WS บทที่ 148 คาถาระดับหนึ่ง
เมอร์ลินหันไปมองทางต้นเสียงก็พบกับแม่มดร่างอวบรีลลิส
“สวัสดีแม่มดรีลลิส”
เมอร์ลินกล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้ม ตัวเขาไม่รู้จักใครมากนัก เขารู้จักเพียงไม่กี่คนเท่านั้นซึ่งแม่มดรีลลิส เขาได้รู้จักผ่านการทําภารกิจที่เมืองดอนกลิ่น
“คุณมาเลือกคาถาระดับหนึ่งด้วยงั้นเหรอ?”
เมื่อรีลลิสเห็นตําราคาถรูปปั้นผู้พิทักษ์ในมือของเมอร์ลิน เธอก็ได้แสดงอาการประหลาดใจออกมา
ตอนนี้ชื่อเสียงในฐานะนักเวทย์หกธาตุของเมอร์ลินดังกระฉ่อนไปทั่วดินแดนมนต์ดํา หากเขาสามารถกลายเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งได้ พลังของเขาก็จะเหนือว่าไคลส์ด้วยซ้ํา
อย่างไรก็ตาม นักเวทย์ระดับเจ็ดกลับไม่เลือกเขา นี่แสดงให้เห็นว่าพวกเขามามั่นใจว่าเมอร์ลินจะสามารถเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งได้ หลายคนจึงคิดว่าเมอร์ลินจะถูกไล่ออกจากที่นี่หลังจากผ่านไปสองปี
เมอร์ลินพอจะเดาได้ว่ารีลลิสคิดอะไรอยู่ เขาส่ายหัวเล็กน้อยและพูดด้วยน้ําเสียงเย็นชาว่า “ฉันแค่มาดูคาถาระดับหนึ่งเพื่อเตรียมตัวสําหรับอนาคต จริงสิ ไม่ใช่ว่าคุณได้รับคาถาเพลิงพิโรธจากภารกิจที่เมืองดอนกลิ่นไม่ใช่เหรอ ทําไมคุณถึงมาเลือกคาถาระดับหนึ่งด้วยล่ะ” เมอร์ลินก็เหลือบไปเห็นตําราเวทมนต์ในมือเธอด้วยเช่นกัน
แม่มดรีลลิสพยักหน้าอย่างเข้าใจ แม้เธอจะคิดว่าเมอร์ลินคงไม่มีทางสร้างคาถาระดับหนึ่งได้ เธอคิดว่าเมอร์ลินจะต้องใช้เวลาเตรียมตัวอันยาวนานดังนั้นเธอจะไม่ถามอะไรเพิ่มเติม
“ในตอนที่ฉันกลับมาที่ดินแดนมนต์ดํา ฉันโชคดีที่สร้างคาถาเพลิงพิโรธสําเร็จ ดังนั้นฉันจึงมาแลกคาถาระดับหนึ่งอันต่อไป”
“โอ้ ยินดีด้วยที่คุณสร้างคาถาเพลิพิโรธสําเร็จ” สายตาของเมอร์ลินฉายแววประหลาดใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้โฮล์มส์สร้างคาถาไม่สําเร็จ เขาเลยคิดว่าเธอก็น่าจะทําไม่สําเร็จเช่นกัน
“ฉันก็แค่โชคดีเท่านั้น” แม่มดรีลิสยิ้มบาง ๆ เห็นได้ชัดว่าเธอมีความสุขมากที่ได้สร้างคาถาเพลิงพิโรธสําเร็จ
“โอ้ จริงสิ ฉันเกือบลืมไปที่ฉันมาหาคุณก็เพราะมีเรื่องจะเตือนคุณ คุณต้องระวังพ่อมดนีลให้ดี” เธอกล่าวด้วยสายตาจริงจัง
“พ่อมดนีลงั้นเหรอ?” เมอร์ลินขมวดคิ้ว เขาจําพ่อมดนีลได้ เขาเป็นพ่อมดใจแคบและเจ้าคิดเจ้าแค้น
“เขาคงไม่กล้าลงมือในดินแดนมนต์หรอก”
เมอร์ลินไม่กลัวพ่อมดนีลเนื่องจากเขาเคยชนะนีลมาก่อนและอีกอย่างเขาเป็นเพียงนักเวทย์ระดับเริ่มต้น แม้ว่าเขาจะร่ายคาถาระดับหนึ่งได้แต่มันก็ยังไม่พอที่จะสู้เขา
“แน่นอนวา เขาจะไม่ทําอะไรในดินแดนมนต์ดําแต่พ่อมดเมอร์ลินต้องระวัง พ่อมดนีลเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นและเขามีตระกูลที่ค่อนข้างมีอิทธิพลหนุนหลัง แม้ว่าตัวเขาจะไม่แข็งแกร่งแต่ไม่ใช่กับตระกูลของเขา”
รีลลิสอธิบายปูมหลังของพ่อมดนีลได้หังสั้น ๆ เมอร์ลินเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในระหว่างช่องคําพูดของเธอ ตัวเขาที่เป็นเพียงพ่อมดพเนจร พ่อมดนีลคงจะไม่ลังเลที่จะจัดการเขา
แม้ว่าเขาจะไม่กลัวนีลแต่เขาก็ต้องขอบคุณรีลลิสที่มาเตือนเขา
“ขอบคุณที่ส่งคําเตือนจากพ่อมดโฮล์มส์มาให้ฉัน ฉันจะระวังตัวให้ดี”
เขารู้ว่าโฮล์มส์คงจะส่งเธอมาเตือนเขาในเรื่องนี้ หากดูต้นสายปลายเหตุจริง ๆ เรื่องทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นโดยมีสาเหตุจากโฮล์มส์ หากเกิดอะไรขึ้นกับเมอร์ลิน เขาคงจะไม่สบายใจ แม้ว่าตัวโฮล์มส์จะเป็นคนหยิ่งทนงแต่อย่างน้อยเขาก็เป็นคนดี
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็พูดคุยอยู่พักหนึ่งจากนั้นก็แยกย้ายกันไป รีลลิสรีบออกจากหอคอยอย่างตื่นเต้น เธอต้องรีบกลับไปสร้างคาถาระดับหนึ่งอันที่สองของเธอ
“เวลามีเหลือไม่มาก ฉันต้องเร่งทําเวลา”
หลังจากที่รีลลิสกลับไป เทอร์ลินก็รู้สึกว้าวุ่นใจ เขาเคยคิดเสมอว่าการที่เขามีเดอะเมทริกซ์มันจะช่วยมให้เขาเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งได้ภายในหนึ่งปี
แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากเขาได้สร้างคาถาไปถึงหกคาถา เขาจําเป็นต้องใช้พลังจิตในการคงสภาพของโครงสร้างเวทมนต์ทั้งหกไว้จึงทําให้เขาไม่สามารถสร้างคาถาเพลิงพิโรธได้สําเร็จ
แม้จะเหลือเวลาอีกสองปีแต่สถานการณ์ตอนนี้จัดว่าเลวร้ายมาก ๆ
แต่โชคยังดีที่เขาได้รับเทคนิคการทําสมาธิขั้นสูงจากพ่อมดลีโอ ทําให้พลังจิตของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก หากพลังจิตของเขามีมากพอเมื่อไหร่ เขาจะไม่ลังเลที่จะสร้างคาถาระดับหนึ่งทันที
หลังจากที่เขาเลือกคาถาธาตุดินได้แล้ว ต่อไปเขาก็มองหาคาถาธาตุลม
คาถาธาตุลมที่เขาใช้ในตอนนี้คือคาถลมพายุ แม้มันจะมีความเร็วสูงแต่ขาดความยืดหยุ่น ดังนั้นในรอบนี้เขาจึงมองหาคาถาธาตุลมที่ทั้งเร็วและคล่องตัว
ในหอสมุดมีคาถาธาตุลมที่เพิ่มความเร็วไม่มาก ก็หากมองหาคาถาโจมตี ควบคุมของธาตุลมจะมีให้เลือกมากมาย
“วงแหวนแห่งสายลม คาถาระดับหนึ่งธาตุลม สามารถเพิ่มความเร็วได้ดีเยี่ยม ใช้ 50แต้มสนับสนุน”
“สายลมแห่งอิสระ คาถาระดับหนึ่งธาตุลม สามารถควบคุมธาตุลมได้อย่างอิสระ เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่และเปลี่ยนทิศทางได้อย่างง่ายดาย ใช้ 80แต้มสนับสนุน”
เมื่อเมอร์ลินเจอ คาถาสายลมแห่งอิสระ เขาก็ไม่จําเป็นต้องดูคาถาอื่นเลย ความสามารถของมันตอบโจทย์เขาอย่างมาก
หลังจากเลือกรูปปั้นผู้พิทักษ์กับสายลมแห่งอิสระได้แล้ว ต่อไปก็เป็นคาถาธาตุน้ําแข็ง
คาถาธาตุน้ําแข็งของเมอร์ลินก็คือ แช่แข็ง มันเป็นหนึ่งในคาถาที่โปรดปรานและใช้มันบ่อย ๆ
ดังนั้นเขาจึงเลือกมันอย่างจริงจังที่สุด เนื่องจากคาถาประเภทควบคุมนั้น มันเป็นกุญแจสําคัญในการเอาชนะคู่ต่อสู้ของนักเวทย์
ที่หอสมุดนั้นมีคาถาธาตุน้ําแข็งจํานวนมาก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะหาคาถาธาตุน้ําแข็งที่เหมาะกับเขา
เขาใช้เวลาเดินดูไปกว่าชั่วโมง ในที่สุดเขาก็พบคาถาที่เขาถูกใจ
“เส้นใยน้ําแข็ง ทําการตรึงเป้าหมายอย่างรวดเร็ว ใช้ 30แต้มสนับสนุน”
เมอร์ลินส่ายหัวผลลัพธ์มีความคล้ายกับคาถาแช่แข็งแค่มีพลังโจมตี้มากกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“กับดักน้ําแข็ง สร้างหลุมขนาดใหญ่ใต้เป้าหมาย ตรงเป้าหมายในพื้นที่เล็ก ๆ”
เมอร์ลินพิจารณาคาถาบทนี้ มันเป็นคาถาควบคุมเป้าหมายในพื้นที่เล็ก ๆ แต่มันยังขาดความแข็งแกร่งอยู่ เขาต้องการพลังโจมตีจากคาถาน้ําแข็งมากกว่านี้
“น้ําค้างเยือกแข็ง สร้างไอเย็นขึ้นมาเกาะเกี่ยวเป้าหมาย ไอเย็นที่มาพร้อมกับพิษน้ําแข็งที่สามารถแทรกซึมความหนาวเย็นได้อย่างรวดเร็ว มันสามารถสร้างความเสียหายที่ร้ายแรงได้ใช้แต้มสนับสนุน 120แต้ม”
หลังจากที่อ่านข้อมูลของคาถา น้ําค้างเยือกแข็ง เขาก็รู้สึกถึงทันที นอกจากมันจะสามารถตรึงเป้าหมายได้อย่างน่ากลัวแล้ว มันยังมีพิษน้ําแข็งที่สามารถโจมตีได้
พิษน้ําแข็งมันน่ากลัวมาก แม้แต่นักดาบธาตุระดับกลางที่มีร่างกายที่แข็งแกร่งยังไม่สามารถต้านได้ ยังประสาอะไรกับนักเวทย์ที่มีร่างกายอ่อนแอ
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเลือกคาถานี้ หากเทียบคาถาแช่แข็ง แม้ว่าคาถานี้จะสามารถตรึงศัตรูได้อย่างดีเยี่ยมแต่หากพวกเขาสามารถหลุดออกมาได้ พวกเขาก็จะสามารถสู้ต่อได้อย่างปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่สําหรับคาถาน้ําค้างเยือกแข็ง มันมีพิษน้ําแข็ง แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่ตายแต่การที่ศัตรูถูกแช่แข็ง พวกเขาก็ได้รับผลกระทบแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น คาถาน้ําค้างเยือกแข็ง ต้องให้แต้มสนับสนุนถึง 120แต้ม ซึ่งมันเป็นราคาที่สูงมากให้หมู่ของคาถาระดับหนึ่ง
คาถาที่ใช้แต้มแลกสูง มันจะเป็นคาถาที่มีโครงสร้างเวทมนต์ซับซ้อนมากแต่เขาไม่กังวลในเรื่องนี้เพราะเขามีตัวช่วยสุดพิเศษอย่างเดอะเมทริกซ์ เขาสามารถสร้างคาถามากเท่าใดก็ได้ตราบใดที่มีพลังจิตเพียงพอ
ดังนั้นเขาจึงหยิบคาถาน้ําค้างเยือกแข็งอย่างไม่ลังเล