ตอนที่ 82 คุณโดนแม่นั่นหลอกแล้ว (2)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 82 คุณโดนแม่นั่นหลอกแล้ว (2)

ตอนที่ 82 คุณโดนแม่นั่นหลอกแล้ว (2)

หลังจากได้ยินข่าวดีนั้น สีหน้าเศร้าโศกของเฉินเจียเหอก็ผ่อนคลายลง เขาตอบกลับว่า “เซี่ยเซี่ยอยู่ในอาคารพักอาศัยของโรงงานผม ไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ”

“พ่อแม่ของหลานไม่ให้หล่อนเข้าบ้านเหรอ?” โจวเจี้ยนกั๋วถามอย่างจริงจัง

เฉินเจียเหอตอบกลับ “ครับ”

“อุตส่าห์มีตาแต่หามีแววไม่ ถึงกับปฏิเสธไม่ยอมรับเด็กสาวที่ทั้งฉลาดและมีความสามารถคนนี้ พวกเขาตาถั่วกันหรือไง? อย่าไปฟังพวกเขาเลย เธอต้องทำดีต่อเซี่ยเซี่ยให้มาก หล่อนคือสมบัติล้ำค่า รอบรู้ไปซะทุกอย่าง”

“เข้าใจแล้วครับน้า”

โจวเจี้ยนกั๋วพูดเสริม “อ้อ จริงสิ วันนี้ฉันจะไปที่สถานีตำรวจเพื่อแจ้งความเรื่องแม่ยายของเธอ ดังนั้นไม่ต้องกังวลนะ ได้เรื่องยังไงเดี๋ยวฉันจะโทรหาเธออีกที”

“อืม ได้ครับ”

เมื่อครู่นี้เฉินเจียเหอจงใจเปิดลำโพงโทรศัพท์ ทุกคนในที่นี้จึงได้ยินเนื้อหาการสนทนาระหว่างเขากับโจวเจี้ยนกั๋ว

เฉินเจียวั่งเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วถามว่า “พี่ใหญ่ เครื่องจักรที่ลุงพูดถึงเป็นแบบไหนเหรอ?”

เฉินเจียเหออธิบาย “พี่สะใภ้ของนายออกแบบแบบเครื่องจักรทางการเกษตรหลายอย่างให้คุณน้าเอาพิมพ์เขียวไปเสนอทางโรงงาน ผู้อำนวยการโรงงานของพวกเขาเลยวางแผนจะนำไปผลิตอย่างจริงจัง คุณน้ายังบอกว่าจะยื่นขอขึ้นทะเบียนสิทธิบัตรให้กับหล่อนด้วย”

“หล่อนเก่งขนาดนี้เชียวเหรอ?” คุณย่าเฉินยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเจียเหอ “เด็กคนนี้มีความสามารถรอบด้านจริง ๆ ด้วย”

ครั้งล่าสุดที่เจอหญิงสาว คุณย่าเฉินรู้สึกชอบหลินเซี่ยมาก ยิ่งเมื่อได้ยินว่าเธอสามารถออกแบบเครื่องจักรสำหรับทำการเกษตรได้ ก็รู้สึกประทับใจในตัวเธอมากขึ้น

คนหนุ่มสาวเหล่านี้ล้วนมีความสามารถเฉพาะตัว ไม่ควรตัดสินจากภูมิหลังของครอบครัว

เฉินเจียซิ่งซึ่งสงบสติอารมณ์ได้ในตอนแรกถึงกับยิ้มเยาะ “หล่อนต้องขโมยพิมพ์เขียวของผู้อำนวยการเสิ่นมาตั้งแต่ก่อนที่จะกลับไปอยู่ชนบทแล้วแน่ ๆ จากนั้นก็ใช้มันหลอกลวงพี่ ทำไมคุณน้าถึงได้เชื่อใจหล่อนนัก? ไม่กลัวว่าจะโดนฟ้องละเมิดภายหลังเหรอ?”

“แต่พิมพ์เขียวนี้เป็นเครื่องจักรทางการเกษตร พอหล่อนไปอยู่ชนบท เห็นชาวบ้านทำไร่ทำนา ก็เลยเกิดแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องทุ่นแรงให้พวกเขา พิมพ์เขียวที่ว่ามีความแตกต่างจากของโรงงานเครื่องจักรมาก”

เฉินเจียเหออธิบายเรื่องพวกนี้ให้คุณปู่เฉินฟัง ด้วยไม่ต้องการให้ชายชราเข้าใจผิด

“หล่อนฉลาดมาก เด็กคนนี้ไม่ว่าไปที่ไหนก็จะนำพาความเจริญเข้าไปทุกที่ ฉันรู้อยู่แล้วเชียวว่าเจียเหอไม่ได้แต่งงานกับหล่อนโดยไร้เหตุผล ที่แท้ผู้หญิงคนนั้นก็มีบางอย่างที่น่าชื่นชมมาก” คุณย่าเฉินพูดกับคุณปู่เฉิน “ตาเฒ่า พวกเราอย่าเข้าไปยุ่งเรื่องของเด็ก ๆ เลย ปล่อยให้หลานทั้งสองได้มีช่วงเวลาที่ดีเถอะ กว่าเจียเหอจะยอมแต่งงานไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ”

ก่อนหน้านี้เฉินเจียเหอตั้งใจว่าจะไม่หาคู่ครอง มุ่งความสนใจไปที่การเลี้ยงหู่จือให้ดี แต่ตอนนี้เขากลับเต็มใจที่จะแต่งภรรยา ไม่ว่าหญิงสาวจะเก่งหรือไม่เก่ง พวกเขาก็ตั้งใจว่าจะอวยพรให้อีกฝ่ายมีความสุข ถ้าผู้ใหญ่ยังพยายามขัดขวางต่อไป คราวนี้หลานชายคนโตคงได้โสดยาว

นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาอยากเห็นเมื่ออายุเพิ่มขึ้น

เมื่อหญิงชราพูดแบบนั้น คุณปู่เฉินก็ถอนหายใจ “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ฉันก็เคารพการตัดสินใจของเธอ พรุ่งนี้พวกเราจะพาหล่อนไปที่บ้านตระกูลเซี่ยเพื่ออวยพรปีใหม่ เหล่าเซี่ยคงคิดถึงหล่อนมาก”

เฉินเจียเหอตอบกลับ “ผมจะกลับไปบอกเซี่ยเซี่ยครับ เผื่อว่าหล่อนอยากไป”

“ดูท่าทางกระตือรือร้นของเธอซิ”

ชายชราบอกให้เฉินเจียเหอพาหลินเซี่ยไปอวยพรปีใหม่ที่บ้านตระกูลเซี่ย นี่แสดงให้เห็นว่าเขายอมรับตัวตนของหลินเซี่ยอย่างสมบูรณ์ในฐานะหลานสะใภ้

เฉินเจียซิ่งรีบคัดค้าน “คุณปู่ คุณย่า ทำไมพวกคุณถึงลำเอียงกันขนาดนี้ล่ะ? ถ้ายอมให้หลินเซี่ยแต่งเข้ามาในตระกูลของเรา หมายความว่าจะให้ผมหย่ากับเสี่ยวเหมยเหรอ?”

คุณปู่เฉินพูดอย่างสงบ “ไปบอกเสี่ยวเหมยให้หยุดยุ่งวุ่นวายเรื่องนี้ซะ หลินเซี่ยไม่ใช่หลานสาวของหล่อนอีกต่อไป ไม่จำเป็นต้องถือลำดับความอาวุโส จากนี้ไปหลินเซี่ยคือคนของตระกูลเรา”

“หล่อนบอกว่าถ้ามีหลินเซี่ยอยู่ที่นี่ ตระกูลนี้ก็จะไม่มีหล่อนอยู่ คุณปู่ ถ้าไม่เชื่อผมก็ไปเชิญหล่อนมาได้เลย”บราวนี่ออนไลน์

เฉินเจียซิ่งพูดประชดประชันด้วยแรงอารมณ์ มองเฉิยเจียวั่งด้วยความโกรธและพูดเยาะเย้ย “เจียวั่ง ฉันจะบอกให้ นายอย่าไปหลงเชื่อภาพฝันที่พี่ใหญ่วาดไว้ให้นายเลย ที่เขาบอกว่าสามารถรักษาอาการป่วยของนายได้เพราะการผ่าตัดนั่นก็เป็นแค่คำโกหกลม ๆ แล้ง ๆ ของนังปีศาจหลินเซี่ยนั่น เพียงเพราะอยากให้นายยอมรับว่าหล่อนมีความสามารถ นายคงไม่รู้หรอกว่าตัวจริงหล่อนเป็นยังไง แต่เสี่ยวเหมยรู้ หล่อนโง่เหมือนหมูมาตั้งแต่เด็ก ตัดผมให้ผู้หญิงแต่ละคนในโรงงานเหมือนหนูแทะ ไร้สาระสิ้นดี”

“คุณปู่ ปู่ควรพาเจียวั่งไปพักรักษาตัวที่หนานเฉิง อย่าโดนพี่ใหญ่หลอกเด็ดขาด เขากลายเป็นคนฟั่นเฟือนเพราะมีนังจิ้งจอกนั่นคอยปั่นหัว ปู่อยากฟั่นเฟือนเหมือนเขาหรือไงครับ?”

คุณปู่เฉินตบโต๊ะด้วยความโกรธ “ไอ้เด็กเลี้ยงไม่เชื่อง แกพูดอะไรออกมา?”

เฉินเจียเหอคว้าคอเสื้อของเฉินเจียซิ่ง จ้องมองเขาด้วยสายตาเฉียบคม “นายกล้าดูหมิ่นคุณปู่เพราะเรื่องไร้สาระพวกนั้นจริงเหรอ?”

เมื่อเฉินเจียซิ่งคิดว่าตัวเองอาจจะเสียทั้งงานเสียทั้งภรรยา ก็ขมวดคิ้วและโต้กลับอย่างไม่ละอาย “การที่เจียวั่งต้องตกอยู่ในสภาพนี้ไม่ใช่ความผิดของพี่หรอกเหรอ? ถ้าเขาไม่ได้ปกป้องหู่จือ เขาจะได้รับบาดเจ็บไหม? ตอนนี้พี่ยังมาทำลายชีวิตแต่งงานของผมเพื่อผู้หญิงคนเดียวอีก พี่จะฆ่าน้องชายสองคนของตัวเองเพื่อผูกขาดมรดกของบ้านเราไว้คนเดียวหรือยังไง?”

คุณปู่เฉินโกรธมากจนตัวสั่นไปหมด คำรามว่า “ออกไป ออกไปจากที่นี่”

เฉินเจียเหอปล่อยมือจากเฉินเจียซิ่ง มองเขาด้วยสายตาคับแค้น เต็มไปด้วยความผิดหวังและไม่อยากจะเชื่อ

สำหรับเขาแล้ว เฉินเจียซิ่งเป็นผู้ชายที่น่าสังเวชมาก

คุณย่าเฉินบ่นอย่างไม่พอใจ “เจียซิ่ง เธอพูดจาแบบนั้นได้ยังไง?”

เฉินเจียเหอพูดเสียงทุ้ม “ต่อจากนี้ฉันจะไม่พาหล่อนกลับมาที่บ้านอีก ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับหลินเซี่ยจะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อนาย”

“มันไม่ทันแล้ว!” เฉินเจียซิ่งตะคอกอย่างเย็นชาแล้วเดินออกไป

คุณย่าเฉินปลอบใจเฉินเจียเหอ “เจียเหอ อย่าเป็นบ้าตามเขาเลย วันพรุ่งนี้ย่าจะขอให้พ่อแม่ของหลานไปเจรจาที่บ้านตระกูลเสิ่นเอง”

หลังจากพูดจบ คุณย่าเฉินก็ช่วยประคองคุณปู่เฉินกลับเข้าไปในห้อง

เฉินเจียเหอเดินขึ้นไปส่งเฉินเจียวั่งถึงชั้นบน แล้วบอกเขาว่า “เจียวั่ง นายอย่าลืมพักผ่อนเยอะ ๆ ล่ะ วันหลังก็แวะไปหาฉันที่บ้าน นายต้องออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์สักหน่อย จะได้สงบสติอารมณ์ให้มากขึ้น สุขภาพร่างกายของนายจะได้ดีวันดีคืน ฉันไม่ยอมให้นายอุดอู้อยู่ที่นี่หรอกนะ”

“อืม”

เฉินเจียเหอกำลังจะออกไปข้างนอก เฉิยเจียวั่งก็มองตามหลังของเขา แล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ ผมไม่เคยเสียใจเลยที่ได้ปกป้องหู่จือ”

เฉินเจียเหอมองย้อนกลับไปหาเขา และยิ้มอย่างมีความสุข “ฉันรู้”

เฉินเจียเหอพาหู่จือกลับไปที่อาคารพักอาศัยในโรงงาน จู่ ๆ หวังซิ่วฟางก็ปรากฏตัวขึ้น เข้ามายืนขวางทางพวกเขาไว้

เฉินเจียเหอขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดอย่างเฉยเมย “พี่สาวหวัง มีอะไรหรือเปล่า?”

“มีสิ มีเรื่องที่สำคัญมากเลยล่ะ” หวังซิ่วฟางมองเข้าไปบนอาคารอย่างลึกลับ แล้วพูดกับหู่จื่อ “หู่จือ ไปอยู่บ้านป้าจางเพื่อเล่นกับเสี่ยวฮวาก่อนนะ ป้ามีบางอย่างจะคุยกับพ่อของหนู”

“อื้อ ได้ฮะ”

หู่จือรับคำแล้ววิ่งออกไป

เฉินเจียเหอไม่อยากอยู่กับหวังซิ่วฟางตามลำพัง เพราะกลัวว่าคนอื่นมาเห็นแล้วจะเข้าใจผิด

“มีอะไร?” เฉินเจียเหอจงใจตีตัวออกห่างจากหล่อน ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก

“คุณโดนแม่นั่นหลอกแล้ว รู้ตัวหรือเปล่า?” หวังซิ่วฟางพูดอย่างจริงจัง สีหน้าเคร่งเครียด

เฉินเจียเหอ “???”

หวังซิ่วฟางมองไปรอบ ๆ พอไม่เห็นใครอยู่แถวนั้น จึงกระซิบว่า “วันนี้มีผู้ชายคนหนึ่งมาหาหลินเซี่ย รู้ไหมว่าพวกเขาคุยอะไรกัน?”

จากนั้นหล่อนก็เล่าให้เฉินเจียเหออย่างชัดถ้อยชัดคำถึงบทสนทนาที่ได้ยินระหว่างหลินเซี่ยกับหลิวจื้อหมิง

หลังจากได้ยินคำพูดของหวังซิ่วฟาง ดวงตาลึกล้ำของเฉินเจียเหอก็เต็มไปด้วยเมฆดำปกคลุม ทั้งร่างกายของเขาดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยเงามืด

“เฉินกง คุณต้องจับตาดูหล่อนไว้ให้ดี อย่าปล่อยให้ตัวเองถูกแม่นั่นหลอกเอาได้ คุณลองคิดดูดี ๆ สิ ทำไมสาวสวยอายุน้อยแบบนั้นถึงได้ยอมแต่งงานกับคุณ หล่อนต้องมีจุดประสงค์แอบแฝงแน่ หล่อนก็แค่อยากออกจากบ้านนอกและกลับเข้ามาอยู่ในเมือง ตอนนี้หล่อนกลับมาได้แล้ว เป้าหมายของหล่อนบรรลุผลสำเร็จ แถมยังได้เจอแฟนเก่าของตัวเองแล้วด้วย หล่อนยังบอกผู้ชายคนนั้นด้วยว่าพรุ่งนี้ออกไปจดทะเบียนสมรสกัน แล้วจะย้ายไปอยู่บ้านผู้ชายคนนั้นทันที แต่เขาปฏิเสธ ฮึ่ม อายุยังไม่เท่าไหร่ แต่กลับรู้วิธีมัดมือชกผู้ชายซะแล้ว ฉันว่าแล้วว่าผู้หญิงหน้าตาสวย ๆ สมัยนี้ไม่น่าไว้ใจจริง ๆ”

ใบหน้าของเฉินเจียเหอมืดมน

เขาเตือนหล่อนเสียงต่ำ “พี่สาวหวัง อย่าแพร่ข่าวลือออกไปเด็ดขาด ไม่งั้นผมจะรายงานให้ผู้อำนวยการโรงงานทราบ”

“ไม่ ทำไมคุณถึงได้เข้าใจอะไรยากแบบนี้นะ? คุณไม่เชื่อคำพูดฉัน แถมยังคิดว่าฉันกำลังแพร่ข่าวลืออีกเหรอ? ผู้ชายคนนั้นบอกว่าชื่อของเขาคือหลิวจื้อหมิง ถ้าไม่เชื่อก็เชิญไปตรวจสอบดูได้เลย”

เฉินเจียเหอไม่สนใจหวังซิ่วฟาง เดินผ่านหล่อนขึ้นไปบนอาคารพักอาศัย

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

คนที่โดนนังจิ้งจอกปั่นหัวน่าจะเป็นนายมากกว่านะเจียซิ่ง ไม่ดูตัวเองเลย

พี่เหอจะเข้าใจเซี่ยเซี่ยแบบไหนนี่ ขอให้เคลียร์กันดีๆ นะคะ

ไหหม่า(海馬)