บทที่ 74 ‘จ้าววายุ’(ปลาย)
ในตอนแรก ซูอัน คิดอยากจะโบ้ยความผิดให้กับดอกบ๊วยสิบสามเพื่อให้ตระกูลฉู่ กำจัดสำนักดอกบ๊วยออกไปเหมือนกัน แต่เมื่อเขานึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่ เฉิงโซวผิง เคยเล่าว่าตระกูลฉู่ เด็ดขาดกับการจัดการสมาชิกตระกูลที่ติดการพนันมากเขาจึงล้มเลิกความคิดนี้ไป
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ญาติห่าง ๆ ของตระกูลฉู่ เคยหมดตัวจากบ่อนพนัน
และไปกู้เงินจากบ่อนเพื่อมาต่อทุนแต่สุดท้ายก็ยังหมดตัวซ้ำอีกรอบ ซึ่งถัดมาเจ้าหนี้ก็มาเคาะประตูของตระกูลฉู่ เพื่อเรียกร้องขอทวงเงินคืน ในช่วงนั้น
ฉู่จงเทียน โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก เขาลงมือหักขาญาติคนนั้นของเขาผู้นั้นทันทีเพื่อส่งคำเตือนที่เข้มงวดให้กับสมาชิกตระกูลที่เหลือ
เมื่อนึกถึงข้อเท็จจริงที่ว่าดอกบ๊วยสิบสามยังมีใบหนี้ของเขาอยู่ ซูอันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเลิกล้มความคิดนั้นเสีย
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ” ฉู่จงเทียน ขมวดคิ้วแน่น พลางนึกถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆ ในหัวของเขาอย่างรวดเร็ว “ไม่ต้องห่วง นับจากนี้ข้าจะ
จัดเวรยามรอบ ๆ คฤหาสน์ให้แน่นหนามากกว่าเดิม เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”
“ขอบคุณท่านพ่อตา!” ซูอัน เอ่ยด้วยสีหน้าซาบซึ้ง
ฉู่เทียน พยักหน้าแทนคำตอบ เขาสั่งให้คนรับใช้เรียกหมอประจำตระกูลมาก่อนที่จะให้ความมั่นใจกับ ซูอัน อีกครั้งว่า “ไม่ต้องกังวล อาการบาดเจ็บของเจ้าไม่ร้ายแรง เจ้าจะสามารถฟื้นตัวได้ในไม่ช้า ข้าจะออกไปตรวจสอบเรื่องนี้ก่อน ในตอนนี้จงอย่าคิดมากและพักผ่อนให้เพียงพอ”
“แต่ข้ายังคัดลอกกฎของตระกูลไม่เสร็จ ข้าต้องกลับไปที่ห้องสำนึกตนเพื่อทำงาน … ” ซูอัน พยายามลุกขึ้นยืนโดยแสดงสีหน้าท่าทางดึงดัน
ยามที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉู่จงเทียน มองเย้ยหยันอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับดูถูกเหยียดหยามในใจ เจ้าคิดว่าการแสดงปลอม ๆ แบบนี้จะมีใครโง่เชื่อเจ้างั้นเหรอ? เจ้าคิดว่าเราไม่รู้เหรอว่าเจ้าเป็นคนแบบไหน?
อย่างไรก็ตาม ฉู่จงเทียน ไม่ได้สงสัย ซูอัน เลยแม้แต่น้อย “ไม่ต้องกังวล เจ้าปล่อยให้ เฉิงโซวผิง จัดการทั้งหมดได้เลย”
หลังจากพูดจบ ฉู่จงเทียน ก็รีบปลี่ออกจากห้องไป อันที่จริงเขาสงสัยมามาก่อนหน้านี้แล้วว่ามันจะต้องมีใครบางคนกำลังหมายเอาชีวิตของ ซูอัน อยู่และเหตุการณ์นี้ก็ยืนยันความสงสัยของเขามากขึ้นอีก เขาจะต้องหารือเรื่องนี้กับภรรยาอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อหาทางแก้ไข
ซูอัน ทำได้เพียงเห็นอกเห็นใจบ่าวตัวแสบของเขา
เด็กน้อยนับจากนี้เจ้าคงต้องลำบากสักหน่อยแล้วล่ะ!
ไม่นานหลังจากที่ ฉู่จงเทียน ออกไป หมอประจำตระกูลคนหนึ่งก็เข้ามาตรวจอาการและเตรียมใบสั่งยาให้ ซูอัน อย่างรวดเร็วก่อนที่จะใช้ผ้าพันแผลพันตามจุดต่าง ๆ ตามร่างกายของเขา
ในความเป็นจริง ซูอัน ไม่อยากจะได้รับการรักษาเช่นนี้เลยแม้แต่น้อยเพราะโอสถของ จี้เติ้งถู นั้นมีประสิทธิภาพมากพออยู่แล้ว เขาเพียงแค่ต้องใช้เวลาอีกสักนิดหน่อย สภาพร่างกายของเขาก็จะฟื้นคืนมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์เหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะอธิบายเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงปล่อยให้หมอประจำตระกูลทำหน้าที่ต่อไป
เมื่อทุกคนออกไปจากห้องของเขาหมดแล้ว ซูอัน ก็เริ่มตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงร่างกายของตัวเอง
ก่อนหน้านี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินกว่าจะตรวจสอบได้ แต่ตอนนี้เมื่อเขาได้ตรวจดูในที่สุด เขาก็เห็นว่า อักขระทั้งเก้าตัวในร่างของเขาถูก
เติมเต็มจนหมดแล้ว ครู่ต่อมา อักขระชุดใหม่อีกเก้าตัวก็ปรากฏขึ้นในกล้ามเนื้อทั่วร่างกายของเขา
เกิดอะไรขึ้น? ก่อนหน้านี้มันไม่ได้เต็มแค่ 6 ตัวไม่ใช่เหรอ?
ซูอัน แทบไม่เชื่อสายตาของเขา เขาขยี้ตาอย่างแรงก่อนจะตรวจสอบ
อีกครั้ง และเขาก็เห็นอย่างที่เห็นจริง ๆ
อาจเป็นเพราะการต่อสู้เมื่อครู่กับ เพ่ยเหมียนหมาน?
เมื่อนึกย้อนกลับไป ความเสียหายที่เขาได้รับจากนางมันก็สาหัสสากรรจ์ การโจมตีของนางได้ทำลายกระดูกซี่โครงของเขาไปนับไม่ถ้วนในตอนนั้น
ถ้าไม่ใช่เพราะเส้นใยสุขสันต์ อาการบาดเจ็บระดับนั้นมันน่าจะทำให้เขาตายไปแล้วเป็นสิบรอบได้
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าผลของ เคล็ดวิชาวัฏจักรหงส์อมตะ ทำให้เขาสามารถยกระดับการบ่มเพาะของเขาได้อย่างรวดเร็วเมื่อได้รับบาดเจ็บ แต่เขาไม่เคยคิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้
ต้องรู้ว่าถ้าคำนวณจากการใช้ผลไม้พลังชี่ในการเพิ่มระดับการบ่มเพาะ การที่จะเติมอักขระที่เจ็ดจะใช้ผลไม้พลังชี่ 13 ลูก 21 ลูกสำหรับอักขระที่แปดและ 34 สำหรับอักขระที่เก้า ซึ่งนับรวมกันแล้วมันมากถึง 68 ผล!
ถ้าแปลงเป็นคะแนนความโกรธแค้น แม้ว่าเขาจะได้รับผลไม้พลังชี่
ทุก ๆ 10 รอบในการสุ่มรางวัล เขาก็ยังต้องใช้คะแนนความโกรธแค้น
ในการสุ่มถึง 68,000 คะแนน!
เมื่อเปรียบเทียบวิธีการทั้งสองนี้ วิธีการถูกทุบตีมันมีประสิทธิภาพมากกว่าสำหรับเขาในการยกระดับการบ่มเพาะ
หรือว่าบางทีเขาควรจะแกล้งถูกทุบตีบ่อย ๆ ในอนาคต?
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่พวกมาโซคิสม์แต่ผลตอบแทนนั้นน่าดึงดูดใจจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม หลังจากตื่นเต้นกับเรื่องนี้อยู่พักใหญ่ ในไม่ช้าเขาก็โยนความคิดนั้นทิ้งไป สาเหตุที่เขาสามารถทำกำไรได้มหาศาลในวันนี้
ก็เนื่องมาจากผลของ เส้นใยสุขสันต์ ถ้าไม่ใช่เพราะมัน เขาคงตายไปหลายรอบแล้ว
เส้นใยสุขสันต์ เหลือใช้งานได้อีกเพียงครั้งเดียว และเขาไม่สามารถที่จะใช้มันอย่างส่ง ๆ ได้อีกแล้ว หากไม่มีไพ่ตายใบนี้ มันมีความเสี่ยงมากที่เขา
จะตายโดยน้ำมือหญิงสาวที่อยู่รอบกายหากเขาประมาทแม้เพียงชั่วอึดใจ
เขาไม่คิดว่าตนจะโชคดีรอดตายจากการถูกทุบตีได้ทุกครั้ง
โดยรวมแล้ว เป็นการดีที่สุดสำหรับเขาที่จะพึ่งพา ผลไม้พลังชี่
เป็นหลักแทน ถึงแม้ว่ามันจะช้ากว่ามากแต่อย่างน้อยมันก็ปลอดภัย
ซูอัน มองเข้าไปใกล้ ๆ อักขระที่อยู่บนร่างซึ่งมันทำให้เขาเริ่มสังเกตเห็นว่ามันมีเส้นสายที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาท่ามกลางอักขระทั้งเก้าบนผิวหนังของเขา เส้นลวดลายพวกนั้นเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน จนคล้ายกับรูปร่างของนกขนาดใหญ่ที่แปลกประหลาด
นกขนาดใหญ่ตัวนี้ดูราวกับว่ามันกำลังจะกระพือปีกและทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า มันมีลำตัวสีเหมือนหิมะแต่หางของมันกลับมีสีแดงเข้มและมีจุด
สีเหลืองหลายจุดทั่วร่างกายซึ่งดูเหมือนดวงตาขนาดเล็ก
แต่ที่สะดุดตากว่านั้นคือหัวของมัน มันมีความคล้ายคลึงกับส่วนผสมของเสือกับปีศาจ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง มันมีลักษณะที่ดุร้ายและน่าสะพรึงกลัวซึ่งทำให้ขนลุก
“ตัวนี้มันคือตัวอะไร?” ซูอัน รู้สึกงุนงง ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่ามีบางอย่างคล้ายกับตราผนึกที่มุมล่างขวาของเจ้านกแปลกประหลาดตัวนี้
มีคำบนตราผนึกเขียนว่า ‘จ้าววายุ’