WS บทที่ 146 นักเวทย์ระดับเจ็ด
“ถ้าพ่อมดลีโอไม่ว่าอะไร งั้นฉันขอให้พ่อมดเมอร์ลินมาที่หอคอยของฉันได้มั้ย?”
ทันใดนั้น แม่มดนาชาลุกยืนขึ้นและพูดกับพ่อมดลีโอด้วยรอยยิ้ม
“แม่มดนาชา?” เขาจ้องมองแม่มดนาชาด้วยสายตาซับซ้อน จากนั้นเขาก็พยักหน้า “ตามกฎของงานชุมนุม คุณต้องทําข้อตกลงกับพ่อมดเมอร์ลิน ถ้าเขาตกลงข้าจะไม่รั้งเขาไว้”
แม่มดนาชาพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ
พ่อมดลีโอเรียกเมอร์ลินขึ้นมา เมื่อเมอร์ลินมาถึง เขาก็เห็นนักเวทย์จํานวนมากที่อยู่ตรงนี้ เขาได้โค้งคํานับเล็กน้อยแล้วถามว่า
“อาจารย์ลีโอ ผมขอทราบได้มั้ยว่า ทําไมผมถึงถูกเรียกขึ้นมา” เมอร์ลินถามด้วยสีหน้าที่สงบราวกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวเขา
พ่อมดลีโอชี้ไปที่แม่มดนาชาและพูดขึ้นว่า “เมอร์ลิน แม่มดนาชาต้องการรับเจ้าเป็นลูกศิษย์ของเธอ เจ้ายินดีที่จะตามเธอไปมั้ย?”
เมอร์ลินหันไปมองแม่มดนาชา เขาพอจะรู้จักเธอมาบ้าง ตอนนั้นเขาได้เข้าเรียนคลาสฟรีที่แม่มดนาชาสอนเกี่ยวกับการสร้างโครงสร้างเวทมนต์
แม้ว่าเธอจะเป็นนักเวทย์ระดับสี่ได้ไม่นานแต่เธอก็ได้รับสั่งสอนนักเรียนของเธอให้เป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งมากมาย ถ้าพูดในส่วนของการสอนเหนือกว่าพ่อมดลีโอมาก
แม่มดนาชาพูดกับเมอร์ลินว่า “พ่อมดเมอร์ลิน คุณได้สร้างคาถาถึงหกธาตุแล้ว แม้ว่าความสามารถของคุณจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแต่การที่จะกลายเป็นนักเวทย์ระดับมันยากเกินไป อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณมาที่หอคอยของฉัน ฉันจะพยายามให้ดีที่สุดเพื่อช่วยคุณในการสร้างโครงสร้างเวทมนต์เพื่อให้กลายเป็นนักเวทระดับหนึ่ง” เธอพูดด้วยน้ําเสียงอันอบอุ่นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของเธอ
อย่างไรก็ตามเมอร์ลินได้ตัดสินใจไปแล้ว เนื่องจากนักเวทย์ระดับเจ็ดไม่เลือกเขาดังนั้นเขาจึงจะอยู่ในหอคอยของพ่อมดลีโอต่อ
แม้ว่าแม่มดนาชาจะสามารถช่วยในการสร้างโครงสร้างเวทมนต์แต่เขาได้รับความช่วยเหลือจากเดอะเมทริกซ์ มันสามารถสร้างคาถาที่แข็งแกร่งแบบที่แม่มดนาชาหรือนักเวทย์คนอื่น ๆ ไม่สามารถทําได้
ดังนั้นเมอร์ลินโค้งคํานับแม่มดนาชาด้วยความเคารพและกล่าวว่าอย่างใจเย็นว่า
“แม่มดนาชา ผมต้องขอขอบคุณที่คุณเลือกผมแต่ผมยังอยากอยู่ในหอคอยของอาจารย์ลีโอ”
เมื่อได้ยินการปฏิเสธของเมอร์ลิน แม่มดนาชารู้สึกผิดหวังแต่เธอก็หายจากอาหการเสียใจในไม่ช้า เหตุผลที่เธอเลือกเมอร์ลินก็เพราะว่าความสามารถของเขา เธอมั่นใจว่าถ้าเขาไม่ยอมแพ้เขาก็จะกลายเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งได้
แต่เมื่อเขาปฏิเสธ เธอก็ไม่สามารถบังคับเขาได้ เธอจึงหันกลับมาพูดกับพ่อมดลีโอว่า
“พ่อมดลีโอ พ่อมดเมอร์ลินเป็นนักเวทย์ที่ยอดเยี่ยม หากคุณสามารถสอนเขาให้กลายเป็นนักเวทระดับหนึ่งได้ มันจะพลิกโฉมหน้าของดินแดนมนต์ดําไปอย่างสิ้นเชิง”
พ่อมดลีโอคงนิ่งเอาไว้ เขาได้โบกและพูดกับเมอร์ลินว่า “เอาล่ะ งานชุมนุมได้สิ้นสุดแล้ว พาทุกคนกลับไปที่หอคอยด้วย”
เมอร์ลินพยักหน้า จากนั้นเขาก็ไปหาเอเลน่าและนักเวทย์คนอื่น ๆ
ทันทีที่เอเลน่าเห็นเขา เธอรีบเข้ามาหาเมอร์ลินอย่างรวดเร็วและถามว่า “เป็นอย่างไรบ้างมีนักเวทย์คนไหนมารับคุณเป็นลูกศิษย์มั้ย?”
นักเวทย์คนอื่น ๆ ก็สงสัยเช่นเดียวกัน
เมอร์ลินสายหัวและกล่าวว่า “มีแค่แม่มดนาชาแต่ฉันปฏิเสธไป”
“แม่มดนาชา?”
เอเลน่าตกตะลึง เธอมองไปที่เมอร์ลินและพูดว่า “การเป็นลูกศิษย์ของแม่มดนาชาก็ไม่ได้แย่นะ แม้ว่าเธอจะเป็นนักเวทย์ระดับสี่แต่ความสามารถในการสอนของเธอก็เป็นที่เลื่องลือในดินแดนมนต์ดํานะ” เอเลน่าได้หยุดพูดชั่วครู่และมองเมอร์ลินอย่างระวังและพึมพําว่า
“พวกนักเวทย์ระดับเจ็ด เขาคิดอะไรอยู่ ทําไมพวกเขาถึงเลือกพ่อมดเซซิลแทนที่จะเลือกคุณ”
เมอร์ลินไม่ได้พูดอะไรในเรื่องนี้ อันที่จริงแม่มดนาชาได้บอกเขาว่าสาเหตุที่พวกนักเวทระดับเจ็ดไม่เลือกเมอร์ลินก็เพราะว่าพวกเขาไม่คิดว่าเมอร์ลินจะกลายเป็นนักเวย์ระดับหนึ่งได้
“เอาล่ะ เรากลับไปที่หอคอยกันเถอะ”
เมอร์ลินกล่าวกับเอเลน่าและคนที่เหลือ จากนั้นเขาก็หันไปมองหอคอยที่อยู่สูงเหนือท้องฟ้า
“ถึงจะไม่มีใครมาช่วยเหลือ ฉันก็สามารถกลายเป็นนักเวทเวทย์ระดับหนึ่งได้!” เมอร์ลินกล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น
“เมอร์ลิน มานี่หน่อยสิ”
หลังจากที่เมอร์ลินมาถึงหอคอยได้ไม่นาน เขาก็ได้รับข้อความจากพ่อมดลีโอทันที ตัวเขาตกใจเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้เมอร์ลินได้ทําผลงานที่ดีมาก เขาอันดับสองในงานชุมนุมนักเวทย์ซึ่งเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของพ่อมดลีโอและเขาควรจะได้รางวัลตามที่พ่อมดลีโอสัญญาไว้
เมอร์ลินได้มาถึงชั้นบนสุดของหอคอยอย่างรวดเร็วและเคาะประตูห้องของพ่อมดลีโอ
“เข้ามา”
เมอร์ลินผลักประตูออกและเห็นพ่อมดลีโอนั่งบนเก้าอี้
“อาจารย์ลีโอ มีเรื่องอะไรหรือขอรับ” เมอร์ลินถามออกมาเบา ๆ เขามองเห็นดวงตสีแดงที่ปิดอยู่ ทําให้เขารู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาในใจ
“เมอร์ลิน ข้าพอใจที่กับศักยภาพของเจ้าในงานชุมนุมมาก ตามที่ข้าให้สัญญาไว้ ข้าจะมอบคาถาระดับหนึ่งที่เจ้าต้องการ” เขากล่าวด้วยน้ําเสียงเย็นชา
หลังจากที่เขาหยุดชั่วคราวก็พูดต่อ “ไม่ต้องไปสนใจคนพวกนั้นหรอก ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ได้ปรามาสข้าว่าข้าไม่สามารถหลอมดวงตาแห่งความมืดเข้ากับร่างกายได้แล้วตอนนี้เป็นไงข้าสามารถทําได้!”
พ่อมดลีโอลุกยืนขึ้น ดวงตาสีแดงได้เปิดออกทันที ในเวลาเดียวกันเขาได้ปลดปล่อยออร่ามันเข้มข้นออกมา มันสร้างแรงกดดันอย่างมหาศาลต่อเมอร์ลิน
เมอร์ลินถามใครต่อใครมากมายแต่ไม่มีใครรู้ว่าดวงตาแห่งความมืดมันใช้งานยังไง ถึงเขาจะไม่รู้ว่ามันใช้งานยังไงเขาก็ไม่คิดจะดูเบามัน
จู่ ๆ เมอร์ลินก็นึกขึ้นได้ว่าพ่อมดลีโอเป็นนักเวทย์ระดับหกที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามทําไมเขาถึงไม่กลายเป็นนักเวทย์ระดับเจ็ด
ดังนั้นเมอร์ลินจึงถามไปว่า
“อาจารย์ลีโอ ที่ดินแดนมนต์ดําก็มีนักเวทย์ระดับเจ็ดจํานวนหนึ่ง ทําไมอาจารย์ถึงยังไม่กลายเป็นนักเวทย์ระดับเจ็ดเหมือนกับพวกเขาล่ะขอรับ”
หลังจากที่ได้ยินคําถามของเมอร์ลิน พ่อมดลีโอสะดุ้งเล็กน้อย เขาก็นั่งลงอย่างช้า ๆ และพูดด้วยน้ําเสียงอันสงบว่า
“นักเวทย์ระดับเจ็ดงั้นเหรอ? เจ้ารู้หรือไม่ว่านักเวทย์ระดับเจ็ดมันคืออะไร”
เมอร์ลินส่ายหัว เขาไม่เข้าใจอะไรมากนัก เขารู้เพียงแค่ว่านักเวทย์ระดับเจ็ดเป็นบุคคลที่อยู่จุดสูงสุดของดินแดนมนต์ดํา
พ่อมดลีโอกล่าวว่า “โครงสร้างเวทย์มนต์คาถาระดับหกมีอยู่จํากัด อัจฉริยะบางคนก็ได้สร้างคาถาระดับหกขึ้นมาเองโดยไม่ต้องพึ่งโครงสร้างคาถาของนักเวทย์ระดับหกคนอื่น
สาเหตุที่แบ่งคาถาเป็นระดับหนึ่ง สอง สามและอื่น ๆ ก็มีไว้เพื่อให้นักเวทย์ทําความเข้าใจ คาถาได้ง่ายขึ้นตามความสามารถที่มี”
เมอร์ลินค่อนข้างตกใจกับเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน
พ่อมดลีโอกล่าวต่อ “นักเวทย์ควรมีทั้งความรู้ พลัง ความกล้าหาญละความสร้างสรรค์ นี่สถึงจะเรียกนักเวทย์ที่แท้จริง คาถามากมายที่พวกเราใช้มาจนถึงทุกวันนี้ มันได้ผ่านการทดลองมากมายนับไม่ถ้วน
สําหรับคนที่เป็นนักเวทย์ระดับหกและต้องการเป็นนักเวทย์ระดับเจ็ด คน ๆ นั้นต้องสร้างคาถาขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเองเพราะว่ามันไร้ประโยชน์ที่จะใช้โครงสร้างเวทมนต์ของคนอื่น มันต้องสร้างขึ้นมาใหม่เท่านั้น หากผ่านขั้นตอนที่ยุ่งยากนี้ไปได้ คน ๆ นั้นก็จะกลายเป็นนักเวทย์ระกับเจ็ด
ที่นี้เจ้าพอจะรู้ถึงความยากของการเป็นนักเวทย์ระดับเจ็ดแล้วใช่มั้ย แม้ว่าข้าจะมีดวงตาแห่งความมืดแต่ก็ยังไม่สามารถสร้างคาถาใหม่ที่เหมาะกับตัวเองได้ ดังนั้นข้าจะไม่ได้เป็นนักเวทย์ระดับเจ็ดซะที”
เมอร์ลินรู้สึกตกใจ นักเวทย์หลายต่อหลายคนต่างประสบปัญหาในการปรับปรุงโครงสร้างเวทมนต์ให้เข้ากับตัวเอง แค่นี้ก็ยุ่งยากมากแล้ว ไม่ต้องพูดถึงการสร้างใหม่ทั้งหมด มันต้องใช้องค์ความรู้มากมายถึงจะสร้างออกมาได้ในแต่ละส่วน
ดังนั้นผู้ที่สามารถเป็นนักเวทย์ระดับเจ็ดได้จะถือว่าเป็นจอมเวทย์ที่แท้จริง เมอร์ลินก็อาจจะไม่สามารถไปถึงจุดนั้นได้แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากเดอะเมทริกซิก็ตาม
บางทีหลังจากที่เดอะทริกซ์รวบรวมคาถานับล้านหรือบันทึกข้อมูลจํานวนมหศาลได้แล้ว มันถึงจะสามารถสร้างคาถาใหม่ได้
“เอาล่ะ เมอร์ลิน ข้าจะให้คาถาระดับหนึ่งตามที่เจ้าต้องการ นอกเหนือจากคาถาแล้ว เจ้าสามารถขออย่างอื่นได้ ถ้ามันช่วยให้เจ้ากลายเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่ง เขายินดีที่จะมอบให้เจ้า”
ดวงตาสีแดงของพ่อมดลีโอกระพริบช้า ๆ มันกําลังจ้องมองมาที่เมอร์ลิน ริมฝีปากของเขาบดขึ้นเล็กน้อยฉายรอยยิ้มอันขี้เล่นออกมา