บทที่ 40 รีบให้พวกเขาหยุด

เหยาเฉาคิดอยู่ชั่วครู่และรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมจริง ๆ ชายหนุ่มต้องการที่จะช่วยน้องสาวและไปเอาคืนกับเจ้าอ้วนที่รังแกหลานของเขา

แต่ไม่คาดคิดว่าน้องสาวของเขาจะมีความคิดนี้อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว

“เหยาซู ไม่ว่าเจ้าคิดจะทำสิ่งใดก็ทำไปเถอะ ต่อให้อีกฝ่ายใหญ่โตเพียงใด พี่รองจะคอยดูแลเจ้าเอง!”

เหยาซูยิ้มพลางพยักหน้า “ด้วยคำพูดของพี่รอง ข้ารู้สึกสบายใจมาก”

เหยาเฟิงที่ยืนอยู่นอกห้องได้ยินคำพูดของน้องทั้งสองคน เขายิ้มและถอนหายใจก่อนตะโกนว่า “อาเฉา ตามข้าออกมา”

เหยาเฉาเดินออกไปอย่างไม่เต็มใจ เหยาซูได้ยินเสียงพูดคุยกันเล็กน้อย เป็นเหยาเฟิงกำลังสั่งสอนเหยาเฉาเพื่อหวังว่าน้องชายจะได้ดิบได้ดี

“เจ้าเก่งมากนักหรือ ถึงไปสั่งสอนน้องเช่นนั้น?”

เหยาซูยิ้มและถือเสื้อผ้าสองชุดไปที่ห้องหลัก

ตอนเที่ยงทุกคนกินข้าวอย่างลวก ๆ ตอนเย็นจึงจะทำอาหารดี ๆ อีกมื้อหนึ่ง ก็นับว่าเป็นการฉลองวันขึ้นปีใหม่แล้ว

เหยาซูไม่รู้ว่าเหยาเฟิงกล่าวอันใดกับเหยาเฉา ตอนเที่ยงเหยาเฉาจึงแสดงออกถึงความหดหู่ตลอดทั้งวันและไม่ได้ปริปากอะไรอีก

เหยาซูอุ้มซานเป่ามาที่โต๊ะอาหาร เหยาเฉาหยุดนางไว้อีกครั้งและถามเสียงเบาว่า “เจ้าไม่อยากให้พี่รองช่วยสั่งสอนคนพวกนั้นจริง ๆ หรือ?”

เหยาซูกำลังจะส่ายหน้าเพื่อจะบอกว่าไม่ต้อง ก็เห็นพี่ใหญ่ของตนถีบพี่รองใต้โต๊ะด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ใบหน้าของเหยาเฉากับแสดงออกถึงความเจ็บปวด

แม่เฒ่าเหยามองหน้าลูกชายคนรองของตน “อาเฉา กินข้าวเถอะ ทำหน้าแปลก ๆ เช่นนั้นทำไม?”

เหยาเฉาพูดไม่ออก “ท่านแม่..ข้า ข้ากินเสร็จแล้ว”

พี่สะใภ้ใหญ่ที่เพิ่งจัดโต๊ะอาหารเสร็จมองดูเขาด้วยสีหน้าแปลกประหลาด

ทั้งคืนไม่มีใครเอ่ยอะไร

วันรุ่งขึ้นหลังจากที่อาจื้อและอาซือถูกรังแก เหยาซูก็พาคนไปที่บ้านของเจ้าอ้วนด้วยตัวเอง

พ่อของเจ้าอ้วนนั้นเป็นคนขายเนื้อเพียงคนเดียวในหมู่บ้าน แต่ปกติแล้วครอบครัวของเขาจะขายเนื้อไปในราคาที่แพงกว่า 2 ชั่งหรือไม่ก็เติมเนื้อให้เยอะ ๆ คนจากหมู่บ้านตระกูลเหยาจะไปที่บ้านของเขาก็ต่อเมื่อมีเหตุฉุกเฉินอย่างกะทันหันที่ต้องการซื้อเนื้อเร่งด่วนเพียงเท่านั้น

แม้ว่าเหยาซูจะปฏิเสธความช่วยเหลือจากเหยาเฉา แต่พี่รองของนางก็ยังเรียกเด็กหนุ่มที่ไม่ได้ทำอะไรมาด้วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่เหยาซูรู้จัก

เมื่อพวกเขาได้ยินว่าพวกเขากำลังจะไปสร้างปัญหาให้กับเจ้าอ้วนเหยา เหล่าเด็กหนุ่มในหมู่บ้านต่างกระตือรือร้นที่จะมา

ก่อนออกเดินทางเหยาซูบอกกับพวกเขาด้วยสีหน้าเย็นชา “พวกเราแค่ไปหาเรื่อง! แต่ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ตะโกนระหว่างทางจนกว่าเราจะถึงบ้านเขา จากนั้นเราจะปิดประตูบ้านไม่ให้ใครเข้าแล้วทุบทุกอย่าง ในบ้านของเขามีอะไรจงทุบให้หมด แต่ห้ามทำร้ายคนอื่น!”

เหยาเล่ยก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาอายุมากที่สุดจึงพูดเพียงว่า “อาซู หากพวกเราทำแบบนั้นมันจะยิ่งสร้างปัญหาให้กับหัวหน้าหมู่บ้านหรือเปล่า”

เหยาซูส่ายหัว “ท่านพ่อของข้าก็คือพ่อของข้า ส่วนข้าก็คือตัวข้าเอง อีกอย่างเราแค่ทุบทำลายสิ่งของไม่ได้ทำร้ายใคร ทุบไปเท่าไรข้าจะจ่ายเอง”

ช่างไม้อีกคนในหมู่บ้านเดียวกันหัวเราะคิกคัก “พี่เล่ย ท่านจะคิดมากไปด้วยเหตุใด หลายวันมานี้อาซูช่วยเหลือพวกเราไว้ไม่น้อย หากไม่ใช่เพราะนางพวกเราคงไม่สามารถรับงานได้มากมายขนาดนี้ได้ วันนี้ลูกของนางถูกรังแก พวกเราพี่น้องไม่สมควรที่จะช่วยนางระบายความโกรธนั้นหรือ?”

เหยาเล่ยเป็นคนที่ซื่อตรงมาก ทว่าเขากลับพ่ายแพ้ต่อคำพูดของผู้อื่น เห็นได้ชัดว่าในใจของเขายังมีสิ่งที่อยากจะพูดอีกมากมาย แต่พอเปิดปากพูดเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง “ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้น…”

ทุกคนอ้าปากค้าง นางเองก็ถอนหายใจตามไปด้วยและเดินตามทุกคนไป

เหยาซูได้สอบถามอย่างละเอียดแล้ว ครอบครัวของเจ้าอ้วน มักจะรังแกผู้อ่อนแอแต่หวาดกลัวผู้ที่แข็งแกร่งกว่า ปกติแล้วเจ้าอ้วนนั้นมักจะพาพวกเด็กมาสร้างปัญหาอยู่เสมอ

ครั้งนี้เหยาซูต้องจัดการเรื่องนี้ให้สิ้นซาก

วันนี้เป็นวันที่สองของวันขึ้นปีใหม่ ดังนั้นคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านล้วนอยู่แต่ในบ้านไม่มีใครออกมาข้างนอก การที่เหยาซูพากลุ่มคนเดินทางไปบ้านของเจ้าอ้วนเหยา จึงไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผู้อื่นนัก

เหยาซูได้ให้คนมาเฝ้าที่นี่นานแล้ว ครอบครัวของเจ้าอ้วนเหยาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา

เมื่อเข้าไปในลานบ้านเหล่าคนหนุ่มไม่พูดพร่ำทำเพลงเห็นอะไรก็ทุบทิ้งทันที

เมื่อเจ้าของบ้านได้ยินเสียงก็รีบออกมาดูพลางตะโกนว่า “นี่มันเรื่องอะไรกัน เกิดบ้าอะไรขึ้น หยุดเดี๋ยวนี้!”

ผู้มาใหม่เป็นบิดาของเจ้าอ้วน เขาเกิดมาพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยไขมัน แม้ว่าเขาจะเป็นคนขายเนื้อ ทว่าร่างกายของเขาก็ไม่ได้มีแรงมากนัก ไม่มีใครแข็งแกร่งเท่ากับหนุ่มสาวที่เหยาซูพามา

“เจ้าอ้วนเหยา หลบไปซะ ไม่เช่นนั้นพวกเราอาจพลาดไปโดนเจ้า!”

ทุกคนผลักเจ้าอ้วนเหยาไปด้านข้าง จากนั้นก็ทำลายโคมไฟ หม้อไห กระเบื้องในบ้านของเขา อะไรก็ตามที่สามารถกระแทกให้แตกเป็นเสี่ยง ๆ พวกเขาจะทุบตีมันจนเละเทะ

เจ้าอ้วนเหยาลืมตัวรีบคว้าตัวเหยาเล่ยพลางเอ่ยถาม “อาเล่ย เกิดอะไรขึ้น เจ้าทำแบบนี้เพราะเหตุอันใด บอกให้พวกเขาหยุดซะ!”

………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ทุบของถือว่ายังดีนะคะ หรือว่าอยากจะโดนทุบหัวด้วย?

ตระกูลเหยาเอาจริง ๆ คือสายบู๊อะ ถ้าได้ปล่อยของคือพังกันไปข้าง

ไหหม่า(海馬)