ตอนที่ 84 คุ้นตา

ตอนที่ 84 คุ้นตา

เมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นเจิ้นอวี่ ฉินมู่หลานก็อดตะลึงงันไม่ได้

เธอคิดเพียงว่าเพื่อนของเสิ่นหรูฮวนคงเป็นหญิงสาวที่มีพื้นเพครอบครัวระดับเดียวกับหล่อน จึงไม่ได้คิดมากนัก นึกไม่ถึงว่าฟางโหรวจะเป็นหญิงสาวที่มีพื้นเพธรรมดา หากเป็นดั่งที่พูดมา สมมติฐานของเสิ่นเจิ้นอวี่ก็นับว่าถูกต้องเหมือนกัน มันไม่ง่ายเลยที่ฟางโหรวผู้ไม่มีเงินและอำนาจใด ๆ จะทำเรื่องเช่นนี้ได้

แต่ก็ไม่แน่ว่าฟางโหรวอาจใช้วิธีการอื่น

เสิ่นหรูฮวนอดพูดขึ้นมาไม่ได้ “แต่วันนั้นหล่อนเป็นควรชวนหนูออกไปนัดบอดข้างนอก แล้วก็มีเรื่องเกิดขึ้นกับหนู ไม่มีใครรู้ว่าหนูจะออกไปนอกจากหล่อนนะคะ”

เสิ่นเจิ้นอวี่ได้ยินเช่นนั้น จึงลูบศีรษะลูกสาวแล้วพูดว่า “หรูฮวน พ่อไม่ได้บอกว่าไม่ได้สงสัยฟางโหรวหรอกนะ ฟางโหรวนั่นทำตัวแปลกจริง แต่เรื่องแบบนี้อาจเป็นฝีมือของคนอื่นด้วย พวกเราจึงต้องหาคำตอบกันอย่างรอบคอบ เพราะกลัวว่าจะมีคนอื่นนอกเหนือจากนี้ทำร้ายลูกได้อีก”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหรูฮวนก็ชะงักไปนิดหน่อย

“ยังมีคนอื่นอีกหรือ? ทำไมทุกคนถึงพยายามจะทำร้ายหนูขนาดนี้?”

ฉินมู่หลานก้าวเดินไปข้างหน้า แล้วจับมือของเสิ่นหรูฮวนก่อนจะพูดขึ้น “นั่นเป็นเพราะหรูฮวนของพวกเราเยี่ยมยอดเกินไป หลายคนจึงรู้สึกอิจฉาเธอไง แต่จากที่ลุงเสิ่นเพิ่งพูดมาเมื่อสักครู่ แสดงว่าเขาน่าจะพอรู้แล้วล่ะ เธอไม่ต้องกังวลใจไป”

เมื่อเห็นฉินมู่หลานเอ่ยเช่นนั้น เสิ่นหรูฮวนจึงกลับมามีสติอีกครั้ง สีหน้าดูดีขึ้นอย่างมาก “ใช่แล้ว เพราะฉันยอดเยี่ยมเกินไป”

ถงทิงผิงที่อยู่ด้านข้างเห็นสิ่งนี้ จึงรีบพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น “ใช่แล้วล่ะ คนพวกนั้นมันเลวเหลือเกิน”

เสิ่นหรูฮุ่ยรู้สึกเป็นกังวลว่าน้องสาวของตนจะไม่ยอมกลับไปด้วยกัน จึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง “หรูฮวน ถ้าอย่างนั้นเธอจะกลับบ้านกับพวกเราไหม?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นเจิ้นอวี่และถงทิงผิงก็หันมองเสิ่นหรูฮวนด้วย

สุดท้ายเสิ่นหรูฮวนก็พยักหน้า แล้วพูดขึ้น “หนูจะกลับค่ะ”

หล่อนยังต้องกลับไปที่บ้าน นอกจากนี้พ่อและคนอื่นๆ ก็ได้เจอเบาะแสบางอย่างแล้ว หลังจากกลับบ้านแล้วหล่อนเพียงระวังตัวก็พอ นอกจากนี้ยังอยากจะไปดูให้เห็นกับตาด้วยว่าใครเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวตนเองบ้าง

เมื่อเห็นเสิ่นหรูฮวนพยักหน้าในท้ายที่สุด คนตระกูลเสิ่นก็พากันดีใจมาก

ฉินมู่หลานก็เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “หรูฮวน ถ้ากลับถึงบ้านแล้วอย่าลืมเขียนจดหมายมาหาฉันด้วยนะ”

เสิ่นหรูฮวนได้ยินดังนั้นก็รีบพยักหน้าแล้วพูดขึ้นทันที “มู่หลาน ฉันจะเขียนจดหมายหาเธอแน่ พวกเราจะติดต่อกันบ่อย ๆ” เมื่อเอ่ยจนเกือบจบก็รู้สึกลังเลนิดหน่อยยามนึกถึงช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันกับฉินมู่หลาน หล่อนชอบมู่หลานมากจริง ๆ

หลังจากทราบว่าเสิ่นหรูฮวนจะกลับไป คนตระกูลเสิ่นก็พากันตื่นเต้น แต่พวกเขายังไม่ลืมตระกูลเซี่ย สุดท้ายจึงไปบ้านตระกูลเซี่ยอีกครั้ง แล้วกล่าวขอบคุณที่ให้ลูกสาวของพวกเขามาพักอาศัยอยู่ด้วยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

เซี่ยเหวินปิงและเหยาจิ้งจือเห็นว่าเสิ่นหรูฮวนพักอาศัยอยู่ด้วยเพียงไม่กี่คืนเท่านั้น นอกจากนี้ทางตระกูลเสิ่นยังนำของขวัญขอบคุณมามอบให้กับทางตระกูลเซี่ยอีก ก็พากันปฏิเสธอยู่เนิ่นนาน แต่คนตระกูลเสิ่นยังคงรบเร้าเสียใหญ่โต จนท้ายที่สุดก็ต้องยอมรับเอาไว้

ทว่าเสิ่นเจิ้นอวี่กลับมองดูเหยาจิ้งจืออยู่หลายครั้ง ยิ่งมองมากเท่าใดก็รู้สึกว่าแม่สามีของฉินมู่หลานดูคุ้นตามากขึ้นเท่านั้น แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยพบเจอกันที่ไหนมาก่อน

ถงทิงผิงเห็นสามีมีท่าทางเช่นนั้น จึงอดไม่ได้ที่จะดึงทึ้งเขาแล้วจ้องมองอย่างหนัก

หลังจากนั้นเสิ่นเจิ้นอวี่ก็ดึงสติกลับมาได้อีกครั้ง สุดท้ายจึงกล่าวอำลากับฉินมู่หลานและคนอื่น ๆ

“มู่หลาน เอาไว้ฉันจะมาหาเธอนะ กลับถึงบ้านแล้วฉันจะเขียนจดหมายมาหาเธอทันทีเลย”

เมื่อได้ยินเสิ่นหรูฮวนเอ่ยเช่นนั้น ฉินมู่หลานก็ยกยิ้มพลางพยักหน้า “ได้”

คนตระกูลเสิ่นขับรถมาที่นี่ด้วยตัวเอง ทุกคนจึงขึ้นรถโดยสารของตัวเองแล้วออกจากหมู่บ้านชิงซานในทันที

ในยุคนี้ แค่เพียงจักรยานก็ดึงดูดความมสนใจใครหลายคนได้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงรถยนต์เลย ผู้คนในหมู่บ้านต่างอยากไปบ้านตระกูลฉินและตระกูลเซี่ยเพื่อรับชมสิ่งตื่นตาตื่นใจ แต่ด้วยไม่ทราบว่าคนขับรถเป็นคนอย่างไรจึงไม่กล้าเข้าใกล้มากนัก ตอนนี้ทุกคนกลับไปแล้ว พวกเขาจึงอดที่จะเข้ามาสอบถามเสียไม่ได้

ป้าพานกับตระกูลเซี่ยค่อนข้างสนิทสนมกันอยู่ไม่น้อย หล่อนจึงเป็นฝ่ายไปเอ่ยถามให้ “จิ้งจือเอ๊ย คนที่เพิ่งมาที่บ้านเธอเป็นใครเหรอ เห็นขับรถมาที่นี่ด้วยตัวเองเลย ดูเหมือนฉันจะเห็นว่าก่อนหน้านี้พวกเขาไปบ้านตระกูลฉินกัน ฉันเลยคิดว่าเป็นญาติของตระกูลฉิน ไม่คิดเลยว่าจะรู้จักครอบครัวของพวกเธอด้วย”

เหยาจิ้งจือได้ยินเช่นนั้น จึงเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ที่จริงแล้วเป็นครอบครัวเพื่อนของมู่หลานน่ะ เธอเคยเจอหรูฮวนมาแล้วใช่ไหม คนที่มาคือครอบครัวหล่อน ก่อนหน้านี้หล่อนมาพักเที่ยวเล่นที่บ้านกับมู่หลานของเรา ตอนนี้ครอบครัวหล่อนมารับกลับแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนในหมู่บ้านก็ต่างรู้สึกตกตะลึงดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

“ไอ้หยา เป็นคนในครอบครัวของหนูหรูฮวนคนสวยนี่เอง ไม่คิดเลยว่าครอบครัวของหล่อนจะร่ำรวยขนาดนี้”

“ใช่แล้วล่ะ ตอนนี้สหายของมู่หลานแต่ละคนมีแต่คนที่ยอดเยี่ยมทั้งนั้นเลย”

เมื่อเอ่ยจบ ทุกคนก็พากันรู้สึกอิจฉานิดหน่อย ตอนแรกพวกเขาต่างรู้สึกขบขันที่ลูกชายคนเล็กของตระกูลเซี่ยจับพลัดจับผลูมาแต่งงานกับฉินมู่หลาน แต่ดูตอนนี้สิ ฉินมู่หลานมีทักษะทางการแพทย์ดีจนได้รับรางวัลจากโรงพยาบาลในเมือง สะใภ้คนโตของตระกูลเซี่ยก็ได้เป็นพนักงานเพราะฉินมู่หลาน ประหนึ่งว่าเมื่อมู่หลานแต่งเข้ามาแล้ว ตระกูลเซี่ยก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ

หลังจากเหยาจิ้งจือเล่ารายละเอียดให้ฟังแล้ว ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรอีกต่อไป เพียงแค่ยกยิ้มแล้วเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับฉินมู่หลานแทน

อีกด้านหนึ่ง ถงทิงผิงอดไม่ได้ที่จะจ้องมองสามีของตนตาเขม็ง ก่อนจะพูดขึ้น “เสิ่นเจิ้นอวี่ เมื่อกี้ทำไมคุณถึงจ้องแม่สามีของมู่หลานแบบนั้นกัน ขืนคุณยังจ้องต่อไปอีก คนเขาคงคิดว่าคุณเป็นตาเฒ่าหัวงูแน่”

แม้แต่เสิ่นหรูฮุ่ยที่ขับรถอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “ใช่แล้วพ่อ พวกเราเห็นกันหมดเลยนะ”

เสิ่นหรูฮวนมองพ่อด้วยแววตาสงสัยเช่นกัน แต่หล่อนทราบดีว่าพ่อของตนเป็นอย่างไร จึงเข้าใจว่าเรื่องที่เขาจ้องมองเหยาจิ้งจือต้องมีเหตุบางอย่างแน่นอน

เสิ่นเจิ้นอวี่ขมวดคิ้วพลางครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน แต่ไม่ว่านึกอย่างไรก็นึกไม่ออก จึงทำได้เพียงอธิบายเท่านั้น “ผมแค่คิดว่าแม่สามีของฉินมู่หลานดูคุ้นตามาก รู้สึกเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน แต่ผมก็จำไม่ได้”

“จะไปเคยเจอกันได้ยังไง คุณยังไม่เคยไปที่มณฑลซานตงเลยนะ”

เสิ่นเจิ้นอวี่ก็คิดแบบนี้เช่นกัน จึงไม่นึกถึงมันอีกต่อไปโนเวลพีดีเอฟ

หลังจากตระกูลเสิ่นกลับไปแล้ว ฉินมู่หลานก็เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเขียนบทความในทุกวันอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้เธอก็ไม่ลืมที่จะปรุงยาที่เอาไว้ใช้ป้องกันตัวด้วย เมื่อนึกไปถึงภารกิจของเซี่ยเจ๋อหลี่ที่อันตรายเหมือนกัน เธอจึงทำมันมากขึ้นกว่าเดิม และมีความคิดอยากจะส่งไปให้เขาบางส่วนด้วย

หลังจากฉินมู่หลานปรุงยาพวกนี้แล้ว เธอก็ได้รับจดหมายจากเซี่ยเจ๋อหลี่ สิ่งที่ส่งมาพร้อมกันคือจดหมายจากเจี่ยงสือเหิง

ฉินมู่หลานเปิดอ่านจดหมายของเจี่ยงสือเหิงก่อน หลังจากที่ได้ทราบว่าเขาอยู๋ที่ปักกิ่งเรียบร้อยดีก็รู้สึกโล่งใจ ขณะเดียวกันก็ได้เขียนจดหมายตอบกลับเขาไป แล้วจ่าหน้าซองตามที่อยู๋ที่พ่อบุญธรรมทิ้งเอาไว้ให้ เผื่อว่ามีโอกาสจะส่งของบางอย่างไป

หลังจากนั้น ฉินมู่หลานก็เปิดอ่านจดหมายของเซี่ยเจ๋อหลี่อีกฉบับ จึงได้ทราบว่าห้องครอบครัวดำเนินเรื่องเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เซี่ยเจ๋อหลี่กำลังตกแต่งห้องที่พวกเขาจะย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันในอนาคตหลังจากนี้อีกสองเดือน

แม้ว่าในจดหมายทั้งฉบับจะไม่มีคำหวานใดๆ แต่เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ได้พูดถึงเกี่ยวกับการจัดเตรียมห้องใหม่ ดูเหมือนว่าเขาอยากให้เธอไปที่นั่นโดยเร็ววัน ฉินมู่หลานจึงตั้งตารอเช่นกัน ภายในใจก็รู้สึกหวานชื่นขึ้น

หลังจากอ่านจดหมายของเซี่ยเจ๋อหลี่จนจบแล้ว ฉินมู่หลานก็เขียนตอบเขาด้วย โดยพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นล่าสุดที่บ้าน ในขณะเดียวกันก็ได้อธิบายเกี่ยวกับยาที่เธอจะส่งไปให้เขาด้วย เพื่อให้เขาได้ใช้ยามจวนตัวเมื่อต้องปฏิบัติภารกิจในอนาคต

เมื่อทำเรื่องพวกนี้เสร็จแล้ว ฉินมู่หลานก็ส่งจดหมายและสิ่งของทุกอย่างไปให้เจี่ยงสือเหิงและเซี่ยเจ๋อหลี่

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

อะไรหนอ? หรือว่าเหยาจิ้งจือจะหน้าตาเหมือนอดีตคนรักของเสิ่นเจิ้งอวี่?

เรื่องราวเริ่มซับซ้อนแล้วแฮะ

ไหหม่า(海馬)