ตอนที่ 75 การมาเยือนของเจี่ยนชิงโยว (1)

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

ตอนที่ 75 การมาเยือนของเจี่ยนชิงโยว (1)

อาซ้อฟางอยากปกปิดเรื่องนี้ ผลักภรรยาฟางอู่ทิ้ง แล้วปิดประตู

ทว่าภรรยาฟางอู่กลับผลักนาง แล้วพุ่งตัวเข้าไป

ผลัก ‘ท่านอาจารย์หนิง’ ที่กำลังขะมักเขม้นทำงานหนักบนเรือนร่างฟางเถาเอ๋อร์ หันไปหยิบเสื้อผ้าที่ตนเตรียมเอาไว้ตั้งแต่แรกมาปิดเรือนร่างลูกสาว ร้องคร่ำครวญ “ท่านอาจารย์หนิง ลูกสาวข้าเป็นหญิงบริสุทธิ์ร่วมหลับนอนกับท่าน ท่านต้องรับผิดชอบ…”

ภรรยาฟางอู่ร้องเรียกท่านอาจารย์หนิง คร่ำครวญขอให้รับผิดชอบ ทำให้อาซ้อฟางเสียใจอย่างมาก ทำอย่างไรดีเล่า หากหนิงเหนียงจื่อทราบเรื่อง จะทำเช่นไร หลังจากที่นางถูกภรรยาฟางอู่ผลักออกข้างธรณีประตู นางก็ไม่กล้าหันกลับไปมองอีก น้ำตาไหลลงมาดั่งสายฝน ร้อนใจจนหายใจไม่เป็นจังหวะ

เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ผู้ใดไม่รู้บ้างว่าฟางเถาเอ๋อร์เป็นหญิงเกรี้ยวกราด ตะกละและเกียจคร้าน นางมีพี่ชายห้าคน เป็นลูกสาวคนเล็กของหัวหน้าตระกูล ดินพอกหางหมู ไม่ทำการทำงานตั้งแต่เล็ก

ส่วนหนิงเหนียงจื่อ น้องสาวผู้มีจิตใจดี ทั้งยังเป็นเจ้าสาวที่ถูกจับมาเข้าพิธีวิวาห์แก้เคล็ดจากต่างถิ่น กระทั่งเวลานี้ยังไม่ได้ร่วมหอ วันข้างหน้าจะยืนหยัดอยู่ในเรือนแห่งนี้ได้อย่างไร

ภรรยาฟางอู่ร้องตะโกนลั่นเช่นนี้ เห็นชัดว่าต้องการจะป่าวประกาศให้ผู้อื่นรับรู้ ผู้คนด้านนอกที่ยังคงกินดื่มกันอยู่นั่นย่อมได้ยินเสียงดังของทางด้านนี้ ต่างวิ่งมาที่นี่

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น จากถ้อยคำของภรรยาฟางอู่คล้ายว่าท่านอาจารย์หนิงร่วมหลับนอนกับเถาเอ๋อร์?”

“เป็นไปไม่ได้ ท่านอาจารย์หนิงเป็นบุรุษซื่อตรง อย่ามาพูดเหลวไหล”

“หรือจะเป็นเพราะดื่มสุรามากเกินไปแล้ว…”

ชาวบ้านพูดคุยโต้เถียงกันพร้อมกับเดินมุ่งหน้ามาทางด้านนี้

เพียงชั่วเวลาพูดคุยกัน ด้านนอกประตูก็มีคนมาประมาณสิบคน

ภรรยาฟางอู่เห็น ‘ท่านอาจารย์หนิง’ รีบสวมใส่เสื้อผ้า ปิดหน้า เดินกะเผลกๆ เบียดออกไปด้านนอก

ครุ่นคิดในใจ สุขภาพร่างกายของท่านอาจารย์หนิงไม่ได้อ่อนแอธรรมดา เพียงครู่หนึ่ง เท้าถึงกับยืนไม่มั่น? แต่ว่า สุขภาพร่างกายอ่อนแอก็ยิ่งดี วันข้างหน้าจะได้เชื่อฟังลูกสาวของนางทุกอย่าง

ไม่คิดมากมาย นางพุ่งตัวเข้าไปหา แล้วคว้าตัว ‘ท่านอาจารย์’ พลางพูดตำหนิ “ท่านอาจารย์หนิง ท่านจะไม่รับผิดชอบหรือ ข้าไม่ยอม!”

‘ท่านอาจารย์หนิง’ กลับทำเป็นหูทวนลมกับเสียงแผดร้องของนาง

เขาไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับมา มือข้างหนึ่งปิดหน้า มืออีกข้างหนึ่งพยายามแกะนิ้วมือของภรรยาฟางอู่ที่จับเสื้อของเขาเอาไว้ อยากจะรีบไปให้พ้นจากที่แห่งนี้

อาซ้อฟางในเวลานี้ตื่นขึ้นมาจากความวิงเวียน เช็ดน้ำตาแล้วพุ่งตัวออกไป ช่วย ‘ท่านอาจารย์หนิง’ แกะมือของภรรยาฟางอู่ นางครุ่นคิดด้วยความรู้สึกโชคดี ขอเพียงท่านอาจารย์หนิงไปตอนนี้ ไม่ได้ถูกทุกคนจับได้คาหนังคาเขา ไม่แน่ ไม่แน่ว่า เรื่องนี้สามารถจบลงด้วยดี

“พวกเจ้ากำลังทำอะไร” หัวหน้าหมู่บ้านและหัวหน้าตระกูลก็ตกใจเช่นเดียวกัน พวกเขารีบมุ่งหน้าเดินมาทางนี้

“หัวหน้าหมู่บ้านและหัวหน้าตระกูลโปรดช่วยตัดสิน ลูกสาวของข้าถูกสัตว์เดรัจฉานที่สวมหนังมนุษย์เยี่ยงท่านอาจารย์หนิง…ฮือๆ…”

เด็กสองสามคนที่อยู่ด้านหลัง รีบถือเทียนเดินนำทางให้กับหัวหน้าหมู่บ้าน

ท่ามกลางผู้คนมีคนหนึ่งสายตาเฉียบแหลม อาศัยแสงสว่างจากเทียนมองเห็นใบหน้า ‘ท่านอาจารย์หนิง’ ชัดเจนผ่านช่องว่างที่ปิดเอาไว้ ร้องด้วยความตกใจ “เอ๊ะ นี่ไม่ใช่หลี่ไคสือหรือ”

เพราะถึงอย่างไรอยู่หมู่บ้านเดียวกันย่อมต้องเจอหน้ากัน ขอเพียงมีแสงสว่างเพียงเล็กน้อย ก็สามารถรับรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาได้ในทันที

“จริงด้วย! ใช่ท่านอาจารย์หนิงเสียที่ไหน” ชาวบ้านอีกคนก็เห็นหน้าชัดเจนแล้วเหมือนกัน

“ภรรยางฟางอู่ เจ้าแก่แล้วสายตาฝ้าฟางกระมัง…” หนึ่งในชาวบ้านหัวเราะแล้วพูดขึ้น

เมื่อเห็นว่าตัวตนเผยออกมาแล้ว หลี่ไคสือจึงลดมือที่ปิดบังใบหน้าเอาไว้ สะบัดภรรยาฟางอู่ที่ยังคงตกตะลึงทิ้ง

เวลานี้ภรรยาฟางอู่มีตกใจราวกับเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น ใช้นิ้วมือที่สั่นเทาชี้ไปที่เขา “เจ้าๆๆ…เป็นเจ้าได้อย่างไร สวรรค์!”

หลี่ไคสือปัดนิ้วมือที่ชี้มา เบะปาก มองตาขวาง พูดอย่างไร้มารยาท “เหตุใดจึงเป็นข้าไม่ได้ ข้าก็อยากจะถามเหมือนกัน เหตุใดจึงเป็นนาง”

ทั้งสองต่างมีแผนการร้ายซุกซ่อนไว้ ขณะที่พวกเขาถามตอบกันอยู่นั้น ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์หวนนึกถึงเหตุกาณ์ก่อนหน้านี้ที่ภรรยาฟางอู่ยังไม่เห็นใบหน้าชัดเจนก็มั่นใจว่าเป็นท่านอาจารย์หนิง พวกเขาเข้าใจทุกอย่างขึ้นมาทันที

ฟางอู่หน้าดำเคร่งเครียด พุ่งตัวมาแล้วตบภรรยาหนึ่งฉาด

ผู้ที่ตกตะลึงจนตานิ่งค้างเหมือนกันอีกคนก็คืออาซ้อฟาง ฟางอู่ตบภรรยาเสียงดังลั่น ทำให้จิตวิญญาณของนางตะลึงงัน หวนนึกถึงเหตุการณ์ทั้งหมด ทั้งตกตะลึง ทั้งเป็นกังวล ทั้งถูกหลอก เวลานี้อาซ้อฟางเหงื่อท่วมหัว

หลังจากที่มองจนแน่ใจแล้วว่าบุรุษผู้นี้คือหลี่ไคสือจริงๆ นางสูดลมหายใจเฮือกใหญ่แล้วทรุดตัวลงนั่งบนพื้น ในที่สุดก้อนหินก้อนใหญ่ที่ทับอกนางอยู่ก็ตกลงบนพื้นแล้ว

หลังจากฟางอู่ทุบตีทำร้ายภรรยาของตน เขาก็โค้งตัวคำนับหัวหน้าหมู่บ้าน “หัวหน้าหมู่บ้าน โปรดอภัยที่ข้าไม่อบรมสั่งสอนลูกสาวให้ดี ทว่า เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแล้ว ตระกูลหลี่ต้องพูดอะไรสักอย่าง” พูดจบ หันไปมองหลี่ปาตาเขม็ง

โดยปกติทั้งสองไม่ถูกกันอยู่แล้ว มักจะมีปากมีเสียงทะเลาะเบาะแว้งกันด้วยเรื่องเล็กๆ อยู่เสมอ

การกระทำของบุตรชาย แม้หลี่ปาจะโมโห แต่เมื่อคิดได้ว่าตอนนี้บุตรชายขาพิการ หาภรรยายาก วันนี้เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ทำได้เพียงยอมรับแล้ว

แม้ภายในใจของเขาจะคิดเช่นนี้ แต่ความรู้สึกไม่พอใจก็มีไม่มากก็น้อย ด้วยเหตุนี้จึงพูด “พูดอะไร ไคสือของข้าเป็นคนเงียบๆ หากไม่ใช่เพราะลูกสาวของพวกเจ้ายั่วยวน จะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ลูกสาวคนเล็กของเจ้าทั้งตะกละและเกียจคร้าน นิสัยเสียทุกอย่างอยู่ที่นาง อยากจะแต่งเข้าตระกูลหลี่ของข้า ไม่มีทาง”

บุตรชายของเขาหลับนอนกับลูกสาวคนอื่น ตามหลักการแล้วไม่ได้เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ขอเพียงเหยียบย่ำฟางอู่ให้จมดิน เช่นนี้เขาก็สามารถให้สินสอดน้อย ตระกูลฟางสมควรเพิ่มสินเดิมให้มากขึ้น อีกทั้ง ฟางอู่ไม่ใช่คนดีอะไร ลูกสาวของเขาก็ไม่ใช่สตรีที่ดีเช่นเดียวกัน เขาต้องใช้โอกาสนี้กดนางให้ต่ำ หาจุดอ่อนของนางออกมา วันข้างหน้านางจะได้เชื่อฟังบุตรชายของเขาทุกอย่าง

ฟางอู่เดือดดาลอย่างมาก “เจ้าพูดเช่นนี้เพราะไม่อยากจะรับผิดชอบใช่หรือไม่” หากยอมเสียงอ่อนตั้งแต่ตอนนี้ เช่นนั้นลูกสาวของเขายังจะมีชีวิตที่ดีอีกหรือ หากไม่ตกลงกันให้ดี เกรงว่าตาเฒ่านี่ไม่แม้แต่จะให้สินสอด

“สตรีที่มีความประพฤติเช่นนาง เป็นได้เพียงอนุภรรยาเท่านั้น”

“เจ้ากล้าพูดอีกครั้งหรือไม่”

หัวหน้าหมู่บ้านเห็นว่าขืนทั้งสองยังทำสงครามน้ำลายเช่นนี้เกรงว่าจะชกต่อยกัน จึงพูดตำหนิ “พวกเจ้าทั้งสองหยุดโต้เถียงกันเสียที ยังขายหน้าไม่พออีกหรือ”

“อายุปูนนี้แล้ว ยังไม่รู้จักหยุดจักหย่อน”

“เห็นชัดว่าตระกูลหลี่ของเขาไร้เหตุผล!”

“ข้าไม่มีเหตุผลเยี่ยงไร ไม่มีใครไม่รู้ว่าฟางเถาเอ๋อร์เป็นสตรีเช่นไร ไคสือของพวกเราจะแต่งงานกับสตรีเช่นนี้ได้อย่างไร”

ขณะที่หัวหน้าหมู่บ้านพูดปรามพวกเขาก็เดือดดาลขึ้นมาอีกครั้ง หัวหน้าหมู่บ้านที่ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขา ตะคอกเสียงดัง “หยุดพูดทั้งคู่! น่าขายหน้าเสียจริง ถึงอย่างไรก็เป็นบุรุษที่ยังไม่ได้แต่งงานกับสตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือน จัดพิธีมงคลให้พวกเขาแล้วจบเรื่องนี้เถอะ”

แม้หัวหน้าหมู่บ้านจะตำหนิทั้งสอง ทว่าความเป็นจริงอารมณ์ดียิ่งนัก หากสองคนนี้คู่กัน ช่วยคลายปัญหาในหมู่บ้านได้มากมาย

ฟางอู่ให้ภรรยาของเขาออกหน้าหาบุรุษที่เหมาะสมแก่ลูกสาวของเขาทุกสองสามวัน

หลี่ปาเองก็ให้ภรรยาของเขาเป็นแม่สื่อหาลูกสะใภ้ให้เสมอ

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตัวปัญหาทั้งสองคนนี้ ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านโอดครวญนับครั้งไม่ถ้วนมานานแล้ว