ตอนที่ 53 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (53)

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 53 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (53)

สวี่หลิงอวิ๋นป่าวประกาศบนอินเทอร์เน็ตว่าเธอกำลังจะขายปลาหมึกยักษ์เอเลี่ยนย่างถ่านกระป๋อง

แล้วมันเทศย่างล่ะ? มันเทศหวานยังต้องการกำลังผลิตอีกมาก ดังนั้นจึงจะยังไม่วางขาย และสำหรับน้ำมันพืชนั้นก็ยังไม่สามารถวางขายมันได้

อย่างไรซะ เธอทำได้เพียงแต่ขายอาหารกระป๋องเท่านั้น และของอย่างอื่น…ไปดูกันเลย!

เครื่องปรุงรสแบบทำกินที่บ้านที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์!

จำนวนปริมาณอาหารกระป๋องที่ผลิตได้ในตอนนี้ยังมีปริมาณต่ำมาก จอมพลก็อดวินโบกมือสื่อว่าเขาต้องการมัน ทว่าสวี่หลิงอวิ๋นกลับปฏิเสธ

เธอเต็มใจจะให้ผลผลิตปริมาณหนึ่งในสามแก่จอมพลก็อดวิน และขายสองในสามให้แก่ประชาชน

เมื่อชาวเน็ตรู้ข่าวว่าสวี่หลิงอวิ๋นกำลังจะขายปลาหมึกยักษ์ย่างถ่านกระป๋อง พวกเขาต่างก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และรีบไปนั่งรอยังสถานที่จัดส่งตลอดทั้งคืน แต่มันกลับสูญเปล่า

“ครั้งนี้ฉันจะขายมันบนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น พวกคุณสั่งซื้อทางออนไลน์ได้เลยค่ะ แล้วมารอดูกันว่าใครจะเร็วกว่าและคว้ามันไปได้” สวี่หลิงอวิ๋นมองดู เยี่ยมมาก! ของสิ่งนี้ไม่สามารถจัดส่งไปยังจุดขายได้ ยอดเยี่ยมใช่ไหมล่ะ?

ขายออนไลน์เท่านั้น

ทว่าร้านขายของออนไลน์ของชิงเหย้านั้นยอดเยี่ยมมากเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งที่รวดเร็ว

มันใช้เวลาจัดส่งในดาวเคราะห์ดวงเดียวกันเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น และใช้เวลาครึ่งวันสำหรับพื้นที่ที่อยู่ในดาราจักรเดียวกัน ไม่เหมือนกับการส่งด่วนในชาติก่อนของเธอ เพราะเจ้าสิ่งนี้มันรวดเร็วมาก!

ชาวเน็ตทั้งหลายมองดู ขายออนไลน์เหรอ? ดีมาก! พวกเขาสามารถสั่งซื้อสินค้าที่บ้านได้โดยไม่ต้องออกไปต่อคิวข้างนอก รสชาติชีวิตแบบนั้นมันไม่ได้ดีเลยสักนิด!

แต่ว่ามันจะดีจริงไหม?

เมื่อการวางขายรอบแรกเริ่มต้นขึ้น ชาวเน็ตบางส่วนถึงกับจับจองสินค้าของพวกเขาเอาไว้ และทันทีที่พวกเขาเห็นว่าถึงเวลาเปิดให้สั่งสินค้า โอ้ พระเจ้า ไอ้บ้าหน้าไหนมันมือไวขนาดนี้? สินค้าถูกปล้นไปหมดแล้วเรอะ?!

บรรดาพวกที่คว้าสินค้าไปได้รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก เจ้าพวกโง่ ฉันซื้อโฟรตอนคอมพิวเตอร์อัจฉริยะรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับฟังก์ชันกดสั่งสินค้าอัตโนมัติไงเล่า พวกแกจะใช้เพียงมือตนเองต่อสู้กับฉันได้ยังไง?!

และบรรดาผู้คนที่มีฟังก์ชันกดสั่งสินค้าอัตโนมัติทั้งหลายจะไปสู้กับโฟรตอนคอมพิวเตอร์อัจฉริยะรุ่นล่าสุดได้อย่างไร?!

ชาวเน็ตทั้งหลายตีอกชกหัวตนเองด้วยความโกรธ ทำไมพวกเขาถึงได้โง่เขลาเช่นนี้? พวกเขาไม่ได้ซื้อแบบใหม่ล่าสุดด้วยซ้ำ?

คุณคิดว่าใครมีความสุขที่สุด? แน่นอนว่าต้องเป็นผู้คนที่ขายโฟรตอนคอมพิวเตอร์อัจฉริยะกับฟังก์ชันกดสั่งสินค้าอัตโนมัติ

เจ้าของร้านค้าป่าวประกาศ :

การซื้อโฟรตอนคอมพิวเตอร์อัจฉริยะรุ่นล่าสุด จะทำให้คุณอยู่ห่างจากปลาหมึกยักษ์ย่างถ่านเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น!

อยากกินปลาหมึกย่างถ่านไหมครับ? ถ้าอยากกิน เพียงแค่ซื้อ IP-899 ก็จะได้โฟรตอนคอมพิวเตอร์อัจฉริยะไปทันที!

ลดล้างสต๊อก! โฟรตอนคอมพิวเตอร์อัจฉริยะรุ่นล่าสุดจะช่วยให้คุณได้ครอบครองปลาหมึกยักษ์ย่างถ่าน!

……..

สักพักฝูงชนก็ก่อตัวกันจนแน่น และทุกคนก็ชุลมุนเร่งซื้อโฟรตอนคอมพิวเตอร์อัจฉริยะรุ่นล่าสุด

ผู้ผลิตโฟรตอนคอมพิวเตอร์อัจฉริยะยิ้มกว้างจนปากจะฉีกแทบถึงรูหู เขาแทบทนรอไม่ไหวที่จะถวายแผ่นจารึกเพื่อเชิดชูให้แก่องค์หญิงสาม

จำนวนการผลิตรอบแรกมีน้อยกว่าหนึ่งหมื่นกระป๋อง และหนึ่งหมื่นกระป๋องนั้นไม่เพียงพอต่อปริมาณความต้องการมหาศาล แม้แต่ผู้ที่สามารถกดสั่งสินค้าได้หนึ่งกระป๋องยังรู้สึกไม่เพียงพอ พวกเขายังต้องการซื้อมันมากกว่านี้

จะหากินอาหารที่เคยกินมาก่อนหน้านี้ได้ที่ไหน?

ประชาชนเริ่มออกมาประท้วง! พวกเขาต้องการให้ซูเปอร์มาร์เก็ตของจักรวรรดิวางขายปลาหมึกยักษ์!

วางขายปลาหมึกยักษ์เหรอ? ได้เลย! ลูกคิดของรัฐมนตรีการคลังสั่นสะท้านราวกับสายฟ้าฟาด แต่ดาวเคราะห์ที่รกร้างแห่งนั้นถูกเช่าให้กับองค์หญิงสามแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องพูดคุยเรื่องนี้กับองค์หญิงสาม

“สั่งซื้อปลาหมึกยักษ์บนดาวเคราะห์รกร้างของเราเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ได้สิ! แต่สำหรับราคานั้น…ราคาขายปลาหมึกยักษ์ไม่ควรต่ำกว่าห้าพันเงินดวงดาว!”

“เฮอะ…องค์หญิงสาม ท่านไม่ได้จะปล้นธนาคารใช่ไหม!”

รัฐมนตรีการคลังเอาฝ่ามือแนบท้องก่อนจะพูดเจรจากับองค์หญิงสามต่อ “ท่านก็รู้ว่าก่อนหน้านี้พวกมันถูกโยนทิ้งลงบนถนนและไม่มีใครต้องการมัน!”

“แน่นอน เรารู้ว่ามันเคยเป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว!” สวี่หลิงอวิ๋นแหย่หูของเธอ “มองดูโรงงานอาหารกระป๋องของเราสิ หึหึ ธุรกิจนี้ได้รับความนิยมขนาดไหน? ปลาหมึกยักษ์นี้สามารถผลิตอาหารกระป๋องออกมาได้อย่างน้อยหนึ่งหมื่นกระป๋อง ท่านลองคำนวณดู เราขายกระป๋องละห้าร้อยเงินดวงดาว เท่ากับว่าเราสามารถขายปลาหมึกยักษ์หนึ่งตัวได้ในราคาห้าล้านเงินดวงดาว คำนวณดูนะ และเราจะขายให้ท่านในราคาห้าพันเงินดวงดาวมันไม่เท่ากับให้เปล่าหรอกเหรอ?”

นิโคล เกลน รัฐมนตรีการคลังมองดูองค์หญิงสามที่อยู่ตรงหน้า แล้วส่ายหัว “แพงไปครับ! องค์หญิงลองคิดดูว่ากระหม่อมต้องขนส่งปลาหมึกกลับไปยังจักรวรรดิของเรา รวมถึงกระจายไปยังดาวเคราะห์ดวงอื่น เพียงแค่การใช้จ่ายในช่วงเวลานั้นก็เกือบหนึ่งหมื่นเงินดวงดาวแล้วไม่ใช่หรือครับ? ถ้าแบ่งย่อยไปอีก มันแพงเกินไปที่จะขายให้กับคนทั่วไป ครึ่งกิโลจะขายได้เพียงยี่สิบเงินดวงดาวเท่านั้น องค์หญิงลองคิดดูว่าพวกเราจะได้รับเท่าไหร่?”

“ปลาหมึกยักษ์ตัวหนึ่งมีน้ำหนักอย่างต่ำก็ห้าหมื่นกิโลกรัม ท่านบอกว่าท่านจะขายมันครึ่งกิโลในราคายี่สิบเงินดวงดาว ดังนั้นท่านจะได้รับรายได้เพียงแค่สองล้านเงินดวงดาวใช่ไหมคะ? ท่านจะยอมขาดทุนเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้สนใจการทำตัวแสร้งว่าจนของรัฐมนตรีการคลัง

เฒ่าเจ้าเล่ห์! กล้าที่จะพูดการตัดราคาออกมาต่อหน้าฉัน และยังจะขอลดราคาอีกเหรอ?

ไม่ต้องคิดหรอก ฉันขายในราคาเข้าเนื้อให้เขาแล้ว!

“แล้วสองล้านเงินดวงดาวมันพอไหมครับ?” เฒ่าเจ้าเล่ห์นิโคลเริ่มเสแสร้งอีกครั้ง “องค์หญิงไม่คิดเหรอว่าประเทศมีการกู้ยืมมากเท่าไหร่? แล้วจะเอาเงินจากที่ไหน?”

“แค่สถาบันวิจัยเครื่องจักรกล เราต้องจัดสรรงบประมาณถึงแสนล้านเงินดวงดาวต่อปี เช่นเดียวกันกองทุนทหาร เงินบำนาญสำหรับคนที่ตาย…ท่านรู้ไหมว่าเราจ่ายงบประมาณต่อปีไปเท่าไหร่? แม้แต่เงินหลายล้านล้านเงินดวงดาวยังไม่พอที่จะเติมเต็มปัญหานี้เลย!”

“องค์หญิงสาม ท่านเป็นองค์หญิงของประเทศนี้ และองค์หญิงเป็นแบบอย่างของประชาชน องค์หญิงทรงไร้ความปรานีและไม่แบ่งเบาภาระของประเทศได้ยังไง?!”

สวี่หลิงอวิ๋นส่ายตัว นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้ถูกหลอกเลยสักนิด

“ให้เราพูดหน่อยเถอะนะรัฐมนตรีนิโคล เราไม่ชอบที่ท่านพูดเลย ท่านคิดแบบนั้นหรือ ถ้าไม่ใช่เรา แล้วใครจะมากินปลาหมึกยักษ์กัน? มันไม่ใช่เพราะความดีความชอบของเราเหรอที่ประชาชนหันมากินเจ้าสิ่งนี้? เรายังไม่ได้ขอให้จักรวรรดิมอบรางวัลให้เลยนะ! ไหนล่ะ รัฐมนตรีนิโคล ท่านจะช่วยคำนวณให้เราหน่อยได้ไหมว่าเราจะได้เงินโบนัสประมาณเท่าไหร่?!”

รัฐมนตรีนิโคลยิ้มอย่างเขินอายเมื่อเขาได้ยินคำพูดดังกล่าว ลืมภาพลักษณ์อันแสนบริสุทธิ์ไปได้เลย “องค์หญิงสาม ฝ่าบาทช่างขี้เล่นจริง ๆ ท่านคือดาวศุกร์ที่เป็นอนาคตของจักรวรรดิ องค์หญิงมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้ได้ยังไงครับ?”

“โอ้ มันดึกแล้ว ตามนั้นนะครับ องค์หญิงสามตกลงจะขายมันที่ห้าพันเงินดวงดาว ถ้าอย่างนั้นไว้เราไปที่ดินแดนของท่านเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นกันนะครับ!”

เขาวิ่งหนีไปทันทีที่พูดจบ! ราวกับเกรงกลัวว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะขอให้เขามอบรางวัลให้จริง ๆ

สวี่หลิงอวิ๋นมองดูการเคลื่อนไหวที่ว่องไวที่อ้วนท้วม และส่ายหัว ช่างเป็นรัฐมนตรีการคลังที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและขี้เหนียวอะไรเช่นนี้!

หลังจากรัฐมนตรีการคลังเดินออกไป เขาก็มีท่าทีพึงพอใจ

ตามจริงแล้ว ราคาในใจของเขาอยู่ที่แปดพันเงินดวงดาว เขาไม่คาดคิดว่าองค์หญิงสามจะคิดในราคามากสุดเพียงแค่ห้าพันเงินดวงดาวเท่านั้น ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว!

มีแต่ได้กับได้!

รัฐมนตรีการคลังฮัมเพลงโดยเอามือไขว้หลัง แล้วเดินจากไปไกล

สวี่หลิงอวิ๋นไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าปลาหมึกยักษ์ในราคาห้าพันเงินดวงดาวนั้นนิดหน่อยเพียงใด? แน่นอนว่าเธอรู้!

แต่เธออยากให้ทุกคนได้ลิ้มรสของปลาหมึกยักษ์นี้อย่างแท้จริง

ตราบใดที่ผู้คนทั้งหมดได้ลองชิมมัน หึหึ เธอก็ยังมีเครื่องปรุงรสของเธออยู่!

องค์หญิงสาม ฝ่าบาททรงเฉลียวฉลาดนัก!