“ เจ้าด่าข้า?” ใบหน้าของชายที่ดูดุร้ายเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันจากนั้นเขาก็ถามด้วยเสียงทุ้ม

“แน่นอน อยากให้ข้าพูดอีกครั้งไหม” เย่เฉินส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูด

“เจ้าเพียงแสดงเป็นคนใจกว้าง! ยังดีที่เจ้าอยู่ในเมืองลกเอี๋ยง มิฉะนั้น ข้าจะบอกเจ้าให้ว่าเจ้าจะถูกเหล่าคนที่แสร้งเป็นชื่นชมเจ้าในตอนนี้ทุบตีอย่างโง่เขลา!” ชายหน้าตาดุร้ายมองมาที่เย่เฉินด้วยท่าทางที่น่ากลัวและตะโกนออกมา

เมื่อเย่เฉินได้ยิน ดวงตาของเขาหรี่ลง และเจตนาฆ่าที่รุนแรงก็ปรากฏขึ้นในทันที

แต่ทันใดนั้นเสียงตบก็ดังขึ้น

“เจ้าก็กำลังเสแสร้งอยู่เช่นกัน ไสหัวไป ออกไปให้พ้นหน้าข้าเดี๋ยวนี้!”

ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินออกไปด้วยรูปลักษณ์ที่ทรงอำนาจ และเขาก็กระทืบชายที่ดูดุร้ายและเตะมันอย่างรุณแรง

ชายที่ดูดุดันที่ล้มลงไปแสดงสีหน้าราวกับกินอึเข้าไปในทันที

“ใครกล้า…” เขาที่ล้มนอนอยู่บนพื้นรีบลุกขึ้นทันทีและตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวแต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที

“หลิว…เช้าหลิว…คือ…ท่านเอง…” ชายที่ท่าทางน่ากลัวดตกใจเมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของชายหนุ่ม จากนั้นก็กล่าวออกมาอย่างตะกุกตะกัก

หลิวเชามองชายคนนั้นด้วยท่าทางเหยียดหยามและกล่าวว่า

“ออกไปให้พ้น! เจ้าดื่มเหล้าจนเมาแล้วยังกล้าที่จะรบกวนท่านเย่เฉิน ข้าให้เวลาเจ้าสิบนาทีออกจาลกเอี๋ยงไปซะ อย่าให้ข้าเจอเจ้าอีกไม่เช่นนั้นเจ้าได้ตายแน่ เจ้าคงรู้นะว่าข้าหมายถึงโลกไหน!”

“ข้า… ข้าจะไปเดี๋ยวนี้… ” ชายหน้าตาดุร้ายรับหันหลังกลับเข้าไปในฝูงชนแล้วหนีจากที่นี่ทันที

“เย่เฉิน ได้เจอกันซักที ให้ข้าแนะนำตัว ข้าชื่อหลิว…” หลิวเชามองทเย่เฉินและพูดอย่างกระตือรือร้น

เพียงแต่เย่เฉินขัดจังหวะเขาก่อนที่เขาจะพูดจบ

“การแสดงจบแล้ว?” เย่เฉินมองไปที่หลิวเชาและถามอย่างแผ่วเบา

ทันทีที่คำพูดของเย่เฉินจบลง ใบหน้าของหลิวเชนก็แข็งค้างทันที จากนั้นเขาก็ยิ้มและถามว่า: “ท่านเย่เฉินทำไมข้าไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านพูด“

“ข้าเคยได้ยินคำพูดหนึ่ง อยากรู้มั้ยว่ามันคืออะไร” เย่เฉินยิ้มอย่างสนุกสนานแล้วถาม

“มันคืออะไร?” หลิวเชาพยายามทำหน้ายิ้มแย้มแล้วถามออกมา

“อย่าเถียงกับคนโง่ เพราะมันจะทำให้ปัญญาของเจ้าอยู่ระดับเดียวกับมัน แล้วซักวันเจ้าจะกลายเป็นไอ้โง่เหมือนมัน” เย่เฉินพูดอย่างสงบโดยไม่ได้มองดูหลิวเชาเลยและหันหลังกลับเดินไปที่ชั้นสองของโรงเตี๊ยม

หลิวเชามองไปที่ด้านหลังของเย่เฉินใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงและสีน้ำเงินดูน่าเกลียดเป็นอย่างมาก

“บัดซบ! ดีนะที่ข้ายังไม่ได้ทำอะไรจนถึงตอนนี้ มารดาเถอะ ไอ้โง่คนนั้นเพิ่งกระโดดออกมาอวดเบ่ง”

“แน่นอน เจ้าไม่ได้ยินที่เย่เฉินพูดเหรอ อย่าโต้เถียงกับคนงี่เง่า คำพูดของเย่เฉินนั้นตรงไปตรงมา เขายังไม่ยอมรับอีกหลังจากได้ยิน ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าขำจะตายอยู่แล้ว”

“เจ้าเด็กคนนั้นต้องการจะเข้าหาเย่เฉิน มหาเทพเย่เฉินกลับไม่สนใจ เขาต้องการทำให้มหาเทพเย่เฉินรู้สึกขอบคุณ จากนั้นก็ขอให้มหาเทพเย่เฉินติดตามเขา มารดาเถอะ แผนเจ้าหนูนี้ไม่เลวเลย ”

“แผนเขาร้ายกาจมาก แต่ท่านเทพผู้ยิ่งใหญ่เย่เฉินนั้นเก่งกาจเกินไป เขาสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วเจ้าหนูนั้นก็กลายเป็นไอ้โง่ไปเลย“

“มารดามันเถอะ ข้าเกือบโดนเจ้าหมอนั้นหลอกแล้ว ไอ้โง่นั่นแสดงละครได้ดีมาก”

เหล่าผู้คนที่มุงดูอยู่พูดคุยกันอย่างออกรส

“เย่เฉิน! หยุดเดี๋ยวนี้!” หลินเชาที่ได้ยินการสนทนาของผู้เล่นรอบๆ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นเขาก็ตะโกนใส่เย่เฉินด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยว

ในขณะนั้นเองเย่เฉินก็หยุดเดิน และยกมือขวาขึ้นโดยไม่หันกลับมา จากนั้นเขาก็ค่อยๆยกนิ้วกลางขึ้น

“ พรึบ … ฮ่าฮ่าฮ่า … ”

“มารดามันเถอะข้าขำจะตายแล้ว“

เหล่าผู้ชมต่างพากันหัวเราะออกมาดังลั่น

“ไอ้โง่!” หลินเชาไม่สามารถทนได้อีกต่อไปเขาด่าออกมาอย่างรุนแรงจากนั้นก็หันไปทางเหล่าผู้นำ

โรงเตี๊ยมหยูเล่ย

“เย่เฉิน ในเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่ ข้าจะบอกเรื่องหนึ่งให้เจ้าฟัง” ผู้นำของเหล่าผู้เล่นกล่าวขึ้น

“ มีอะไร?” เย่เฉินขดริมฝีปากอย่างดูถูกและเดินขึ้นชั้นบนต่อไป

“ เย่เฉิน!” ใบหน้าเหล่าผู้นำเปลี่ยนไปทันทีที่เห็นเย่เฉินไม่สนใจพวกเขา แล้วตะโกนออกมาด้วยความโกรธ

อย่างไรก็ตามเย่เฉินก็ยังไม่สนใจเขาและยังคงขึ้นไปชั้นบน

“เย่เฉิน! เจ้าช่างกล้าหาญยิ่งนะ ข้าบอกให้เจ้าหยุด!” เสียงที่โกรธเกรี้ยวดังขึ้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เย่เฉินยังคงไม่หยุดเดิน ผ่านไปได้ครึ่งทาง เขาก็มอบพลังแห่งนิ้วกลางให้เหล่าผู้นำของผู้เล่นอีกครั้งโดยไม่ได้มองย้อนกลับไป

“แก!” ผู้นำของผู้เล่นใบหน้าแข็งค้างแล้วตะโกนด้วยความโกรธ

“สหายเย่เฉินโปรดรอสักครู่” จู่ๆก็มีเสียงถอนหายใจดังขึ้นมา

เย่เฉินเลิกคิ้ว แต่ก็ยังไม่หยุด

“สหายเย่เฉิน! ท่านต้องจำไว้ว่าท่านเป็นคนเอเชียและเป็นประชาชนของประเทศนี้ ท่านอย่าได้ลืมนี้ก็เพื่อประโยชน์ของท่านเอง!”

คำพูดนี้ช่างปลุกเร้าความรู้สึก และยังแสดงถึงความชอบธรรมที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คน

เย่เฉินถอนหายใจเมื่อได้ยินดังนั้น

เมื่อทุกคนคิดว่าเย่เฉินจะหยุดเดินและกลับลงมามาหารือเกี่ยวกับข้อมูลความลับของโลกแห่งเกมหรืออาจจะเข้าร่วมกองกำลังบางแห่ง

เย่เฉินยกมือขวาขึ้นและค่อยๆ กำหมัด ชูนิ้วกลางที่งดงามโผล่ขึ้นมาอีกครั้ง