ตอนที่ 95 ครอบครัวหรือศัตรู
แม้ว่ามู่หย่าเจ๋อจะเป็นพ่อผู้ให้กําเนิด แต่เขาก็ไม่ยอมให้แม่ของเขาต้องทนทุกข์ทรมาน ไม่เว้นแม้แต่พ่อ
แม้หมายความว่าเขาจะไม่มีวันเห็นหรือรู้จักกับพ่อเลยทั้งชีวิต!
มู่หย่าเจ๋อยืนอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน เขาตกตะลึงกับคําพูดนั้น
เพียงคําพูดไม่กี่คําหยุนเทียนโย่วกลับแสดงท่าทางของเขาชัดเจน
คําพูดที่ฟังดูเรียบง่าย แต่แฝงความลึกลับ
มู่หย่าเจ๋อรู้สึกประหลาดใจกับเด็กชายคนนี้
เขาประหลาดใจกับความกล้าหาญที่โตเกินวัยและความไม่ทําตัวเหมือนเด็กของเด็กชายคนนี้
ความปรารถนาที่จะปกป้องแม่ของเขานั้นแข็งแกร่ง ต่อหน้าหยุนซือซือเขาเป็นเด็กเชื่อฟังและว่านอนสอนง่าย แต่เบื้องหลังที่แท้จริงเขาเป็นเทพผู้คุ้มครองของเธอภายใต้ปีกที่ปกป้องและการดูแลด้วยความรักที่อ่อนโยน และจะไม่มีใครทําร้ายเธอได้
สิ่งที่น่าตกใจกว่าคือคําพูดสุดท้ายของเขา เขาหมายถึงอะไร?
ครอบครัวหรือศัตรู?
ครอบครัว?
ครอบครัว?!
ความคิดที่ไม่ชัดเจนและแปลกประหลาดทําให้ความคิดของมู่หย่าเจ๋อหยุดอยู่ชั่วขณะ
ลูกชายของผู้หญิงคนนี้อายุแค่ห้าถึงหกขวบ แต่กลับฉลาดมาก
ไม่ว่าจะเป็นเสียง อารมณ์หรือแม้แต่โครงร่างของใบหน้า เพียงแวบเดียวก็สัมผัสได้ว่าเขาเหมือนกับเสี่ยวอี้เฉินทุกประการ
เสี่ยวอี้เฉินเป็นลูกชายของเขาและของผู้หญิงคนนี้ด้วย เธอให้กําเนิดทายาทตระกูลมู่
ผู้คนบอกว่าลูกชายเหมือนแม่ ลูกสาวเป็นเหมือนพ่อ และเสี่ยวอี้เฉินมีใบหน้าและรูปร่างเหมือนของแม่
หยุนเทียนโย่วคนนี้อายุหกขวบเหมือนอี้เฉิน
มู่หย่าเจ๋อค่อนข้างตื่นตระหนกในขณะที่เขาพิจารณาต่อไป
เขาสืบถึงผู้หญิงคนนี้แต่ไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับเธอมากนักและไม่มีการพูดถึงว่าเธอมีลูกชาย
เด็กชายคนนั้นเป็นลูกชายที่เธอให้กําเนิดหรือเปล่า? ถ้าเป็นแบบนั้นพ่อของเขาคือใคร?
เมื่อนึกถึงคําที่หยุนเทียนโย่วเพิ่งเตือนเขาทางโทรศัพท์ที่ละคํา“ ครอบครัวหรือศัตรู คุณเลือกมา” ทําให้เขาตกใจมากขึ้น
เขาเกิดความคิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาจําได้ว่าการตั้งครรภ์ของหยุนซือซื้อเมื่อ 6 ปีก่อนระบุว่าเธอกําลังอุ้มลูกแฝด
และความคิดที่ไม่น่าเชื่อก็ก่อตัวขึ้นทันทีในใจของเขา
ภายในคอนโดมิเนียมหยุนซือซื้อนั่งอยู่ที่โต๊ะอย่างไม่สนใจ ไหล่ของเธอยังคงสั่น
ชายคนนั้นคือฝันร้ายของเธอ เธอสั่นสะท้านด้วยความกลัวเมื่อคิดว่าผู้ชายคนนั้นจะพรากลูกไปอย่างโหดร้ายถ้าได้พบความจริงเกี่ยวกับโย่วโย่ว
ไม่…โย่วโย่วคือทั้งหมดที่เธอมี
หลี่หานหลินนั่งอยู่ข้างๆและมองเธออย่างเงียบ ๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสารและเอ็นดู
เธออายุยี่สิบสี่ปีแล้ว แต่รูปลักษณ์เธอยังคงดูอ่อนเยาว์และสวยงาม เธอน่าพึงถึงขนาดที่เขาไม่สามารถละสายตาไปได้
พระเจ้าใจดีกับเด็กผู้หญิงคนนี้และอวยพรเธอด้วยทรัพย์สินทั้งหมด
เขามุ่งความสนใจไปที่เธอจนไม่ทันสังเกตว่าหยุนเทียนโย่วกําลังมองเขาด้วยความสงสัยและไม่พอใจจากด้านหลัง เด็กชายตัวน้อยกระแอมในลําคอเสียงดัง
“อะแฮ่ม!”
หลี่หานหลินสะดุ้งกลับมามีสติ เขาเห็นหยุนเทียนโย่วเสิร์ฟชาสมุนไพรอินทผาลัมสีแดงให้หยุนซือซือ ในขณะที่หรี่ตาลงอย่างเหยียดหยามราวกับเขากําลังถามว่า ”กําลังคิดว่าจะแตะต้องแม่ของผมเหรอ?! “
เขารีบเรียกหยุนเทียนโย่วเพื่อขอการให้อภัยและเอ่ยปากอย่างเงียบ ๆ “ ท่านประธานหยุน อย่าเข้าใจผิดสิครับ!”
เขาจะไม่มีวันกล้าแตะหยุนซือซื้อแน่
ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอจะสนใจเขา ตราบใดมีภูติตัวน้อยอย่างหยุนเทียนโหยวอยู่ตรงนี้เขาจะมีโอกาสได้อย่างไร?
“แม่ดื่มชานี้หมดแล้วก็ไปพักผ่อนกันเถอะครับ!” โย่วโย่วมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก
ไม่ว่าเขาจะเฉยเมยต่อคนอื่นแค่ไหนแต่ก็มักจะอ่อนโยนและห่วงใยต่อหน้าแม่ และเมื่อรู้ว่าสองสามวันนี้เธอไม่ค่อยสบายเขาจึงต้มชาแดงสมุนไพรให้เธอ
หยุนซือซือรู้สึกสบายใจเมื่อลูกชายเสิร์ฟชาสมุนไพร “โย่วโย่ว เด็กดีของแม่จริงๆ!”