนึกของผู้คน

 

สมัยที่ซาซาโนะสุเกะยังมีชีวิตอยู่ ตอนเป็นหนุ่ม เขาก็เคยตีดาบเพื่อฆ่าคน

มีความแตกต่างระหว่างอารมณ์และความคิดที่ถูกใส่เข้าไปในดาบสำหรับฆ่าคน

 

……ม๊า แม้ว่าผู้ใช้จะหลงใหลในดาบ แต่ก็เป็นความตั้งใจของตัวเองด้วยสมบูรณ์แบบ

 

――ดีล่ะ ฉันจะไม่หักดาบเล่มนั้นแล้ว

 

“จ๊า มาเริ่มกันเลยไหม”

 

ฉันต้องรีบไปรักษาริโนกิส มารีบจัดการกันเถอะ

 

 

 

และคราวนี้ สังเวียนก็เงียบลง ราวกับว่าโดนน้ำสาด

แม้ว่าฉันจะทำบางอย่างที่ขั้นสูงยิ่งกว่าจากการต่อสู้ของนักดาบปีศาจกับริโนกิสก็ตาม

 

อะ นั่นแหละเหตุผล

นั่นแหละเหตุผลที่ทุกคนตกตะลึง ในฉัน

 

……ข้อเสียของการแข็งแกร่งเกินไปสินะ……ยาเระยาเระ

 

 

 

 

 

 

 

 

เปิดแอร์นอนแล้วแสบผิวแปลกๆ ฮา