ตอนที่ 83 แผนการถ่ายทำสามสิบสองหมี+สามแท็กโอจิซังที่เป็นดังภัยคุกคาม

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

83 แผนการถ่ายทำสามสิบสอง+สามที่เป็นดังภัยคุกคาม

 

“――เช่นนั้น หนูขอตัวก่อนนะคะ”

 

และ ในที่สุดก็ถึงเวลายุติการพูดคุย ฉันลุกออกจากที่นั่งของตัวเอง

 

ฉันทานของหวานอย่างเชื่องช้า เนื่องจากครอบครัวลิสตันพึ่งได้มารวมตัวกันเป็นครั้งแรกหลังจากผ่านนาน เวลาอาหารเย็นจึงใช้เวลานานกว่าปกติ

พูดให้ชัดคือ กลายเป็นเรื่องยาวที่ยาวขึ้น เมื่อคุณพ่อได้ยินเกี่ยวกับตารางงานของฉัน

 

ฉันกับพี่ชายพึ่งอาบน้ำหลังจาการฝึกตอนกลางวันแล้วที่เหลือคือ พักผ่อน แต่กับพ่อแม่แล้วไม่ใช่

ทันทีที่ทั้งสองคนกลับมาจากทำงานข้างนอก พวกเขาก็รีบมานั่งที่โต๊ะอาหารทั้งที่ยังอยู่ในชุดทำงาน

 

ดังนั้นหากรั้งไว้นานกว่านี้จะดูไม่ดี ควรให้พวกเขาได้ไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว ถึงจะดูเหมือนแค่เหนื่อยนิดหน่อย แต่ถ้าฝืนตัวเองมากเกินไป พรุ่งนี้จะมีปัญหาได้

 

“อะ เนีย เร็ว ๆ นี้ พ่อคิดว่าจะเรียกเบนเดริโอ้มาคุยเกี่ยวกับรายการสักหน่อยน่ะ”

 

“เข้าใจแล้วค่ะ หากกำหนดวันที่เจาะจงได้แล้ว ช่วยบอกหนูด้วยนะคะ”

 

หลังจากพูดคุยเป็นครั้งสุดท้าย ฉันก็กลับห้องพร้อมกับริโนกิส

 

“――เช่นนั้น คุณหนู เรามาทำการบ้านกันเลยดีไหมคะ”

 

…………

 

จริงด้วยสินะ

เพื่อที่จะใช้เวลาห้าวันสุดท้ายของวันหยุดฤดูร้อนโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งใด ฉันต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายจากสถาบันการศึกษาอย่างแน่วแน่ทุกวัน และต้องทำให้เสร็จทั้งหมด

 

เนื่องจากยังเป็นเนื้อหาในการเรียนของเด็ก ดังนั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันสามารถเข้าใจได้ แต่……ว่าแล้วเชี่ย ยังไงฉันก็ใช้หัวไม่เก่งอยู่ดี

อันที่จริง ฉันเกลียดการใช้หัวแบบนี้ ฉันแสวงหาพลังที่เหนือกว่าใคร ๆ เพื่อให้สามารถพิพากษาฆ่าได้ในการโจมตีครั้งเดียว

 

ชีวิตชาตินี้จำเป็นต้องใช้หัวจริง ๆ เหรอ

ในชาติที่แล้ว ฉันไล่ตามเส้นทางของศิลปะการต่อสู้ แต่คราวนี้ใช้หัวสินะ……ยาเร๊ะยาเร๊ะ

 

“ดิฉันชอบคุณหนูที่ไม่คิดที่จะหนีไปไหนแม้จะทำหน้าบูดบึ้งก็ตามค่ะ”

 

“ส่วนฉันไม่ชอบลูกศิษย์ที่เอาแต่ตั้งการ์ดไม่ยอมปล่อยให้ฉันหนีเด็ดขาด”

 

“ก็เพื่อตัวคุณหนูเองนะคะ”

 

“บางครั้ง เจตนาดี ก็อาจกลายเป็นเจตนาร้ายได้”

 

“เรื่องนั้นไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะ ซ้า รีบ ๆ ทำกันเถอะ มีอะไรไม่เข้าใจก็ถามได้นะคะ”

 

ฉันได้รับการปฏิบัติอย่างเมินเฉยจากลูกศิษย์ของฉัน……เธอไม่มีความเคารพพอ ลูกศิษย์ให้เกียรติอาจารย์ด้วย

 

……ช่วยไม่ได้ มาทำกันเถอะ

 

 

 

วันหยุดฤดูร้อนเริ่มขึ้น

 

ทันทีที่เริ่ม ฉันยุ่งเป็นสองเท่าของตอนที่ฉันอยู่ที่สถาบันการศึกษา

 

ฉันเตรียมความพร้อมสำหรับการยุ่งเล็กน้อย แต่ปริมาณงานมีมากกว่าที่ฉันคิดไว้

ฉันไม่ได้ยินเกี่ยวกับกำหนดการอย่างเป็นรูปธรรมมาก่อน แต่……พอฉันเปิดฝาครอบออก บ้าไปแล้ว

 

――ถ่ายทำสามสิบสองงานในสองสัปดาห์……?

 

――แน่นอนว่าเป็นฉันเองที่ขอให้อัดเข้ามาในช่วงสองสัปดาห์แรกให้ได้มากที่สุด แต่จะใครจะคิดล่ะว่าจะบีบให้แน่นได้ขนาดนี้กัน

 

――เบนเดริโอ้ คุณควรทำตัวฉูดฉาดแค่หน้าก็พอแล้ว ไม่เห็นต้องวางตารางงานให้ฉูดฉาดบ้าคลั่งระดับนี้……

 

ถ้าการถ่ายทำสองงานในหนึ่งวันยังทำให้จิตใจเหนื่อยล้าได้แล้ว

นี่อาจจะมีสามงานในหนึ่งวันแทนที่จะเป็นสองงานได้ด้วยซ้ำ

 

เมื่อฉันประชดประชันเป็นการร้องเรียนแบบอ้อม ๆ เบนเดริโอ้ซึ่งบังเอิญไปร่วมการถ่ายทำด้วย เขาก็หัวเราะร่าเริงด้วยใบหน้าฉูดฉาด

 

“ฮ่าๆๆๆ ถ้าเป็นเนียจังไม่เป็นไรหรอกจริงไหม น่ารักจริง”

 

เป็นครั้งแรกในเวลาอันยาวนานที่ฉันอยากจะต่อยใครสักคน โดยไม่สนว่าจะไปทำร้ายความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของฉันก็ตาม

ฉันอยากจะทำให้เขาทรุดตัวลงมาต่ำ ๆ เพื่อให้ฉันชกกำปั้นเข้าที่หน้าเขาตรง ๆ ได้ง่าย ๆ

การทำราวกับว่าฉัน「น่ารัก」ยิ่งทำให้ฉันโกรธ

 

ฉันรู้สึกหงุงหงิด ดังนั้นฉันจึงเพิ่มการฝึกของริโนกิสขึ้นยี่สอบเปอร์เซ็นต์และเข้มข้นขึ้น ถ้าจะแค้นก็ไปแค้นเบนเดริโอ้ซะนะ

 

การถ่ายทำมีตั้งแต่เช้าจรดเย็น ส่วนการบ้าน และการฝึกทำหลังจากกลับบ้าน

บางครั้งเราก็ต้องพักค้างคืน

ทุกวันผ่านไปอย่างรวดเร็วจนฉันไม่มีเวลาคิดถึงชีวิตในสถาบันเลย

 

 

 

วันหนึ่งฉันหยุดแม้แต่จะคิดว่าผ่านไปกี่วันแล้ว

พ่อแม่กลับบ้านมาพร้อมกับเบนเดริโอ้ ――ยังไงก็ตาม ดูเหมือนว่าจะเป็นวันที่หกแล้ว ฉันไม่สนใจอีกต่อไป

 

มานึกดูแล้ว ฉันก็จำได้ว่าคุณพ่อบอกว่าจะมีการพูดคุยวางแผนกัน ฉันจึงไปที่ห้องรับแขกเมื่อถูกเรียก แต่แค่ได้ยินชื่อเบนเดลิโอ้ก็ทำให้ฉันแทบหงุดหงิดแล้ว ฉันเลยขอให้เรียกพี่ชายไปด้วย ฉันคิดว่าน่าจะได้เวลาดันให้ถึงคิวของพี่ชายบ้างแล้ว ถ้าจะแค้นก็ช่วยไปแค้นหน้าฉูดฉาดนั่นเถอะนะคะ

 

นี่จะเป็นครั้งแรกในรอบสองปีไหมที่เราได้ประชุมกันแบบนี้

หลังจากปรากฏตัวบนเมจิกวิชั่นเป็นครั้งแรกเพื่อประกาศการรอดชีวิตของตัวเอง มีการพูดคุยกันว่า 「จะปรากฏตัวในอนาคตอีกไหม」

 

พวกเราเคยจัดการประชุมในห้องนั่งเล่นของที่คฤหาส์ลิสตันแล้วหลายครั้ง แต่ตอนนั้นไม่มีพี่ชายที่อยู่ที่หอพักของสถาบัน

 

มีที่ชวนให้คิดถึงเล็กน้อย

ลองนึกดู ตำแหน่งที่นั่ง แม้แต่คนรับใช้ที่ยืนอยู่ การวางตำแหน่งทุกคนเหมือนเดิม

 

“มีสามโควต้า ผมอยากให้เลือกจากโควต้าเหล่านี้”

 

ด้วยใบหน้าฉูดฉาดน่ารำคาญ เบนเดริโอ้หยิบเอกสารหนา ๆ ออกมาจากกระเป๋าแล้ววางลงบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว

 

……โอ๊ยๆๆ หรือว่าข้อเสนอทางธุรกิจทั้งหมดเลยสินะ……?

 

พูดอีกอย่างก็คือ โควต้าทั้งสาม……คุณตั้งใจที่จะเพิ่มงานให้กับตารางงานที่แน่นเอี้ยดในปัจจุบันอยู่แล้วงั้นเหรอ……?

 

“เบนเดริโอ้ซามะ”

 

“หืม?”

 

“อยากออกไปข้างนอกสักครู่ไหมคะ? เราไปคุยกันแค่สองหน่อยไหมคะ?”

 

ในแง่ภาษากาย

ฉันต้องการพูดคุยด้วยภาษาที่เรียกว่าการใช้กำลังแล้ว

 

“ฮ่าๆๆๆ เป็นคำเชิญที่เย้ายวนใจทีเดียว แต่ผมคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะพ่อแม่ของเธอคงจะไม่มีวันอนุญาต นอกจากนี้มาคุยเรื่องงานสนุกสนุกกันต่อดีกว่า”

 

คุณเป็นคนเดียวที่สนุก!!

 

……จะเอาสินะ

การบ่นไม่ได้ทำให้งานของคุณลดลง

 

 

 

สามงานที่เพิ่มเข้ามาใหม่

 

งานแรก――「วิ่งไล่จับกับเนีย・ลิสตัน! ~สุนัขของเราเร็วกว่า~」

 

นี่ ดูเหมือนว่าจะเกิดจากการออกอากาศภาพของฉันที่วิ่งเร็วกว่าสุนัขต้อนแกะ และรับลูกบอลกลางอากาศ ในงานที่ถ่ายทำที่ฟาร์มปศุสัตว์

 

พูดทั้ง「สุนัขของฉันเร็วกว่า」และ「เร็วกว่าเนียจัง」

 

ฉันได้รับจดหมายแบบนี้หลายฉบับ พยายามที่จะแข่งด้วยให้ได้ เป็นแผนงานที่เกิดจากความคิดดังกล่าว

 

“ถ้าเป็นอันนี้ โอนี่ซามะก็เข้าร่วมได้จริงไหมคะ?”

 

“พยายามเข้านะ เนีย”

 

งานที่สอง――「เที่ยวชมเมืองหลวงกับสองเจ้าชายแห่งคณะละครไอซ์โรส」

 

ความนิยมของคณะละครไอซ์โรสเพิ่มขึ้นตั้งแต่ที่ฉันแสดงบนเวทีครั้งแรกในละครเรื่อง『หญิงสาวในห้วงรัก』

ยังไงก็ตาม มีคำเรียกร้องเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากแฟน ๆ ที่กระตือรือร้นอยากจะเห็นสองเจ้าชาย……ประธานจูเลียนและลูซิด้าอีกครั้ง

 

“ผมได้รับการติดต่อสอบถามมาจากจูเลียนซังแห่งไอซ์โรสว่า พวกตัวเองไม่คุ้นเคยกับการถ่ายทำเมจิกวิชั่นจึงเป็นไปได้ยากที่จะแสดงคนเดี่ยว แต่ถ้าได้อยู่กับเนียจังที่คุ้นเคยแล้วก็น่าจะไม่มีปัญหา”

 

เนื่องจากฉันรู้จักมักคุ้นกับพวกเขาแล้ว ฉันจึงยอมรับ เพราะเป็นงานง่าย ๆ ที่พอจะรู้จักนิสัยใจคอกันดีแล้ว

 

“ถ้าเป็นอันนี้ โอนี่ซามะด้วยกัน”

 

“พยายามเข้านะ”

 

และงานที่สาม――「เยี่ยมเยียนปลอบขวัญโรงพยาบาล(ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ)」

 

นี่เป็นความคิดตั้งแต่ช่วงแรก ๆ เพราะครั้งหนึ่งฉันเคยนอนอยู่บนเตียงคนป่วย และเกือบจะตาย จึงทำให้ได้รับจดหมายจากคนป่วยมากมาย

 

ฉันตั้งใจเลื่อนออกไปก่อนเพื่อดูความเปลี่ยนแปลง และอาการป่วยของฉัน แต่ก็กลายเป็นโครงการที่ล่าช้าออกไป ฉันพลาดโอกาสมากมาย และสองปีก็ผ่านไปแล้ว

 

โฮร่า ถ้าฉันไปปลอบขวัญทันทีที่หายจากอาการป่วย แต่หลังจากนั้นก็เกิดล้มป่วยลงทันที……ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น ก็จะกลายเป็นการช่วงชิงพลังจากผู้คนที่กำลังต่อสู้กับโรคภัยอยู่นะสิ

 

แผนการถูกเลื่อนมานานจน ตอนนี้ฉันสามารถบอกใคร ๆ ได้ว่า 「ตอนนี้ฉันสบายดี! ฉันหายจากอาการป่วยแล้ว!」

เมื่อสองปีที่ก่อน ฉันค่อนข้างผอมและอ่อนแออย่างเห็นได้ชัด ถือว่าเป็นความคิดอันตรายที่จะไม่รอดูความเปลี่ยนแปลง

 

“โอนี่ซามะ หนูคิดว่าเรื่องนี้เราควรทำด้วยกันนะคะ”

 

“พยายามเข้านะ”

 

“แบบนี้ไม่ได้นะคะ นี่เป็นงานของทายาทตระกูลลิสตัน ในฐานะลูกชายของลอร์ดค่ะ”

 

“……เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้วน่า”

 

และด้วยเหตุนี้ ทั้งสามงานขึงถูกเพิ่มเข้ามา

 

“ไม่มีแผนการอย่างอื่นที่อยากลองแล้วเหรอนะ? โฮร่า ดูอันนี้สิ”

 

“มากกว่านี้ฉันจะโกรธแล้วนะคะ?”

 

นอกจากถ่ายทำสามสิบสองงานแล้ว

ทั้งยังมีเพิ่มเข้ามาอีกสามงาน แต่ก็ถึงขีดจำกัดของความอดทนของฉันแล้ว

 

กรุณาอย่าขออะไรมากไปกว่านี้

ช่วยกลับไปในขณะที่ฉันยังสามารถหัวเราะอยู่ต่อหน้าพ่อแม่ได้

 

“ถ้าหากเนียจังผู้น่ารักต่อยผมล่ะก็ คุณลุงคนนี้ก็สมปรารถนาแล้วล๊า งั้น นี่คือแผนงานทั้งหมด”

 

――จะไม่ถอยงั้นเหรอ ผู้ชายคนนี้ ใบหน้าฉูดฉาดให้ความรู้สึกไม่น่าเชื่อถือ แต่เขาก็สามารถทำงานของเขาได้ และแรงกดดันแข็งแกร่งเช่นกัน……

 

แต่ ม๊า ฉันแน่ใจจะต้องต่อยเขาในสักวันหนึ่ง

 

ฉันเตรียมจังหวะถอยให้แล้ว

แต่คนที่ไม่ยอมถอยคือ เบนเดริโอ้เอง

 

ฉันจะไม่ลืมเรื่องนี้ จะไม่มีวันลืม

 

 

 

 

 

 

 

กินขนมปังปิ้งแล้วท้องเสีย ช่างเป็นสัปดาห์ที่สนุกสนานเหลือเกิน ฮา