80 ผลลัพท์ของงานประลองศิลปะการต่อสู้
“――ข้อมูลทั้งหมดออกมาแล้ว เราจะขอสรุปให้ฟังเลยนะคะ”
ฉันกลั้นหายใจและรอคำพูดของฮิลเดโทร่า
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปตั้งแต่งานประลองศิลปะการต่อสู้ที่จัดขึ้น
ในช่วงเวลานี้เมื่อการออกอากาศและการออกอากาศซ้ำดำเนินไป กระแสความร้อนแรงก็ได้เย็นลงแล้ว
ฮิลเดโทร่าและฉันมารวมตัวกันที่ห้องของเรเลียเรดเพื่อฟังรายงานเกี่ยวกับเมจิกวิชั่น
สำหรับพวกเรา นี่คือประเด็นหลัก
การออกอากาศงานประลองศิลปะการต่อสู้โดยเมจิกวิชั่นได้รับการตอบรับอย่างดี และดูเหมือนว่านักเรียนบางคนยังต้องการที่จะดูต่อ แม้จะเป็นการออกอากาศซ้ำที่ได้ฉายไปแล้วหลายครั้งก็ตาม
สำหรับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง สิ่งที่พวกเขาต้องสนใจคือ แค่สนุกไปกับงานประลองผ่านเมจิกวิชั่นก็พอ แต่สำหรับพวกเรานั้นต้องการผลลัพธ์ที่มาพร้อมกัน
อีเวนต์นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการเผยแพร่เมจิกวิชั่น
กลยุทธ์ส่งเสริมการขายสำหรับสร้างความนิยมครั้งต่อไปจะขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ในครั้งนี้ว่าเป็นยังไง
” ――ผลลัพท์ที่ได้นั้น ในระยะปัจจุบัน เราสามารถประกาศได้ว่าประสบผลสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมค่ะ”
ฉันกับเรเลียเรดถอนหายใจด้วยความโล่งอกในเวลาเดียวกัน
ถ้าฮิลเดโทร่าประกาศว่าผลลัพท์ยอดเยี่ยม ก็หมายความสำหรับตอนนี้ กิจกรรมการเผยแพร่ประสบผลสำเร็จ
ดูเหมือนว่าการออกอากาศงานประลองศิลปะการต่อสู้จะได้รับการตอบรับมากทีเดียว
ม๊า เพราะความสนใจของสาธารณะในงานก่อนหน้านี้ออกมาดี ดังนั้นฉันคิดว่าผลลัพธ์ก็น่าจะออกมาดีล่ะ
ยังไงก็ตาม ชัยชนะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทราบได้จนกว่าผลลัพธ์จะออกมา
การโจมตีที่ปล่อยออกมาในเวลาที่เหมาะสม บางครั้งก็สามารถโค่นคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่าได้โดยไม่คาดคิด
ทว่าศิลปะการต่อสู้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ยังไงก็ตาม มีปัจจัยที่ไม่แน่นอนและสิ่งที่วัดไม่ได้ เช่น สมาธิ สภาพร่างกาย ความถือตัว ความมั่นใจ และการพักผ่อน ล้วนสามารถส่งผลต่อผลลัพธ์ได้
แม้แต่ฉันที่เข้าใจในโลกของศิลปะการต่อสู้ ――ก็ไม่สามารถอ่านแนวโน้มและผลลัพธ์ของกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ฉันไม่เข้าใจได้
“โล่งอกจัง”
ในที่สุดเรเลียเรดก็จิบชาที่เอซเอล่าสาวใช้ของเธอชงให้
“นั่นสิ เท่านี้ก็สามารถกลับบ้านได้อย่างสบายใจแล้วล่ะ”
ฉันเองก็จิบชาให้คอที่กระหายน้ำเล็กน้อยชุ่มชื้นขึ้น
ฉันกังวลเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ฮิลเดโทร่านำมาเช่นกัน จนทำให้ไม่รู้สึกอยากเอื้อมมือออกไป คุกกี้ที่เสิร์ฟพร้อมชาก็เช่นกัน ……อะไรน่ะ? เป็นแบบน้ำตาลน้อยเลยทาแยมแล้วกินงั้นเหรอ? …..อื~ม หวาน
ใกล้จะถึงวันหยุดฤดูร้อนแล้ว
นักเรียนส่วนใหญ่เลือกที่จะกลับบ้าน ส่วนเรเลียเรดกับฉันก็มีแผนที่จะกลับบ้านเหมือนกัน
ในช่วงแรกที่เข้าเรียนที่สถาบันการศึกษาอาร์ตัวร์ และต้องย้ายมาอยู่ที่เมืองหลวง ฉันถูกขอร้องให้งดการถ่ายทำในดินแดนลง เพราะวิถีชีวิตที่ไม่คุ้นเคยกำลังจะเริ่มต้นขึ้น แต่――ระยะหลังมานี้ก็กลับมามากขึ้นเรื่อย ๆ
เรเลียเรดก็น่าจะเหมือนกัน ส่วนฮิลเดโทร่านั้นค่อนข้างมากตั้งแต่แรก ในเรื่องการถ่ายทำรายการ เธอเป็นคนที่ยุ่งที่สุด
“อย่างที่คาดไว้ ดูเหมือนนี่จะสิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ทั้งหมดภายในเทอมแรกสินะ”
ฉันเคยได้ยินมาว่า ควรหยุดพักจากการถ่ายทำในสถาบันสักพัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้ามทำจนกว่าจะสิ้นสุดวันหยุดฤดูร้อน……เทอมแรก
นอกจากนี้ ความจริงที่ว่าการถ่ายทำแต่ละครั้งจะยุ่งมาก และจำเป็นต้องคิดถึงกิจกรรมเผยแพร่ครั้งต่อไปด้วย
การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ก็ค่อนข้างใหญ่ ดังนั้นจึงไม่ใช่สิ่งที่จะวางแผนได้บ่อย ๆ
“ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างถูกที่ถูกทางดีค่ะ ทีมถ่ายทำของสถาบันเองก็กำลังจะไปฝึกฝนที่สถานีออกอากาศอีกครั้ง”
พูดถึงทีมถ่ายทำของสถาบันแล้ว หมายถึงมือสมัครเล่นกลุ่มนั้นสินะ
――ดูเหมือนว่าทีมงานสถานีออกอากาศของเมืองหลวงที่ได้ตัดต่อภาพสะท้อนที่ถ่ายทำโดยพวกเขา บอกว่าจะฝึกพวกเขาอย่างจริงจังในช่วงวันหยุดฤดูร้อน ได้งานพาร์ทไทม์เป็นผู้ช่วยสินะ
ทีมถ่ายทำของสถาบันการศึกษาค่อย ๆ กลายเป็นมืออาชีพที่น่าจับตาจากแค่อารมณ์นักเรียนมือสมัครเล่น ดังนั้นพวกเขาจะเติบโตต่อไป
ขึ้นอยู่กับการเติบโตของพวกเขา น่าจะมีอีกหลายอย่างที่พวกเขาสามารถทำได้ในอนาคต ฉันอดไม่ได้ที่จะคาดหวัง
“――คุณหนูคะ ลืมเรื่องนั้นไปแล้วหรือคะ”
ริโนกิสที่ยืนอยู่ข้างหลังฉัน เข้ามากระซิบข้างหู เมื่อได้ยินเกี่ยวกับความต้องการแผ่นคริสตัลเวทมนตร์ ข่าว และจดหมายจากแฟน ๆ ที่ส่งมาถึงสถานีออกอากาศ
เรื่องนั้น?
อ้า ใช่แล้ว
ชั่วครู่หนึ่งฉันไม่รู้ว่าคือเรื่องอะไร แต่――ใช่ใช่ มีบางอย่างที่ฉันต้องพูดเมื่อฉันได้พบกับฮิลเดโทร่า
“เน๊ ฮิลเด้ ฉันอยากจะไปทักทายที่สถานีออกอากาศของเมืองหลวงน่ะ”
ฉันยังคงยุ่งอยู่กับการถ่ายทำของดินแดนตัวเอง ดังนั้นจึงแทบไม่มีงานจากสถานีออกอากาศของเมืองหลวงเลย
ยังไงก็ตาม ฉันคิดอยู่เสมอว่าในอนาคตฉันอาจจะถูกเรียกตัวไปทำงานกับสถานีออกอากาศของเมืองหลวง ฉันเลยอยากจะทักทายไว้สักหน่อย
“อะ ฉันก็อยากไปเหมือนกันค่ะ”
เรเลียเรดก็ดูเหมือนจะคิดแบบเดียวกัน ――เหมือนกันเลยที่ยุ่งกับเรื่องต่าง ๆ มากมายจนลืมไปนิด ๆ หน่อย ๆ
“ทักทายสินะคะ……หมายความว่าคุณต้องการพบกับผู้อำนวยการเช่นนั้นหรือคะ?”
……หืม?
“อาเร๊ะ?”
ฉันกับเรเลียเรดก็รู้สึกตัวในเวลาเดียวกันอีกครั้ง
“ผู้อำนวยการของสถานีออกอากาศเมืองหลวง……หรือว่าจะเป็นองค์ราชางั้นเหรอ?”
ใช่ นั่นคือสิ่งที่ทำให้พวกฉันติดใจ
ผู้อำนวยการสถานีออกอากาศของดินแดนลิสตัน คือคุณพ่อของฉันซึ่งเป็นลอร์ด
ผู้อำนวยการสถานีออกอากาศของดินแดนซิลเวอร์ คือพ่อของเรเลียเรดซึ่งเป็นลอร์ดเช่นกัน
เพราะฉะนั้นแล้ว――
“ไม่ค่ะ ไม่ใช่หรอกนะคะ”
โล่งอกไป
อย่างที่คิด เป็นเรื่องยากที่จะให้เด็กเข้าเฝ้าองค์ราชาเพียงเพื่อการทักทาย ฉันหมายถึงเป็นภาระหนักนิดหน่อย
“เป็นอดีตราชาค่ะ หรือก็คือท่านปู่ของเราเอง”
……อ้า เหรอ ม๊า อย่างน้อยก็น่าจะเข้าพบได้สบายกว่าผู้มีอำนาจสูงสุดของอาณาจักรคนปัจจุบัน
“แต่ว่า เราขอกล่าวตามตรงเลย เป็นเพียงชื่อประดับเพียงเท่านั้นค่ะ การไปกล่าวทักทายเพียงเพราะถูกยืมชื่อมาใช้ เรารู้สึกเหมือนบางอย่างไม่ใช่เลยค่ะ”
โห๊
“ถ้างั้นฮิลเด้ว่าเราควรไปทักทายใครเหรอ?”
งั้นก็ถามตรง ๆ เลยแล้วกัน
ฉันไม่สนใจโครงสร้างของสถานีออกอากาศของเมืองหลวงอยู่แล้ว ฉันต้องการให้บอกตรง ๆ เลย
“เช่นนั้นก็คงจะเป็นเจ้าชายลำดับที่สองที่ทำหน้าที่รักษาการผู้อำนวยการค่ะ รวมทั้งยังเป็นผู้อำนวยการทีมถ่ายทำด้วยค่ะ”
“――งั้นให้เขาเป็นผู้อำนวยการกันเถอะ”
“――ใช่แล้ว ควรไปทักทายผู้อำนวยการกัน”
ฉันกับเรเลียเรดตอบทันที
ราชวงศ์กำลังลำบาก แม้แต่ฮิลเดโทร่าที่เกือบจะเด็กรุ่นเดียวกันก็ต้องทำงานเช่นกันเดียวกัน ถึงจะดูน่ารำคาญนิดหน่อยตอนที่ได้พบกันครั้งแรก
“ฟุๆๆๆ คุณเกลียดการพบปะกับราชวงศ์ไหมคะ?”
เรเลียเรดส่งเสียงทันทีว่า「ไม่น๊า……ฉันชอบประหม่าเวลาอยู่ต่อหน้าคนใหญ่คนโต」และยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์สุด ๆ ให้กับรอยยิ้มของฮิลเดโทร่า
“แต่ว่า อาร์ตัวร์ค่อนข้างหย่อยยานเลยค่ะ นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมขุนนางจึงดูถูกดูแคลนจากสามัญชน แต่……”
เห๊ นั่นคือสิ่งที่เธอรู้สึกเหรอ
“แต่ราชวงศ์ก็เป็นมนุษย์เหมือนกันค่ะ ไม่ได้ต่างกันมาก”
ขณะที่พูดนั้น ฮิลเดโทร่าก็ราดแยมเบอร์รี่ลงบนคุกกี้แล้วโยนเข้าปากเธอในคำเดียว
คุกกี้ชิ้นเล็กแต่ก็ยังใหญ่ไปหน่อยสำหรับปากเด็ก
แก้มของเธอจึงเหมือนกระรอกยัดลูกโอ๊ก
――เป็นการแสดงโดยไม่พูด ว่าราชวงศ์อาร์ตัวร์ก็เป็นเช่นนี้แหละ
“ที่พูดแบบนั้นได้ก็เพราะเป็นครอบครัวเดียวกันนี้ ปกติไม่มีทางได้เจอหรอกนะคะ……เน๊ะ?”
สิ่งที่เรเลียเรดพูดนั้นสมเหตุสมผล
“อาจมีความแตกต่างในสถานะทางสังคม แต่ไม่มีความแตกต่างในการเป็นมนุษย์เหมือนกัน”
“ม๊า ก็ใช่อยู่หรอก”
“แม้แต่พระราชา ถ้าถูกต่อยก็เลือดออกได้จริงไหม”
“เอ๊ะ? จู่ ๆ ก็พูดเรื่องอะไรเนี่ย?”
“ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ยังเป็นมนุษย์เหมือนเดิม ถ้าถูกต่อยก็ออกจริงไหม เลือดน่ะ”
“ต่อยไม่ได้สิย๊ะ ห้ามไปต่อยจนเลือดออกสิย๊า”
ไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
“จะต่อยหรือไม่ต่อยก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แหละ ฉันคิดว่าเมื่อถึงเวลาที่ต้องต่อยก็ต้องต่อยออกไปสิถึงดี”
“ม๊าย ห้ามเด็ดขาดเลยนะย๊า!ห้ามไปต่อยองค์ราชาเด็ดขาด!ฮิลเด้ซาม๊า ได้โปรดอภัยให้กับการพูดจาที่ไร้มารยาทของเนียด้วยเถอะเพค๊า!”
ไม่ใช่การดูหมิ่นสักหน่อย
ถ้าพูดหรือทำอะไรจนโดนฉันต่อยได้ ก็แปลว่าเป็นราชาที่แย่นะสิ ถ้าเทียบกันแล้วก็เป็นแค่การมอบกำปั้นเตือนสติจากผู้ภักดีด้วยซ้ำ
“แม้แต่พระราชาก็เป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะต่อย หรือแทง สิ่งที่ต้องหลั่งออกมาก็ต้องออกมาจริงไหม”
“เรื่องออก ๆ พอได้แล้วย๊า! ถ้าถูกแทงยังไงก็ต้องเลือดออกอยู่แล้วย๊ะ!”
“เห็นเลือดแล้วไม่ตื่นเต้นเหรอ”
“ไม่เลยสักนิดดดด!……เอ๊ะ นี่คิดจะไปทำร้ายองค์ราชาจริง ๆ งั้นเหรอย๊า!?”
“เราไม่สนใจเรื่องเลือดหรอกนะคะ แต่ความคิดที่จะทำร้ายองค์ราชาก็ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเช่นกันเลยล่ะค่ะ”
“ฮิลเด้ซาม๊า พูดอะไรกันคะเนี่ย!?องค์ราชาที่กำลังพูดถึงไม่ใช่เสด็จพ่อของพระองค์เหรอเพค๊า!?”
“กับเจ้าเฒ่าหัวงูนั่น ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ทั้ง ๆ ที่เขาบอกว่า เพราะยุ่งอยู่กับงานเลยไม่สามารถมาเจอกับลูกแท้ ๆ ได้ แต่เขาก็ยังมีเวลาไปที่ห้องของผู้หญิงคนใหม่ได้ตลอด
ในฐานะราชา เขาอาจจะดีเลิศ แต่ในฐานะพ่อ เขาแย่ที่สุด แค่นั้นแหละค่ะ”
……อุมุ
ฉันไม่ต้องการแตะต้องหัวข้อนั้น
พูดให้ถูกคือ อย่าไปแตะต้องดีกว่า
――สถานการณ์ครอบครัวของฮิลเดโทร่า ของราชวงศ์ การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้มีแต่จะน่ารำคาญ
เมื่อวานเจ็บท้องทั้งวัน พะอืดพะอมจะอ้วกให้ได้ตลอด ทรมานเรือหาย กินข้าวจานเดียวเกือบชั่วโมง ส่วนวันนี้ปวดหัวหนึบๆแทน ฮา
ซัดพารายาวๆ