เสียงระเบิดสร้างความโกลาหลให้กับบรรดาแขกในงาน แม้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะพยายามควบคุมสถานการณ์ก็ไม่เป็นผล

 

“ท่านแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน! ขอความกรุณาอยู่ในความส… ”

 

 ศีรษะของหน่วยรักษาความปลอดภัยถูกบีบแตกกระจายก่อนจะประกาศเสร็จ ภาพสยดสยองของฝูงชนที่ถูกเหล่าชนเถื่อนสังหาร เสียงกรีดร้องที่ดังเคล้าคลอกับเสียงระเบิดจากเปลวไฟ ราวกับอารัมภบทของภาพยนต์แบบบู๊ก็มิปาน

 

 ฝูงชนที่เสียขวัญต่างวิ่งแตกกระจาย เหล่าชนเถื่อนสังหารทุกชีวิตเบื้องหน้าอย่างไม่แยกแยะ หน่วยรักษาความปลอดภัยที่พยายามระงับความวุ่นวาย เพียงช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาทีงานประมูลได้กลายเป็นงานประจันบาน

 

“องค์ชาย!”

 

 คารัคร้องขึ้นอย่างร้อนรน อินกองรีบมองสำรวจแผนที่ย่อของเขา

 

 จุดแรกที่เกิดการระเบิดอยู่นอกลานประมูล หรือก็คือความวุ่นวายเหล่านี้เกิดขึ้นทั่วหัวเมืองทาก้า มิใช่แค่ ณ สถานที่จัดงาน

 

‘หน่วยโจรกรรม?’

 

 หากชนเถื่อนจำนวนมากเคลื่อนพลเข้าใกล้ หน่วยลาดตระเวนของเมืองทาก้าย่อมเห็นความผิดปกติ ทำให้อินกองได้ข้อสรุปว่าเหล่าชนเถื่อนแบ่งเป็นกลุ่มขนาดเล็กกระจายตัวปะปน

 

 จุดสีแดงในแผนที่ย่อของอินกองแสดงถึงศัตรูหรือเหล่าชนเถื่อน จุดสีน้ำเงินแสดงถึงมิตรหรือคณะเดินทางของเขา และจุดสีเทาฝ่ายกลางหรือผู้อาศัยในเมืองทาก้า

 

 จุดสีแดงส่องสว่างมากที่สุดแสดงตำแหน่งของเพราโตส น้องชายของราชาชนเถื่อน และคาดว่าเป็นหัวโจกจัดงานสังสรรค์ให้กับชาวเมืองทาก้า

 

 เพราโตสเดินยิ้มกริ่มไปยังเวทีกลางงานประมูล แสดงเจตนาอย่างชัดเจน

 

 ของวิเศษเลิศเลอปานใดที่ทำให้ต้องเอิกเกริกเยี่ยงนี้?

 

 เรื่องนี้ย่อมรู้ถึงหูวัลคาโน่ เจ้าเมืองทาก้าผู้ไม่ยอมใคร และเขาย่อมตอบโต้อย่างแน่แท้

 

 สถานการณ์วิกฤติทำให้อินกองไม่มีเวลาคิดให้รอบคอบ อีกหนึ่งปัจจัยก็คือจุดสีน้ำเงินที่โผล่ขึ้นอย่างกระทันหัน

 

 จุดสีน้ำเงินที่ว่าปรากฏไม่ห่างจากคณะของอินกองและกำลังพุ่งตรงไปยังเวทีลานประมูล นอกจากคณะของอินกองแล้ว มีบุคคลเพียงหนึ่งที่อาจเรียกได้ว่าเป็นมิตรกับอินกอง

 

‘นาตาช่า!’

 

 ซัคคุบัสสาวในชุดรัดรูปสีดำเปลือยต้นขา อินกองสติหลุดลอยนึกถึงความทรงจำจากในเกมชั่วครู่ก่อนจะตั้งสติอีกครั้ง แน่นอนว่าใบหน้าของนาตาช่าแสดงให้เห็นถึงความสับสนกับสิ่งที่เกิดเช่นกัน

 

“องค์ชาย!”

 

 ในที่สุดการตะโกนเรียกเตือนสติจากคารัคก็เป็นผล อินกองรีบนำยุทโธปกรณ์ออกจากช่องเก็บของแล้วแต่งตัว

 

 ไวท์อีเกิ้ลติดแขนซ้าย พสุธากัมปนาทสวมแขนขวา และฮูกคุ้มภัยคลุมไหล่

 

 เนื่องจากพสุธากัมปนาทได้รับการปรับแต่งให้เข้ากับอินกอง เสียงคำรามจึงไม่ดั่งสนั่นอย่างเคย ทว่าประกายแสงตามอักขระกลับเรืองขึ้นเจิดจรัสกว่าที่ผ่านมา

 

“ขอรบกวนด้วยครับนูนะ”

 

 เคทลินเตรียมตัวในทันที นางพับชุดราตรีเพื่อให้ขยับร่างกายได้คล่องแคล่วแล้วเคลื่อนลมปราณ

 

 ผิดกับเฟลิซีถามถึงคำไหว้วานอย่างสับสน

 

“ฉัตร?”

 

“พวกชนเถื่อนจากนอกเขตแดน!”

 

 อินกองตะโกนตอบพลางรีบมุ่งหน้าไปยังเวทีประมูล มีเสียงจากเฟลิซีดังขึ้นเล็กน้อย แต่ในตอนนี้นาตาช่าสำคัญกว่า

 

 เวลาไม่เคยรอใคร ในขณะที่อินกองมัวเตรียมตัว เพราโตสก็อยู่กลางเวทีเรียบร้อย เขาสังหารเหล่าเจ้าหน้าที่ก่อนจะโยนม้วนกระดาษระเบิดเพิ่ม จากนั้นก็เดินเข้าด้านหลังเวที

 

 ด้านนาตาช่าก็พุ่งเป้าไปที่ด้านหลังเวทีเช่นกัน ดูเหมือนนางพยายามสะกดรอยเพราโตส

 

 อินกองกระโดดฝ่าเปลวไฟขึ้นไปบนเวที เสียงเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายดังขึ้นจากด้านหลังของเวทีเป็นระยะ

 

“เพราโตส!”

 

 อินกองไม่รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดด้านหลังเวที เขาทำได้เพียงร้องตะโกนดึงความสนใจที่ไม่ได้ผลสักเท่าไร เมื่อเขามาถึงบริเวณที่เก็บของเตรียมประมูล เขาก็พบว่าพนักงานและยามส่วนใหญ่ล้วนเสียชีวิตตามคาด

 

 แน่นอนว่าเพราโตสที่กำลังใช้มือบีบศีรษะยกตัวพนักงานขึ้นหยุดชะงัก ก่อนจะหันชำเลืองมองมาทางอินกอง

 

 แววตาคู่นั้นจดจ้องมาแต่อินกองไม่สนใจ อินกองมองสำรวจสิ่งของเตรียมประมูลตรงหน้าพลางชำเลืองมองแผนที่ย่อของเขา จุดที่แสดงถึงนาตาช่าได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย คาดว่าเป็นผลจากทักษะบางอย่างของนาง ถึงกระนั้นสมบัติตรงหน้าไม่สามารถหลุดลอดสายตาของเขาได้

 

‘หมวกมังกรทองแห่งราชา!’

 

 ของวิเศษชิ้นนี้มีมูลค่าที่พิเศษในตัวต่างไปจากของระดับ A ทั่วไป นั่นทำให้อินกองจดจำมันได้

 

 หมวกที่ว่าถูกแกะสลักด้วยทองเป็นรูปมังกรตรงตามชื่อของมัน

 

 หมวกมังกรทองแห่งราชา สัญลักษณ์ที่แสดงถึงราชาเทราโตส ราชาชนเถื่อนในอดีตผู้เลื่องลือ
 เท-รา-โตส

 

 ในที่สุดอินกองก็เข้าใจว่าทำไมเพราโตสถึงเปิดตัวอย่างเอิกเกริก

 

 สำหรับบุคคลทั่วไปสิ่งนี้คงเป็นเพียงหมวกทองคำธรรมดา แต่สำหรับเหล่าชนเถื่อนแล้ว สิ่งนี้คือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงพลังอำนาจ สัญลักษณ์แห่งผู้นำที่ไร้ข้อกังขา สัญลักษณ์ของราชาชนเถื่อน!

 

 เพราโตสบีบกะโหลกยามจนแตกแล้วขว้างใส่อินกองราวกับสิ่งของ นี่ไม่ใช่การจู่โจมแต่เป็นเพียงคำขู่ หรืออีกนัยหนึ่งคือการทักทาย แน่นอนว่าอินกองสามารถหลบได้โดยง่าย เขาชำเลืองมองแผนที่ย่ออีกครั้ง

 

“กีวี่!”

 

 โล่ไวท์อีเกิ้ลแตกออกเป็นสองบินจู่โจม ภาพตรงหน้าทำให้เพราโตสประหลาดใจเล็กน้อย อินกองอาศัยช่องโหว่ที่เกิดขึ้นพุ่งกระโจนเข้า

 

เคล้ง!

 

 อินกองถีบพื้นอีกครั้งระหว่างพุ่งกระโจนเพื่อเปลี่ยนทิศทางแทนที่จะโจมตี เพราโตสคาดเดาความคิดของอินกองออกและพยายามกระโดดเข้าตะครุบตัว แต่ก็ถูกโล่บินทั้งสองสะกัดเอาไว้

 

 อินกองเงื้อมมือออกไปหยิบกล่องแก้วชิ้นหนึ่ง แน่นอนว่าภายในกล่องนี้ก็คือหมวกมังกรทองแห่งราชา เวทมนตร์สัญญาณกันขโมยทำงานขึ้นแต่อินกองก็ใช้พลังแห่งอาณัติเข้าสยบมันไว้ จากนั้นเขาก็ส่งสมบัติชิ้นนี้เข้าช่องเก็บของ

 

 เพราโตสพยายามพุ่งหาอินกองโดยไม่สนใจโล่ทั้งสอง ทว่าไวท์อีเกิ้ลและแบล็คอีเกิ้ลไม่ได้มีเจตนาโจมตี โล่ทั้งสองคอยสะกัดกั้นและบดบังสายตา การฝ่าไปจึงมิใช่เรื่องง่าย

 

 อินกองอาศัยโอกาสนี้หยิบของวิเศษชิ้นอื่นเพิ่ม เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นของวิเศษเหล่านี้ย่อมเสียหาย เช่นนั้นหากมันจะหายไปสักชิ้นสองชิ้นก็คงไม่ส่งผลอะไร แน่นอนว่าในบรรดาสิ่งของเหล่านี้ย่อมมีสิ่งของที่นาตาช่าเล็งเป้าไว้เช่นกัน
 ข้ออ้างอันชอบธรรม(?)ของหัวขโมย

 

‘งานรองของนาตาช่าคือโจร!’

 

 ถึงนางจะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในองครักษ์ของแซเฟียร์ แต่นางชำนาญด้านงานโจรกรรมข้อมูล

 

 ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมข่าวสารหรือการปล่อยข่าวลวง เรียกได้ว่านางเป็นเพียงองครักษ์แค่ในนามเท่านั้น

 

 นอกจากนี้ความสามารถในการซ่อนตัวของนางก็เป็นที่เลื่องลือในหมู่ผู้เล่น

 

 อินกองใช้นาตาช่าในเกมอยู่บ่อยครั้งโดยมิได้คิดอะไร แต่เมื่อลองคิดดูแล้วนาตาช่าเรียนรู้ทักษะเหล่านี้จากที่ใดกัน? หรือจะเป็นทักษะตั้งแต่ก่อนตกเป็นทาส?

 

 บางทีนาตาช่าอาจเข้ามาลอบขโมยสิ่งของในงานประมูล แต่ถูกจับได้จึงตกเป็นทาส

 

 การคาดเดาอย่างไม่มีเบาะแส

 

 ราวกับพิสูจน์สมมติฐานของอินกอง มีเสียงครางดังเล็ดรอดออกมาแผ่วเบา สิ่งของเตรียมประมูลหายไปในพริบตาที่สัมผัสมือของอินกอง ภาพนี้สร้างความประหลาดใจให้กับโจรสาว

 

“สารเลวเอ๊ย!”

 

‘นายท่าน!’

 

 เสียงสบถดังจากเพราโตสพร้อมเสียงเรียกจากกรีนวินด์  นาตาช่ากลับหลังวิ่งในทันทีที่นางรู้ตัวว่าเสียงนางเล็ดรอดออกไป แต่อินกองใช้ทักษะพิเศษของฮูกคุ้มภัยเคลื่อนย้ายเข้าคว้าแขนของนางเอาไว้ทันการ

 

‘นายท่าน!’

 

 กรีนวินด์ร้องบอกอีกครั้ง นางไม่สามารถสะกัดกั้นเพราโตสไปได้มากกว่านี้

 

“คารัค!”

 

 อินกองดึงตัวนาตาช่าเข้ามาแล้วใช้ทักษะรับสั่งเรียกตัวคารัค

 

“พาตัวนาตาช่าออกจากที่นี้ให้เร็วที่สุด!”

 

“ด เดี๋ยวสิ!”

 

 นาตาช่าส่งเสียงคัดค้านอย่างงงงวย เจ้าออร์คทำความเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็ว มันเงยหน้ามองเพดานพลางอุทานอย่างตกใจ

 

“เฮือก! ไอ้นั่นมันอะไรกัน!”

 

 ความโกลาหลทำให้ทั้งนาตาช่ากับเพราโตสต่างมองตามคารัคอย่างไม่ทันตั้งตัว

 

 พริบตานั้นเองที่คารัคใช้สันมือของมันฟาดใส่ท้ายทอยของซัคคุบัสสาว

 

“อ๊า?”

 

 นาตาช่าครางออกมาอย่างเจ็บปวด แผนการตีให้สลบไม่เป็นไปดั่งที่วางไว้แต่เจ้าออร์คก็มิสนใจ นางอาจยังมีสติแต่นางก็ไม่สามารถขัดขืนอะไรได้ เจ้าออร์คคว้าตัวนางแบกพาดไหล่แล้วเริ่มออกวิ่ง

 

 อินกองกับเพราโตสต่างตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหลายความหมาย 

 

 นี่เป็นครั้งแรกที่เพราโตสเห็นซัคคุบัสนางนี้ แม้หลายสิ่งอย่างกำลังเกิดขึ้นแต่สิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญสำหรับเพราโตสมีเพียงอย่างเดียว นั่นคือหมวกมังทองแห่งราชา

 

 การเล่นตลกของคารัคกับนาตาช่าทำให้อินกองชะงักไปชั่วครู่ วิธีการอาจจะผิดพลาาดไปบ้างแต่ผลลัพธ์ที่เกิดถือว่าสำเร็จลุล่วง

 

‘นายท่าน!’

 

 กรีนวินด์ร้องเรียกอีกครั้งด้วยเสียงที่แฝงไปด้วยความเสียใจที่ถูกเมินเฉย ในครั้งนี้อินกองเค้นลมปราณของเขาออกมาเตรียมต่อสู้

 

 สายตาของเพราโตสจดจ้องมายังอินกองอย่างคลุ้มคลั่ง เขาไม่สนใจเรื่องที่ว่าใครจะมาช่วยปกป้องเมืองทาก้า ที่เขาสนใจคือหมวกมังกรทองแห่งราชาตกไปอยู่ในเงื้อมมือผู้อื่น

 

 โล่อีเกิ้ลทั้งสองที่คอยสะกัดกั้นเพราโตสบินกลับมาที่แขนซ้ายของอินกอง เสียงคำรามอันคุกรุ่นยังคงดังขึ้นจากพสุธากัมปนาท สิ่งที่ผิดแปลกคือเกล็ดของมันเปลี่ยนเป็นสีดำทมิฬและเริ่มกลืนกินแขนขวาของอินกอง

 

 เพราโตสระเบิดเสียงคำรามศึกออกมา อินกองรู้สึกราวกับยืนอยู่ต่อหน้าสิงโตที่กำลังแผดเสียงคำราม เขาไม่สามารถละสายตาออกไปได้ เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด เขากำหมัดแน่นขึ้นพลางกระตุ้นไอพลังมังกรในร่างให้ไหลเวียน

 

 ศัตรูตรงหน้าคือเพราโตส น้องชายของราชาชนเถื่อน ผู้ที่เรียกได้ว่าเป็นนักรบระดับหัวกะทิ

 

 อินกองสูดหายใจเข้าอีกครั้ง แล้วการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น