96 ลิตตี้ เป็นพยานการลงมาของนางฟ้า

“อา อ่ะฮ่าฮ่า…อย่าไปตื่นเต้นคนเดียวซี่…”

แบดริก ผู้ที่กำลังมองการดวลของลิตตี้กับเจสเตอร์ด้วยความรู้สึกยอมแพ้อย่างเต็มที่ ในที่สุดก็ทำ

ในประวัติศาสตร์ของโรงเรียน ไม่มีผู้ใดเคยอัญเชิญนางฟ้านอกจากเขาสำเร็จเลย และไม่มีผู้ได้เคยทำสัญญากับนางฟ้า ด้วยสำหรับเรื่องนั้น

ใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนสวรรค์ พวกเขาพูดกันว่าเธอเป็นคนรับใช้ของเทพเจ้า และพวกเธอส่วนใหญ่มีความทะนงตัวสูง

“แบดริก…! นายทำอะไรน่ะ! นายกำลังขัดจังหวะเรา”

“เจสเตอร์… นายมันใจแข็งนะที่ไม่ใช้วิชาอัญเชิญนั่น ไม่ใช่เหรอ? มันเพราะนายกลัวพ่อนายเหรอ?”

“พ่อไม่เกี่ยวอะไรกับนี่เลย มันเพราะฉันตันสินใจว่าผลตอนแทนมันน้อยมากกว่าความเสี่ยง!”

“นั่นถูกแล้ว พ่อนายจะไม่ปล่อยให้นายใช้วิชาอัญเชิญ… แม้แต่พ่อฉันก็ไม่ยอมรับวิชาอัญเชิญนี้…”

วงกลมเวทมนตร์แห่งแสงไปถึงสรวงสวรรค์ เมฆแยกจากกัน และท้องฟ้าโผล่ออกมา ไม่นานลมแรงก็พัดขณะวงกลมเวทมนตร์หมุน

“คุ…! นายทำอะไรน่ะ ที่อัญเชิญนางฟ้า!”

“มันเพื่อพิสูจน์ตัวฉันเอง ฉันคือคนผู้สมควรได้รับบัลลังก์ เพราะทั้งหมด ฉันถูกเลือกเป็นนายท่านของนางฟ้าที่กำลังจะปรากฏ”

“ฉันอยู่ที่นั่นเมื่อนายอัญเชิญเธอ นายคิดจริงๆเหรอว่านายเติมเต็มสัญญาแบบนั้นได้?”

“นางฟ้า ไม่เหมือนอสูร ไม่พยายามเอาอะไรไปจากนาย… ฉันโตขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น ฉันเติมเต็มมันได้”

“เจสเตอร์ซัง! นางฟ้าเก่งมั้ยอ่ะ?”

ขณะเจสเตอร์คิดเกี่ยวกับมัน เขามองเห็นภาพได้แค่สุดท้ายลิตตี้จบในการเต็มไปด้วยบาดแผล ในใจของเขา เจสเตอร์นับคนผู้อาจสู้กับนางฟ้าที่อยู่ที่นี่

คนแรก พ่อของเขา เรดเนอร์น่าจะเป็นตัวเลือก ต่อไปในแถวควรจะเป็นเจ้าชายคนแรก โอลิแวน และเจ้าชายคนที่สอง ฮานเดล แต่พวกเขามีหน้าที่ปกป้องราชา

อย่างแย่ที่สุด พวกเขาอยู่ในตำแหน่งไว้เพื่อวิ่งหนีถ้าอะไรควบคุมไม่ได้ ดังนั้นเขาฝากความหวังไว้ไม่ได้

“แม้ว่าเราทั้งหมดตรงนี้ท้าทายมัน เราบางคนจะตาย มันอาจจบที่การสังหารหมู่เต็มรูปแบบ”

“ถ้าอย่างนั้นมาทำให้แน่ใจว่าผู้คนที่สู้ไม่ได้หนีไป”

“ถ้าอย่างนั้นเจสเตอร์ซังควรหนีด้วย!”

ระหว่างนั้น อควาเรียพึมพำกับตัวเธอเอง “นางฟ้ามันคือ… ข้าสงสัยว่าข้ารับมือกับมันได้ไหม…?”

เจสเตอร์ผู้กำลังมองดูอควาเรียก็เติมเธอเป็นคู่ต่อสู้ผู้คู่ควรในใจของเขาด้วย เกือบทุกคนรู้ถึงความน่ากลัวขนหัวลุกของภูติน้ำโมโหจากตำนานของเธอแล้ว

เพราะมันเป็นความจริงทางประวัติศาสตร์ เขาคิดไปว่าเธอจะเป็นแค่กองกำลังผู้เดียวที่ยืนสู้นางฟ้าได้

“มันสายเกินไปที่จะมาอ้าปากค้าง… นายและพ่อของนาย ฉันจะแสดงให้นายเห็นว่าฉันทำอะไรได้! ออกมา! นางฟ้าอัสนีซาเอล!”

แสงจ้าส่องสนามรบฝึก

สายฟ้าฟาด ดั่งเพื่อผ่าสวรรค์ ระเบิดลงจากพื้น

หลังจากเสียงดังลั่นแห่งสายฟ้า คนเหล่านั้นผู้สามารถเปิดดวงตาพร่ามัวเป็นพยานมัน

หกปีกขาวบริสุทธิ์ ฝั่งละสาม กระพือ พร้อมด้วยผมทองยาวโบกสะบัด นางฟ้าก็เปิดตาเธออย่างช้าๆด้วย

“…โอ ผู้ใดทำสัญญากับข้า อะไรที่เจ้าประสงค์?”

เสียงของเธอไม่สูงไม่ต่ำ ผสมผสานกับใบหน้าเรียบของเธอ เธอถูกมองผิดได้ทั้งสองเพศ

ลิตตี้ยืนมองนางฟ้าที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่ตรงนั้น เธอแม้แต่ตัดสินยังไม่ได้ว่ามันอ่อนแอหรือแข็งแกร่ง

ลิตตี้ไม่สามารถแสดงออกมาเป็นคำพูดว่าต่างกันมากเท่าไรเมื่อเทียบกับสิ่งมีชีวิตปรกติ

ตอนนี้ สิทธิ์การอยู่หรือตายสำหรับมนุษย์ทุกคนที่นี่อยู่ในมือของเธอ

เป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอ ลิตตี้พบกับสิ่งมีชีวิตเหนือความธรรมดา

“โอ้ มันฉัน! จำฉันได้มั้ย?”

“เจ้าต้องการอะไร?”

“จัดการทั้งสองคนตรงนั้น! จากนั้นในที่สุดฉันจะถูกรับรู้โดยทุกคน!”

“ทำไม?”

“เพราะฉันคือนายท่านของเธอ และฉันจะเป็นคนที่ใช้เธอกำจัดพวกมัน! อย่าทำให้ฉันอับอาย?”

“เจ้าอยากให้ข้าจัดการพวกเขาขนาดไหน?”

“ทำร้ายพวกเขา! เธอทำมันได้มากเท่าที่เธอทำได้โดยไม่ฆ่าพวกเขา!”

ความหงุดหงิดที่แบดริกมีให้น้ำเสียงเมินเฉยของซาเอลนั้นเห็นได้ชัด

เมื่อเห็นซาเอลไม่เคลื่อนไหวอย่างที่ถูกสั่ง ลิตตี้รู้สึกถึงอันตรายโดยสัญชาตญาณ แต่ความเจ็บในร่างกายเธอยังไม่หายไป และเธอรู้ว่าเคลื่อนไหวที่สภาพนี้จะไม่ช่วยเธอเปลี่ยนอะไร

“การกำจัดบุตรมนุษย์เพิ่มค่าของเจ้าหรือ?”

“มันไม่สำคัญ! เธอทำสัญญากับฉัน”

สายฟ้าฟาดหลายเส้นลงปะทะสนามรบฝึก

ด้วยนี่ คนดูทั้งหมดเริ่มวิ่งเพื่อทางออก

ผลักและดัน ฝูงคนอยู่ในความแตกตื่นจนมันไม่น่าตกใจถ้ามีพวกเขาบางคนจบที่การได้รับบาดเจ็บ

“ออกไปไกลๆ!”

“เราจะถูกฆ่าถ้าเราไม่หนี!”

“ไม่ใช่นายท่านแบดริกซามะตกลงกับเจ้านั่นแล้วหรือ?!”

สายฟ้าลงฟาดไม่กี่ก้าวหน้าสาวน้อย เธอกลัวมากเสียจนเธอล้มลงสู้พื้นอย่างแรง

คูฟา ด้วยพลังของอควาเรีย ห่อหุ้มเธอในน้ำ อุ้มเธอออกมา จากมุมตาเธอ ซาเอล สังเกตเห็นอควาเรีย

“ภูติ ฉันคาดไม่ถึงว่าเจ้าตามมนุษย์”

“นั่นก็จริง”

คูฟาเป็นคนแรกที่รู้สึกถึงความไม่ปรกติที่อควาเรียไม่ตอบด้วยคำพูดไม่สนใจ นั่นอย่างเดียวนั้นเพียงพอแล้วที่จะกำหนดว่าความสามารถของซาเอลอาจเหนือกว่าอควาเรีย

น้ำของเธอนั้นปราศจากความไม่บริสุทธิ์และไม่สามารถถูกผลจากสายฟ้า ในทฤษฎีอย่างเดียว มีช่องให้สวนเธอ แต่เธอรู้สึกต่างไประหว่างพวกเธอที่เหนือความเข้ากันของธาติอย่างเดียว

นี่แสดงให้เห็นว่าไม่มีความแน่ใจหรือรับประกันอะไรที่คูฟากับอควาเรียจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ถ้าอะไรๆนั้นเกินควบคุม

“อืม ผู้ทำสัญญา เจ้ามีแผนจะเอาชนะบุตรมนุษย์และได้ชื่อเสียง นั่นคือสิ่งที่ทำแล้วถูกต้องอย่างนั้นหรือ?”

“มันไม่ถูกต้องเรอะ?”

“เจ้าตัดสินไม่ได้หรือ?”

“ไม่ มันถูกต้อง!”

“อืม เราจะเห็นว่ามันถูกหรือผิด”

สายฟ้ากำลังจะฟาดหัวราชาขณะที่เขาหนี อย่างไรก็ตาม แต่ก่อนมันโดน ผู้ชายกระโดดออกมาและแก้เวทมนตร์สายฟ้าด้วยการเหวี่ยงดาบเขาและลงสู่พื้นอย่างหนักหน่วง

มันคือดยุคผู้ยิ่งใหญ่เรดเนอร์ผู้แกว่งไกวอาวุธที่ดูเหมือนนางินาตะอย่างไม่ต้องพยายาม ทั้งสองด้ามจับมีใบมีดตกแต่งเกินจริงสองสว่างอยู่บนพวกมัน

ซาเอล ผู้สายฟ้าได้ถูกขจัดไป เปลี่ยนสายตาไปสู่เรดเนอร์อย่างช้าๆ

“นางฟ้าบัดซบ ทำไมแกเล็งมาที่ราชา?”

“ข้าไม่คาดถึงมนุษย์ที่ยกเลิกสายฟ้าข้า…”

“ตอบฉัน”

“มันเป็นความจริงซึ่งรู้กันทั่วว่าผู้อัญเชิญข้าแบดริกสร้างความผิดพลาดมหันต์ ฉันโทษพ่อแม่ที่ให้กำเนิดมนุษย์เช่นนี้และล้มเหลวในการเลี้ยงดูเขาอย่างถูกต้อง”

“นั่นเป็นบทลงโทษที่ละเมิดสัญญาเรอะ?”

“ไม่ใช่…”

ลิตตี้ตื่นเต้นเกี่ยวกับการจับคู่ปะทะกันระหว่างซาเอลกับเรดเนอร์ แม้ว่าเธอไม่คาดว่าจะมาถึงจุดนี้

ถ้ามีผู้ใดทำอะไรบางอย่างได้เกี่ยวกับสถานการณ์นี้ เธอรู้สึกเหมือนมันจะเป็นเขา อย่างน้อย ลิตตี้ก็ทำเมินสายฟ้าไม่ได้ด้วย

“แกพยายามฆ่าราชา! แกคือศัตรูภายนอก! ฉันจะฉีกปีกแกเพื่อให้แกไปสวรรค์ไม่ได้อีกแล้ว!”

เสียงคำรามของเรดเนอร์ท่วมท้นลิตตี้ เธอรู้อีกครั้งว่าเขาไม่ได้จริงจังเมื่อเขาต่อยเธอตรงท้องเมื่อพวกเธอเจอกัน ณ ร้านอาหาร

เรดเนอร์หมุนนางินาตะยักษ์ในการเตรียมการจากนั้นทำการพุ่งใส่ซาเอลไม่สนชีวิต

ด้วยวิธีที่เขารับมือใบมีด, วิธีที่เขาฝ่าอากาศ, และวิธีที่เขาเคลื่อนไหวร่างกายในท่าทางดุจระเบิดทั้งหมดนั้นถูกเฝ้าสังเกตโดยลิตตี้ ทุกอย่างที่เขาทำค่อนข้างเป็นภาพกระตุ้นสำหรับลิตตี้

อย่างไรก็ตาม ก่อนเขาจะไปถึงเธอได้ ซาเอลหายไปแล้ว

“ความโง่ ความด้อยกว่า นั่นคือพฤติกรรมผิดๆ”

แผ่นหลังเรดเนอร์ถูกจับ และก่อนเขาหันกลับไปได้ สายฟ้าฟาดลงเขา ทำให้เรดเนอร์แข็งนิ่งและล้มลงพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

พื้นผิวร่างกายเขาไหม้และเกราะแตกกระจาย ซาเอลเลิกสนใจเรดเนอร์ดั่งว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่

“ฟฟฟฟฟฟฟู่นนน!”

เรดเนอร์ได้รับลมหายใจกลับมาและกระทืบหนึ่งเท้า เขาเปลือยครึ่งตัว แต่นางินาตะยักษ์ยังเป็นชิ้นเป็นอันด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง

เขาหันเป็นวงกลมสู่ซาเอลและท้าทายเธอสู้กันใหม่

“ชื่อข้าคือซาเอล ข้าเป็นคนที่รู้ว่าอะไรถูกหรือผิด และข้าเป็นคนที่ส่งมอบการตัดสิน”

นางฟ้าซาเอล มันพูดกันว่านางฟ้านี้รับผิดชอบพายุสายฟ้ามากมายที่ฟาดลงหมู่บ้านมนุษย์ ในบางพื้นที่ เธอถูกกลัวในฐานะเทพเจ้าแห่งความโชคร้าย และผู้คนบางคนก็อธิษฐานสู่เธอเพื่อให้เธออารมณ์เย็น

เรดเนอร์ยิ้มกว้างใส่นางฟ้าเมื่อเขาคิดว่าไม่มีความต่างจากข้อมูลที่เขาได้รับมา เขาดูถูกนางฟ้าเกี่ยวกับมันแม้ว่าเขาจะจบที่ถูกสายฟ้าฟาดหากทำอย่างนั้น

“อีพวกอวดดีเกินตัว แกคิดว่าแกเป็นเทพเจ้าบางอย่างหรือไงกัน!”

“อะไรกัน เจ้ายังคงขยับได้หรือ มนุษย์…?”

กับซาเอล มนุษย์นั้นไม่ใช่อะไรมากไปกว่าแมลงวันบนกำแพง สายฟ้าฟาดครั้งเดียวฆ่าพวกเขาได้

สิ่งมีชีวิตมุนษย์ผู้ไม่สำคัญเช่นนี้กำลังเข้ามาใส่เธอโดยไม่คิดครั้งที่สอง

ในสถานการณ์นี้มันคือซาเอลผู้รู้สึกประทับใจ

“ทอร์ ค้อนสวรรค์”

พายุสายฟ้ารอบซาเอลมารวมกันเป็นหลายชั้น พวกมันเน้นไปสู่จุดเดียวและปล่อยทรงกระบอกยักษ์ออกมา

แม้แต่เวทมนตร์ธาติแสงระดับสูงเลเซอร์ก็เป็นการเล่นของเด็กเมื่อเทียบกัน

“ก๊าาาา!”

กระบอกสายฟ้ายักษ์ปะทะเข้าไปการหมุนตัวฟัน แต่การโจมตีพลังท่วมท้นเรดเนอร์ เป่าเขากระเด็นไป เรดเนอร์กระแทกกับคนดู แต่ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

เรดเนอร์ ผู้ถูกใช้พลังท่วมท้นใส่ หัวเราะอีกครั้ง และซาเอล ผู้ใช้พลังท่วมท้นใส่เขา ตกใจ

“เจ้า เจ้าไม่ใช่มนุษย์หรือ?”

“มนุษย์! แน่นอน ฉันเป็น! ดินแดนของเราเลี้ยงดูมนุษย์มาตลอด!”

“แล้วสิ่งมีชีวิตมนุษย์ก้าวข้ามค้อนสวรรค์ทอร์ได้อย่างไรกัน?”

“ให้ฉันบอกบางอย่างกับแก อีนางฟ้าไม่รู้ภาษา! ผู้ชายนั้นเก่งแค่เมื่อเขาปกป้องประเทศ! เอ้า เอ้า! ฉันอุ่นเครื่องขึ้นแล้ว!”

เรดเนอร์ทำให้นางินาตะหมุนต่อไปและเพิ่มความเร็วขณะซาเอลไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเพื่อตามการโจมตี

นางินาตะของเรดเนอร์สว่างวาบและเด้งออกขณะซาเอลเอามือหนึ่งออกไปเพื่อป้องกันมัน แต่มันดูเหมือนเรดเนอร์ไม่ได้ตกใจและเพิ่มความเร็วเขายิ่งมากขึ้นไปอีก

“มีอะไรเล่า! ฉันจะให้แกล้มลงพื้น! อีนางฟ้าบัดซบ!”   

“เจ้าปกป้องผู้อัญเชิญของข้าได้ไหมเล่า?”   

“แน่นอน! แต่เขาจะจ่ายสำหรับภัยพิบัตินี้!”   

หลังจากการโจมตีตามของเรดเนอร์ถูกกันอีกครั้ง ซาเอลไปหน้าแบดริก

มันดูเหมือนการเคลื่อนไหวไม่ทันตาเห็น ทำให้เรดเนอร์จึปากในความตื่นเต้น

“แม้ว่าสำหรับผู้อัญเชิญด้อยค่าแบบเจ้า มนุษย์นั่นยังปกป้องเจ้า แต่ตอนนี้ ข้าไม่เห็นค่ามากในเจ้า”   

“อ๊า ฮฮฮฮิ้…!”   

“เจ้าจะต้องทวนคำสัญญา”   

“พ่ะ เพื่อเป็นผู้ชายที่ถูกต้อง”   

“เจ้าล้มเหลว แต่เพื่อมนุษย์ ข้าจะลงโทษสำหรับการละเมิดสัญญา”   

ซาเอลยกมือเธอไว้เหนือหัวแบดริก จากนั้นสร้างวงกลมสายฟ้าที่กลืนกินเหนือหัวของเขา

แม้ว่าเมื่อมันเพียงแค่ลอยในอากาศ มันปล่อยสื่อว่าอยู่นี่ที่ค่อนข้างน่ากลัวออกมา

“นั้นมันอะไรกันวะ?!”   

“จากตอนนี้ไปเจ้าต้องทำแค่อะไรที่ถูกต้องเท่านั้น ถ้าไม่ วงกลมแห่งการตัดสินจะลงสู่เจ้า…”   

“หมายความว่าอะไรกันวะ? แกทำอะ…”   

วงกลมส่องแสงใหญ่และรัดลงหัวของแบดริก ไฟฟ้าช็อตวิ่งทั่วทั้งเนื้อตัวของแบดริก ทำให้เขายืนทรงท่าเหมือนตุ๊กตาเสีย

เสื้อผ้าราชวงศ์ที่เขาใส่ถูกเผาไหม้ในรายละเอียดที่น่าตกใจ และเขาล้มหงายหลัง เกือบเปลือย

“อา…อา…”   

“อย่างแรก เปลี่ยนคำพูดจาเจ้า และฟังอะไรที่ถูกต้อง สร้างวินัยให้ตัวเอง เมื่อใดที่เจ้าพยายามทำลายวงกลมแห่งการตัดสิน เจ้าจะได้รับประสบการณ์ความเจ็บปวด”   

“ช่วยฉันด้วย ช่วยฉันด้วย… ไม่ ฉันไม่อยากทำอย่างนี้ ฉันไม่อยากทำอย่างนี้…”   

“มันไม่สำคัญว่าเจ้าร้องเสียใจมากแค่ไหน”   

ไม่มีทั้งเรดเนอร์หรือใครก็ตามผู้ทำอะไรสักอย่างได้เกี่ยวกับสถานการณ์ ทุกคนรู้ว่าถ้าพวกเขาทำอะไร ครั้งนี้ ซาเอลจะเริ่มสู้อีกครั้ง

เรดเนอร์จะท้าทายเธอแล้วสู้ใหม่ถ้าไม่ใช่เพราะตัวประกันผู้อยู่ใกล้สถานการณ์ แต่ก็มีอีกหนึ่งเหตุผลที่ยอมแพ้กับการไล่ตามด้วย

เพราะทั้งหมด นี่คือที่แบดริกทำทั้งหมด โรงเรียนนั้นก็ผิดที่ปล่อยให้เขาทำสัญญาแบบนั้น และในกรณีนั้น ไม่มีใครโทษนางฟ้าซาเอลได้

ซาเอลถูกอัญเชิญและแค่ทำสัญญากับแบดริกบนพื้นฐานของการตกลงเท่านั้น

มากกว่านั้น เมื่อฝ่ายอื่นเป็นสิ่งมีชีวิตผู้ก็ถูกเรียกว่าคนรับใช้ของเทพเจ้า มันเพียงแค่มีเหตุผลที่ฝั่งมนุษย์ควรอับอายความไม่สนใจและบุ่งบามของพวกเขาที่ไม่ทำตามสัญญาที่ว่านั้น

“มันเป็นการฆ่าเวลาสำหรับความเบื่อของข้า”   

ซาเอลขึ้นไปสู่สวรรค์และกระพือปีกเธอและจากนั้นหายไป ที่เหลือทั้งหมดประทับใจกับสิ่งมีชีวิตพลังมหาศาลและรอยกรงเล็บของการทำลายล้าง

น้ำตาหยาดลงแก้มของลิตตี้ แต่เธอมีรอยยิ้มใหญ่บนใบหน้าของเธอ ดั่งเธอเพิ่งเป็นพยานสวรรค์ในสวรรค์ต่อจากการต่อสู้ของเรดเนอร์กับนางฟ้า

“น่าทึ่ง…! มันน่าทึ่งโรม่าซัง! คูฟาซัง! ถ้าฉันสู้ได้แบบนั้น การผจญภัยของฉันจะยิ่งสนุก! น่าทึ่ง น่าทึ่ง!”   

มันเป็นความคิดเห็นเรียบง่ายที่มาจากภาษาจำกัดของลิตตี้ เมื่อเห็นว่าสาวคนนี้ตื่นเต้นมากที่เห็นอะไรเช่นนั้น อีกครั้งที่โรม่าเรียนรู้ถึงความลึกของความสงสัยที่สาวลิตตี้มีอยู่กับตัว เธอกำลังจะพูดว่าการผจญภัยไม่ใช่เพื่อความบันเทิง และถอนคำพูดนั้น คิดว่ามันไม่สุภาพ

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu