บทที่ 68 แทรกซึม(ปลาย)

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 68 แทรกซึม(ปลาย)

ห้องสำนึกตนเป็นสถานที่สำหรับลงโทษสมาชิกของตระกูลฉู่

ที่ทำผิดมันคล้ายกับห้องขังในเรือนจำในชีวิตก่อนหน้านี้เล็กน้อย

เพียงแต่ว่าสภาพแวดล้อมของห้องสำนึกตนนั้นดีกว่ามาก

“ห้องนี้มันก็ไม่ได้ดูแย่อะไรนี่นา” ซูอัน เอ่ยขึ้น

“นายน้อยพวกเรารีบไปคัดกฎของตระกูลเถอะ ไม่อย่างนั้นคืนนี้เราไม่ได้นอนกันแน่ ๆ ” เฉิงโชวผิง เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าหดหู่

“มันก็แค่คัดลอก 100 จบไม่ใช่เหรอไงทำไมเจ้าต้องทำหน้าซังกะตายแบบนั้น?” ซูอันกลอกตา “เอาล่ะกฎของตระกูลอยู่ที่ไหน”

ซูอัน มองผ่านชั้นหนังสือ แต่เขาไม่พบสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับกฎ

ของตระกูลเลย

“ทั้งหมดอยู่ที่นั่น” เฉิงโซวผิง ชี้ไปที่กำแพง

เฉิงโซวผิง เข้าใจว่า ซูอัน คงยังไม่รู้เป็นแน่ว่าบทลงโทษนี้มันหนักหนาแค่ไหนเมื่อดูจากท่าทีไม่ทุกข์ร้อนของซูอัน

ซูอัน หันศีรษะไปดูและตะโกนลั่นทันทีที่เขาเห็น “นั่นมันบ้าอะไรกัน!”

มีแผ่นหินขนาดใหญ่วางอยู่ตรงหน้ากำแพง ความสูงของมันจรดไปถึงเพดาน ทุกตารางนิ้วของแผ่นหินมีคำเล็ก ๆ มากมายจารึกไว้อยู่แน่นขนัด

ซึ่งถ้าประเมินด้วยตาเปล่ามันก็น่าจะอยู่ที่อย่างน้อยหลายพันคำ!

บัดซบ! ตระกูลฉู่ ตั้งกฎมากมายขนาดนี้ไปทำบ้าอะไร? หรือว่าไอพวกคนรุ่นก่อนทำแบบนี้เพียงเพราะอยากสร้างลำบากให้กับคนรุ่นหลังงั้นเหรอ?

ในขณะที่ซูอันยืนปลื้มปริ่มจนน้ำตาจะไหล เฉิงโซวผิง ส่งกระดาษและพู่กันให้กับเขาและพูดว่า “นายน้อย พวกเรามาเริ่มกันเลยเถอะ”

ดวงตาของ ซูอัน กระพริบปริบ ๆ และมองไปรอบ ๆ อย่างครุ่นคิด

ก่อนที่เขาจะหันไปหา เฉิงโซวผิง “ผิงผิงน้อย เจ้าบอกว่าก่อนหน้านี้เจ้าซื่อสัตย์ต่อข้าราวกับสายน้ำที่ไม่มีวันแห้งขอดเลยใช่ไหม?”

เฉิงโซวผิง เชิดหน้ายืดอกทันทีและเอ่ยขึ้นเสียงดังว่า “แน่นอนนายน้อย! ความภักดีของข้าต่อนายน้อยไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีอะไรที่จะสั่นคลอ…”

ซูอัน พูดแทรกทันที “จุ๊จุ๊ เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกมาดัง ๆ เจ้าสามารถพิสูจน์ความภักดีต่อข้าผ่านการกระทำของเจ้าให้ข้าเห็นได้เลย!”

เมื่อพูดจบ ซูอัน ผลักกระดาษและพู่กันกลับไปที่ เฉิงโซวผิง ก่อนที่จะตบไหล่ของเด็กชายซึ่งกำลังแสดงสีหน้างุนงง “ข้าคงต้องหวังพึ่งเจ้าแล้วล่ะ!”

เฉิงโซวผิง “หะ???”

เมื่อมองไปที่แผ่นหินที่เต็มไปด้วยตัวอักษร เฉิงโซวผิง สะดุ้งสุดตัว “นายน้อย แบบนี้ไม่ได้นะ ข้าคัดลอกทั้งหมดคนเดียวไม่ไหวหรอก!”

“ลูกผู้ชายไม่ควรพูดว่าทำไม่ได้” ซูอัน ให้กำลังใจ “เชื่อข้าสิ เจ้าทำได้แน่นอน!”

เมื่อต้องเผชิญกับ เฉิงโซวผิง ที่กำลังร้องไห้ ซูอัน รู้ว่าเขาต้องหา

สิ่งที่ดีกว่าเพื่อกระตุ้น เขารีบเร่งความคิดและความคิดก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา “ตราบใดที่เจ้าคัดลอกกฎของตระกูลแทนข้า ข้ายินดีจะสร้างโอกาสให้เจ้าได้ใกล้ชิดกับเสวี่ยเอ๋อร์ในอนาคต!”

“จริงเหรอ?” ดวงตาของ เฉิงโซวผิง เปล่งประกายทันที

ซูอัน พยักหน้าตอบ “แน่นอน! เจ้าวางใจข้าได้เลย ยังไงซะมันก็มีบางช่วงเวลาที่ข้าต้องการความเป็นส่วนตัวกับภรรยาของข้า ซึ่งในเวลานั้นข้าจะเรียกให้เจ้าได้มาอยู่ตามลำพังกับเสวี่ยเอ๋อร์”

เฉิงโซวผิง สั่งน้ำมูกจากนั้นเขาคว้ามือของ ซูอัน ด้วยสีหน้าตื่นเต้นผสมปลาบปลื้ม “นายน้อย ท่านช่างดีต่อข้าจริง ๆ !”

ซูอัน แกะมือที่เปื้อนน้ำมูกของ เฉิงโซวผิง ออกจากแขนของตัวเองด้วยสีหน้าขยะแขยงและเอ่ยว่า “เจ้าไม่ต้องแสดงความซาบซึ้งกับข้ามากก็ได้เอาเป็นว่าข้าจะทำให้เจ้ามีโอกาสแน่นอน แต่ตอนนี้เจ้าจงรีบคัดลอกให้เสร็จ ข้าจะออกไปเดินเล่น”

เมื่อพูดถึงเสวี่ยเอ๋อร์ ซูอันก็จำได้ว่าฉู่ชูเหยียนออกไปแล้ว มีแนวโน้มว่าเสวี่ยเอ๋อร์จะไม่อยู่ด้วยเนื่องจากนางเป็นสาวใช้ส่วนตัวของ ฉู่ชูเหยี่ยน

ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขาที่จะค้นห้องของนาง บางทีเขาอาจพบเบาะแสบางอย่างว่าใครเป็นผู้ปองร้ายเจ้าของร่างนี้

แม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนมากที่ดูถูกเขาในคฤหาสน์ตระกูลฉู่ แต่เขายังคงเป็นนายน้อยของตระกูลฉู่ มันไม่ควรจะมีใครกล้าสังหารเขาแบบนี้หากไม่มีเหตุผลที่ดี

ในไม่ช้า ซูอัน ก็มาถึงลานนอกเรือนของ ฉู่ชูเหยียน โชคดีที่นางเป็นคนชอบสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ดังนั้นคนเดียวที่อาศัยอยู่ในเรือนกับฉู่ชูเหยียน คือเสวี่ยเอ๋อร์ ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ ซูอันแอบเข้าไปในเรือนได้ง่ายขึ้นมาก

แต่แล้วเมื่อเขาเดินไปที่ประตูเรือนและพยายามจะผลักมันให้เปิดออก แต่มันกลับไม่ยอมขยับเขยื้อน ตามที่เขาคาดไว้ ห้องถูกล็อค!

“ทำไมต้องระวังถึงขนาดนี้ด้วย?” ซูอัน พึมพำ อย่างไรก็ตาม สิ่งกีดขวางเล็กน้อยแค่นี้ไม่สามารถหยุดเขาได้

เขามองไปทั่วบริเวณและเมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซูอัน รีบเอาผ้าสีดำมาปิดใบหน้าของตน เขาไม่อยากถูกจับได้ว่าแอบเข้าไปในห้องภรรยาของตัวเอง เรื่องนี้มันน่าอายเกินไป!

จากนั้น ซูอัน เดินวนรอบเรือนก่อนที่จะหยุดที่หน้าต่างบานหนึ่งซึ่งอยู่หลังเรือนและเป็นจุดอับสายตาจากนั้นก็หยิบมีดออกมาและสอดใบมีด

ผ่านรอยแยกของหน้าต่างเพื่อผลักสลักให้เปิดออก

“เฮอะ ไม่ต้องเป็นอัจฉริยะก็คิดออก!” ซูอัน ยิ้มให้กับตัวเอง

อย่างมีความสุข กลเม็ดพวกนี้เขาจำมาจากในหนังที่เขาเคยดูทั้งนั้น!

ชายหนุ่มไม่รอช้าค่อย ๆ ดึงหน้าต่างให้เปิดออกและกระโดดเข้าไปอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงมากที่สุด ซึ่งเมื่อเขาเข้าไปด้านในเขาก็พบว่าตัวเองถูกรายล้อมอยู่ท่ามกลางกลิ่นหอมฟุ้งของภรรยาของเขาในทันที จนทำให้เขาหลงเคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะ

เขาเคยเห็นที่ห้องนี่มาก่อน ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ ชายหนุ่มรีบกวาดสายตามองไปรอบ ๆ และพบว่าตอนนี้เขาอยู่ที่

ห้องอ่านหนังสือ จากนั้นเมื่อสำรวจจนทั่วและไม่พบอะไรน่าสงสัย เขาจึงรีบไปที่ห้องนอนของ ฉู่ชูเหยียน

เขาเริ่มต้นด้วยการค้นหารอบเตียง ซึ่งมะโนไปว่ามันน่าจะมีปุ่มลับที่เปิดช่องลับใต้เตียงหรือข้างเตียงอะไรพวกนั้นแบบในหนังที่เขาเคยดู

แต่แล้วในท้ายที่สุด เขาก็ไม่พบช่องลับใด ๆ แต่เขากลับค้นพบหนังสือที่ซ่อนอยู่ใต้หมอน ชื่อหนังสือคือ [ภรรยาผู้น่ารัก ภาค:เซียนกระบี่ไร้เทียมทานกับภารกิจตามหารักแท้ใน99คืน]

ซูอัน: “…”

เขาจำได้ว่าเห็น ฉู่ชูเหยียน แอบอ่านหนังสือเล่มนี้ในรถม้า ด้วยความอยากรู้ เขาหยิบมันขึ้นมาดู และเนื้อหาของมันก็คล้ายกับนิยายบนเว็บ

เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขาอย่างมาก

ขณะที่พลิกดูหนังสือ เขาสังเกตเห็นว่าในหน้าหนึ่ง มีข้อความ

เขียนด้วยลายมืออันสง่างามว่า ‘ความรักเกิดขึ้นได้อย่างไรไม่รู้ แต่มันกลับลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ…’

กรามล่างของ ซูอัน เกือบจะตกลงมา เขาไม่เคยคิดว่าภรรยาที่แสนจะเย็นชาของเขาจะมี…ด้านที่อ่อนหวานได้ขนาดนี้

“หึหึหึ~” ซูอันรีบวางหนังสือกลับไปที่ตำแหน่งเดิมตามที่เขาจำได้

ก่อนที่จะถอนหายใจ ถ้าผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าเขาเปิดอ่านสิ่งนี้ นางคงจะถลกหนังเขาทั้งเป็น แน่นอน