บทที่ 164 น้ํายาผงม่วง

“อย่างไรก็ตามเราก็มีพ่อมดเฮกฮาร์อยู่ฝั่งพวกเรา แม้ว่าเซลินจะมีเมอร์ลินเพิ่มมาอีกคนแต่ก็ไม่ทําให้แผนของเราฟัง ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม!! เราจะทําสงครามกับเมืองปรากาซในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้!” เคานต์ลองการ์ดีตัดสินใจที่จะเดินหน้าแผนการของเขา

เหล่านักเวทย์ต่างแสดงอาการตื่นเต้นออกมา เคานต์ลองการ์ดีได้คัดเลือกนักเวทย์มาหกคน โดยไม่นับรวมพ่อมดเฮกฮาร์ที่เป็นนักเวทย์ระดับหนึ่ง ส่วนคนอื่น ๆ เป็นเพียงนักเวทย์ระดับเริ่มต้นเท่านั้น

อย่างไรก็ตามหลังที่พวกเขาจากที่ได้ยินเรื่องของแหวนมนต์ดําจากเฮกฮาร์ ทําให้พวกเขาก็ตื่นตัวด้วยเช่นกัน เนื่องจากแหวนมนต์ดําเป็นสัญลักษณ์ของดินแดนมนต์ดํา หากได้ครอบครองมัน พวกเขาก็จะสามารถกลายเข้าร่วมกับดินแดนมนต์ดําได้ นี่เป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพ่อมดพเนจร

แม้ว่าพ่อมดเฮกฮาร์จะแข็งแกร่งกว่าพวกเขาและคงจะยากหากต้องแย่งชิงมันจากเขาแต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในสนามรบ

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะขอรับ”

พ่อมดเฮกฮาร์โค้งคํานับเล็กน้อยและหันหลังออกไป หลังจากที่เขาเดินออกไปได้สักพัก เขาก็ได้หันหลังม มองกลุ่มนักเวทย์พร้อมกับหัวเราะเยาะในใจ

“หึ ไอ้พวกโง่ คิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองจะจัดการนักเวทย์จากองค์กรได้ง่าย ๆ แม้แต่นักเวทย์ระดับเริ่มต้นก็ยังแข็งแกร่งกว่านักเวทย์ระดับหนึ่งของพ่อมดพเนจรเลย ถ้าฉันไม่มั่นใจว่าจะชนะ ฉันก็ไม่มีทางไปสู้กับนักเวทย์จากองค์กรอย่างเด็ดขาด

ฉันจะใช้พวกแกผลาญพลังเวทย์ของเมอร์ลิน หลังจากนั้นฉันก็จะลงมือและแหวนมนต์ดําก็จะตกเป็นของฉัน…”

จากนั้นพ่อมดเฮกฮาร์หันหลังและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

“นี่คือสิ่งที่ทําให้พวกพ่อมดพเนจรนับไม่ถ้วน ต่างพยายามฟาดฟันเพื่อให้ได้มันมางั้นเหรอ…”

ในรถม้า เมอร์ลินถือแหวนสีดําอันวิจิตรงดงาม นี่คือแหวนมนต์ดําที่เขาได้รัยมาหลังจากที่ทําการสังหารพ่อมดนีล

สาเหตุที่ทําให้พ่อมดพเนจรหลายคนต้องการมันก็เพราะว่ามันบัตรผ่านที่เข้าสู่ดินแดนมนต์ดํา

เมอร์ลินอยู่ในดินแดนมนต์ดํามาหนึ่งปีแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้กฎเกณฑ์ของที่นั่นดี ก่อนที่เขาจะกลายเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่ง เขาเป็นสมาชิกชั่วคราวเท่านั้น หากเขาก้าวออกไปข้างนอก นักเวทย์คนอื่น ๆ สามารถฆ่าและทําการแย่งชิงแหวนมนต์ดําไปจากเขาได้ ทางดินแดนมนต์ดําจะไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้น

“ฉันอาจตกเป็นหมายของพ่อมดพเนจร…แต่พวกนั้นคงไม่ได้คาดคิดว่า นั้นก็เป็นเป้าหมายของฉันด้วยเช่นกัน”

ดวงตาของเมอร์ลินเป็นประกาย จากนั้นเขาได้เก็บแหวนมนต์ดําเอาไว้ข้างใน ตอนนี้แหวนวงนี้ยังไม่มีประโยชน์กับเขาแต่อาจมีประโยชน์อย่างมากในอนาคต เพราะในท้ายที่สุดนี่คือบัตรผ่านที่จะเข้าสู่ดินแดนมนต์ดํา

“ท่านบารอน พวกเรามาถึงแล้ว!”

เมื่อถึงที่หมาย เมอร์ลินเปิดประตูรถม้าออกและลงจากรถม้า

เขามาถึงบ้านไม้ของพ่อมดฮิลล์ ที่นี่ยังคงสภาพเช่นเดิม บริเวณโดยรอบเงียบสงบเกินไป มันยิ่งทําให้สถานที่แห่งนี้เปล่าเปลี่ยว อ้างว้างมากขึ้น

*ก๊อก ก๊อก*

เมอร์ลินให้คนขับรถม้ารออยู่ข้างนอก ส่วนเขาเข้ามาเคาะประตูไม้

*เอี้ยด…*

ประตูเปิดออกเผยให้เห็นสาวใช้คนเดิมที่เขาเคยพบก่อนหน้านี้

“ท่านบารอน? เชิญเข้ามาก่อนเจ้าค่ะ”

เมอร์ลินเขาไปในบ้านและสํารอบโดยรอบ ภายในยังคงเหมือนเดิมไม่ต่างจากปีที่แล้วมากนัก อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินไม่พบพ่อมดฮิลล์ที่ห้องโถงด้วนใน

“พ่อมดฮิลล์อยู่ที่ไหน” เมอร์ลินถามสาวใช้

สาวใช้ลังอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบด้วยท่าทางมืดมนว่า “ตอนนี้ท่านพ่อมดอยู่ชั้นบน เดี๋ยวฉันจะนําทางให้ท่านบารอนเองเจ้าค่ะ”

เมื่อเห็นสีหน้าของสาวใช้ เมอร์ลินก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงตามสาวใช้ไปอย่างรวดเร็ว

พอมาถึงชั้นบน สาวใช้ผลักประตูเบา ๆ และพูดว่า “ท่านพ่อมด ท่านบารอนเมอร์ลินมาพบท่านเจ้าค่ะ”

“เมอร์ลินงั้นเหรอ รีบให้เขาเข้ามาเลย” เสียงของชายชราเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ

เมอร์ลินเดินเข้ามาและพบว่าภายในห้องค่อนข้างมือ หน้าต่างปิดสนิทแต่ไม่มีกลิ่นอับ นี่แสดงให้เป็นสาวใช้ทําความสะอาดในห้องนี้ทุกวัน

“พ่อมดฮิลล์ ทําไมท่านถึงกลายเป็นแบบนี้”

เมอร์ลินพบว่าชายชรานอนขดตัวอยู่มุมห้อง ชายชราเต็มไปด้วยผมขาวและมีออร่ามรณะแผ่ออกมาจกตัวเขา

ออร่าแบบนี้จะปรากฏกับคนที่กําลังจะตายเท่านั้น

เมอร์ลินจําได้ว่า ก่อนที่เขาจะเดินทางออกจากเมือง อาการของพ่อมดฮิลล์ยังปกติดี โครงสร้างเวทมนต์ของเขากลับมาเสถียรอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ชายชราในตอนนี้ไม่สามารถควบคุมโครงสร้างเวทมนต์ในจิตใต้สํานึกได้อีกต่อไป

“พ่อมดเมอร์ลิน เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย” ชายชราเงยหน้าขึ้นดวงตาว่างเปล่าได้กลับมามีแสงขึ้นอีกครั้ง

หลังจากนั้น ชายชราก็เงียบไปและพูดว่า “หึหึ ต้องขอบคุณแบร์สที่ทําให้ข้าต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้”

หลังจากนั้นพ่อมดฮิลล์ได้เล่นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้สั้น ๆ

เมอร์ลินเข้าใจว่าโครงสร้างเวทมนต์ของชายชราหลุดจากการควบคุมหลังจากที่ขับไล่พ่อมดแบร์สไปในวันนั้น

เรื่องนี้ทําให้เมอร์ลินติดหนี้ชายชราอย่างแท้จริง เพราะเขาได้ขอให้ชายชราดูแลครอบครัวของเขา ด้วยเหตุนั้นทําให้ชายชราต้องมีสภาพเช่นนี้

“พ่อมดเมอร์ลิน ชายชราที่กําลังจะตายคนนี้คู่รักษาคํามั่นสัญญาของเจ้าแล้ว แล้วเจ้าล่ะพบน้ํายาหรือสูตรยาใด ๆ จากดินแดนมนต์ดําที่สามารถทําให้โครงสร้างเวทมนต์เสถียรบ้างรึเปล่า”

ชายชราจ้องมองเมอร์ลินอย่างเร่งเร้า เขาฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเมอร์ลิน ถ้าเมอร์ลินไม่สามารถหาน้ํายาหรือสูตรยามาได้ เขาอาจจะมีชีวิตได้ไม่ถึงปี

รอบยิ้มค่อย ๆ ปรากฏบนใบหน้าของเมอร์ลิน เขาโบกมือเบา ๆ และขวดยาได้ปรากฏบนมือของเขา

“มันคือน้ํายาผงม่วงที่ฉันไปแลกเปลี่ยนมาจากดินแดนมนต์ดํา มันมีสรรพคุณทําให้โครงสร้างเวทมนต์คาถาระดับศูนย์คงที่ พ่อมดฮิลล์ลองดื่มน้ํายาไปก่อน ผมอยากรู้ว่ามันจะได้ผลมากแค่ไหน”

เมอร์ลินส่งขวดยาให้กับพ่อมดฮิลล์ ชายชรารับมาด้วยมืออันสั่นเทาเนื่องด้วยความกระวนกระวายของเขา

“ได้ ข้าจะลองดู”

พ่อมดฮิลล์กลืนลงไปโดยไม่ลังเล ในระหว่างนั้นเมอร์ลินได้สังเกตอาการของพ่อมดฮิลล์

เมอร์ลินได้ใช้แลกสนับสนุนแลกเปลี่ยนสูตรน้ํายาหินม่วงมา

ในอนาคตเขาสามารถผลิตน้ํายาได้ตามที่ต้องการ โดยส่วนผสมหลักของมันคือผงหินม่วง

ผงหินม่วงไม่ได้เป็นของมีค่ามากนัก เขามีส่วนผสมอยู่ในแหวนที่ได้รับมาจากชายชราผมเงิน ดังนั้นเขาสามารถปรุงเพิ่มเองได้

เขาต้องการปรุงยาเพิ่มอีกสองสามชุดเพื่อให้โครงสร้างเวทมนต์ของชายชราเสถียรมากขึ้น

หลังจากที่ชายชราดื่มน้ํายาผงม่วงเข้าไป เขาก็เงียบไม่พูดอะไร ดูเหมือนว่าเขาจะสังเกตโครงสร้างเวทมนต์ในจิตใต้สํานึกของเขา

ผ่านไปสองชั่วโมง คลื่นพลังจิตได้ปรากฏออกมาจากร่างกายของชายชรา

*หวุ่ม!!*

ชายชราได้ลืมตาขึ้น เขารู้สึกเบิกบานใจและหันมามองเมอร์ลิน

“พ่อมดเมอร์ลิน เจ้ามีน้ํายาผงม่วงติดตัวอีกมั้ย มันให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมมาก แม้มันจะไม่ได้ทําให้เสถียรอย่างสมบูรณ์แต่ถ้าข้ายังดื่มมันต่อไป มันจะต้องเสถียรในที่สุด”

พ่อมดฮิลล์ประสบกับปัญหานี้มานานหลายปี ทําให้เขาไม่สามารถร่ายคาถาได้ตามที่ต้องการ

แต่ด้วยน้ํายาผงม่วง มันทําให้เขามีความหวังเพิ่มขึ้น

แม้ว่าตัวยาจะให้ผลลัพธ์ที่ดีแต่มันก็คงอยู่ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะต้นตอของปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข

ถึงกระนั้น ชายชราก็รู้สึกเบิกบานใจกับผลลัพธ์มัน

เมื่อเห็นแววตาที่กระตือรือร้นของชายชรา เมอร์ลินได้ส่ายหัวเบา ๆ “ตอนนี้ผมไม่มีน้ํายาผงม่วงแต่ผมมีสูตรสําหรับทํายา ผมสามารถผสมมันได้ดังนั้นผมจะทํามันตอนนี้”

หลังจากพูดจบ เขาก็หยิบสูตรยาที่แลกมาจากหอสมุด ชายชรารับสูตรยามาจากเขาและตรวจสอบส่วนผสมอย่างรวดเร็ว

สําหรับดินแดนมนต์ดํา พวกเขาไม่ได้จริงจังกับการปกปิดข้อมูลมากนัก ดังนั้นจึงมีคาถาและสูตรยามากมายรั่วไหลสู่โลกภายนอก

แต่พวกเขาเข้มงวดกับของที่มีค่าเท่านั้น หากเป็นคาถาระดับศูนย์ถึงระดับสาม พวกเขาไม่ได้จริงจังในการปกปิดข้อมูลมากนัก

อย่างไรก็ตามหากเป็นคาถาระดับสี่ขึ้นไป หากนักเวทย์ต้องการแลกเปลี่ยนมัน พวกเขาต้องลงนามสัญญาเสียก่อนถึงจะแลกเปลี่ยนมันได้

สูตรยาบางสูรกับเทคนิคการทําสมาธิขั้นสูงก็เช่นกัน หากต้องการแลกเปลี่ยนจะต้องทําสัญญากับดินแดนมนต์ดํา

อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินได้รับเทคนิคการทําสมาธิขั้นสูงมาจากพ่อมดลีโอมาอย่างฟรี ๆ

มันเป็นของพ่อมดลีโอและเขาก็ไม่ได้ห้ามให้เมอร์ลินเอาไปให้คนอื่น แต่ถึงอย่างนั้นเทคนิคการทําสมาธิขั้นสูงมันมีค่ามากเกินไปดังนั้นเขาจึงไม่สามารถมอบให้ผู้อื่นง่าย ๆ

ส่วนสูตรยาผงม่วงเป็นเพียงยาสามัญเท่านั้น ดังนั้นเมอร์ลินจึงไม่ต้องลงนามใด ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนสูตรยา ดังนั้นเขาจึงสามารถมอบมันให้กับพ่อมดฮิลล์ได้