บทที่ 35 เราจะมีชีวิตที่ดีขึ้น

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม

บทที่ 35 เราจะมีชีวิตที่ดีขึ้น

หลังจากเดินเล่นรอบเมือง พวกเขาก็ซื้อข้าวของสำหรับเทศกาลปีใหม่เกือบจะครบแล้ว

เหยาเฟิงไปที่จวนผู้ตรวจการ เพื่อเรียกเหยาเฉาและพาเด็กทั้งสี่กลับบ้าน

พริบตาเดียววันสิ้นปีก็มาถึง หลายวันมานี้แม่เฒ่าเหยาพาเหยาซูและลูกสะใภ้ทั้งสองคนทำความสะอาดทั้งในบ้านและนอกบ้าน

เหยาเฟิงและเหยาเฉาพาลูก ๆ ของพวกเขาช่วยกันตกแต่งกระดาษสีแดงและอักษรต่าง ๆ ช่างเป็นครอบครัวที่มีความสุข ไม่สิ ต้องกล่าวว่าบรรยากาศทั้งหมู่บ้านตระกูลเหยามีแต่ความครึกครื้นในวันต้อนรับปีใหม่

เด็ก ๆ มีความสุขที่สุด บางครั้งพวกเขาก็ถือขนมที่เตรียมไว้ในบ้านออกมาอวดกัน

ในวันที่ 29

แม่เฒ่าเหยาได้พาลูกสะใภ้ทั้งสองคนเก็บกวาดห้องยุ่งจนไม่ได้พักผ่อน

ชาติที่แล้วของเหยาซูได้ศึกษาเรื่องอาหารการกินมาบ้าง นางและพี่สะใภ้ต่างพูดคุยเกี่ยวกับอาหารมื้อใหญ่ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อยู่ที่ลานบ้าน ทำให้เด็ก ๆ หลายคนที่ได้ยินต่างน้ำลายสอ

จวบจนพระอาทิตย์ตก หลังมื้ออาหารเย็นพวกเขาก็ยังยุ่งวุ่นอยู่กับงาน อีกครึ่งวันผ่านไปก็ยังเก็บกวาดไม่หมด

หลังจากที่เหยาซูทำงานเสร็จ นางก็เหนื่อยจนอยากจะล้มตัวลงนอน พอนางกลับมาที่ห้องก็เห็นต้าเป่าและเอ้อเป่านั่งคุยกันอย่างว่าง่าย ซานเป่านอนหลับอยู่ท่ามกลางพี่ชายและพี่สาวของเขา

ตอนนี้ซานเป่าเริ่มชอบปีนป่าย ยังดีที่บ้านชาวนามีเตียงเตาขนาดใหญ่มากพอทำห้องอบอุ่นและให้เขาคลานเล่นเองได้

อาจื้อและอาซือเห็นว่าแม่ของพวกเขายุ่งมาตลอดทั้งวัน หลังอาหารเย็นจึงอาสาดูแลน้องชายเอง นับว่าช่วยเหลือเหยาซูได้มาก

อาจื้อเห็นแม่ของเขาเดินเข้าประตูมา มือเล็ก ๆ ก็ทำท่าทางให้เงียบและชี้ไปที่น้องชาย “ท่านแม่ น้องหลับแล้ว ท่านอยากอุ้มเขาไปไว้ในเปลหรือไม่?”

อาซือกำลังเก็บของเล่นที่นำออกมาให้ซานเป่าเล่นช่วงที่ยังตื่น เพื่อเปิดช่องว่างให้กับมารดาได้นั่ง

เหยาซูยิ้มและชื่นชมเด็กทั้งสองคนว่า “ต้าเป่าและเอ้อเป่าเก่งจริง ๆ ที่สามารถทำให้น้องชายหลับได้ คืนนี้พวกเรานอนด้วยกันเถิด”

แม้ว่าอาซือจะยังเด็ก แต่ด้วยความเป็นพี่สาวจึงรายงานให้เหยาซูให้รู้ว่า “น้องชายได้เล่นม้าไม้อยู่ครู่หนึ่ง ต่อมาก็เริ่มหิว พี่ชายจึงไปตักข้าวบดที่ห้องครัว เอ้อเป่าเป็นคนป้อนให้น้องชายกินเอง พวกเราทั้งสองคนเล่นกับน้องชายสักพัก น้องจึงง่วงนอนแล้วหลับไป จากนั้นท่านแม่ก็กลับมา”

เหยาซูเห็นว่าลูกน้อยของนางเล่าถึงสิ่งที่ทำได้อย่างชัดเจน แตกต่างจากเมื่อหลายเดือนก่อนที่อยู่ในตระกูลหลินที่มีท่าทางหวาดกลัวและนอนขดตัวอยู่เสมอ

ในเวลาเดียวกันหัวใจของนางก็รักลูกสาวที่ฉลาดเฉลียวคนนี้มากขึ้น

“เอ้อเป่า ทำได้ดีมาก” นางลูบผมของเอ้อเป่าแล้วพูดกับลูกทั้งสองคนอย่างอบอุ่น “พรุ่งนี้พวกเราสามารถนอนต่อได้อีกหน่อย เพราะคืนต่อไปจะต้องคอยอยู่ยามกลางคืน”

เด็กทั้งสองคนตอบรับพร้อมกัน “ขอรับ” “เจ้าค่ะ”

หลังจากแม่ลูกทั้งสามคนล้างหน้าล้างตาและเก็บข้าวของ ก็นอนลงบนเตียงหลังจากนั้นมีเสียงพูดกันเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่เพียงครู่หนึ่งก็พากันหลับไปทีละคน

ในวันส่งท้ายปีเก่า เหยาซูและญาติพร้อมกับลูก ๆ ของนางอยู่ในลานบ้านที่จัดงานสำหรับวันขึ้นปีใหม่

ในยามที่ฟ้ามืด หน้าบ้านทุกหลังถูกประดับประดาด้วยโคมไฟสว่างสดใส

ลานบ้านของพวกเขาถูกเก็บกวาดจนสะอาด ส่วนกระถางถ่านในห้องก็ละลายอากาศเย็นในฤดูหนาว

เหยาซูนั่งเงียบ ๆ อยู่ที่หน้าโต๊ะ ฟังคำอวยพรจากพ่อแม่ที่กำลังพูดให้กับทุกคน

จากนั้นนางก็เห็นพี่ใหญ่ลุกขึ้นจุดประทัด ท่ามกลางเสียงประทัดดังกึกก้อง พี่รองก็เหมือนขยับเข้าไปใกล้พี่สะใภ้รอง เอ่ยสิ่งใดบางอย่างทำให้อีกฝ่ายหัวเราะไม่หยุด

เด็ก ๆ รุมพี่สะใภ้ใหญ่เพื่อเอาขนมและเล่นวิ่งไล่กันอย่างตื่นเต้น เหยาซูเก็บงำอารมณ์เอาไว้ พลันรู้สึกว่าตนเองเริ่มคุ้นกับชีวิตในยุคสมัยนี้ได้แล้ว ตอนนี้นางรู้สึกราวกับว่าตนก็เป็นคนของที่นี่เช่นกัน

เมื่อกินข้าวเย็นเสร็จ เหยาซูยังนั่งอยู่หน้าเตาถ่านกอดลูกสาวเอาไว้แล้วปอกเปลือกถั่วลิสงให้นางกินพลางถามเสียงเบาว่า “เอ้อเป่า หนาวไหมลูก?”

อาซือซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของมารดาอย่างสนิทสนมพลางส่ายหน้า รับถั่วลิสงที่แม่ส่งมาให้พร้อมกับยิ้มซื่อ ๆ “ท่านแม่ ท่านก็กินด้วยเถอะเจ้าค่ะ”

สองแม่ลูกกะเทาะเปลือกถั่วลิสงให้แต่ละคนกิน ระหว่างนั้นก็พูดอะไรบางอย่าง กระซิบกระซาบกันบ้างเพื่อไม่ให้รู้สึกว่าการอยู่ยามในเวลากลางคืนเป็นเรื่องน่าเบื่อ

เมื่ออาจื้อเพิ่งจุดประทัดกับลุงใหญ่เสร็จ บนร่างยังมีกลิ่นดินปืนเล็กน้อยขยับเข้าไปใกล้เหยาซู “ท่านแม่ เราจะฉลองปีใหม่อย่างมีความสุขในปีหน้าได้หรือไม่?”

เหยาซูยิ้มและถามกลับไปว่า “ต้าเป่า เจ้าชอบไหม?”

“ชอบขอรับ!”

“ต้าเป่าเชื่อแม่ วันส่งท้ายปีเก่าปีหน้าพวกเราจะมีชีวิตที่ดีขึ้น…”

เสียงของนางพูดเบาจนเหมือนพูดอยู่ใต้น้ำ ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมในวันส่งท้ายปีเก่า สายลมยามกลางคืนช่างหนาวเย็นถูกละลายด้วยเสียงอันอ่อนโยนของนาง

อาจื้อกุมประทัดในมือ บนใบหน้าของนางปรากฏรอยยิ้มกว้าง เด็กวัยนี้ทุกคนควรจะมีรอยยิ้มที่บริสุทธิ์และน่ายินดีเช่นนี้

แต่ค่ำคืนนี้ที่ยิ่งใหญ่ครึกครื้นนี้ ลึกลงไปในจิตใจของพวกเขา ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดถึงและเสียใจคิดถึงพ่อที่ล่วงลับไปแล้วหรือไม่…

…………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ขอให้เป็นปีใหม่ที่ดีนะคะ สิ่งไม่ดีที่ผ่านไปแล้วก็ขอให้หลุดลอยไปกับปีเก่า ๆ

ไหหม่า(海馬)