ตอนที่ 93 พบกับหลี่ซื่อฮวาอีกครั้ง
เมื่ออยู่ต่อหน้าคนมากมาย หยุนเถียนเถียนไม่สามารถปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงออกมาได้ จึงต้องทําตัวเรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้ดังเดิมแต่การขายของในตลาดเช่นนี้ หากไม่ตะโกนเรียกหาลูกค้าผู้คนก็เพียงเดินผ่านไปมาโดยไม่สนใจ อะไร
หยุนเคอเข้าไปในร้านอาหารพร้อมกับเหยื่อ แต่พ่อครัวบอกว่าช่วงนี้กิจการของร้านไม่ค่อยดีนักเขาจึงไม่สามารถซื้อเหยื่อทั้งหมดไว้ได้
สุดท้ายพวกเขาก็เลือกเหยื่อที่จําเป็นเท่านั้น ส่วนเหยื่อตัวอื่นให้หยุนเคอเอากลับไป
หยุนเคอหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา เมื่อตอนที่กิจการร้านอาหารไปได้ดี พวกเขาต้องการเหยื่อมากจนถึงขั้นที่เถ้าแก่ขอร้องให้เขาหามาให้มากกว่านี้แต่ตอนนี้โรงเตี้ยมเหล่านี้กลับไม่ต้องการสัตว์ป่าพวกเขาเลือกเหยื่อสวย ๆ ไป ส่วนที่เหลือก็ทิ้งขว้างอย่างไม่ใยดี
แต่ช่างมันเถอะ ในชีวิตนี้ต้องพบเจอผู้คนมากมายหลายประเภทเขาจะมัวโกรธทุกคนที่พบเจอได้งั้นหรือ?
หยุนเคอไม่สนใจจึงแบกเหยื่อขึ้นหลังและเดินตรงไปที่ตลาด เพราะหากวางไว้ที่นี่ มันอาจจะเน่าบูดเพราะอากาศร้อ นได้
ที่ตลาดเด็กสาวยืนนิ่งอยู่ใจกลางฝูงชนอย่างงุนงง นางแสร้งทําเป็นไม่รู้ว่าต้องทําอย่างไร แต่หยุนเคอมองออกแม้อีกฝ่ายจะเก็บซ่อนไว้อย่างดีจิตใจของนางกําลังเต็มไปด้วยความกังวล!
แต่ถึงอย่างนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปวุ่นวายกับเด็กสาว ชายหนุ่มจึงทําได้เพียงเอาเหยี่อมากองไว้บนพื้นและรอให้มีคนมาซื้อมันไป
หลี่เสี่ยวเหอเหมือนจะสังเกตเห็นปัญหาเช่นกัน นางเอี้ยวตัวเล็กน้อยพร้อมกระซิบถาม “เถียนเถียนเจ้าเงียบ แบบนี้ไม่ได้ไม่อย่างนั้นไม่มีใครมาดูของเจ้าหรอก เจ้าต้อง ตะโกนเรียกพวกเขา!”
“เจ้าดูข้า… พี่สาวเสี่ยวเหอผู้นี้จะสอนเจ้าเอง”
“เอ้า เร่เข้ามา… ไข่สดใหม่ ๆ ออกจากเล้าเมื่อเช้านี้ สารอาหารครบครัน หนึ่งใบเพียงสองเฉียนเท่านั้นแต่ถ้าหากจ่ายห้าเฉียนข้าให้ถึงสามใบ!”
เสียงตะโกนนี้ดึงดูดผู้คนในบริเวณใกล้เคียง พวกเขาเริ่มทยอยจะเดินเข้ามาเลือกไข่อย่างต่อเนื่อง
หลี่เสี่ยวเหอต้อนรับผู้คนที่มุงดูและกล่าวขึ้นมา “เถียนเถียนเจ้าได้ยินแล้วใช่หรือไม่ ถ้าเจ้าต้องการขายของเจ้าต้องตะโกนเรียกลูกค้าหากเจ้าไม่ทําก็ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าขา ยอะไร”
หยุนเถียนเถียนแสร้งทําเป็นเข้าใจพร้อมกับส่งสายตาซาบซึ่งให้อีกฝ่าย “ พี่สาวเสี่ยวเหอ ต้องขอบคุณท่านแล้วที่สั่งสอนข้าเข้าใจแล้ว!”
หยุนเสียนเถียนแสร้งทําร้องตะโกนด้วยเสียงแผ่วเบา “ปิ่นสวย ๆ อันละห้าเฉียนสามอันสิบเฉียนเท่านั้น!”
หลี่เสี่ยวเหอที่อยู่ข้าง ๆ ชะงักไปเล็กน้อย นางหันมองเด็กสาวอย่างคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมีไหวพริบเช่นนี้แต่ยังไงซะเสียงของเถียนเถียนยังเบาเกินไป
แต่ขณะที่กําลังคิด นางขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับไตร่ตรองอย่างไม่เข้าใจ. ปืนที่ทําจากเศษผ้าขายได้ถึงห้าเฉียนเลยงั้นหรือ?
ส่วนเถียนเถียนก็รู้สึกว่ายังไม่มีลูกค้าเข้าร้าน นางเริ่มกังวลแต่ก็ยังตะโกนออกอย่างต่อเนื่องจนใบหน้าแดงก่ํา
“ปิ่นปักผมรูปดอกไม้สวย ๆ เพียงวันละห้าเฉียนเท่านั้นหากซื้อสามอันจ่ายเพียงสิบเฉียน!ของสวยงามเช่นนี้มีเพียงยี่สิบชิ้นเท่านั้น!”
เริ่มได้ผล! ผู้คนที่อยู่ใกล้ ๆ เดินเข้ามามุงดู อีกทั้งหยุนเคอที่อยู่ไม่ไกลก็ยังชําเลืองมองอย่างอดไม่ได้
แต่เพราะลักษณะนิสัยหยาบกร้านของเขาไม่เหมาะสม ที่จะขายของเช่นนี้แผงลอยที่เขาตั้งขึ้นจึงเงียบสงัดไม่มีผู้ใดเข้ามาเยี่ยมชม
หลายคนเข้ามารับชมปิ่นดอกไม้ ทั้งหมดตระหนักได้ว่า มันงดงามยิ่งบางคนถึงกับสอดมันลงไปในเส้นผมและรู้สึกถูกอกถูกใจ พวกเขาเริ่มต่อราคากันอย่างเมามัน
เถียนเถียนเลิกทําตัวเขินอายและกล่าวหยอกล้อกับลูกค้า อย่างสนุกสนานในที่สุดปิ่นดอกไม้กว่ายี่สิบชิ้นก็ถูกขายออกไปจนหมดในเวลาเพียงครู่เดียวอีกทั้งยังมีหลายคนที่ต้องคอตกกลับไปด้วยความผิดหวัง
“พรุ่งนี้ข้าจะมาอีก หากพวกเจ้าอยากได้ก็มาพบกันที่นี่!” เถียนเถียนร้องตะโกนบอกลูกค้าอย่างไม่ยอมเสียโอกาสค้าขายในวันพรุ่งนี้
ส่วนหลี่เสี่ยวเหอที่อยู่ด้านข้างมองเด็กสาวด้วยความตกตะลึง นางคาดไม่ถึงว่าจะมีคนมากมายมาซื้อปิ่นปักผมที่ทํามาจากเศษผ้าหยาบ ๆ พวกนี้ เด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดา!
หยุนเถียนเถียนเก็บของและถือตะกร้าใบเล็ก นางคิดจะไปสํารวจในเมืองสักหน่อย เดิมที่หลี่เสี่ยวเหอคิดจะรั้งนางไว้แต่ใครจะคาดคิดว่าเด็กสาวเคลื่อนไหวรวดเร็วยิ่งนัก จนกระทั่งนางนึกขึ้นมาได้ว่าอย่างไรแล้วก็ต้องนั่งเกวียนกลับไป ด้วยกันหลี่เสี่ยวเหอจึงไม่ได้คิดสิ่งใดมากและกลับมานั่งขายไข่ต่อ
เถียนเถียนเดินออกมาได้เพียงไม่กี่ก้าวก็เห็นหยุนเคอนงยอง ๆ พร้อมกับเหยื่อที่กองอยู่ตรงหน้า…
นางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออก เจ้าบ้านี่หนวดเครารุงรังไปหมดอีกทั้งสีหน้ายังคล้ํามืดน่าหวาดกลัวยิ่งแล้วผู้คนในตลาดส่วนใหญ่ล้วนเป็นสตรีทั้งนั้น
ยังไงซะเมื่อเห็นภาพลักษณ์เช่นนี้มีผู้ใดบ้างจะไม่หวาดกลัวกับท่าทางของเขา? ใครจะกล้าเดินมาเลือกเหยื่อทั้งหมดนี้เล่า?
เถียนเถียนหันศีรษะไปรอบ ๆ จึงเห็นว่าทุกคนในตลาดกําลังวุ่นวายกับการจับจ่ายใช้สอยจึงไม่มีใครสังเกตเห็นแผงลอยของหยุนเคอ
นางจึงเดินเข้าไปหาเขาพร้อมกระซิบเสียงแผ่ว “หากเจ้ายังทําอย่างนี้ต่อให้นั่งจนถึงเช้าก็ไม่มีทางขายได้ อาล่ะ ข้าจะช่วยเจ้าเอง เอาเหยื่อพวกนั้นเดินตามข้ามา ยังไงซะเราต้องออกห่างจากสายตาผู้หญิงพวกนั้นก่อน!”
หยุนเคอไม่ถามอะไรและไม่ปฏิเสธนางเขาเก็บข้าวของเงียบ ๆ แล้วเดินตามเถียนเถียนไปที่ท้ายตลาดหลังจากเดินออกมาสักระยะหนึ่งจึงรู้สึกว่าเริ่มปลอดภัยแล้ว
เถียนเถียนส่งสัญญาณบอกให้เขาเอาเหยื่อออกมาขณะที่ นางกําลังจะร้องเรียกบางสิ่งแต่กลับมีร่างหนึ่งหยุดอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางที่สบายอารมณ์
หยุนเถียนเถียนรีบสงวนท่าที่พร้อมกับฉีกยิ้มหวาน “เจ้าสนใจที่จะซื้อเหยื่อเหล่านี้งั้นหรือ?”
แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง คนที่ยืนอยู่ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นหลี่ชื่อฮวาคนที่นางได้พบหลังจากข้ามมิติมา!
“นายน้อยหลี?”
ส่วนหลี่ซื่อฮวาเองก็ไม่คาดคิดเช่นกันว่าจะได้พบเจอสาวน้อยคนนี้อีกครั้งแม้จะเคยพบเห็นนางมาก่อนแต่ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงในคราวนั้นนางทั้งซูบผอมจนแทบจะไม่มีเนื้อหนัง
แต่ในวันนี้ ร่างกายนั้นเริ่มมีเนื้อหนัง ใบหน้าอวบอิ่มและค่อยๆ เผยความงดงามออก
“สาวน้อย… ทําไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?”
หยุนเถียนเถียนกลอกตาอย่างไม่พอใจ “นายน้อยหลี่จะซื้อเหยื่อพวกนี้หรือไม่?ถ้าจะซื้อก็ต้องจ่ายแต่ถ้าไม่ซื้อก็อย่ามายืนขวางทาง มันเสียเวลาข้า!”
นายน้อยหลี่ก้มมองเหยื่อบนพื้นพร้อมกับอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
“สาวน้อยเจ้าไปเอาสัตว์ป่าพวกนี้มาจากไหนกัน? หรือว่าจะเป็นพี่ชายของเจ้าออกไปล่ามาให้?”
สุ่มเสียงอ่อนโยนทําให้เถียนเถียนรู้สึกอึดอัดใจ แต่การค้าขายย่อมต้องใช้วาจาเข้าแลก หากไม่ทําเช่นนั้นคงไม่มีทางร่ํารวยได้นางจึงไม่คิดต่อปากต่อคํากับผู้ชายตรงหน้าแน่นอน
“นายน้อยไม่จําเป็นต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนั้น หากท่านต้องการซื้อก็รีบซื้อเถิด อย่างไรเสียข้าก็ยืนยันได้ว่ามันมิได้ถูกปล้นชิงมาจากผู้ใด”