85 สลับฉาก ณ ดินแดนซิลเวอร์
“……เนียจังกำลังจะมา……เนียจังกำลังจะมา……”
ในมื้อเช้าที่คฤหาสน์ซิลเวอร์ วันนี้เอง ลูกสาวคนที่สอง ริเคลวิต้าก็กำลังพึมพำในขณะที่กำลังดูเนีย・ลิสตันที่สะท้อนอยู่ในเมจิกวิชั่น
เธอเป็นแฟนคลับของเนีย・ลิสตัน
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นเธอจ้องมองอย่างน่าสงสัยตรงไปยังเด็กที่อายุน้อยมากโดยไม่คิดปิดบัง แต่เธอก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าคนนอกรีตที่มีนิสัยสกปรก และไม่แม้แต่จะพยายามซ่อนแรงจูงใจซ่อนเร้น
ถึงอย่างงั้นแฟนคลับก็ยังเป็นแฟนคลับ
ไม่สิ เธอเองก็รู้ตัวเองค่อนข้างดีว่าตัวเองเป็นพวกแฟนคลับนอกรีตสกปรก ――เพราะแบบนั้นจึงทำให้เธอรู้สึกกระวนกระวายใจ
ไม่มีทางที่คนนอกรีตสกปรกอย่างตัวเองที่มีหน้าอกเล็กจะยืนอยู่ต่อหน้าคนคนนั้นได้
แม้เธอจะแอบคิดว่าหน้าอกเล็ก ๆ ของยัยนอกรีตสกปรกเหมือนอย่างเธอจะเป็นลักษณะที่น่าดึงดูดใจที่สุดเหมือนกัน แต่ไม่มีทางที่มนุษย์ต่ำทรามเช่นเธอควรจะไปสะท้อนอยู่บนดวงตาของเด็กสาวใสซื่อบริสุทธิ์เช่นนั้นได้
――ประมาณสิบวันก่อน เรเลียเรด ลูกสาวคนสุดท้องก็กลับมาที่คฤหาสน์ซิลเวอร์
ในมื้อค่ำของคืนนั้น เธอได้พูดเรื่องอันน่าตกตะลึงออกมา
“อะ เนียจะมาที่นี่ในอีกสองสัปดาห์นะคะ เพราะแบบนั้น โอโต้ซามะพอที่จะสามารถหางานที่เนียสามารถเข้าร่วมได้ด้วยให้หน่อยได้รึเปล่าคะ?”
“เอ๊ะ!?”
ขณะที่เธอกำลังพูดอะไรบางอย่างกับพ่อที่ชราแล้ว ทว่ามีส่วนสำคัญที่เป็นส่วนที่ริเคลวิต้าไม่สามารถมองข้ามได้
“เนียจ๊า~งกำลังจะมา!? มาที่คฤหาสน์ของตาแก่นี่!?”
“…………”
ตาแก่เจ้าของคฤหาสน์ ตาแก่ วิกซอน・ซิลเวอร์มองลูกสาวคนที่สองราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง……แต่ในท้ายที่สุด เขาก็หันกลับไปหาเรเลียเรดโดยไม่พูดอะไร
“กำลังจะมาค่ะ อาเร๊ะ? ลูกเขียนบอกเอาไว้แล้วผ่านทางจดหมายที่ส่งให้โอโต้ซามะล่วงหน้าแล้วไงคะ”
“โอโต้ซามมะ! ไม่ฟังกันเลย! ……เอ๊ะ!? เน่ซามะฟังอยู่หรือเปล่า!? ลิลิมิก็ด้วย!?”
สำหรับลูกสาวคนที่สอง ริเคลวิต้า ผู้เปียกชื้น มืดมน และเหนียวเหนอะหนะ เธอคือคนที่ส่งเสียงอย่างสิ้นหวัง
และเธอตระหนักได้ว่ามีแค่ตัวเองที่ไม่รู้ ลูกสาวคนโต รัฟฟิน กับลูกสาวคนที่สาม ลิลิมิ ซึ่งกลับมาพร้อมลูกสาวคนเล็กก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกันเลย
แต่ว่าหากลองคิดอย่างใจเย็นแล้ว กำลังจะมาที่นี่ในอีกสองสัปดาห์
การรู้ในจังหวะเวลานี้ไม่ช้าหรือกะทันหันอะไรเป็นพิเศษ เป็นการบอกกำหนดการที่เหมาะสมไม่มีปัญหาใด ๆ
ทว่า วิกซอนพูดกับลูกสาวคนที่สองที่ดูลุกลี้ลุกลนราวกับว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอ
“――ใกล้ได้เจอแล้ว”
เขาไม่รู้ว่าควรให้ลูกสาวคนที่สองที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ได้เจอเนีย・ลิสตันดีไหม แต่วิกซอนรู้สึกมาตลอดว่าเธอไม่เหมาะที่จะเป็นลูกสาวของขุนนาง
ลูกสาวคนโตและลูกสาวคนที่สองกำลังจะเกินวัยแต่งงาน ถึงอย่างงั้นก็ยังไม่มีแม้แต่ผู้สมัครคู่แต่งงาน และไม่มีความกระตือรือร้น หรือความปรารถนาที่จะแต่งงาน
เขาเคยอดคิดไม่ได้ว่า 「ในฐานะบุตรีขุนนาง…… 」 แต่นี่ไม่ใช่ยุคสมัยที่จะมาบังคับอะไรแบบนี้อีกแล้ว ช่างเถอะ
ทว่า ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลซิลเวอร์ เขาก็ไม่คิดว่าจะเป็นความคิดที่ดีที่จะไม่ให้ไปทักทายตระกูลที่ช่วยเหลือกันมา
ตระกูลลิสตันมีส่วนช่วยอย่างมากในการสร้างสถานีออกอากาศเมจิกวิชั่น
หรือแม้กระทั่งในตอนนี้ พวกเราก็มักจะขอปรึกษากับพวกเขาเกี่ยวกับการถ่ายทำและการวางแผน
เขาไม่สามารถทำได้เด็ดขาด
“ไม่ใช่แค่เนีย・ลิสตันเท่านั้น แต่ข้าแน่ใจว่าพวกเราจะได้มีความสัมพันธ์บางอย่างกับตระกูลลิสตันในอนาคตอย่างแน่นอน หากเจ้ายังเป็นสมาชิกของตระกูลซิลเวอร์อยู่ ก็จงอย่างน้อยรักษามารยาทขั้นต่ำสุดเอาไว้ให้ดี”
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ
เนีย・ลิสตันเป็นเพื่อนร่วมสถาบันของลูกสาวคนสุดท้อง อาจกล่าวได้ว่าเธอเป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่ทำงานเกี่ยวกับเมจิกวิชั่นตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
เนีย・ลิสตันกำลังจะมาที่ดินแดนซิลเวอร์ในฐานะเพื่อนของลูกสาวคนสุดท้อง
ยิ่งไปกว่านั้น ยังบอกอีกว่ายินดีที่จะมีส่วนร่วมกับรายการของสถานีออกอากาศของดินแดนซิลเวอร์ด้วย
ในเรื่องนี้ เขาได้ยืนยันกับออร์นิท・ลิสตัน ลอร์ดแห่งลิสตันแล้วก็ได้คำตอบกลับมาว่า「ค่าธรรมเนียมเป็นพิเศษยังไงก็ได้」
เขาก็คิดอย่างตรงไปตรงมาเรื่องเงิน――เมื่อคิดให้รอบคอบแล้ว การทำสัญญาว่าจ้างง่าย ๆ ก็ทำให้วางใจได้มากกว่า
ในระหว่างการถ่ายทำ อาจเผลอส่งคำขอหลายอย่างกับเนีย・ลิสตัน
ในเวลานั้น เธออาจจะคิดว่า「เธอแค่มาทำงานแต่โดนสั่งมากมาย」อาจทำให้เกิดความขุ่นเคืองกันได้
――ใช่ เขาคิดว่าคำตอบของออร์นิท・ลิสตันที่ว่า「ค่าธรรมเนียมเป็นพิเศษยังไงก็ได้」นั้นดีที่สุดแล้ว
นั่นคือเมื่อสิบวันก่อน
“ไม่สนหรอก รีบจัดการตัวเองได้แล้ว”
รัฟฟิน ลูกสาวคนโตหันหน้าเบื่อหน่ายไปมองลูกสาวคนที่สองที่ได้รับผลกระทบจากความกดดันอย่างเห็นได้ชัดจากวันบุกของเนีย・ลิสตันใกล้เข้ามาทุกวัน
“ตะ แต่ ตะแต่ แต่ แต่! แม้ว่าจะเป็นฉันที่แอบคิดว่าหน้าอกเล็ก ๆ ของยัยนอกรีตสกปรกคนนี้นั่นเป็นลักษณะที่น่าดึงดูดใจที่สุดเหมือนกัน แต่ไม่มีทางที่มนุษย์ต่ำทราม ต่ำต้อย น่าสงสัยอย่างฉันจะสามารถไปสะท้อนอยู่บนดวงตาของเนียจังที่ใสซื่อบริสุทธิ์คนนั้นได้!”
“ห๋า? ……ม๊า ก็ใช่ล่ะนะ”
“ทำไมถึงไม่ปฏิเสธล่ะคะเน่ซามะ!?”
นอกจากนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้
――อะ เธอไม่อยากพูดสิ่งที่คิด แต่ก็เหมือนจะรู้ตัวดีทีเดียว เธอไม่อยากพูดในสิ่งที่เห็นเลยจริง ๆ ไม่ใช่พวกวิตถารที่มีดีแต่ปาก แต่ยังเป็นพวกที่รู้สำนึกเข้าใจตัวเองเป็นอย่างดี
“แต่ ฉันไม่ใช่โอโต้ซามะนะ ถ้าไม่ได้เจอกันรอบนี้ต่อไปคงจะได้เจอยากแล้วแน่ ๆ
ถึงยังไงก็การมาเยือนในครั้งนี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นก็ได้ คิดว่าเนียจังอาจจะมาที่คฤหาสน์หลังนี้โดยเฉพาะช่วงวันหยุดฤดูร้อน ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิอีกก็ได้
เน๊ะโอโต้ซามะ?”
วิกซอนพยักหน้า เพราะเข้าไม่มีเหตุผลพิเศษที่ต้องปฏิเสธ
“ข้าจะใช้การมาเยี่ยมในครั้งนี้เป็นโอกาสในการต้อนรับเนีย・ลิสตันในฐานะแขกประจำ
เด็กคนนั้นมีแฟนคลับมากมายแม้แต่ในดินแดนซิลเวอร์ ข้าไม่อยากผลาดโอกาสให้เธอปรากฎตัวในช่องของเรา”
แน่นอนว่าต้องให้เป็นประวัติการณ์เลย เขาเสริมในใจตัวเอง
อย่างที่คาดไว้จะพูดต่อหน้าลูกสาวหรือคนใช้ เขารู้สึกเปลือยเปล่าตามลูกสาวคนที่สอง ของแบบนั้นควรเป็นสิทธิ์ของลูกสาวคนที่สองไปก็พอ
เป็นการคำนวณที่ยาก แต่เรเลียเรดอาจไปที่ดินแดนลิสตัน
ในระยะสั้นจะเป็นความสัมพันธ์ร่วมกัน
ตอนนี้อัตราการเผยกระจายยังต่ำเกินไป พวกเขาจะเป็นทั้งเพื่อนและผู้ร่วมอุดมการณ์ในการยกระดับเมจิกวิชั่น
ถ้ารั้งรอ ขวางทาง หรือปฏิเสธความช่วยเหลือตอนนี้ ผลเสียจะกลับมาตกที่พวกเราเองแน่นอน แถมยังโง่มากเกินไป
อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในอนาคต แต่ตอนนี้เป็นเวลาที่จะต้องยอมรับกันอย่างเต็มที่
หรือก็คือ จากสถานการณ์ปัจจบัน เรียกได้ว่ามีเป้าหมายเพื่อพัฒนาวงการเมจิกวิชั่นให้ได้มากที่สุดไปสู่จุดที่ขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์
โดยทั้งหมดสรุปคือ เขาคิดที่อยากจะลองมีการเผชิญหน้าอย่างหรูหรามีความสุข
“…….ฮาาาาาา……เนียจังกำลังมาแล้ว……”
สายตาของครอบครัวและคนรับใช้ที่มองไปยังลูกสาวคนที่สองที่กำลังกังวล (ในทางที่ผิด) นั้นดูอบอุ่นอย่างมาก
ในเวลานั้นเอง
“――คุณหนูเรเลียเรด มีจดหมายมาถึงจากเนียซามะเจ้าค่ะ”
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จและเก็บจานแล้ว คนรับใช้ก็ยื่นซองจดหมายให้เรเลียเรด
“เอ๊ะ? จากเนีย?”
ถึงจะคิดว่าเสียมารยาท แต่เรเลียเรดก็รีบเปิดจดหมายทันที
นั่นก็เพราะว่า เธอคิดว่าจดหมายที่ส่งมาถึงในเวลานี้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการอยู่ด้านใน
เนื่องจากพ่อของเธอยังอยู่ที่โต๊ะ หากมีแผนที่เปลี่ยนแปลงในอนาคตก็ต้องรีบบอกโดยเร็วที่สุด
เมื่อคิดได้อย่างนั้น เธอก็คลี่จดหมายที่พับไว้ออกและอ่าน……ขณะที่เธออ่านไป มือของเรเลียเรดก็เริ่มสั่นเทา
อ่านที่เดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ถึงจะอ่านสักกี่รอบเนื้อหาไม่เปลี่ยนแปลง แต่เธอก็ยังอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก
“เกิดอะไรขึ้น?”
วิกซอนขมวดคิ้วเมื่อเห็นท่าทางจริงจังของลูกสาวคนเล็กและมือที่สั่นเทา
เรื่องที่เขียนมาสำคัญขนาดนั้นเลยรึ หรืออาจจะเป็นข่าวโศกนาฎกรรม หรือว่ามรณกรรมกันนะ――ข้อเท็จจริงที่ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นครั้งหนึ่งเคยนอนอยู่บนเตียงคนป่วย และกำลังจะตายแวบเข้ามาในความคิดของเขา
“……มา”
“หืม? เนียรึ?”
“――ไม่ใช่! นีลซามะค่ะ! โอนี่ซามะของเนีย!”
ใช่แล้ว นั่นคือสิ่งที่ถูกเขียนไว้ในจดหมาย
พูดง่าย ๆ ก็คือ 「เพราะโอนี่ซามะกำลังว่างอยู่ ฉันเลยจะพาไปด้วยกัน ม๊า ถ้าไม่อนุญาต ก่อนอื่นฉันจะพาไปหาเธอจากนั้นค่อยไปพักที่โรงแรมในตัวเมืองนะ」
การมาเยือนของเนียลิสตันและนีลลิสตันใกล้เข้ามามากขึ้นทุกวัน
นอกจากลูกสาวคนที่สองแล้ว แม้แต่ลูกสาวคนเล็กก็ยังกระสับกระส่ายและทำตัวน่าสงสัย
และ วันนั้นก็มาถึง
อันนี้ไม่แถม เพราะตอนแรกแปลต่อกัน กะว่าจะลงสองตอน แต่วูบไปก่อน แล้วพึ่งว่างแปลเสร็จ ฮา
โดนมดบุกขึ้นหิ้งพระ วิ่งต่อกันจนเห็นเป็นลายดำบนกำแพงชัดแจ๋ว แถมอย่างดุ เจาะฝาเพดานลงมาเลย เอายาฉีดรูหนึ่ง พ่อล่อเจาะใหม่สองรู สงสัยต้องไปหายาเม็ดเหยี่อกำจัดมดมาวางแล้ว ฮา