ตอนที่ 77 การหลอกโลลิของหมอเถื่อน

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

77 การใช้ความสิ้นหวังของหมอเถื่อน

 

“――เร็วเข้า!”

 

โอ้ เพราะเป็นสถานที่ที่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นทุกวัน การตอบสนองของทีมพยาบาลจึงรวดเร็วมาก

 

ริโนกิสที่ถอยออกไปได้รับการช่วยเหลือโดยทีมพยาบาลที่เข้ามาในสังเวียนทันทีที่ฉันเอาชนะนักดาบปีศาจ

แม้ว่าการฆ่าจะได้รับอนุญาต แต่พวกเขาก็คงไม่คิดที่จะทาบทามคนที่ตั้งใจฆ่านอกเหนือจากเหตุสุดวิสัยให้มาเข้าร่วม

 

ฉันไปเก็บแขนขวาที่ถูกตัดออกของริโนกิสมาแล้วเดินตามพวกเขาไป ทิ้งสังเวียนที่ตกอยู่ภายใต้ความเงียบไว้เบื้องหลัง

 

――ในที่สุดฉันก็ได้ยินเสียงโห่ด้วยความไม่พอใจมาจากด้านหลัง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฉันหันกลับไปมอง

 

 

 

พวกเราวิ่งผ่านห้องรอของห้องร่วมใหญ่ และเคลื่อนย้ายเข้าสู่ห้องพยาบาล

กลิ่นที่มีผสมของน้ำยาฆ่าเชื้อและเลือดทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้น

 

“――ยาห้ามเลือด ยากล่อมประสาท! รีบล้างแผลซะ!”

 

แพทย์หญิง……แพทย์เถื่อนหญิง เริ่มการรักษาพร้อมกับออกคำสั่งกับหญิงสาวสองคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้ช่วย

ฉันไม่รู้ว่าเธอฝีมือดีแค่ไหน แต่ฉันอาจจะช่วยเธอได้ ดังนั้นฉันจะคอยจับตาดูต่อไป

 

อะ จริงด้วย

 

“นี่ ต่อได้ไหม?”

 

“หะ? ทำไมถึงมีเด็กอยู่ที่นี่กัน!!”

 

ผู้ช่วยคนหนึ่งหันมาตามเสียงของฉันและตกใจกับสิ่งที่ฉันถืออยู่ ม๊า ก็น่าจะประหลาดใจแหละ แม้แต่ฉันเองก็ยังแปลกใจ ถ้าจู่ ๆ ก็เห็นเด็กคนหนึ่งถือแขนคน ไม่ใช่เรื่องสยองขวัญใช่ไหม

 

“นี่พึ่งถูกตัดได้ไม่นาน ฉันคิดว่าน่าจะยังไม่เป็นไร”

 

ห้ามเลือดและรักษาปฏิกริยาการตอบสนองให้สดด้วย「คิ」ของฉัน

มีเปื้อนทรายนิดหน่อย แต่แค่ล้างสักหน่อยก็น่าจะได้

 

“ตั้งใจมาขวางกันหรือไง?”

 

ทันทีที่สังเกตเห็นฉัน แพทย์หญิงที่ออกคำสั่งและกำลังรักษาก็มองมาที่ฉันด้วยสายตาเย็นชา

ราวกับเป็นการตอบสนอง ผู้ช่วยสองคนที่กำลังรีบเร่งก็หยุดมือ และให้ความสนใจฉันและแพทย์หญิง

 

และจากนั้น แพทย์หญิงก็พูดอย่างนิ่งสงบ

 

“เธอมาช่วยได้ไหม?”

 

“ได้สิ ถ้ามีอะไรที่ฉันทำได้”

 

“――ถ้าอย่างงั้นก็ขอยืม『พลัง』ที่ส่งไปที่แขนนั่นหน่อยสิ”

 

……ฟุอุ ยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะมองเห็นสินะ

 

“รู้เหรอ?”

 

“ไม่ แต่ ทันทีที่มองก็รู้แล้วว่าแขนนั้นไม่ปกติ เลือดหยุดไหลแล้วทั้งที่ไม่ได้มัดห้ามเลือด และดูเหมือนว่าจะอยู่ในสภาพดีเกินไป

นั่นสินะ จะว่าไปก็เหมือนจะเคยเห็นมาก่อน เหมือนกับของไอ้หมอนั่นเลย”

 

ฉันไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะฉันไม่รู้ที่เธอบอกว่า「เคยเห็นมาก่อน」

 

ยังไงก็ตาม ส่วนที่มองออกก็ถือว่าถูกต้อง ฉันไม่รู้เธอมีฝีมือแค่ไหน แต่ดูเหมือนจะมีประสบการณ์มากมาย

 

“ว่าแต่ เธอมีเงินไหม?”

 

“เงิน?”

 

“ใช่ การรักษาด้วยยาธรรมดาน่ะ ราคาถูก แต่ว่าถ้าเป็นยาเวทมนตร์ก็อีกเรื่อง ―― “

 

“กรุณาจัดการเลยค่ะ”

 

ฉันไม่อยากได้ยินเรื่องไร้สาระแบบนั้น หากไม่รักษาตอนนี้ก็จะไม่สามารถย้อนกลับได้

 

“ฉันไม่สนหรอกว่าราคาจะเท่าไหร่”

 

เป็นหน้าที่ของอาจารย์ที่จะต้องดูแลศิษย์ในยามคับขัน

 

ครั้งนี้ เพราะความเห็นแก่ตัวของฉัน ริโนกิสจึงต้องปรากฎตัวในสังเวียนใต้ดิน แต่ต่อให้จะไม่ใช่ความผิดของฉัน คำตอบก็จะไม่เปลี่ยนแปลง

 

ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเสียดายเงิน

 

“ดี ―― งั้นก็ลงมือกันเลยไหม”

 

 

 

หลังให้ยากล่อมประสาท ริโนกิสก็หมดสติไปในทันที ในระหว่างนี้การรักษาก็ดำเนินไป

 

” ――ฟื้นฟูขั้นสูง(ฮีล)”

 

หลังจากล้างแผลและใช้ยาที่ช่วยให้เวทมนตร์ซึมผ่านได้ดี แพทย์หญิงก็ร่ายเวทมนตร์ฟื้นฟู แสงสีขาวสลัว ๆ ปกคลุมบาดแผลที่แขนขวาของริโนกิส

 

” ――”

 

นอกจากนี้ ฉันยังปล่อย「คิภายนอก」คืบคลานและควบคุม「คิ」ของริโนกิสซ้ำ ๆ เพื่อเพิ่มพลังการรักษาตามธรรมชาติของเธอ

ตามทฤษฏีแล้ว ก็เกือบจะเหมือนกับตอนที่ฉันรักษาอาการเจ็บป่วยของร่างกายเมื่อก่อน

 

มนุษย์มีพลังในการรักษาและชำระล้างโดยธรรมชาติ

「คิ」ใช้สำหรับเสริมสิ่งเหล่านั้น

 

ถ้าริโนกิสมีความรู้เกี่ยวกับ「คิ」ในร่างกายตัวเองมากกว่านี้ ฉันคิดว่าเธอน่าจะสามารถคว้าแขนที่ถูกตัดลอยไปในอากาศได้ แล้วติดเข้าด้วยกันได้ทันที ในชาติที่แล้วฉันทำอะไรแบบนั้นมาหลายครั้งแล้ว ……คิดว่าน่ะ

 

“อะ”

 

แพทย์หญิงส่งเสียง

 

“……ดูเหมือนจะรักษาหายสนิทแล้วล่ะ”

 

โอ้ ติดกันแล้วสินะ

 

“สมกับที่หวังไว้ เร็วกว่ามากเลยพอเป็นเทคนิคผสมผสาน”

 

เวทมนตร์กับ「คิ」สินะ

ฉันรู้ว่าเป็นพลังที่แตกต่างกัน แต่ก็มีวิธีใช้ร่วมกันได้แบบนี้อยู่สินะ

 

“……เทคนิคผสมผสานสินะ……”

 

อะไร อย่าจ้องฉันขนาดนั้นสิ

 

“――ฮ๊า……ม๊า ช่างเถอะ ที่นี่ไม่อนุญาตให้สอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนอื่นอยู่แล้ว”

 

หลังจากถอนหายใจเฮือกใหญ่ แพทย์หญิงก็บอกผู้ช่วยที่มองอย่างเอาใจช่วยให้ “ทำความสะอาดซะ” และนั่งลงบนเก้าอี้ของโต๊ะที่อยู่ไกลออกไป

 

“มาพูดเรื่องเงินกันเถอะ เงินเป็นสิ่งเดียวที่คุณไว้ใจได้ที่นี่”

 

“ได้ นั่นสิ――นะ?”

 

ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกเหมือนได้ยินอะไรบางอย่างและหันกลับไป ในเวลาเดียวกันก็มีชายรูปร่างเหมือนหมีตัวใหญ่เปิดประตูและเข้ามา

 

“――ก็บอกแล้วไงว่านั่นคือลูกสาวของข้า!”

 

อะ แกนดอล์ฟ

แม้ว่าเขาจะถูกเกาะโดยกลุ่มคน ห้าหรือหกคน ที่มีทั้งพนักงานและพวกชุดดำ เขาก็เมินคนเหล่านั้นและเข้ามา

 

……จริงด้วยสินะ

ฉันลืมไปเลยว่าทิ้งแกนดอล์ฟไว้ข้างหลัง

 

“ฮ้า……คนเจ็บกำลังหลับอยู่ กรุณารักษาความสงบกันด้วย แต่การรักษาเสร็จสิ้นแล้ว เพราะงั้นปล่อยคน ๆ นั้นไว้ที่นี่ได้”

 

แพทย์หญิงถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง บอกให้พนักงานและชุดดำออกไป

 

 

 

“――ไม่ไม่ ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้ตั้งใจรับไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วขอรับ”

 

เมื่อฉันถามถึงค่ารักษาของริโนกิสอีกครั้ง แกนดอล์ฟก็กระซิบว่า 「กรุณาใช้เงินนี่สิขอรับ」

ยังไงก็ตาม ดูเหมือนว่าจะเป็นจำนวนเงินที่แกนดอล์ฟสามารถจ่ายได้ด้วยเงินที่เขาชนะในการเดิมพัน

 

เป็นชิปที่ยังกองอยู่บนโต๊ะนั้น

 

“――ข้าได้เงินมามากมาย จนคิดไม่ออกว่าจะใช้ยังไงดี”

 

นอกเหนือจากนี้แล้วยังมีทางไหนอีก การให้ยืมหรือยืมเงินจากกลุ่มคนในโลกใต้ดินนั้นเป็นเรื่องน่ารำคาญ สำหรับตอนนี้คงต้องตัดสินใจยืมเขาก่อนจริง ๆ

เอาไว้หาทางทำเงินที่ให้แกนดอล์ฟมีส่วนร่วมอีกครั้งเอาก็แล้วกัน

 

“อาร๊า รู้งี้ตั้งใจขูดเลือดขูดเนื้ออีกสักหน่อยก็น่าจะดี คุณจะเป็นคนจ่ายสินะ?”

 

เมื่อบอกข้อสรุปที่ได้จากการแอบคุยกัน แพทย์หญิงก็ขอให้ผู้ช่วยของเธอไปรวบรวมชิปมา

และดูเหมือนผู้ช่วยจะช่วยทำหน้าที่แลกเปลี่ยนชิปให้เป็นเงินสดแทนแกนดอล์ฟที่วิ่งมาโดยทิ้งชิปไว้บนโต๊ะทั้งแบบนั้นให้ด้วย เป็นผู้ช่วยของที่นี่ดูยุ่ง ๆ จังเลยนะ

 

และแพทย์หญิงจับปากกาเตรียมออกใบแจ้งหนี้ แต่กลับหัวเราะอย่างมีความสุขโดยไม่คาดคิด

 

“หรือว่ากำลังโก่งราคาอยู่?”

 

“ใช่ และ ไม่ใช่ ที่นี่ถูกกำลังให้โก่งราคาเอาไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ระวังเท้าของเธอเอาไว้ให้ดี ――เพราะที่นี่คือสังเวียนใต้ดินยังไงล่ะ”

 

อ้า งั้นเหรอ ว่าไปแล้วที่นี่ก็เป็นแหล่งเงินทุนใต้ดินอยู่แล้ว

ต่อให้เป็นผู้เล่นที่ถูกเชิญมา ก็ยังโดนขูดเลือดขูดเนื้อจากเงินที่ได้รับมาอย่างไร้ปราณีเช่นกัน

 

“――คุณหมอ รวบรวมเงินมาแล้วค่ะ”

 

“เข้าใจแล้ว”

 

หลังจากรอพักใหญ่ ผู้ช่วยก็กลับมา

 

“เหมือนจะเหลืออยู่นิดหน่อย”

 

“โอะ โอ้”

 

แม้จะจ่ายไป ก็ยังเป็นแค่ส่วนเล็กน้อย ดูเหมือนจะแค่ระดับเงินค่าขนมด้วยซ้ำ

 

“ถ้าอย่างงั้นลงชื่อตรงนี้ จะใช้ชื่อปลอมก็ได้ แต่ถ้าเป็นขุนนางจะใช้ชื่อจริงก็ได้”

 

แพทย์หญิงพบว่าแกนดอล์ฟไม่ใช่ขุนนาง

ความจริงที่ว่าพวกเราไม่ใช่พ่อลูกันจริง ๆ อาจถูกเปิดเผยด้วยก็ได้

 

“เท่านี้ก็เสร็จแล้ว จะพาเธอกลับไปเลยก็ได้”

 

 

 

และด้วยเหตุนี้ อีเวนต์สังเวียนใต้ดินก็ได้สิ้นสุดลง

 

 

 

 

 

 

 

 

กลางค่ำกลางคืนไม่ยอมหลับยอมนอน มานั่งเปื่อยเบื่อหน้าคอม จนสุดท้ายแปลนิยาย แล้วกลับกลางวัน อีกหน่อยสายตาไปแน่นอน ฮา