บทที่84 มาเพื่อขอร้องเธอ
เมิ่งอี้หลั่งขึ้นบนรถของมู่อี้เจ๋อแล้วก็จากไป
ตอนนี้เอง เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว ทุกบ้านกำลังเตรียมที่จะกินอาหารเย็น เป็นเวลารวมตัวกันของคนในครอบครัว
เธอดูสถานการณ์ของเมิ่งเสี่ยวหลงแล้วนั้น ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก!
มู่อี้เจ๋อแอบถอนหายใจ ไม่คิดว่าเรื่องราวจะกลายมาเป็นขนาดนี้ เมิ่งอี้หลั่งก็เอาแต่ขอโทษไม่หยุด มู่อี้เจ๋อฟังจนรู้สึกเวียนหัว “พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว พวกเราเป็นพี่น้องกันมานาน ฉันเองก็เห็นเสี่ยวหลงมาตั้งแต่เล็กจนโต พวกเราทุกคนก็เคยผ่านช่วงเวลาที่เป็นวัยรุ่น ก็มีเวลาที่ใจร้อนเหมือนกัน เรื่องวันนี้ พวกเราไม่ต้องมาคิดเล็กคิดน้อยว่าถูกหรือผิดเลย พูดตามปัจจุบัน เราควรจะช่วยเสี่ยวหลงให้ปลอดภัย มันเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด! ”
เมิ่งอี้หลั่งได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกซาบซึ้งใจ
หากมีเด็กบ้านไหนกล้ามาข่มขืนเมิ่งเสี่ยวหวีของเขา เขาต้องทำให้ไอ้คนนั้นพิการแน่นอน!
“ เหล่ามู่ ฉันล่ะละอายใจต่อนายจริงๆ! ”
“ไม่ต้องพูดแล้ว ตอนนี้ฉันเริ่มรำคาญแล้ว ฉันคิดอยู่ว่า ให้เทียนซิงเป็นคนยอมรับเองว่าตัวเองเป็นแฟนกับเสี่ยวหลง แล้วพวกเขาก็เล่นกัน ไม่คิดว่าเล่นกันไปมา จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้! ”
“ใช่ๆๆๆ! ถ้ายังงั้นพวกเรารีบกลับไปถามเทียนซิงกันเถอะ! ”
ตระกูลมู่——
เจี่ยงซินอาบน้ำให้ลูกสาว เห็นรอยจูบที่หน้าอกของเธอ ก็โมโหขึ้นมา “เสี่ยวหลงนี่ก็จริงๆ เลย ปกติก็ดูเป็นเด็กที่ซื่อสัตย์อยู่ แล้วเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง! ”
มู่เทียนซิงตาแดงก่ำ มองดูรอยที่อยู่บนหน้าอกของตัวเอง ก็รู้สึกโกรธ ในคืนสุดท้ายที่อยู่ที่เมืองH คุณอาทำรอยนี้ไว้บนตัวของเธอ นี่ก็ผ่านมาสองวันแล้ว ทำไมมันยังไม่หายไปอีก?
เงยหน้าขึ้นมา เธอเองก็ไม่อธิบายอะไร ได้แต่มองหน้าเจี่ยงซินแล้วพูดจาอย่างน่าสงสารว่า “ฮือๆๆ ~แม่ขา หนูไม่อยากหมั้นกันพี่เสี่ยวหลงแล้ว ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ ยิ่งเห็นว่าบุคลิกของเขามีปัญหา หนูกลัวเขา ตอนนี้แค่หนูเย็นหน้าเขา ก็รู้สึกกลัวแล้ว แม่ หนูขอร้องล่ะ ช่วยไปพูดกับพ่อให้หน่อย แล้วก็พูดกับคุณลุงเมิ่ง ว่าหนูไม่อยากหมั้นกับพี่เสี่ยวหลงแล้ว! ฮือๆๆ ~”
พูดไปพูดมา น้ำตาของเธอก็ไหลลงมาเหมือนกับไม่ต้องการเงิน!
เจี่ยงซินปวดใจมาก
เธอก็มีลูกสาวแค่คนเดียวนิ แล้วในสายตาของเธอ ลูกสาวของเธอก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง เมิ่งเสี่ยวหลงทำลงไปได้ยังไงกัน?
ถ้าเกิดไม่เห็นแก่ว่าทั้งสองครอบครัวคบกันมานาน แล้วเปลี่ยนเป็นลูกชาวบ้านอื่น เธอไม่มีวันให้อภัยง่ายๆ แน่!
ตอนนี้ลูกสาวของเธอกลัวจนเป็นขนาดนี้แล้ว เจี่ยงซินยิ่งฟังยิ่งรู้สึกปวดใจ และพูดว่า “โอเคๆๆ ลูกวางใจเถอะ เรื่องนี้แม่จะไปพูดกับพ่อเอง ว่าเราไม่ต้องหมั้นแล้ว ต่อให้พวกป๋ายเมยจะพูดอะไร ฝ่ายผิดก็คือครอบครัวพวกเขา! เรื่องในอนาคตก็ค่อยพูดในอนาคตแล้วกัน”
ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหลังจากนี้ เจี่ยงซินก็ไม่กลัวสิ่งอื่น แต่กลัวว่าลูกสาวที่ร่าเริงของเธอจะตกใจกลัวจนมีปัญหาทางจิต
ลูกสาวที่รักของเธอ เคยได้รับความไม่ยุติธรรมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะ?
ตอนที่รอให้มู่เทียนซิงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสร็จแล้วนั่งลงบนเตียง เจี่ยงซินก็ลงไปทำของหวานให้เธอด้วยตัวเอง ตักขึ้นมาแล้วก็ส่งให้เธอ “กินหน่อยสิ เดี๋ยวแม่อยู่เพื่อนลูกเอง ไม่ต้องกลัวนะ”
มู่เทียนซิงรับมาเงียบๆ แต่ว่าคิดในใจว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้หลิงเล่ก็จะมาแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะเคยบอก ให้เธอไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น เขาจะเป็นคนจัดการทุกอย่าง แต่ว่าเธอก็จะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้ ให้เขาต้องต่อสู้เพื่อความรักอยู่แค่คนเดียว”
ถ้าเกิดว่าก่อนหน้าที่เขาจะมาขอหมั้น เธอสามารถทำให้ยกเลิกงานหมั้นของตัวเองกับเมิ่งเสี่ยวหลงได้สำเร็จ ถ้ายังงั้นก็คงจะดีมากเลย
สำหรับความรักที่เปล่งประกาย หญิงสาวที่ตกหลุมรักก็อยากจะลงมือทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ด้วย
เธอดื่มซุปของหวานเสร็จ สีหน้าก็ดีขึ้นเยอะเลย
เจี่ยงซินรับมา แล้วก็คุยกับเธอต่ออีกหน่อย ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบ เดินอยู่หน้าห้องของมู่เทียนซิง
ก๊อกๆๆ
มู่เทียนซิงดึงผ้าห่มอย่างหวาดกลัว
เจี่ยงซินรีบไปเปิดประตู พอเห็นว่าเป็นสามีของตัวเอง ขมวดคิ้วแล้วก็โมโหขึ้นมาทันที “เสี่ยวหลงนั่นเป็นยังไงบ้างล่ะ? ช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย! ตระกูลของพวกเรามีมิตรภาพที่ดีต่อกันขนาดนี้ จนว่ากันว่ากระต่ายจะไม่กินหญ้า แล้วทำไมเขาถึงทำกับเทียนซิงแบบนั้นได้? ”
มู่อี้เจ๋อค่อยๆ หันตัวไป ก็เห็นใบหน้าของเมิ่งอี้หลั่ง
เจี่ยงซินทำปากมุ่ย เดินไปที่เตียง เธอไม่สนใจใครทั้งนั้น เพราะว่าตอนนี้เธอโกรธมากอย่างเห็นได้ชัด!
เมิ่งอี้หลั่งรู้สึกอึดอัดใจ หลังจากเข้าไปในห้องก็เห็นดวงตาที่แดงก่ำของมู่เทียนซิง แล้วก็รีบถามออกมาทันที “เทียนซิง โอเคดีใช่มั้ย? ”
“ จะโอเคได้ยังไงล่ะ กระโปรงของเทียนซิงของพวกเราโดนผู้ชายฉีก ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิงไปหมด กลัวจนหัวหดไปหมดแล้ว เมื่อกี้ฉันพึ่งจะกล่อมเธอได้! ฉันว่านะเหล่าเมิ่ง ต่อให้เสี่ยวหลงจะชอบเทียนซิงขนาดไหนก็ไม่ควรจะทำแบบนี้ไม่ใช่หรอ? เธอพึ่งจะ18เองนะ เสี่ยวหวีของนายก็อายุ18เหมือนกันไม่ใช่หรอ? ”
“ใช่ๆๆ! ขอโทษจริงนะๆ! ”
ไม่ว่าเจี่ยงซินจะพูดอะไร เมิ่งอี้หลั่งก็ได้แต่ขอโทษ
เมิ่งเสี่ยวหลงเหมือนพ่อ เขาและเมิ่งอี้หลั่งต่างก็สูงเพรียว พวกเขาดูเหมือนจะซื่อสัตย์และกล้าหาญ
เจี่ยงซินอยากจะพูดอะไรต่อ แต่ว่ามู่เทียนซิงกลับนอนลง แล้วพูดว่า “พวกคุณออกไปกันก่อนเถอะค่ะ หนูเหนื่อยแล้ว”
น้ำเสียงของเธอแหบแห้งมาก!
มู่อี้เจ๋อได้ยินดังนั้น ก็ปวดหัวใจขึ้นมา!
แต่ว่าตอนนี้ มันไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ เขามองหน้าเจี่ยงซินแล้วพูดว่า “คุณไม่ต้องพูดกับเหล่าเมิ่งแล้ว เรื่องนี้เดี๋ยวพวกเราค่อยไปปรึกษากัน แต่ว่าเรื่องที่สำคัญตอนนี้ก็คือ ช่วยชีวิตของเสี่ยวหลงก่อน! ”
แม้ว่าตระกูลมู่กับตระกูลเมิ่งถึงแม้ว่าจะมีทรัพย์สินอยู่บ้าง แต่ว่าก็เป็นเพราะว่าสร้างขึ้นมาจากมือของตัวเอง ครอบครัวไม่ได้มีใครเป็นข้าราชการ หรืออยู่ในแวดวงการเมือง ทุกชื่อเสียงที่ดีหรือไม่ดีนั้น ก็เพราะความพยายามของพวกเขาเอง
ตอนนี้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นกับเมิ่งเสี่ยวหลงแล้ว และมันก็เกินกว่าความสามารถของพวกเขา ตอนนี้มีแค่คำพูดของมู่เทียนซิงเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่าเมิ่งเสี่ยวหลงมุ่งร้ายต่อเธอ
พอได้ดังนั้น เจี่ยงซินก็สับสน “ล้อเล่นอะไรกัน เทียนซิงของพวกเราก็แค่กัดเขา เตะเขา เขาก็จะตายแล้วหรือไง? ”
มู่อี้เจ๋อส่ายหัวอย่างไม่มีทางเลือกและตอบว่า “เขาเป็นทหาร! โรงพยาบาลแจ้งตำรวจแล้ว! ”
ต่อมา ทั้งห้องก็เต็มไปด้วยความเงียบงัน
แม้แต่มู่เทียนซิงก็อึ้งไปเหมือนกัน
เธอแค่อยากจะยกเลิกการหมั้นกับเมิ่งเสี่ยวหลง แล้วอีกอย่าง เรื่องที่เมิ่งเสี่ยวหลงพยายามจะข่มขืนเธอ ก็เป็นเรื่องจริง!
เธอไม่ได้ใส่ความเขา!
เธอแค่ต้องการใช้เรื่องนี้กำจัดอุปสรรคของเธอกับคุณอา!
แต่ว่าเธอไม่ได้ต้องการ และจะไม่ยอมให้เขาตาย!
เมิ่งอี้หลั่งเห็นว่ามู่เทียนซิงพันผ้าห่มแน่น ก็ขอโทษออกมาอย่างร้อนใจอีกครั้ง “เทียนซิง มันเป็นเพราะว่าลุงไม่ได้สั่งสอนลูกชายของตัวเองให้ดี มันเป็นความผิดของลุงเอง แต่ว่าเสี่ยวหลงเองก็ชอบหนูมาก ไม่ยังงั้นเขาจะไม่ทำแบบนี้เลย ลูกชายของลุง ลุงต้องรู้จักเขาดีอยู่แล้ว! ”
มู่เทียนซิงไม่พูดอะไร
เมิ่งอี้หลั่งก็หันไปมองหน้ามู่อี้เจ๋ออีกครั้ง
มู่อี้เจ๋อเข้าใจ แล้วก็เดินเข้าไปหาลูกสาวที่เตียง พูดว่า “เทียนซิง ตอนนี้เสี่ยวหลงเข้าไปในห้องสีแดงแล้วนะ ตอนนี้น่าจะโดนตำรวจสอบปากคำอยู่ ลูกน่ะ ไปพูดกับตำรวจได้มั้ย ว่าลูกเป็นคู่หมั้นของเสี่ยวหลง ลูกทั้งสองคนก็ทะเลาะกันและเล่นกัน เพราะฉะนั้น เทียนซิง เสี่ยวหลงผิดก็จริง แต่ว่าลูกก็โตมากับเขา ความรู้สึกอะไรก็มีให้กัน พ่อว่า ครั้งนี้เขาก็เลวจริงๆ แต่ว่าถ้าเกิดว่าลูกไม่ช่วยเขา ก็ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้แล้ว! ”
เมิ่งอี้หลั่งเครียดจนใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ เขาคุกเข่าต่อหน้ามู่เทียนซิง “เทียนซิง ลุงเมิ่งขอร้องหนูเถอะนะ! ”