บทที่ 70 พระชายาหายตัวไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 70 พระชายาหายตัวไป

น้ำเสียงเข้ม ๆ ดังขึ้น เย่แจ๋หยิ่งแผ่กระจายไอสังหารออกมา ซึ่งมันพุ่งเข้าใส่ยมทูตหน้าขาว – หน้าดำด้วย

ทำให้พวกเขาหยุดหายใจไปชั่วขณะ ท่าทางดูเคร่งเครียดขึ้นมา

ยมทูตหน้าดำที่ไม่ได้พูดอะไรเลยก่อนหน้านี้ หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว ก็พูดออกมาคำหนึ่งว่า

“ฆ่า”

พอพูดจบ เหล่านักฆ่าของยิงจวนก็บุกเข้าใส่ทันที

ยมทูตหน้าขาว – หน้าดำมองหน้ากัน พวกเขายิ้มกันอย่างระมัดระวังตัว หลังจากนั้นพวกเขาก็พุ่งเข้าใส่เย่แจ๋หยิ่ง

จากนั้น

สิ่งที่น่าตกใจก็คือ สองคนนี้พุ่งใส่เย่แจ๋หยิ่งพร้อมกันชัด ๆ แต่กลับมีเงาคนหนึ่งพุ่งไปหาหลานเยาเยา

หลานเยาเยาหน้าเสียไป จากนั้นก็รีบหลบ พอหันกลับมา ก็อดตะลึงไม่ได้

เย่แจ๋หยิ่งโผล่มาตรงที่นางอยู่เมื่อกี้ เขามาขวางเงาสีดำเอาไว้ นิ้วมือเรียวยาวของเขาบีบไปที่คอของยมทูตหน้าดำ

ส่วนยมทูตหน้าขาว ที่มุมปากมีรอยเลือดไหลออกมา

ยมทูตหน้าดำตกใจมาก แต่ก็ยิ้มแปลก ๆ ออกมา จากนั้นก็สะบัดหลุดออกจากการจับของเย่แจ๋หยิ่ง

เขาเหมือนวิญญาณมาก พริบตาเดียวก็แยกตัวออกเป็นหลายคน ล้อมตัวเย่แจ๋หยิ่งเอาไว้ ถึงแม้จะไม่ได้สู้กับเย่แจ๋หยิ่ง แต่ก็จะแอบลอบจู่โจมตลอดเวลา

หลานเยาเยาเพิ่งจะหลบนักฆ่ามาสองคน ก็เห็นเงาของยมทูตหน้าขาว ลอบตัวพุ่งมาหานาง

หลังจากที่มาอยู่ตรงหน้านางแล้ว เงาสีขาวมันก็หายไปทันทีแบบไร้ร่องรอย

วรยุทธ์ที่ร้ายกาจขนาดนี้เลยเหรอ

หลานเยาเยากระพริบตา

พริบตาเดียวก็รู้สึกเหมือนมีลมวูบหนึ่งพัดมา นางคิดอยากจะหลบแต่ก็ไม่ทัน นางเลยพุ่งเข้าใส่

เมื่อล้มลงไปที่พื้นแล้ว นางก็รีบกลิ้งไป แล้วก็ฟุบ เพื่อดูสถานการณ์

ตำแหน่งที่นางอยู่เมื่อกี้ มีเงาสีขาวหายไปต่อหน้าต่อตา

ผมของนางลอยลงมาตรงหน้าของหลานเยาเยา จากนั้นก็นอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น

อ่า ……

หากปฏิกิริยาของนางไม่ไหวพอ ที่หล่นอยู่บนพื้นคงไม่ใช่ผม แต่คงเป็นหัวของนางแน่

ไม่ได้ หากเป็นแบบนี้ต่อไป เกิดไม่ทันระวังขึ้นมา หัวของนางคงหายแน่ ต้องคิดหาวิธี

ในเวลานี้เอง

ยมทูตหน้าขาวก็พูดขึ้นมาว่า

“ไม่แปลกใจเลยที่ยายเมิ่งจะบอกว่าเจ้าเป็นคนที่น่าสนใจมาก ไม่ธรรมดาจริง ๆ ด้วย วันนี้ข้าจะต้องเอาหัวของเจ้าให้ได้”

พูดจบเขาก็หัวเราะแปลก ๆ

หลานเยาเยาฟังไม่ออกเลยว่าเสียงของเขามันมาจากทางไหน เหมือนมาจากรอบตัวทั้งหมดเลย

ทันใดนั้นเองหลังของนางก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นมา นางรู้สึกถึงแรงกดดันจากความตาย

“เจ้าน่ะเหรอ?”

ถึงแม้นางจะไม่รู้วรยุทธ์ ไม่มีกำลังภายใน แต่คิดอยากจะฆ่านางมันก็ไม่ง่ายนะ

ดังนั้น

นางรีบกินยาเม็ดลงไป จากนั้นก็สวมถุงมือ อีกทั้งยังเอายาที่มีฤทธิ์รุนแรงมาทาที่ถุงมืออีกด้วย

จากนั้นนางก็โยนขวดยาทิ้ง พริบตาเดียวกลิ่นฉุนมันก็ลอยเข้าจมูกมา อีกทั้งยังลอยไปในอากาศ พริบตาเดียวก็เห็นเงาสีขาววิ่งวนอยู่รอบตัวของนาง

“ยาพิษ?”

เสียงของยมทูตหน้าขาวดังขึ้น น้ำเสียงเหมือนไม่อยากจะเชื่อ

หากจะพูดถึงเรื่องยากพิษ

ใครจะไปมียาพิษเท่ายิงจวนอีก?

แม้แต่ยายเมิ่งที่ก็ไม่ถือว่าเป็นสมาชิกภายในยิงจวน ใช้ยาพิษก็ทำให้คนหวาดกลัวได้ ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย

ถึงแม้เขาจะไม่เชี่ยวชาญด้านพิษ แต่เขาก็รู้เรื่องพิษบ้าง

แต่เขาไม่เคยได้กลิ่นยาพิษแบบนี้มาก่อนเลย?

หลานเยาเยาเป็นใครกัน?

“พอประมาณแล้วสินะ ต่อให้เจ้าจะเร็วแค่ไหน ตอนนี้ก็น่าจะได้กลิ่นแล้วสินะ ข้ากินยาถอนพิษไปแล้ว เจ้าอยากได้หรือเปล่า?”

นี่มันยาพิษที่ไหนกัน แค่อยากจะขู่เขาเท่านั้นแหละ

เพราะที่นี่ยังมีพวกของเย่แจ๋หยิ่งอยู่ หากนางใช้ยาพิษจริง ๆ พวกเขาก็จะซวยไปด้วย

พอนางพูดจบ

เงาสีขาวนั่นก็หยุดลงตรงหน้านาง ยมทูตหน้าขาวยิ้มแปลก ๆ แล้วยื่นมือออกมา

“ยาถอนพิษ เอามา”

ถึงแม้จะพูดแบบนี้ แต่หน้าตาของเขาเหมือนไม่อยากได้ยาถอนพิษเลย เพราะกรงเล็บของเขามันได้พุ่งมาที่นางแล้ว

หลานเยาเยายิ้ม จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาโบกมือ

“บ๊ายบาย”

ยมทูตหน้าขาวเลือดขึ้นตา หันหน้าไปแบบงง ๆ ความเร็วของเขาไม่ลดลงเลย

น่าเสียดาย ……

กรงเล็บของนางพุ่งทะลุหน้าอกของหลานเยาเยา แต่กลับมีกลุ่มหมอกสีขาวล้อมหลานเยาเยาเอาไว้ แล้วปิดบังการมองเห็นของเขาด้วย

หลานเยาเยาหลบไป พริบตาเดียวนางก็จับไปที่มือของเขา แต่ตำแหน่งที่จับกลับมีกลุ่มควันสีขาวออกมา

คิดจะฆ่าข้าเหรอ?

วันนี้ข้าจะตัดแขนของเจ้า

พอใช้แรง หลานเยาเยากลับรู้สึกว่าแขนของเขามันเหมือนไม่มีเนื้อหนัง มันลื่นหลุดออกจากมือของนาง

เมื่อเห็นดังนั้น

หลานเยาเยาหลบซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มควันขาว จนกระทั่งกลุ่มควันขาวนั้นหายไป นางเหมือนคนที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเลย

ยมทูตหน้าขาวเห็นอยู่ต่ำตาเขาตกใจมาก เลยเริ่มระวังตัวตลอดเวลา

ไม่มีเงาของหลานเยาเยาแล้ว ……

ยมทูตหน้าขาวขมวดคิ้ว สายตาของนางมองไปที่เห็นมือของหลานเยาเยาที่กำลับจับมืออยู่ บนชายเสื้อของเขาเหมือนจะมีรอยข่วน ทุกที่ที่ถูกสัมผัส เหมือนมันจะย่นขึ้น

“โอ้ย …..”

เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น

ยมทูตหน้าดำที่รับผิดชอบรับมือกับเย่แจ๋หยิ่ง ถูกซัดจนล้มลงกับพื้น

เลือดของเขากระอักออกมา เขาเหมือนตุ๊กตาหุ่นเชิดที่ถูกตัดสายทิ้ง เขาดิ้นอยู่ที่พื้น ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีกแล้ว

เขามองไปที่เย่แจ๋หยิ่งที่ค่อย ๆ เดินมา สายตาดูหวาดกลัวมาก

เขาไม่สามารถสู้กับอ๋องเย่ได้เกินสามกระบวนท่า กำลังภายในที่กล้าแกร่งแบบนี้ คิดว่าแม้แต่ท่านยมบาลก็คงสู้เขาไม่ได้

เย่แจ๋หยิ่งเดินลมปราณ สายตาจ้องไปที่เขาอย่างเย็นชา ตอนที่เขากำลังจะลงมือ ……

ก็มีกลุ่มเงาสีขาววิ่งผ่านมา แล้วช่วยยมทูตสีดำไป เหล่านักฆ่ายิงจวนก็เหลือแค่ไม่กี่คน เห็นยมทูตหน้าขาวหน้าดำหายตัวไป ก็รีบไปเหมือนกัน

“นายท่าน”

“นายท่าน”

จื่อซีกับจื่อเฟิงเก็บกระบี่ แล้วรีบมาหาเย่แจ๋หยิ่ง

“นางล่ะ?”

เย่แจ๋หยิ่งรีบมองไปรอบ ๆ ไม่เห็นปีศาจน้อย ก็ถาม

“เรียนนายท่าน พระชายา …… นางสลายตัวเป็นกลุ่มควันสีขาวหายตัวไปแล้วขอรับ”

จื่อซีรู้สึกว่าพูดแบบนี้ นายของเขาอาจจะไม่เชื่อ

แต่ว่าเรื่องนี้คือเรื่องจริง

เดิมเขาคิดจะเข้าไปช่วยพระชายาสู้ แต่กลับถูกนักฆ่าล้อมเอาไว้ แต่เขาก็แอบสังเกตการณ์ทางพระชายาอยู่ตลอดเวลา

“หายไปแล้ว?”