ตอนที่ 87 ใครรับช่วงต่อเผ่า
ในเช้าวันจันทร์ หลังจากร่วมรับประทานอาหารเช้ากับคนตระกูลเย่ว์และตระกูลตี้เสร็จ ปาเฝ่ยก็ขับรถพามู่เถาเยาไปส่งที่มหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตู
เมื่อบ่ายวานนี้ ปาอินอาสาเป็นไกด์พาปาเฝ่ยเยี่ยมชมเมืองเย่ว์ตู สองพี่น้องไปกินข้าวเย็นด้วยกันก่อนที่คนพี่จะขับรถไปส่งน้องสาวกลับมหาวิทยาลัย
ปาเฝ่ยกลับไปที่วิลล่าตระกูลเย่ว์ เพราะเขาต้องกลับไปที่หมู่บ้านเถาหยวนซานในวันอังคาร ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ย้ายมาพักอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลตี้ด้วยกัน
แต่ไปตามคำเชิญของเจียงเฉาอธิการบดีมหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตูเพื่อไปเยี่ยมเยียน แลกเปลี่ยน เที่ยวชมในเช้าวันนี้ เพื่อที่ในอนาคตพวกเขาจะได้จัดโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษากันได้สะดวกยิ่งขึ้น
โดยมีมู่เถาเยาเป็นศูนย์กลาง คอยดูแลและประสานงาน เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเหยียนหวงและเผ่าหมาป่าพระจันทร์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในอนาคต
“หมอปา คนจากเผ่าหมาป่าพระจันทร์ที่ออกมาเรียนข้างนอกมีเยอะไหมคะ” ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในจุดสูงสุดในแต่ละสาขาอาชีพ ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครมีสัญชาติจากเผ่าหมาป่าพระจันทร์เลย
เผ่าหมาป่าพระจันทร์นั้นร่ำรวยและแข็งแกร่ง ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีคนที่มีพรสวรรค์โดดเด่นเลย
“อันที่จริงก็มีไม่น้อย คนที่ออกจากเผ่าของเราท้ายที่สุดก็จะกลับไปที่เผ่า จึงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีตำแหน่งพิเศษในโลกภายนอก และคนที่เลือกอยู่ข้างนอกต่อเพื่อทำงานและเรียนรู้ สุดท้ายแล้วไม่เกินสิบปีก็จะกลับเผ่าเหมือนกัน อีกอย่างสมาชิกของเผ่าหมาป่าพระจันทร์เราก็ค่อนข้างถ่อมตัว ส่วนใหญ่พวกเขาจะพยายามทำตัวธรรมดาๆ ไว้ตอนอยู่ข้างนอก แบบนี้ในอนาคตจะได้หนีง่ายขึ้น…”
ในฐานะว่าที่หัวหน้าเผ่าในอนาคต มู่เถาเยาจำเป็นต้องรู้วิธีการใช้ชีวิตที่ ‘ไร้ยางอาย’ นี้ของคนในเผ่าไว้ก่อน
พวกเขาออกมาเพียงเพื่อเรียนรู้จุดแข็งของประเทศอื่นๆ เพื่อนำกลับไปพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง ไม่ได้เพื่อสร้าง ‘อันตรายต่อสาธารณะ’ ให้แก่ประเทศอื่นๆ
แม้ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับความร่ำรวยและภูมิหลังที่แข็งแกร่ง การใช้ชีวิตลับๆ ล่อๆ แบบนี้อาจจะชวนให้หมดคำพูดอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ คุณก็จะกลายเป็นเนื้ออ้วนๆ ในปากของผู้กระหายอำนาจ ที่มีความทะเยอทะยาน และมีแรงจูงใจแอบแฝงได้อย่างง่ายดาย
มู่เถาเยา “…”
กลุ่มคนที่ชวนให้รู้สึกอยากซ้อมหนักๆ สักยกนี่มันอะไรกัน แต่เธอชอบมาก!
“ได้ยินมาว่าดัชนีความสุขและความสงบสุขของเผ่าหมาป่าพระจันทร์นั้นสูงที่สุดในโลก ฉันเลยคิดว่าทุกคนอาจลังเลที่จะออกจากบ้านเกิดของตัวเอง” กลายเป็นว่าคนพวกนั้นดันออกมากันแทบทั้งหมด
คิ้วสวยของมู่เถาเยาเลิกขึ้น ดวงตาเปื้อนยิ้ม
คนธรรมดาปกติมักจะมีหัวใจรักชาติ รักครอบครัว ไม่ต้องพูดถึงบ้านเกิดที่สวยงามขนาดนี้!
ถ้าไม่ใช่เพื่อพัฒนาให้คุณภาพชีวิตดียิ่งขึ้นในอนาคต คาดว่าคนในเผ่าคงไม่แม้แต่จะก้าวออกจากอาณาเขตของตัวเองหรอกจริงไหม?
ปาเฝ่ยหันศีรษะไปมองมู่เถาเยา และหลังจากเงียบไปสองสามวินาที เขาก็ถามว่า “เสี่ยวเยาเยา เธอจะกลับไปที่เผ่าเมื่อไหร่”
“รอให้ถึงช่วงปิดเทอมฤดูร้อนก่อนเถอะ อาจไม่มีเวลาด้วยซ้ำ”
นี่ไม่ใช่ข้อแก้ตัว เธอสนใจเผ่าหมาป่าพระจันทร์มากก่อนที่ชาติกำเนิดของเธอจะถูกเปิดเผยเสียอีก!
แม้ว่าเธอจะไม่ได้มาจากตระกูลเย่ว์ แต่เธอก็ยังจะหาเวลาไปเยี่ยมเยือนเผ่านั้นสักครั้งในอนาคต!
แต่เธอยุ่งมาก ทั้งต้องหลอมยาแก้พิษเพื่อให้คนจากตระกูลตี้ที่จะเข้าไปหาสมุนไพรในป่าดึกดำบรรพ์มาให้ตี้อู๋เปียนไว้ใช้ป้องกันตัวเอง แถมยังต้องกลับไปหาอาจารย์ ยังต้องไปตรวจดูความเรียบร้อยของบริษัท…
มีหลายสิ่งที่เธอต้องทำ!
“เผ่าหมาป่าพระจันทร์มีสมุนไพรมากมายที่หาไม่ได้จากโลกภายนอก หลังจากที่ปู่ของผมเสียชีวิตลงก็มีเพียงลุงหลิงหานลูกศิษย์ของปู่ที่เข้าไปเก็บสมุนไพรหายากเหล่านั้นเพื่อนำมาทำยาเป็นครั้งคราว”
มู่เถาเยาพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ “วัฒนธรรมทางการแพทย์ของเผ่าหมาป่าพระจันทร์มีระบบของตัวเอง น้ำหวานยี่ห้อลูน่า วิตามิน และไข่มุกชิงกงเป็นที่รู้จักและโด่งดังอย่างมากในต่างประเทศ หญ้าพระจันทร์เองก็มีคุณสมบัติที่โดดเด่นมากในการรักษาเนื้องอก โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง”
หญ้าพระจันทร์คือชื่อรวมของสมุนไพรที่มาจากเผ่าหมาป่าพระจันทร์
“เผ่าหมาป่าพระจันทร์ทุกที่เต็มไปด้วยสมุนไพรแทบจะไม่มีพืชไร้ประโยชน์ขึ้นเลย เสี่ยวเยาเยาเธอจะต้องชอบเผ่าหมาป่าพระจันทร์อย่างแน่นอน”
มุมปากมู่เถาเยายกขึ้นเล็กน้อย
“เผ่าหมาป่าพระจันทร์เก็บข้อมูลต่างๆ ไว้อย่างมิดชิดและเข้มงวดมาก ดังนั้นโลกจึงรู้เกี่ยวกับเผ่าหมาป่าพระจันทร์น้อยมาก มีเพียงข้อมูลที่เผ่าหมาป่าพระจันทร์ต้องการให้โลกภายนอกรู้เท่านั้น โลกถึงจะรับรู้ ตอนที่คนของเผ่าเราออกมาข้างนอก พวกเขาก็จะปิดปากเงียบไม่ยอมแพร่งพรายข้อมูลสำคัญของบ้านเกิดเราออกไป”
“อืม…พี่ชายทั้งสองคนของฉัน…ใครจะขึ้นรับสืบทอดเผ่าในอนาคต”
“อาเหิงรับช่วงกุมอำนาจทางการทหาร รับผิดชอบด้านความมั่นคงและข่าวกรองข้อมูลต่างๆ การวิจัยและพัฒนารถยนต์ เครื่องบิน อาวุธต่างๆ ที่เขาชื่นชอบ…” บราๆ สรุปคือนับตั้งแต่วันที่เธอหายตัวไปพี่ใหญ่เขาก็ออกแบบรถยนต์และเครื่องบินหลายลำไว้รอเธอ
“ทำไมตระกูลเป่ยถึงมีลูกสาวแค่คนเดียวล่ะคะ”
มู่เถาเยาไม่ค่อยสนใจรถยนต์และเครื่องบินมากนัก แต่เธอกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้มากกว่า
โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งครอบครัวมีอำนาจมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งต้องการมีลูกและหลานมากขึ้นเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น อำนาจทางทหารถูกยึดครองโดยตระกูลเป่ยมาเสมอ แต่พวกเขามีลูกสาวเพียงคนเดียว และเธอก็แต่งงานกับตระกูลหัวหน้าเผ่า…
“อาจารย์ของผม หรือก็คือคุณยายของเธอ อาจารย์เป็นผู้อำนวยการของโรงพยาบาลกองทัพภาค ก่อนที่อาจารย์จะคลอดแม่ของเธอ อาจารย์ประสบอุบัติเหตุซึ่งทำให้แม่เธอคลอดก่อนกำหนด อาจารย์ได้รับบาดเจ็บภายในอย่างหนัก จึงมีคุณผู้หญิงเป่ยซีเป็นทายาทเพียงคนเดียวเท่านั้น”
มู่เถาเยาพยักหน้าอย่างเข้าใจ
แม้ว่าการแพทย์ในโลกนี้จะก้าวหน้าไปมาก แต่อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ตัวอย่างเช่นเย่ว์จืออิ๋งที่ถูกลักพาตัวออกมาโยนทิ้งข้างนอก
“พี่รองของเธอมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจ ดังนั้นเขาจึงดูแลโครงสร้างธุรกิจตั้งแต่รากฐานไปจนถึงชั้นบน”
“อืม” เธอเห็นด้วยกับสิ่งนี้อย่างยิ่ง
กว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของสิ่งต่างๆ ในโลกสามารถแก้ไขได้ด้วยเงิน
หากประเทศหนึ่งต้องการที่จะแข็งแกร่งและพัฒนา พวกเขาต้องมีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ก็ต้องได้รับการสนับสนุนจากเม็ดเงินจำนวนมหาศาล
การจัดการบริหารประเทศและประชาชนก็ต้องใช้เงินเหมือนกัน
มีเพียงร่ำรวยเพียงพอ ถึงจะแสวงหาความก้าวหน้า ก้าวไปสู่ระดับต่อไปได้
ดังสุภาษิตที่ว่า ‘ภูผาวารีที่ยากแค้นหล่อเลี้ยงพวกดื้อด้าน’ ถ้าคนไม่มีความกังวลเรื่องอาหารเสื้อผ้าและที่อยู่อาศัย พวกเขาก็จะรู้สึกว่ามีชีวิตที่ดีและปัญหาน่าปวดหัวก็จะลดน้อยลงโดยธรรมชาติ
“ถ้างั้น…ใครจัดการบริหารด้านภาครัฐล่ะคะ”
ปาเฝ่ยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ก็ว่าที่หัวหน้าเผ่าคนต่อไปของเรา…เจ้าหญิงน้อยเธอยังไงล่ะ! นับตั้งแต่ที่คุณผู้หญิงตั้งครรภ์และรู้เพศของเด็กในครรภ์ว่าเป็นผู้หญิง มันก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว”
มู่เถาเยา “…”
“เสี่ยวเยาเยาวางใจเถอะ มีอาเหิงและอากวง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในเผ่าของเราช่วยสนับสนุนเธออยู่ เธอจะไม่เหนื่อยอย่างแน่นอน เหมือนกับหัวหน้าเผ่าคนปัจจุบันอาของเธอ แต่พ่อของเธอยุ่งกว่าอาเธอมาก”
“…” เธอไม่ได้กลัวเหนื่อยเลยโอเคไหม
ปาเฝ่ยหัวเราะและพูดว่า “จริงๆ แล้ว พี่ชายทั้งสองของเธอล้วนเป็นมังกรในหมู่มังกร ไม่ว่าใครก็รับช่วงสืบทอดเผ่าได้ แต่ประวัติศาสตร์ของเผ่าหมาป่าพระจันทร์เรา ตราบใดที่มีลูกสาวถือกำเนิด เธอจะถูกกำหนดให้เป็นหัวหน้าเผ่าโดยชอบธรรม”
มู่เถาเยาถามอย่างสงสัย “แต่ฉันตรวจสอบดูแล้ว ในประวัติศาสตร์ของเผ่าหมาป่าพระจันทร์มีหัวหน้าเผ่าที่เป็นผู้หญิงน้อยมาก”
“ใช่ครับ เป็นเรื่องยากมากที่ตระกูลเย่ว์จะให้กำเนิดลูกสาวสักคน ถ้าไม่นับเธอและอาของเธอ ก่อนหน้านี้ตลอดสิบรุ่นตระกูลเย่ว์ไม่มีลูกสาวเลย”
“…”
“เดิมทีทุกคนวางแผนที่จะประกาศเรื่องนี้ให้ทุกคนในเผ่าทราบเมื่อเธออายุครบเดือน แต่ใครจะคิดว่าเธอและพี่เลี้ยงจะหายตัวไปก่อนงานเลี้ยงถูกจัดขึ้น ดังนั้นจึงมีคนไม่กี่คนในเผ่าที่รู้ว่าจริงๆ แล้วเผ่าหมาป่าพระจันทร์เรามีว่าที่หัวหน้าเผ่าตัวน้อยแล้ว”
“มิน่าล่ะ ฉันถึงไม่เห็นข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวกับเย่ว์จืออิ๋งเลย”
“เสี่ยวเยาเยาแค่ถามในสิ่งที่เธออยากรู้ ไม่มีใครปิดบังอะไรจากหัวหน้าเผ่าในอนาคตได้”
มู่เถาเยา “…ก่อนที่ฉันจะรู้ชาติกำเนิดของตัวเอง ฉันสนใจเผ่าหมาป่าพระจันทร์มาก เพียงแต่ว่าการควบคุมของเผ่าหมาป่าพระจันทร์นั้นเข้มงวดเกินไป ฉันจึงคิดว่ามันยุ่งยากนิดหน่อย เลยยังไม่มีโอกาสไปเยือนสักที”
“เธอสามารถเข้าไปในเผ่าได้ในฐานะลูกศิษย์ของหมอเทวดาหยวน มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย”
“ฉันไม่อยากสร้างปัญหาให้กับอาจารย์ เลยไม่ให้อาจารย์ประกาศต่อสาธารณชนว่าเขารับลูกศิษย์ปิดสำนักแล้ว”
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ มิน่าล่ะในวงการแพทย์ถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าหมอเทวดาหยวนมีลูกศิษย์คนที่เก้า”
“ถ้าหากว่าพวกคุณหาเย่ว์จืออิ๋งไม่เจอล่ะ หรือว่าครอบครัวที่เก็บเธอไปเลี้ยงเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาและเธอเองก็เป็นเพียงเด็กธรรมดาทั่วไป พวกคุณจะทำยังไง”
“ไม่ว่าใครจะเก็บเจ้าหญิงน้อยไปเลี้ยง หรือเธอจะเป็นคนธรรมดาหรือไม่ สายเลือดเผ่าหมาป่าพระจันทร์ในตัวเธอจะทำให้เธอแตกต่างออกไป”
“…”
โอเค
มู่เถาเยาไม่คิดถามเกี่ยวกับเผ่าหมาป่าพระจันทร์อีกต่อไปแล้ว
เมื่อเห็นว่าเด็กสาวเงียบไม่พูดต่ออีก ปาเฝ่ยก็รู้ได้ว่าหัวข้อสนทนานี้จบลงแล้ว
“พรุ่งนี้ผมจะกลับไปที่หมู่บ้านเถาหยวนซานเพื่อไปพบกับคุณผู้หญิง จากนั้นก็จะกลับไปที่เผ่า เจ้าหญิงน้อยต้องการให้ผมส่งอะไรให้เป็นพิเศษไหม”
“คุณยังมีผลนมหมาป่าอยู่ใช่ไหม ช่วยส่งมาให้ฉันเพิ่มได้หรือเปล่าทุกคนชอบกินมันมาก”
“ได้สิครับ”
รถยนต์ขับเข้าไปในมหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตูอย่างช้าๆ
ปาเฝ่ยส่งมู่เถาเยาลงที่หน้าตึกเรียนของเธอ ก่อนจะไปหาอธิการบดีเจียง