ตอนที่ 83 คานบ้าน
“เฮ้ เจ้าคนป่าไม่รู้ชั่วดี! เจียวเจียวลูกสาวของข้าเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เจ้ายังลงมือกับนาง เจ้าคนป่า…ข้าบอกไว้เลย หากวันนี้ไม่จ่ายเงินมายี่สิบตําลึง พวกข้าไม่ยอม จบเรื่องง่าย ๆ แน่!”
นี่มันคือการขู่กรรโชกทรัพย์ซึ่ง ๆ หน้า หยุนเคอ โกรธจนหน้าทะมึน เขาปล่อยลมหายใจเย็นเยียบอยู่ตรงหน้าเฉินฉ่เกินและภรรยา ทั้งคู่พลันหวาดกลัวจนเดินถอยไปสองก้าว
เมื่อภรรยาของเฉินฉ่เกินได้สติ ก็ทั้งโกรธทั้งอาย นางแผลงฤทธิ์อยู่ในหมู่บ้านนี้มานานหลายปีเคยกลัวใครเสียเมื่อไหร่!
“ข้า…ข้าเตือนเจ้าแล้วนะ หากเจ้าไม่ยอมจ่ายเงิน ข้าจะไปที่ศาลเพื่อฟ้องเจ้า…ฟ้องที่เจ้ารังแกลูกสาวของข้า!”
หยุนเคอยิ้มอย่างเย็นชาแล้วก้าวไปข้างหน้า “เจ้าจะบอกเจ้าหน้าที่ศาลว่าข้ารังแกเจ้าอย่างไรหรือ?”
ขณะที่พูดเขากระชากคอปกเสื้อของเฉินฉู่เกินแล้วเหวี่ยงออกไปอย่างรุนแรง เฉินฉู่เกินถูกแขวนอยู่บนต้นไม้ใหญ่หน้าที่ดินรกร้าง ห้อยต่องแต่ง เขากรีดร้องจนกระทั่งรดกางเกง
ภรรยาของตนนั้นแข็งแกร่งมาตลอด เฉินฉู่เกินรู้แก่ใจดีแต่ตอนนี้หยุนเคอไม่ทําร้ายผู้หญิง กลับเลือกลงมือกับผู้ชายด้วยมือเพียงข้างเดียว ทําให้ทุกคนต่างปรบมือชื่นชม!
พละกําลังอันแข็งแกร่งของหยุนเคอ ได้รับการยกย่องมานานแล้ว!
ในสังคมที่ระบบกฎหมายพื้นฐานไม่สมบูรณ์ มักมีคนพาลเข้ามารบกวนชาวบ้านอยู่เสมอ แต่หากมีหนึ่งคนที่ทักษะยอดเยี่ยม และอาจปกป้องคนทั้งหมู่บ้านได้
ตอนนี้สามีของนางถูกแขวนไว้บนต้นไม้ ภรรยาของเฉินฉู่ เกินยิ่งอับอาย!
แต่ผู้หญิงอย่างนี้หาเจอพบยาก แม้ว่าจะอับอายแต่ก็ไม่ยอมร้องขอความเมตตา นางนั่งลงกับพื้นแล้วพ่นก่นด่าสาปแช่ง “คนป่าจากภูเขาลงมาข่มเหงคนในหมู่บ้านของเรา แต่พวกเจ้ายังคงปรบมือชื่นชม ช่างไม่มีจิตสํานึกกันเลยสัก คน!”
เวลานี้ เฉินเถียนเถียนในฐานะเจ้าของที่ดินรกร้างแห่งนี้ลุกขึ้นยืน!
“ข้าคิดว่าเป็นครอบครัวของท่านที่ต้องการสร้างปัญหาให้ข้า เมื่อวานตอนที่ข้าไม่อยู่บ้าน ท่านก็ส่งลูกสาวมาสร้างปัญหา และวันนี้ทั้งครอบครัวก็พากันมาอีกครั้ง! จงใจจะบีบบังคับข้าใช่หรือไม่?”
หากเป็นชายป่าเถื่อนคนนั้นภรรยาของเฉินฉู่เกินคงจะหวาดกลัว แต่เมื่อเป็นหญิงสาวตัวเล็กข้างหน้านี้นางหาได้กลัวไม่!
ดังนั้นนางจึงลุกขึ้นยืนอีกครั้ง “ข้าคือใคร? เจ้าต่างหากที่เป็นตัวสร้างปัญหา วุ่นวายกันทั้งครอบครัว เจ้าต้องการก่อกวนคนทั้งหมู่บ้านจึงวิ่งออกมาให้คนช่วยใช่หรือไม่?”
เฉินเถียนเถียนหงุดหงิดขึ้นมาทันที หญิงผู้นี้ช่างไร้ยางอายไม่มีใครเทียบ!
หยุนเคอเอ่ยเตือนนางอย่างเย็นชา “จะพูดจาดี ๆ หรือไม่? หากเจ้าพูดไม่ดี ข้าจะส่งเจ้าไปอยู่กับสามีซะ!”
เดิมที่ภรรยาของเฉินฉู่เกินผู้นี้เป็นคนพาลและชอบกลั่นแกล้งผู้อื่น แต่คราวนี้เจอผู้ที่แข็งแกร่งและไม่อ่อนข้อให้จึงรีบหดคอกลับไปทันที
“ข้าไม่อยากทําร้ายผู้หญิง เจ้าอย่ามาก่อกวนที่นี่! ไม่อย่างนั้นอย่าได้กล่าวโทษหากว่าข้าหยาบคาย!”
ดวงตาและน้ำเสียงที่เย็นชาของหยุนเคอราวกับอสรพิษที่พุ่งเข้าหาภรรยาของเฉินฉ่เกิน
แม้ว่าจะวิ่งไปไกลแล้ว ผู้คนที่ยืนอยู่ก็ยังได้ยินเสียงปิดประตู!
ปากของทุกคนกระตุกขึ้นพร้อมกัน ช่างหน้าด้านจริงเชียวผู้หญิงคนนี้
ตัวก่อปัญหาวิ่งหนีไปแล้ว แล้วเฉินฉ่เกินที่ห้อยอยู่บนต้นไม้ล่ะ?
หยุนเคอจับเสาไม้ไผ่เงียบ ๆ จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปบนต้นไม้แล้วดึงเขาออกมา ทันใดนั้นก็คว้าเสื้อคนที่ห้อยอยู่บนต้นไม้ก็ห้อยโตงเตงอยู่กลางอากาศ ในขณะที่เกิดเหตุการณ์นี้ เฉินฉู่เกินก็ยังกรีดร้องอย่างต่อเนื่อง!
มีกลิ่นประหลาดโชยออกมาจากร่างกายของเขา หยุนเคอ ผู้รักความสะอาดจึงรีบโยนเฉินฉู่เกินออกไปทันที
เฉินฉู่เกินยังคงกรีดร้องอยู่นาน กว่าจะรู้ตัวว่าตนเองได้ลงมาสู่พื้นโลกแล้ว!
เขาตะเกียกตะกายด้วยความตื่นตระหนกและวิ่งกลับบ้านไป!
แม้ว่าปกติหยุนเคอจะดูถูกคนเหล่านี้ แม้กระทั่งเอ่ยถ้อยคําเสียดสี!
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแสดงความสามารถที่แท้จริงต่อหน้าทุกคน พวกเขากลัวว่าจะทําให้หยุนเคอไม่พอใจต่างก็ พากันหดคอลงและหวังว่าจะไม่ถูกคนผู้นี้โกรธเคือง!
“แม่นางเฉิน ตอนนี้หมดปัญหาแล้วอากาศดี ๆ แบบนี้พวกเรารีบต่อคานกันโดยเร็วเถิด!”
เมื่อเฉินผิงเหอเอ่ยขึ้นมาทําลายความเงียบ ทุกคนจึงกลับไปทํางานกันต่อ! มีเรื่องเดียวที่เปลี่ยนไปคือผู้คนต่างมองไปที่ หยุนเคอด้วยความยําเกรงและชื่นชม!
หยุนเคอสงบนิ่งราวกับว่าเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องจริงจัง เขายังคงแบกคานคนเดียวและปีนขึ้นไปบนหลังคา!
ชายร่างใหญ่สองสามคนสร้างคานเสร็จภายในวันเดียว จากนั้นเพื่อนบ้านก็เข้ามาและช่วยกันปูกระเบื้องมุงหลังคาต่อ
บ้านสร้างเสร็จแล้ว แต่มีเพียงแค่เด็กสาวตัวเล็ก ๆ และผู้คนก็ไม่ทําให้เธอรู้สึกอับอาย นางต้องมีห้องที่อบอุ่น!
ป้าหวงดึงเฉินเดียนเถียนออกมาด้วยความกระตือรือร้น โดยอาสาจะช่วยนางย้ายของที่ยังเหลืออยู่ในตระกูลเฉิน
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ป้า ๆ หลายคนพูดคุยและหัวเราะตามเฉินเถียนเถียนเข้าไปในลานบ้านตระกูลเฉิน
ตั้งแต่เฉินเถียนเถียนเปลี่ยนเป็นคนใหม่ นางก็ไม่เคยทํางานบ้านอีกเลย หลินชวนฮวานั้นขี้เกียจจนเป็นนิสัยและ บางครั้งก็ต้องเข้าไปในเมืองเพื่อพบกับชู้รัก ดังนั้นจึงไม่มี เวลามาจัดบ้านหรือทําความสะอาดลานหน้าบ้าน!
ทันทีที่ทุกคนเข้าไปในประตูก็เห็นสนามหญ้ารก ๆ และ ตอนนี้มีไก่สองตัวอยู่ในบ้าน มันกําลังบินขึ้นลง สนามหญ้ามีเศษมูลไก่กระจัดกระจาย
ป้าสองสามคนที่ชอบทําความสะอาดบ้านปิดป่ากและจมูกทันที สีหน้ารังเกียจเผยออกอย่างไม่คิดปิดบังผู้ใด!
“หลินชวนฮวาแต่งตัวสวยทุกวัน แต่ดูลานบ้านนี้สิ! ผู้หญิงที่ไม่สนใจทํางานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ช่างน่าอายยิ่ง เฉินผิงอันก็ช่างทนได้!”
“ใช่แล้ว! ข้าคิดว่าทุกวันนี้นางเป็นคนอ่อนโยนและอ่อนแอ ปรากฏว่าใช้ชีวิตอย่างกับอยู่ในคอกหมู! ไม่รู้ว่านางไปไหนตอนกลางวันแสก ๆ ลูกที่บ้านก็ไม่สนใจ!”
เฉินเถียนเถียนปิดปากลอบขา แต่เมื่อมองลงไปที่พื้นก็หัวเราะไม่ออก ได้แต่อดกลั้นเอาไว้จนตาแดงก่ำ
“ตอนข้าอยู่ที่บ้าน งานบ้านทั้งหมดข้าเป็นคนทํา แต่ท่านแม่กลับยกความดีความชอบให้ตัวเอง ดูเอาเถิดข้าไม่อยู่ สองสามวันบ้านก็กลายเป็นเช่นนี้ ท่านแม่นี่เหลือเกินจริงๆ!”
“น่าเสียดายที่ท่านพ่อมักจะไม่ฟังพวกข้า! ช่างเถิด แม้แต่ครอบครัวก็แตกแยก ข้าคงไม่สามารถจัดการอะไรได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว! “
หลังจากที่เฉินเถียนเถียนพูดจบ ก็พาทุกคนเข้าไปในโรงเก็บไม้ แต่บนกองไม้ ผ้าปูที่นอนทั้งแข็งหยาบและเกรอะกรังหายไปแล้ว!