ตอนที่ 152 วินเทอร์โซลเจอร์
“นั่งรถเล่นเป็นเพื่อน ?” นิคฟิวรี่มองไปยังซู่เจินที่กําลังนั่งอยู่ด้านหลังรถด้วยรอยยิ้ม ซึ่งใจจริงของนิคฟิวรี่ในตอนนี้เขาอยากจะชักปืนออกมายิงซู่เจินเป็นอย่างมาก และเขาก็ไม่รู้ตัวด้วยว่าซูเจนขึ้นมานั่งบนรถตั้งแต่เมื่อไหร่ โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย
นิคฟิวรี่สูดหายใจเข้าไปล็ก ๆ พร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยน้ําเสียงอันลึกล้ําว่า “คุณต้องการทําอะไร ?”
“ผมก็แค่ติดรถคุณไปเท่านั้น และคุณก็ไม่จําเป็นที่จะต้องห่วงผมเลยแม้แต่น้อย เพราะผมรู้ว่าควรจะทําตัวอย่างไร และเมื่อผมจัดการอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้วผมจะลงจากรถทันที” ซู่เจินพูดขึ้นมาอย่างสบาย ๆ พร้อมกับหันหน้ามองไปยังนอกหน้าต่าง เหมือนกับว่าเขาไม่ได้สนใจนิคฟิวรี่เลยแม้แต่น้อย
นิคฟิวรี่จ้องมองไปที่ซู่เจินอยู่สักพักหนึ่ง และถึงแม้ว่าเขาจะมีเพียงแค่ตาเดียว เขาก็ยังจ้องมองไปยังซู่เจินได้อย่างชัดเจน และถ้าเกิดว่าดวงตาของเขามันสามารถยิงเลเซอร์ได้ ป่านนี้ร่างของซู่เจินก็คงจะมีรูสักสองสามรูอยู่บนร่างกายไปนานแล้ว ?
เมื่อเห็นว่าซู่เจินนั่งอยู่บนรถและไม่มีทีท่าที่จะไป นิคฟิวรี่ก็ได้แต่ทําใจและค่อย ๆ ขับรถออกไปอย่างช้า ๆ โดยในขณะที่เขาขับรถออกไปเขาก็คิดไปด้วยว่าจุดประสงค์ของซู่เจินมันคืออะไรกันแน่
และเมื่อเขาขับมาเรื่อย ๆ จนติดด่านตรวจเขาก็เหลือบมองไปยังซู่เจินที่ยังนั่งไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลย ซึ่งมันก็ทําให้เขารู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมาเล็กน้อย และทันใดนั้นมันก็มีรถตํารวจขับเข้ามาจอดใกล้ ๆ กับเขา โดยตํารวจพวกนั้นก็กําลังมองมาที่นิคฟิวรี่ด้วยความโกรธอะไรบางอย่าง
ซึ่งเมื่อนิคฟิวรี่เห็นเช่นนั้น เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก พร้อมกับเอากระจกลงและตะโกนไปทางรถตํารวจว่า “ทําไม ต้องการดูใบขับขี่ของฉันอย่างงั้นหรอ ?”
เจ้าหน้าที่มองมายังนิคฟิวรี่เล็กน้อย ก่อนที่พวกเขาจะกดเปิดสัญญาณเตือนขึ้นมาพร้อมกับขับรถออกไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ทําให้นิคฟิวรี่ที่เห็นเช่นนั้นถึงกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างรุนแรงพร้อมกับสตาร์ทรถและขับรถออกไป และในขณะที่รถกําลังแล่นผ่านด่านตรวจ ทันใดนั้นมันก็มีรถต่ารวจพรุ่งเข้าชนท้ายรถอย่างรุนแรง ทําให้รถของนิคฟิวรี่กระเด็นไปชนกับรถตํารวจที่อยู่ด้านหน้าทันที
ในขณะเดียวกันมันก็มีถุงลมนิรภัยกระเด้งออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันแรงกระแทกจากการถูกชน ทําให้นิคฟิวรี่ในตอนนี้รู้สึกมึนหัวเล็กน้อย ในขณะเดียวกันมันก็มีรถตํารวจอีกคันขับมาเพื่อปิดรถของนิคฟิวรี่เอาไว้ ทําให้ตอนนี้เขาไม่สามารถขยับรถออกไปไหนได้เลย
“ตรวจพบรอยร้าว!”
ระบบ AI ของรถแจ้งเตือนขึ้นมา
นิคฟิวรี่ส่ายหัวขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมกับเหลือมองไปยังซู่เจินที่นั่งอยู่ด้านหลังรถ
แน่นอนว่าซู่เจินไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ซึ่งในตอนนี้เขาก็กําลังมองไปข้างนอกด้วยความสนใจ
รถตํารวจหน่วยพิเศษคันสีดําขับเข้ามาจอดอยู่ตรงหน้าของพวกเขา และเปิดประตูออกมาโดยมีเจ้าหน้าที่ตํารวจอาวุธครบมือวิ่งออกมาจากตัวรถอย่างรวดเร็ว
“จะเริ่มแล้วสินะ …”
ซู่เจินบ่นพึมพําขึ้นมาเบา ๆ โดยที่ยังไม่ได้ลงมือทําอะไร
ใช่! เขากําลังรอ…รอวินเทอร์โซลเยอร์
ซึ่งภารกิจของเขาก็คือการช่วยเหลือนิคฟิวรี่จากการตามล่าของวินเทอร์โซลเยอร์ และในเมื่อตอนนี้วินเทอร์โซลเยอร์ยังไม่มา มันก็ยังไม่มีเหตุจําเป็นอะไรที่ซ่เงินจะต้องช่วยเขา
“เจ้าหน้าที่ตํารวจวอชิงตัน … บริเวณนี้ไม่มีตํารวจหน่วยอื่นนอกจากนี้”
ระบบ AI ของรถแจ้งเตือนขึ้นมาอีกครั้ง
แน่นอนว่านิคฟิวรี่ก็เห็นสถานการณ์บริเวณด้านนอกเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เข้าใจว่าคนพวกนั้นต้องการอะไรจากเขา ? หลังจากนั้นไม่นานรถของเขาก็ถูกล้อมด้วยคนพวกนั้นเต็มไปหมด และคนพวกนั้นก็เริ่มยิงมาที่รถของนิคฟิวรี่อย่างบ้าคลั่ง
เสียงกระสุนปืนดังขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทําให้รถในตอนนี้เต็มไปด้วยรอยกระสุนเต็มไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นกระจกของรถก็ยังไม่แตก เพราะว่ารถคันนี้ถูกปรับแต่งขึ้นมาอย่างพิเศษ และรถคันนี้ยังเป็นรถของผู้อํานวยการหน่วย SHIELD
“คุณไม่มีอะไรจะพูดเลยอย่างงั้นหรอ ?”
นิคฟิวรี่หันไปพูดกับซู่เจิน
ซู่เจินยักไหล่และพูดขึ้นมาว่า “ดูเหมือนว่าเป้าหมายของผมจะยังมาไม่ถึง!”
“ไอ้บ้าเอ้ย รีบพาฉันออกไปจากที่นี่เร็ว!”
นิวฟิวรี่หันไปตะโกนสั่งกับระบบ AI บนรถทันที เพราะดูจากท่าทางของซู่เจินแล้ว เขาไม่สามารถหวังอะไรกับซู่เจินได้เลย
“ระบบการขับเคลื่อนเกิดอาการขัดข้อง”
“รีบรีสตาร์ทระบบเร็วเข้า!”
นิคฟิวรี่ตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง เพราะว่าตอนนี้เขาเห็นคนที่อยู่ด้านนอกหยิบกําลังหยิบอุปกรณ์อะไรบางอย่างออกมาจากตัวรถ มันเป็นเครื่องกระแทกที่สามารถกระแทกรถของเขาให้พลิกคว่ําได้อย่างง่ายดาย
ทําให้นิคฟิวรี่ในตอนนี้รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาเล็กน้อย เขาหยิบปืนขึ้นมาเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้อยู่ตลอดเวลา แต่ถึงอย่างไรก็ตามทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่ามีพลังงานสีเข้มกําลังห่อหุ้มตัวรถเอาไว้ และรถของเขามันก็ค่อย ๆ ลอยขึ้นและลอยข้ามรถที่จอดขว้างเอาไว้ไปจอดอยู่ตรงถนนโล่ง ๆ อย่างรวดเร็ว
“มัวทําอะไรอยู่ รีบขับรถหนี้สิ!” ซู่เจินพูดตะโกนเตือนสติขึ้นมา
เมื่อนิคฟิวรี่ได้ยินเช่นนั้นเขาก็รีบสตาร์ทรถ และขับออกไปอย่างรวดเร็ว
“ฉันคิดว่าคุณจะไม่ช่วยฉันซะอีก ?” นิคฟิวรี่ถามขึ้นมาพร้อมกับเหลือบมองไปยังด้านหลังที่มีรถตํารวจกําลังขับไล่หลังเขามาอยู่ติด ๆ
“ผมรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยกับการกระทําของคนพวกนั้น” ซู่เจินพูดขึ้นมาเบา ๆ
“มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่ ? ฉันรู้นะว่าคุณจะต้องรู้อะไรบางอย่างอย่างแน่นอน ไม่งั้นคุณก็คงจะไม่ปรากฏตัวขึ้นมาบนรถของฉันหรอก!” นิวฟิวรี่เชื่อว่าซู่เจินจะต้องรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าครั้งนี้ซู่เจินทําตัวแปลกไปจากปกติอย่างสิ้นเชิง
และเขาก็รู้ด้วยว่าซู่เจินไม่ค่อยชอบเขาสักเท่าไหร่ และซู่เจินก็จะไม่มีวันมาหาเขาอย่างแน่นอนถ้าเกิดว่าเขาไม่มีเหตุผลที่มันจําเป็นจริง ๆ และยิ่งไม่ต้องพูดถึง … ซู่เจินไม่มีเหตุจําเป็นที่จะต้องนั่งอยู่บนรถแบบนี้เลย
“ตอนนี้นาตาชาย้ายมาอยู่กับผมเรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่าการที่เธอย้ายมาอยู่กับผมมันเป็นเรื่องปกติ เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงของผม แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เป็นสมาชิกของหน่วย SHIELD ทําให้ผมจําใจมาช่วย คุณสักครั้งหนึ่ง” ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ช่วยฉันสักครั้งหนึ่ง ? แสดงว่าคุณรู้ใช่ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
นิคฟิวรี่ในตอนนี้ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องของนาตาชามากนัก เพราะว่าตอนนี้เขาอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“อย่าพูดอย่างกับว่าคุณไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และถึงแม้ว่าคุณจะไม่รู้มันจริง ๆ ผมก็ไม่บอกคุณอยู่ดี เอาล่ะ! จอดรถซะ ไม่งั้นเดี๋ยวรถจะบินขึ้นฟ้าโดยไม่รู้ตัว” ซู่เจินพูดขึ้นเบา ๆ และเมื่อนิคฟิวรี่ได้ยินเช่นนั้นเขาก็รีบหยุดรถโดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้นเขาก็สังเกตเห็นใครบางคนกําลังยืนอยู่กลางถนนบริเวณด้านหน้าของพวกเขา
เขาสวมชุดสีดํา หน้ากาก และผ้าปิดตา ทําให้ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้ชัดเจนมากนัก แขนซ้ายของชายคนนั้นเป็นแขนกลสีเงิน – ขาว และมือขวาของเขาก็ถือปืนกลเอาไว้ในมือ
“เขาเป็นใคร ?” นิคฟิวรี่ถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
“คนที่จะฆ่าคุณไง!”
ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม และพูดต่อว่า “เดี๋ยวคุณหลบหนีไปทางอื่น ซึ่งผมก็เชื่อว่าคุณน่าจะหลบหนีจากการตามล่าของคนพวกนั้นได้ไม่อยากเย็นมากนัก”
หลังจากพูดจบ ซู่เจินก็เปิดประตูและเดินลงมาจากรถพร้อมกับเดินเข้าไปหาวินเทอร์โซลเยอร์อย่างช้า ๆ
นิคฟิวรี่เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็รีบขับรถไปอีกเส้นทางในทันที แต่ในขณะที่เขากําลังจะขับรถออกไปทันใดนั้นวินเทอร์โซลเยอร์ก็หยิบอะไรบางอย่างออกมา มันมีลักษณะคล้าย ๆ แหวน ซึ่งแหวนตัวนี้มันก็คือระเบิดสนามแม่เหล็ก และตราบใดที่มันถูกติดเข้ากับรถของนิคฟิวรี่เมื่อไหร่ มันจะเกิดการระเบิดในทันที
และเมื่อซู่เจินเห็นว่าวินเทอร์โซลเยอร์โยนแหวนอันนี้ไปยังรถนิคฟิวรี่ เขาก็โบกมือขึ้นมาเบา ๆ ทําให้สิ่งนั้นมันหยุดค้างอยู่กลางอากาศในทันที