บทที่ 72 ซื้อไม่ไหว

แน่นอน ลี่จีถองรู้ว่าที่ลี่จุนถิงจู่ๆก็เอ่ยขึ้นมาแบบนี้นั้นหมายถึงอะไร เขาก็แค่รู้สึกว่าการที่ตนอยู่ที่นี่ทำให้เจียงหยุนเอ๋อไม่มีความสุขไม่ใช่หรือ?

เธอกำหมัดแน่น ไม่พอใจเจียงหยุนเอ๋อมากยิ่งขึ้น ในใจของเธอเจียงหยุนเอ๋อก็คือนังปีศาจจิ้งจอกตัวหนึ่ง

ลี่จุนถิงพูดจาออกมาชัดเจนขนาดนั้น ลี่จีถองก็อาจแบกหนังหน้าทนอยู่ที่นี่ต่อไปได้อย่างสบายใจ ดังนั้นพอตกบ่ายก็ได้แต่เก็บข้าวของออกไปอย่างไม่เต็มใจ

ในขณะที่ผ่านห้องรับแขก เจียงหยุนเอ๋อก็ได้ยินเสียงเก็บข้าวของในห้อง ตอนนั้นเองความรู้สึกภายในใจก็ซับซ้อนขึ้นมา

แม้ว่า ลี่จีถองจะทำเรื่องหลายสิ่งหลายกับตน แต่อย่างไรก็ตาม ลี่จีถองก็ยังคงเป็นป้าของลี่จุนถิงลี่จุนถิงกลับไม่เข้าข้างลี่จีถองแต่หันมาช่วยตนเองแทน….ดังนั้นเธอจึงยังคงแอบรู้สึกซาบซึ้งอยู่ลึกๆ ความรู้สึกที่ไม่ดีต่อลี่จุนถิงในก่อนหน้านี้จึงสลายหายไปอย่างรวดเร็ว

“เจียงหยุนเอ๋อ” เจียงหยุนเอ๋อกำลังเหม่อลอยไปเล็กน้อย ก่อนจะถูกเสียงของลี่จีถองที่ดังขึ้นจากด้านหลังปลุกให้ได้สติ

เธอหันกลับไปมอง และเห็นลี่จีถองที่ไม่รู้ว่าเดินมาถึงประตูตั้งแต่เมื่อไหร่ กำลังจ้องมองเธออยู่แน่นิ่ง

“ตอนนี้เธอคงภูมิใจมากใช่ไหม?”ลี่จีถองหัวเราะเยาะ และเอ่ยขึ้น

ภูมิใจ? เจียงหยุนเอ๋อตะลึงไป ถึงแม้ว่าเธอจะสะใจขึ้นมาเล็กน้อยที่ได้รู้ว่า ลี่จีถองกำลังจะย้ายออกไป แต่นั่นก็ไม่ได้ถือว่าเธอภูมิใจกับมัน เธอจึงส่ายหน้าอย่างจริงใจและเอ่ย “ฉันมีอะไรให้ภูมิใจกับมันคะ?”

“โอ้” เห็นได้ชัดว่า ลี่จีถองไม่เชื่อคำพูดของเธอ ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเยียบเย็น “เธอไม่จำเป็นต้องมาเล่นละครต่อหน้าฉัน เจียงหยุนเอ๋อ ฉันยังคงแนะนำว่าเธอควรจะไปจำสถานะตัวเองให้ดี อย่าได้คิดว่าตัวเองจะได้แต่งเข้าตระกูลคนรวยได้จริงๆ”

ลี่จีถองนิ่งไปและมองเจียงหยุนเอ๋ออย่างประเมิน ดวงตาของเธอฉายแววดูถูก “ถึงฉันจะออกไปอาศัยข้างนอก แต่เธอก็อย่าได้คิดเชียวว่าเธอชนะแล้ว ฉันจะไม่มีวันปล่อยให้เธอประสบความสำเร็จแน่”

ในตอนที่เจียงหยุนเอ๋อจากห้องของลี่จีถองหัวของเธอยังคงสับสนอยู่บ้าง คำเตือนของลี่จีถองนั้นเธอได้ฟังมันแล้ว และบอกไม่ถูกเช่นกันว่าในใจของเธอรู้สึกอย่างไร

ตอนนี้เธอก็ไม่รู้เช่นกันว่าควรจะจัดการความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับลี่จุนถิงอย่างไร ให้มันคลุมเครือไม่ชัดเจนเช่นนี้ต่อไปงั้นหรือ?

ไม่กี่วันต่อมา เนื่องจากการเตรียมตัวสำหรับรอบชิงชนะเลิศระดับจังหวัด ถวนจื่อจึงนัดหมายกับเพื่อนร่วมทีมหลายคนในทีม XY ให้มาที่สโมสรในเมืองเพื่อทำการฝึกซ้อม

ลี่จุนถิงจัดหาเวลาหนึ่งวันและพาถวนจื่อกับเจียงหยุนเอ๋อไปด้วยกัน

ระหว่างทาง เมื่อมองไปที่ถวนจื่อซึ่งกำลังศึกษาวิดีโอเกมอย่างตั้งใจ เจียงหยุนเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะแหย่เล่น “ถวนจื่อ การฝึกฝนในวันนี้มั่นใจหรือไม่? ได้ข่าวว่าพวกพี่ๆเก่งกันมาก”

“ผมมั่นใจ” ถวนจื่อพยักหน้าอย่างไม่ลังเล ราวกับว่าที่ผ่านมาเขาก็มีท่าทีเช่นนี้มาโดยตลอด

ริมฝีปากของเจียงหยุนเอ๋อฉีกยิ้มหัวเราะเบาๆ เธอลูบหัวของถวนจื่อและเอ่ย “อืม ฉันก็มั่นใจในตัวเธอเหมือนกัน”

หลังจากมาถึงสโมสร เหล่าผู้เล่นล้วนรู้ว่าลี่จุนถิงก็คือมิสเตอร์เอ็กซ์ผู้ลึกลับที่อยู่เบื้องหลังของทีม ดังนั้นทุกคนจึงให้ความเคารพเขาอย่างยิ่ง

ในด้านหนึ่ง เงินเดือนและสวัสดิการที่ลี่จุนถิงให้นั้นดีมาก บวกกับพวกเขาเคยแลกเปลี่ยนพูดคุยกับลี่จุนถิงบนอินเทอร์เน็ตมาก่อน ดังนั้นจึงรู้ดีว่าเขามีความเข้าใจเกมนี้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าเขานั้นมีความสามารถเพียงพอที่จะนำพาทีมไปยังทิศทางที่ดียิ่งขึ้น

ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็พูดคุยกับถวนจื่อ “ถวนจื่อ พ่อของนายเก่งมากจริงๆ”

ถวนจื่อยิ้มออกมาอย่างภูมิใจอยู่บ้าง จากนั้นจึงยอมรับด้วยความภาคภูมิใจ “แน่นอนอยู่แล้ว พ่อของผมจะไม่เก่งได้ยังไง?”​

หลังจากที่หลายๆคนเข้ามาทักทายกันเสร็จ พวกเขาก็กลับไปยังที่นั่งในการฝึกซ้อม

ถึงแม้ว่าถวนจื่อจะใช้เวลาเล่นเกมอยู่ที่บ้านทั้งวัน แต่เจียงหยุนเอ๋อก็ยังไม่มีพรสวรรค์ในการเล่นเกม ดังนั้นเธอจึงคิดที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง ผลก็คือเธอยังคงไม่เข้าใจมันอยู่ดี เธอยืนมองดูพวกเขาฝึกซ้อม แม้ว่าเธอจะมองดูพวกเขาอย่างตั้งใจ แต่ก็ยังรู้สึกน่าเบื่ออยู่บ้าง

เฮ้อ….ยังคงไม่ใช่เรื่องที่ตนเองให้ความสนใจอยู่ดี เจียงหยุนเอ๋อถอนหายใจอยู่เงียบๆในใจ

ลี่จุนถิงที่อยู่ด้านหนึ่งเอาแต่สังเกตการณ์แสดงออกของเจียงหยุนเอ๋ออย่างละเอียดมาโดยตลอด พอเห็นว่าเธอดูเบื่ออยู่บ้าง จึงเอ่ยขึ้นมาก่อน “อากาศข้างในอบอ้าวอยู่บ้าง คุณอยากออกไปเดินเล่นกับผมหน่อยไหม?”

เจียงหยุนเอ๋อตะลึงไป เธอไม่อยากนั่งทนเบื่ออยู่ที่นี่แล้วจริงๆ ดังนั้นจึงรีบตกปากรับคำทันที “ได้สิคะ”

ทั้งสองเดินออกจากมาจากสโมสรและเริ่มเดินไปตามถนน เดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเจียงหยุนเอ๋อเงยหน้าขึ้นและพบว่าพวกเธอมาที่ห้างสรรพสินค้าโดยไม่รู้ตัว

เจียงหยุนเอ๋อไม่มีอะไรที่ต้องการจะซื้อเช่นกัน เธอเหลือบมองดูและสายตาก็ตกลงไปยังสร้อยข้อมือบนเคาน์เตอร์ที่ร้านค้าใกล้ๆตัว

ในเวลานั้นเองลี่จุนถิงมองเห็นร้านกีฬาที่อยู่ออกไปไม่ไกล เขากำลังคิดที่จะซื้ออุปกรณ์กีฬาอยู่พอดี ดังนั้นเขาจึงเอ่ยกับเจียงหยุนเอ๋อ “คุณรอผมอยู่ที่นี่สักครู่ ผมจะไปซื้อของ”

“อืม” เจียงหยุนเอ๋อตอบรับเขาทันที หลังจากให้สายตาส่งลี่จุนถิงเดินจากไป สายตาของเธอก็ถูกสร้อยข้อมืออันนั้นดึงดูดขึ้นมาอีกครั้ง

ครั้งแรกที่มองเห็นสร้อยข้อมือเส้นนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้เธอยิ่งมองกลับยิ่งรู้สึกชอบมัน

เจียงหยุนเอ๋อยืนอยู่ข้างนอกสักพัก และสุดท้ายก็เดินเข้าไปอย่างอดใจไม่ได้ เธอเอ่ยกับพนักงาน “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณช่วยหยิบสร้อยข้อมือเส้นนั้นมาให้ฉันดูหน่อยได้ไหมคะ?”

ไม่รู้ว่าทำไม พนักงานในร้านนี้ถึงได้มีท่าทีเย็นชาอย่ายิ่ง ในตอนแรกที่เจียงหยุนเอ๋อเดินเข้ามา พนักงานดูเหมือนจะไม่เห็นเธออีกทั้งยังไม่ได้เอ่ยต้อนรับอะไร ตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อเอ่ยคำร้องขอขึ้นมา เธอก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน

เจียงหยุนเอ๋อยืนอยู่ที่เดิน ในเวลานี้มีความอึดอัดขึ้นมาอยู่บ้าง แต่เธอก็ยังเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณช่วยหยิบสร้อยข้อมือเส้นนั้นให้ฉันดูหน่อยได้ไหมคะ?”

ในที่สุด พนักงานก็ยกเปลือกตาขึ้นและมองเจียงหยุนเอ๋อตั้งแต่หัวจรดเท้า ร่องรอยดูถูกเหยียดหยามปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ จากนั้นจึงเอ่ยกับเจียงหยุนเอ๋อด้วยน้ำเสียงห้วนๆ “สร้อยข้อมือนี้ทำมาจากหยกจักรพรรดิ ราคา 58888 ถ้าเอาออกมาแล้วเธอทำพัง เธอรับผิดชอบไหวหรือเปล่า?”

เมื่อครู่เจียงหยุนเอ๋อแค่สนใจลักษณะของสร้อยข้อมือด้านนอกเท่านั้น ไม่ได้สังเกตราคาแต่อย่างใด กำไลราคาห้าหมื่นกว่าแบบนี้เธอรับผิดชอบไม่ไหว ดังนั้นเธอจึงรีบดึงสติกลับมาและเอ่ยขอโทษพนักงาน “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันจะดูอย่างอื่นแทน……”

พนักงานยิ้มเยาะและพูดขึ้น “ใช่สิ ซื้อไม่ไหวก็อย่าไปดูมัน ที่นี่ยังมีของราคาถูกอีกมากมาย ของราคาพันสองพัน น่าจะเหมาะสมกับเธออย่างยิ่ง”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็อดรู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาไม่ได้ เธอแทบอยากจะมุดลงพื้นไปรู้แล้วรู้รอด ในเวลานั้นเอง เสียงของลี่จุนถิงก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังเธอ

“ใครบอกว่าซื้อไม่ไหว?”