ตอนที่ 88 เฉินเฉินเรียนหนังสือ
คําพูดของหมอเฒ่าทําให้หยุนเคอหน้าแดงก่ํา เขาค่อนข้างสงสัยว่าสิ่งที่หมอพูดถูกต้องหรือไม่
หมอเฒ่ายิ้มแล้วกล่าวต่อ “เป็นเรื่องดีสําหรับคนหนุ่มสาว! ข้าว่าหน้าตาเจ้าก็ไม่เลว โกนหนวดโกนเคราเสียหน่อย รับรองว่าหล่อเหลา สาวน้อยคนไหนหรือจะไม่ถูกใจ? หากชอบ ก็รีบๆแต่งงานกันเสีย! ไม่อย่างนั้นหากนางแต่งงานกับคนอื่นจะมาร้องไห้ก็สายเกินไปแล้ว!”
ตอนนั้นหยุนเคอคิดภาพของหญิงสาวแต่งงานกับคนอื่น จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นนั้นไม่ถูกต้อง!
ไม่ว่าจะเป็นคนผู้นั้นจะไม่รู้จี้จุกจิกเรื่องภูมิหลังครอบครัว หรือเป็นคนที่ดูน่าเกลียด พูดได้คําเดียว เขารู้สึกว่าไม่มีใครคู่ควรกับนาง
แต่ถ้าแทนคนที่ยืนอยู่เคียงข้างนางเป็นตัวเขา… กลับรู้สึกสบายใจขึ้นมา!
หยุนเค่อส่ายหัวซ้ําแล้วซ้ําเล่า เขาไม่ได้ถูกหมอเฒ่าวางยาพิษใช่หรือไม่?
ตอนนี้ตัวตนของเขาช่างน่าอับอายและไม่รู้ว่าจะมีอันตรายอะไรหรือไม่ เขาจะลากหญิงสาวลงไปในโคลนได้อย่างไร?
หยุนเคอเดินออกไปด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น ทิ้งหมอเฒ่าไว้เบื้องหลังและลูบเคราของตนอย่างมีนัยยะ!
นั่นเป็นเหตุผลว่าเหตุใดหลังจากนั้น เมื่อหยุนเคอเห็นหยุนเถียนเถียน เขาถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไป
หยุนเถียนเถียนเดินไปทั่วเมืองเพื่อซื้อของมากมายจึงรู้สึกเหนื่อยมากจนกินซาลาเปาเย็นชืดที่บ้านของจี้ชื่อหมดไปสองลูก เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ปีนขึ้นเตียงและผล็อยหลับไปโดยไม่รู้อะไรเลย
วันนี้คนที่ผิดปกติไม่ใช่หยุนเคอเพียงคนเดียว แต่ยังรวมถึงเฉินผิงอันด้วย!
ราวกับจะพิสูจน์ว่าสิ่งที่ตนทํามาหลายปีนั้นถูกต้อง เฉินผิงอันจึงไม่ออกไปไหนทั้งวัน เอาแต่ทําตัวติดกับหลินชวนฮวาอยู่ที่บ้าน!
หลินชวนฮวาเต็มไปด้วยความหงุดหงิดใจ แต่ก็ไม่กล้าแสดงสีหน้าออกมา สิ่งที่ทําให้นางหงุดหงิดใจก็คือเฉินเอ๋อกําลังจะมีชีวิตที่ดี!
เมื่อเฉินผิงอันอยู่ที่บ้าน เขาก็มักจะเรียกลูกชายตัวน้อยให้มากินข้าว ท่าทางของเฉินเฉินวางเฉยต่อเรื่องในอดีต เขากินเท่าที่อยากกินและไม่พูดถึงพี่สาวแม้แต่ครึ่งประโยค ราวกับว่าลืมคนคนนั้นไปแล้ว!
เมื่อเฉินผิงอันและหลินชวนฮวางีบหลับ เฉินเฉินก็แอบออกจากบ้าน วิ่งเท้าเปล่าท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผาโดยไม่คํานึงถึงความร้อนใต้ฝ่าเท้ามาจนถึงที่รกร้าง ที่หยุนเถียนเถียนใช้สร้างบ้าน!
“พี่สาว พี่สาว!”
หยุนเถียนเถียนเพิ่งนึกได้ ดูเหมือนว่านางจะลืมเด็กน้อยเฉินเฉินไปเสียสนิท!
นางออกมาต้อนรับด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ตอนนี้เจ้าก็น่าจะรู้ ข้าไม่ใช่พี่สาวของเจ้า”
เฉินเฉินก้มหน้าลงอย่างเจ็บปวด “แต่ท่านเป็นพี่สาวของข้า พี่สาวสัญญาว่าจะสอนข้าอ่านหนังสือ!”
หยุนเถียนเถียนไม่สามารถไล่เด็กคนนี้ออกไปได้ และยิ่งได้เห็นเขากระตือรือร้นที่จะเรียนหนังสือก็ยิ่งไม่อาจใจร้ายได้ลง
เฉินเฉินลังเล หัวใจของเด็กน้อยยังหวังพึ่งพาพ่อแม่ แม้ว่าพ่อแม่ของเขาจะไม่น่าวางใจได้นัก!
“พี่สาว… ข้า…”
“เฉินเฉิน… แม้ว่าเจ้าจะยังเด็กและหลายสิ่งยังไม่ชัดเจน แต่ถ้าเจ้ายังอยู่กับพ่อแม่ อนาคตของเจ้าก็น่าเป็นห่วงนัก แม้ว่าเจ้าจะไม่อดตาย แต่ก็จะไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ เจ้ายินดีที่จะเป็นคนไร้การศึกษาและทําได้เพียงแค่มองพี่ชาย ของเจ้าไปเรียนหนังสืองั้นหรือ?
เฉินเฉินส่ายหัวอย่างหนักแน่น ” แต่ท่านพ่อบอกว่าอีกไม่นาน หากมีเงิน ข้าจะได้เรียนหนังสือ!”
“เจ้ายังเห็นไม่ชัดอีกหรือว่าเฉินผิงอันเป็นคนเช่นไร? เขาไม่ทํางานและเอาแต่เข้าบ่อนพนันทุกวัน จะไปเอาเงินมาจากไหน? ปลดหนี้แล้วยังต้องส่งพี่ชายเจ้าเรียนอีก เป็นไปได้หรือที่จะเหลือส่งให้เจ้าเรียนด้วย?”
เฉินเฉินรู้สึกหนักอึ้ง และในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นพูด “พี่สาว ถึงแม้ข้าจะรู้ว่าสิ่งที่ท่านพูดนั้นสมเหตุสมผล แต่ในใจของข้า…”
“ข้ารู้ เจ้ายังมีความหวังอยู่ ถ้าเป็นเช่นนั้น ตอนนี้เจ้าก็เริ่มอ่านสี่หนังสือห้าคัมภีร์เถิด หากคืบหน้าได้รวดเร็ว เจ้าต้องได้เข้าร่วมสอบเซี่ยนชื่อในปีหน้าอย่างแน่นอน! พี่สาวจะจัดเตรียมบทเรียนให้เจ้าเอง!”
“หากเฉินผิงอันไม่เห็นเจ้าเป็นลูกชายและละทิ้งเจ้าเพื่อช่วยพี่ชาย จากนั้นเป็นต้นไปเจ้าต้องแยกจากพ่อของเจ้าและมาอยู่กับข้า! และแน่นอนถ้าในที่สุดพ่อของเจ้ารู้สํานึกและตัดสินใจทําดีกับเจ้า ข้าก็ยินดีเช่นกัน อย่างมากข้าก็แค่มีเจ้ามาเป็นเรือพ่วง เจ้าคิดย่างไร?”
เฉินเฉินพยักหน้าอย่างหนักแน่น ตั้งมั่นอยู่ในใจว่าจะไม่มีวันยอมแพ้!
หยุนเถียนเถียนใช้ประโยชน์จากเวลางีบหลับสอนเฉินเฉินอีกหลายอย่าง เป็นเวลากว่าหลายพันปี การวิจัยสี่หนังสือ ห้าคัมภีร์ของคนรุ่นใหม่ย่อมล้ําหน้าคนโบราณเหล่านี้ จากมุมนี้ทําให้เฉินเฉินเหนือกว่าคนอื่นไปไกล!
หยุนเถียนเถียนมองเฉินเฉินฝึกคัดลายมือพลางหาว ถ้าเป็นเมื่อก่อนเฉินเฉินจะเขียนแนวนอนและแนวตั้งตามตัวอักษรที่นางสอนให้เขียน แม้ว่าจะเขียนตัวอักษรได้ชัดเจน แต่ก็ไม่ได้ดูดีนัก!
จากครั้งล่าสุดที่หยุนเคอได้แสดงลายมือต่อหน้าเขา เฉินเฉินที่หัวไวก็เริ่มเลียนแบบการเขียนของหยุนเคอ และยังมีความคิดของตัวเองอีกด้วย!
หยุนเถียนเถียนครุ่นคิดด้วยความเศร้าใจ หากนางไม่ใส่ใจเด็กที่มีความสามารถเช่นนี้จะต้องเสียเวลาไปเพราะคนสารเลวสองคนนั้น!
ไม่รู้ว่าความเฉลียวฉลาดของหลินชวนฮวาหายไปไหน? ถึงได้หน้ามืดตาบอดเชื่อในเฉินเฉิงเยี่ย แต่ไม่สนใจเฉินเฉินที่มีพรสวรรค์
เมื่อเห็นว่าดวงอาทิตย์เริ่มเคลื่อนไปทางทิศตะวันตก หยุนเถียนเถียนจึงเร่งเร้าเฉินเฉินที่ยังคงหมกมุ่นอยู่กับการฝึกเขียนพู่กันของเขา หากไม่กลับตอนนี้ แล้วเฉินผิงอันรู้เข้า เกรงว่าชีวิตของเฉินเฉินคงจะลําบาก!
เฉินเฉินทําได้เพียงพยักหน้า ก่อนจากไปเขาเหลือบมองหนังสือที่หยุนเสียนเถียนเตรียมไว้ให้ด้วยแววตาห่วงหา
“ถ้าเจ้าชอบก็แอบเอากลับบ้านได้! แต่จําไว้นะต้องอย่าให้พ่อเจ้าเห็น และห้ามอ่านหนังสือตอนกลางคืนเพราะจะปวดตา ทีหลังต้องคิดให้รอบคอบ หากปวดตาก็จะทําอะไรไม่ได้ อีก”
เฉินเฉินเหลือบมองพี่สาวอย่างซาบซึ้งและแอบยัดหนังสือไว้ในอ้อมแขนของเขา เสื้อผ้าที่หลวมเล็กน้อยดูดีขึ้นมากเพราะเขายัดหนังสือเข้าไป
จากนั้นเฉินเฉินก็กลับบ้านเงียบๆ วิ่งจากสวนหลังบ้านไปที่ลานหน้าบ้านและซ่อนหนังสือไว้ในห้องอย่างมิดชิด