ตอนที่ 2

The simple life of the emperor

เทียนหลางลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสำรวจสภาพโดยรอบอย่างใจเย็นจากนั้นรอยยิ้มของเขาก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นช้า ๆ

”เยี่ยม ! การมาจุติของฉันสำเร็จ !”

แต่ในขณะที่เทียนหลางกำลังดีใจอยู่นั้นเขาก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง

”เดี๋ยวก่อนนะ ! ทำไมข้าถึงมาอยู่ในร่างของเจ้าหนุ่มนี่ได้กันหล่ะ ? ไม่ใช่ว่าข้าจะต้องกลายเป็นทารกหรอกหรือ ? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?”

เทียนหลางสำรวจตัวเองพร้อมกับนึกถึงความทรงจำเก่า ๆ ของเจ้าของร่างนี้ ไม่นานนักเทียนหลางก็เข้าใจทุกอย่างจนแจ่มชัด เจ้าของร่างนี้ชื่อเทียนหลางเช่นเดียวกับเขาเป็นเด็กหนุ่มอายุ 17 ที่มีความฝันว่าจะเรียนต่อมหาลัยที่เมืองหลวงครอบครัวของเทียนหลางนั้นมีธุระกิจเล็ก ๆ ก็คือการเปิดร้านอาหารซึ่งรายได้ก็ไม่ค่อยจะดีนักและเกือบจะเจ๊ง

ดังนั้นความฝันที่เขาจะเข้าเรียนต่อมหาลัยที่เมืองหลวงก็กลายเป็นหมันไปทำให้เขานั้นเศร้าเสียใจไม่น้อย แต่สิ่งที่ทำให้เทียนหลางคนเก่านั้นตายสาเหตุนั้นก็คือการช้ำใจจากคนรักของเขาที่คบกันมานานถึง 3 ปี ซึ่งต้นเหตุของการเลิกลากันก็คือการที่เขานั้นจนและเพราะการบอกเลิกของแฟนสาวนั้นทำให้เทียนหลางเจ็บช้ำน้ำใจจนตรอมใจตาย

เมื่อเทียนหลางเข้าใจทุกอย่างเขาก็ได้แต่ส่ายหัวเบา ๆ

‘เหตุใดเด็กหนุ่มในโลกมนุษย์สมัยนี้ถึงได้จิตใจบอบบางเช่นนี้กัน’

‘ในเมื่อข้าได้มาอยู่ในร่างของเจ้าแล้วนั่นก็แปลว่าเจ้าและข้ามีชะตาต้องกัน ข้าจะดูแลพ่อและแม่ของเจ้าเองและจะทำให้ทุกคนที่เคยเหยียดหยามเจ้านั้นต้องคุกเข่าต่อหน้าดวงวิญญาณของเจ้าแน่นอน’

เทียนหลางได้รู้มาอีกนิดหน่อยจากความทรงจำเก่า ๆ ว่าเทียนหลางคนเก่านั้นถูกจัดเป็นพวกชนชั้นสามในโรงเรียน ซึ่งมักจะโดนดูถูกเหยียดหยามบ่อย ๆ ด้วยเพราะสถานะครอบครัวหรือเพราะทักษะเฉพาะตัวที่อ่อนแอ

”นึกไม่ถึงเลยว่าโลกที่พัฒนาแล้วจะมีการแบ่งชนชั้นกันแม้แต่ในโรงเรียน มนุษย์นี่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยไม่ว่าจะกี่หมื่นกี่แสนปี”

เทียนหลางลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปที่กระจกบานใหญ่ภายในห้องพร้อมกับจ้องมองรูปลักษณ์ของเขา เมื่อเทียนหลางจ้องมองอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วก็พบว่าเทียนหลางนั้นมีหน้าตาที่ออกจะธรรมด๊าธรรมดาเป็นอย่างมากเรียกได้ว่าหากเขาฆ่าคนและทำตัวเนียนแอบแฝงไปกับกลุ่มคนใหญ่ ๆ ก็คงไม่มีใครสังเกตุเห็นอย่างแน่นอน

”ถึงแม้จะดูธรรมดาสามัญแต่หากบ่มเพาะไปจนถึงขั้นเปลี่ยนกระดูกแล้วหล่ะก็คงกลายเป็นหนุ่มที่หล่อเหลาเป็นอย่างมากเลยทีเดียว”

เทียนหลางคิดจะเริ่มบ่มเพาะใหม่ตั้งแต่ต้นเพราะการที่เขานั้นกลับจุติใหม่ทำให้การบ่มเพาะของเขากลายเป็นศูนย์ เทียนหลางคาดว่าเขาน่าจะใช้เวลาไม่นานนักที่เขานั้นจะเลื่อนไปถึงขั้นเปลี่ยนกระดูกตามที่เทียนหลางคาดเขาน่าจะใช้เวลาประมาณครึ่งเดือน ขั้นเปลี่ยนกระดูกนั้นเป็นขั้นย่อยที่สามของการบ่มเพาะแรกเริ่มจึงใช้เวลาไม่นานนัก แต่คนปกตินั้นจะใช้นานหลายปีกว่าจะมาถึงขั้นเปลี่ยนกระดูกได้

และเหตุที่ทำให้เทียนหลางบ่มเพาะได้รวดเร็วนั้นก็คือ แหวนมังกรดำที่อยู่บนนิ้วชี้มือซ้ายของเขามันคือสมบัติสวรรค์ที่ช่วยในการบ่มเพาะเหตุที่มันติดตัวเทียนหลางมาด้วยนั้นก็เพราะมังกรดำคือรากฐานจิตวิญญาณของตัวเขานั่นเอง ดังนั้นไม่ว่าเทียนหลางจะไปเกิดใหม่อีกกี่ครั้ง หรือจุติอีกกี่หนแหวนมังกรดำก็จะอยู่กับเขาไปตลอด

ในระหว่างที่เทียนหลางกำลังสำรวจตัวเองอยู่นั้นเขาก็รู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังพัวพันอยู่กับขาของเขาเมื่อเขาจ้องมองลงไปก็พบกับแมวสีขาวตัวอ้วนกลมกำลังคลอเคลียเขาอยู่เทียนหลางก้มตัวลงไปอุ้มมันขึ้นมาก่อนจะพูดกับมันเบา ๆ

”ว่าไงเจ้าขาว ต่อไปนี้ฉันจะดูแลแกเอง”

เทียนหลางคนเก่านั้นไม่ค่อยมีเซ้นท์ด้านการตั้งชื่อนักแต่เขาก็เป็นคนที่มีจิตใจเมตตาและรักสัตว์เป็นอย่างมากจึงได้รับเลี้ยงเจ้าแมวขาวตัวนี้มาเมื่อตอนมันยังเล็กและตั้งชื่อมันว่าเจ้าขาว

นอกเหนือจากพ่อแม่และร้านอาหารบัวหยกของครอบครัวแล้วก็มีแต่เจ้าขาวนี่แหละที่ทำให้เทียนหลางคนเก่ามีเป้าหมายในการมีชีวิตอยู่ในโลกอันแสนเน่าแฟะต่อไปได้ และเมื่อเทียนหลางมาคิดถึงจิตใจของเทียนหลางคนเก่าแล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าเศร้าหมองออกมา แม้ชีวิตในโลกนี้จะไม่โหดร้ายเท่าโลกอื่น ๆ แต่มันก็ยากที่เด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

หลังจากจัดการทุดอย่างดีแล้วเทียนหลางก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ

”จากจักรพรรดิเทียนหลางผู้ยิ่งใหญ่ กลายเป็นเทียนหลางผู้ตกต่ำไปสะได้”