ตอนที่ 87 หยุนเคอป่วย

สามีข้า คือพรานป่า

ตอนที่ 87 หยุนเคอป่วย

ทั้งชาติที่แล้วและชาตินี้ หยุนเถียนเถียนไม่มีความรู้สึกลึกซึ้งกับผู้ใด ไม่ใช่ว่าไม่มีคนมาไล่ตาม เพียงแต่นางไม่เคยพบใครที่หัวใจสื่อถึงกันได้!

จู่ ๆ จี๋ชื่อก็พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาจึงหน้าแดงระเรื่อ ทําได้เพียงรีบเดินออกไปเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเอง

แน่นอนว่าจี้ชื่อและหยุนเวียนเถียนพบกับหยุนเคออยู่ใกล้ ๆ หลังจากเดินออกจากบ้านมาได้ไม่นาน

จีชื่อคุ้นเคยกับหยุนเคอแล้วก็กระตือรือร้นจะทักทายเขา “น้องชายหยุน! ตื่นแต่เช้าจะเข้าเมืองหรือ?”

หยุนเถียนเถียนตกตะลึง เพราะปกติแล้วหยุนเคอที่มีนิสัยเย็นชามักจะไม่ตอบคําถามใด ๆ !

แต่ผู้ใดจะรู้จู่ ๆ หยุนเคอตอบกลับอย่างสุภาพ “ใช่แล้ว! ท่านป้ากําลังจะเข้าไปในเมืองกับแม่นางหยุนหรือ?”

ดูเหมือนว่าจี๋ชื่อเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้รับการตอบกลับจากคนผู้นี้ “ถูกต้อง ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปพร้อมกันเถิด!”

หยุนเคอพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมและเงียบไป

จี๋ชื่อรู้ว่าคนผู้นี้ไม่ใช่คนไม่ดี เพียงแต่ปกตินิสัยเขาก็เป็นเช่นนี้ ดังนั้นจึงปล่อยให้เขาอยู่เงียบ ๆ และคุยกับหยุนเถียนเถียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แทน!

“เถียนเถียน เจ้าเพิ่งย้ายออกจากตระกูลเฉิน อย่างไรก็คงไม่มีเงินติดตัว วันนี้เอาเงินป้าไปซื้อของที่จําเป็นต้องใช้ก่อ น!”

หยุนเถียนเถียนอยากจะบอกว่าตนนั้นมีเงิน แต่ก็ยากจะอธิบายที่มาของเงิน จึงได้แต่พยักหน้ารับเงียบ ๆ !

“ท่านป้าไม่ต้องห่วง ข้าจะจ่ายเงินคืนให้ท่าน เมื่อข้าหาเงินได้!”

เมื่อจี๋ชื่อได้ยินเช่นนี้ก็ยิ่งกังวล นางจึงถอนหายใจและพูดขึ้น “เจ้ายังเป็นเด็กจะหาเงินได้จากที่ไหน? เถียนเถียนป้า ยังมีเจ้าพวกลูกชายตัวเหม็นอยู่ที่บ้าน หากเจ้าต้องการ ความช่วยเหลือจริง ๆ ก็แค่เอ่ยปาก! ป้าจะพยายามช่วยเจ้า อย่างสุดความสามารถ!”

หยุนเสียนเถียนยิ้มอย่างซึ้งใจทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อันใดต่อกัน แต่จี๋ชื่อก็ยังมุ่งมั่นช่วยเหลือและก็รู้ดีว่าครอบครัวของจี๋ชื่อนั้นค่อนข้างยากจน แค่คําสัญญาดังกล่าวก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว!

“ท่านป้าไม่ต้องห่วง จริง ๆ แล้ว ข้ายังพอมีลู่ทางหากินในอนาคตอยู่บ้าง! ท่านป้าอย่าได้กังวล!”

แม้ว่าจี๋ชื่อจะไม่ได้วางใจนัก แต่นางก็พยักหน้าอย่างมีความสุข มีหนทางประสบความสําเร็จก็ดีกว่าร้องไห้อยู่ในบ้านและรอความตาย!

ทั้งสามคนขึ้นไปนั่งบนเกวียน ท่านลุงคนขับเกวียนฉีกยิ้มอย่างใจดีเมื่อเห็นชื่อ

แม้จี๋ชื่อจะต้องการจ่ายค่ารถให้หยุนเถียนเถียนก็ถูกท่านลุงปฏิเสธ

“เด็กผู้นี้ไม่มีเงิน หากข้าเก็บค่าโดยสารกับนางคงไร้เหตุผลสิ้นดี! จี๋ชื่อ…เจ้ายังทําเพื่อหลานมากมาย ข้าเป็นลุงก็ขอรักเด็กบ้างไม่ได้หรือ?”

คําพูดของเขาทําให้จี๋ชื่อชะงัก ทําได้เพียงยิ้มอย่างซาบซึ้งอันที่จริงค่าโดยสารไม่แพงมาก แค่สองเหวิน แต่ตอนนี้ในสายตาของผู้อื่น หยุนเถียนเถียนคือคนที่ไม่มีรายได้เลย ความช่วยเหลือเหล่านี้ย่อมสําคัญมาก!

เพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัย หยุนเคอจึงไม่พูดอะไร เมื่อเกวียนเข้ามาถึงในเมือง เขาก็กระโดดออกจากเกวียนและจาก

จี๋ชื่อไม่ว่าอะไร เพียงแค่ลงจากเกวียนและพูดคุยกับลุงคนขับต่อ “เกรงว่าจะต้องรบกวนท่านลุงแล้ว! เด็กคนนี้เพิ่งย้ายบ้านจึงมีของที่ต้องซื้อมากมาย เลยต้องขอให้ ท่านลุงรออีกสักหน่อย แล้วก็ช่วยส่งของไปให้ที่หมู่บ้าน ข้าจะจ่ายค่าโดยสารให้เป็นพิเศษ!”

ท่านลุงเหลือบมองผมสีทองของของหยุนเถียนเถียนที่คล้ายกับหยุนจิงเอ๋อในครานั้น แล้วก็ถอนหายใจยาว!

“ไปเถิด ๆ ลุงมิได้ขาดแคลน หากช่วยได้ก็อยากจะช่วย!”

จี๋ชื่อขอบคุณเขาอย่างสุดซึ้งอีกครั้ง จากนั้นจึงพาหยุนเถียนเถียนเข้าไปในเมือง

นี่เป็นครั้งที่สองของหยุนเถียนเถียนที่เข้ามาเยือนในเมืองเมืองเล็ก ๆ แต่กลับเจริญรุ่งเรือง มีร้านค้าครบครัน

โรงตีเหล็กในตอนนี้ขายดีมาก เกษตรกรหลายคนสั่งทําเครื่องมือทําการเกษตรที่นี่

ผู้คนแน่นขนัด จนจี๋ชื่อและหยุนเถียนเถียนยากที่จะเข้าไปร่วมดูด้วยได้

แต่ชาวนาส่วนใหญ่ต่างก็เป็นคนเรียบง่ายและซื่อตรง ในไม่ช้าก็หลีกทางให้จี๋ชื่อและหยุนเถียนเถียนเข้าไปในร้าน!

มีกระทะและมีดทําครัวอยู่ในนั้น จี๋ชื่อให้เงินห้าสิบเหวินสําหรับเครื่องมือทําการเกษตร ตอนนี้ใช้เงินที่จี๋ชื่อไปก่อนจากนั้นสามารถซื้อได้เองเมื่อมีเงิน

ทั้งสองนําหม้อเหล็กไปส่งที่เกวียน จากนั้นพวกเขาก็ไปที่ร้านขายผ้า ซื้อชุดผ้าหยาบสําหรับใช้เป็นเครื่องนอนและซื้อผ้าฝ้าย จี๋ชื่อบอกว่าผ้าสําเร็จรูปราคาแพงเกินไป พวกมันสามารถทําเองได้ เมื่อซื้อเกลือและเมล็ดพันธุ์พืชเพิ่ม จากนั้นทั้งสองก็ปีนขึ้นไปเกวียนและมุ่งหน้ากลับบ้าน ในช่วงเวลานั้นหยุนเถียนเถียนไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ และไม่ต้องการซื้ออย่างอื่น นางแค่ขอผ้าขี้ริ้วถุงใหญ่จากเจ้าของร้านผ้าเท่านั้น

เป็นเรื่องแปลกมากที่หญิงสาวชาวนามาที่นี่โดยไม่เสียเงินเมื่อหยุนเถียนเถียนขอสิ่งเหล่านี้ แม้ว่าเจ้าของร้านจะไม่ค่อยพอใจนักแต่ก็ไม่เก็บเงินนางสักบาท

จี๋ชื่อถามอย่างไม่เข้าใจ “เถียนเถียน ผ้าขี้ริ้วพวกนี้เล็กเกินไป เจ้าเอากลับไปก็ไม่มีประโยชน์ เจ้าจะหาเสื้อผ้ามาซ่อมได้อย่างไร?”

เถียนเถียนยิ้ม “ข้ากําลังคิดวิธีหาเงิน! ข้าต้องการเศษผ้าพวกนี้ จึงขอเจ้าร้านมาลองใช้ดู หากไม่ได้ผลอย่างมากก็แค่เสียเวลาไปบ้าง!”

จี๋ชื่อไม่ได้มองโลกในแง่ดีนัก เป็นไปได้อย่างไรที่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ แค่นี้จะหาเงินได้? แต่ในเมื่อนางอยากลองก็ปล่อยให้ลอง ทั้งยังถามอีกว่า…ไม่จําเป็นต้องใช้เงินหรือ?

ของเหล่านี้ถูกส่งไปยังเกวียนวัวอย่างรวดเร็ว จากนั้นไม่นานหยุนเคอก็กลับมา ทันทีที่เห็นหยุนเถียนเถียน ใบหน้าของเขาแดงก่ํา แต่โชคดีที่ถูกหนวดเคราดกหนาปิดบังเอาไว้

เขาได้แต่หลบสายตายอย่างไม่สบายใจ หยุนเถียนเถียนรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย เหตุใดหยุนเคอจึงหายไปนาน แล้วเหมือนมีอะไรแปลกไป…

แม้แต่จี๋ชื่อที่อยู่ข้าง ๆ ก็ไม่กล้าถาม ดังนั้นพวกเขาจึงโดยสารเกวียนหัวกลับหมู่บ้านอย่างเงียบเชียบ!

เหตุใดหยุนเคอถึงดูอึดอัดนัก? ก็เพราะว่าเขาไปหาหมอมา!

หมอตรวจชีพจรอย่างระมัดระวัง ชายหนุ่มมีชีพจรที่แข็งแรงและเขาดูไม่เหมือนคนป่วยเลย ดังนั้นหมอจึงถามอย่างละเอียดว่าหยุนเคอมีอาการอย่างไร

เมื่อหยุนเคอเล่าอาการให้ฟังอย่างละเอียด หมอเฒ่าจึงหัวเราะออกทันที!

“เจ้าเด็กน้อย เจ้าอายุมากแล้ว แต่เจ้ายังไม่มีครอบครัวหรือ?”

หยุนเคอถามด้วยความไม่สบายใจ “อาการป่วยของข้าเกี่ยวข้องกับการแต่งงานได้อย่างไร?

แม้กิจการของหมอเฒ่าตอนนี้ไม่ค่อยจะดีนัก แต่เขาก็มีความสุขมากที่ได้กวนใจชายหนุ่ม

“เหตุใดจะไม่เกี่ยว? ถ้าหากเจ้าต้องการรักษาอาการป่วย! เจ้าต้องแต่งงาน! เจ้ากําลังเป็นโรคร้ายโรคตกหลุมรัก!”