บทที่ 71 ก็แค่สุนัขตัวหนึ่ง

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 71 ก็แค่สุนัขตัวหนึ่ง

ทันใดนั้นด้านนอกก็มีเสียงสายฝนโปรยลงมา ลี่จุนถิงเหลือบมองออกไป ในใจรู้สึกยิ่งเป็นกังวลมากขึ้น

ไม่สามารถติดต่อกับเจียงหยุนเอ๋อได้ อีกทั้งยังไม่รู้เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า ซ้ำด้านนอกฝนยังตกลงมา เธอไม่ได้นำร่วมไปด้วยอย่างแน่นอน ทำไมถึงไม่รู้จักกลับมาให้เร็วหน่อยกัน!

เมื่อนึกถึงว่าอาจมีเรื่องเกิดขึ้นกับเจียงหยุนเอ๋อ หัวใจของลี่จุนถิงก็เกร็งเครียดขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

มองเห็นลี่จุนถิงที่เตรียมพร้อมจะออกไปข้างนอก คนรับใช้คนหนึ่งก็รีบมาหยุดเขาเอาไว้ “คุณชายลี่ เรื่องแบบนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราไปก็พอแล้ว ด้านนอกฝนยังคงตก คุณอยู่ในคฤหาสน์จะดีกว่า อย่าออกไปเลย”

“ไม่ได้” ลี่จุนถิงปฏิเสธข้อเสนอของเขาทันที จากนั้นจึงหยิบร่วมและออกไป

เมื่อเผชิญกับฝนที่จู่ๆก็ตกหนักอย่างกะทันหัน ผมและเสื้อผ้าของเจียงหยุนเอ๋อก็เปียกปอนไปหมดทั้งตัวจนตกอยู่ในสภาพที่น่าอนาถอยู่บ้าง

แต่ว่า ลี่จีถองเคยบอกเอาไว้ ถ้าหากหาสุนัขตัวใหญ่ไม่พบ ก็ห้ามกลับไป ดังนั้นเจียงหยุนเอ๋อจึงได้แต่ต้องฝ่าฝนที่กำลังกระหน่ำลงมาและค้นหามันต่อไป

เจียงหยุนเอ๋อไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรวบผมที่เปียกชุ่มของเธอไปไว้ด้านหนึ่ง สายฝนชะล้างใบหน้าของเธอ จนเธอมองไม่เห็นถนนตรงหน้าอยู่บ้าง

ในเวลานี้เอง เธอกลับได้ยินใครบางคนเรียกชื่อเธออยู่ไม่ไกล

“เจียงหยุนเอ๋อ! เจียงหยุนเอ๋อ!”

เจียงหยุนเอ๋อตะลึง จากนั้นเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นว่าเป็นลี่จุนถิงที่อยู่ออกไปไม่ไกล ใบหน้าของเขาดูกังวลอย่างมาก และกำลังตะโกนเสียงดัง

ในขณะที่เจียงหยุนเอ๋อมองไปหาเขา ก็เป็นเวลาเดียวกับที่ลี่จุนถิงหันศีรษะมาและสบตาเธอเข้าพอดี “เจียงหยุนเอ๋อ!”

วินาทีที่เห็นเธอ ลี่จุนถิงก็รีบพุ่งเข้ามาดูเธอ เมื่อมองเห็นสภาพเปียกปอนดูไม่ได้ คิ้วของเขาก็ขมวดแน่นและรีบยกร่มขึ้นไปบังบนศีรษะของเธอ จากนั้นจึงถอดเสื้อคลุมออกแล้วสวมให้เธอ

หลังจากเสร็จสิ้นทั้งหมดนี้ ลี่จุนถิงก็มองดูเจียงหยุนเอ๋อด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและเอ่ยถาม “ดึกขนาดนี้แล้วทำไมคุณยังไม่กลับไป? ฝนตกหนักขนาดนี้ คุณมาตากฝนแบบนี้ไม่กลัวป่วยหรือไง? ไม่โทรหาผมก็แล้วไป ผมโทรหาคุณ คุณก็ไม่รับสาย คุณรู้หรือเปล่าว่าผมเป็นกังวลมากขนาดไหน?”

“ฉัน…” เจียงหยุนเอ๋อมองไปที่ลี่จุนถิงด้วยความงุนงงลี่จุนถิงจับข้อมือของเธอและคิดจะพาเธอกลับไป “เอ่อ เดี๋ยวก่อน! ฉันยังหาหมาของป้าของคุณไม่เจอ….ในเมื่อตอนนี้คุณมาแล้ว คุณช่วยฉันหาหน่อยได้ไหมคะ?”​

“ยังคงนึกถึงหมาตัวนั้นอยู่อีก?” ลี่จุนถิงเย้ยหยัน “ก็แค่หมาตัวหนึ่งเท่านั้น ถึงกับต้องทำขนาดนี้งั้นหรือ? ไป กลับไปกับผม”

เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อต้านของเจียงหยุนเอ๋อ ลี่จุนถิงยัดร่มเข้าไปในมือของเธอ “รับไป”

พูดจบ ลี่จุนถิงก็อุ้มเจียงหยุนเอ๋อขึ้นมาและเดินไปยังรถของเขา

“อา!” เจียงหยุนเอ๋ออุทานออกมาด้วยความตกใจ จากนั้นจึงรีบกอดคอของลี่จุนถิงเอาไว้อย่างรวดเร็ว

ทั้งคู่กลับไปยังคฤหาสน์ เจียงหยุนเอ๋อเห็นว่า ลี่จีถองไม่ได้อยู่ในห้องนั่งเล่น จึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจอย่างเงียบๆ อย่างน้อยก็ไม่ต้องถูกเธอซักถามไปชั่วครู่

“เอาล่ะ คุณรีบไปอาบน้ำ เปียกขนาดนี้ยังไม่กลัวป่วยอีก” ลี่จุนถิงขมวดคิ้วและเอ่ยขึ้น

“อืม …” เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้าเบาๆ และรีบเดินกลับไปยังห้องของตน

หลังจากอาบน้ำเสร็จ เจียงหยุนเอ๋อก็ได้ยินเสียงเคาะประตูด้านนอก เสียงทุ้มต่ำของลี่จุนถิงดังขึ้น “อาบน้ำเสร็จหรือยัง?”

เจียงหยุนเอ๋อเดินไปเปิดประตู เธอเห็นลี่จุนถิงยืนอยู่ข้างนอกพร้อมกับแก้วน้ำในมือของเขา จากนั้นเขาจึงยื่นแก้วใบนั้นมาให้เจียงหยุนเอ๋อ “ดื่มนี่ซะ”

เจียงหยุนเอ๋อมองไปที่แก้วน้ำด้วยความประหลาดใจ เธอเอ่ยถาม “”นี่คืออะไรคะ?”

“ยาแก้หวัด คุณเพิ่งจะไปตากฝนมาตั้งนาน ดื่มยาป้องกันไว้ก่อนเถอะ พรุ่งนี้จะได้ไม่ป่วยเป็นหวัด” ลี่จุนถิงพูดจบก็ไม่ได้ไปไหน ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ราวกับต้องการให้แน่ใจว่าเจียงหยุนเอ๋อดื่มมันลงไปจริงๆ

เมื่อมองเห็นสายตาที่กำลังจับจ้องของลี่จุนถิง เจียงหยุนเอ๋อก็ดื่มยาลงไปแต่โดยดี

หลังจากดื่มยา เจียงหยุนเอ๋อก็นึกขึ้นได้ว่าตนหา สุนัขของลี่จีถองไม่เจอ ดังนั้นจึงอดถามขึ้นมาด้วยความกังวลไม่ได้ “คุณป้าของคุณล่ะคะ? วันนี้ฉันไม่ได้พาสุนัขของเธอกลับมา เธอคงโกรธมากแน่…”

“คนรับใช้บอกว่าเธอกลับห้องไปพักผ่อนตั้งนานแล้ว ซ้ำยังไม่ได้กังวลอะไรมากนัก” ลี่จุนถิงขมวดคิ้วและเอ่ยขึ้น เขานึกไม่ถึงว่าลี่จีถองจะทำเรื่องเกินไปแบบนี้

ทั้งสองคนคุยกันเรื่อยเปื่อยไปสักครู่ ลี่จุนถิงยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู และไม่มีความคิดที่จะเดินเข้าไป เมื่อเห็นเช่นนี้เจียงหยุนเอ๋อก็อดที่จะทำตัวไม่ถูกขึ้นมาอยู่บ้าง เดิมเธอคิดจะถามลี่จุนถิงว่าเขาต้องการไปที่นั่งหรือไม่ แต่เมื่อนึกไปถึงเมื่อเช้าที่ ลี่จุนถิงบอก ลี่จีถองว่าตนเป็นแค่เพื่อนของเขาเท่านั้น ในใจของเธอก็เริ่มโกรธขึ้นมาอีกครั้ง

“คุณมีอะไรอีกไหม? ถ้าไม่มีแล้ว ฉันจะพักผ่อนก่อน” เจียงหยุนเอ๋อก้มหน้าลงและเอ่ยขึ้นเบาๆ

ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมอารมณ์ของเจียงหยุนเอ๋อจู่ๆเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน แต่เมื่อลี่จุนถิงมองดูเวลาก็พบว่ามันดึกมากแล้ว ดังนั้นจึงเตรียมตัวจากไป

“อืม คุณควรรีบพักผ่อน”

ทันทีที่พูดจบ ทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงเห่าของสุนัขดังมาจากห้องของลี่จีถอง

เจียงหยุนเอ๋อเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “เป็นไปได้ยังไง? สุนัขของป้าของคุณไม่ได้วิ่งออกไปข้างนอกแล้วหรือคะ?”

สีหน้าของลี่จุนถิงเข้มขึ้น และไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

เช้าวันถัดมา หลังจากที่ลี่จีถองตื่นขึ้น เธอก็พบว่าสุนัขของเธอไม่อยู่ในห้องของตนแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย และเตรียมแต่งตัวลงไปชั้นล่าง

ในขณะที่เดินผ่านระเบียงลี่จีถองก็เห็นสุนัขของเธอนอนเป็นอัมพาตอยู่ในสนาม เธอรีบวิ่งออกไปด้วยความประหลาดใจ แต่กลับพบว่าสุนัขตัวใหญ่ตายแล้ว

เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เมื่อเห็นฉากนี้ ลี่จีถองก็ตกตะลึง จากนั้นจึงเข้าไปถามเจียงหยุนเอ๋อในทันที

ประกอบกับในเวลานี้ เจียงหยุนเอ๋อก็มาที่ห้องนั่งเล่นพอดี เธอกำลังจะไปที่ห้องครัวเพื่อดูว่ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่ แต่กลับเห็นสีหน้าเกรี้ยวกราดของลี่จีถองที่กำลังพุ่งเข้ามาหาตนเอง

“เจียงหยุนเอ๋อ เธอฆ่าหมาของฉัน!”ลี่จีถองตะโกนถามเสียงดัง

เจียงหยุนเอ๋อตกตะลึง จากนั้นจึงหันไปมองตามทิศทางที่นิ้วของลี่จีถองชี้ไป และเห็นเป็นศพสุนัขตัวใหญ่ตัวนั้น วินาทีนั้นในใจของเธอรู้สึกงุนงงอย่างยิ่ง เธอไม่รู้เลยสักนิดว่าเกิดอะไรขึ้น

ในเวลานั้นเอง จู่ๆลี่จุนถิงก็ปรากฏตัวขึ้นที่บันได และเอ่ยกับลี่จีถอง “คุณป้า สุนัขตัวหน้าผมให้คนแขวนคอมันทิ้งซะ”

“ทำไม!” ลี่จีถองกำหมัดแน่น และถามด้วยความไม่เชื่อ

“สุนัขตัวนั้นตอนเช้ามันวิ่งออกไปและไม่รู้ไปกินถูกยาพิษอะไรเข้า ผมเห็นท่าทางของมันดูทรมาน เลยอยากจะช่วยมันให้เจ็บน้อยลงสักหน่อย เลยแขวนคอมันซะ คุณป้าน่าจะเข้าใจในการกระทำของผม? ยังไงเสีย ตอนนั้นมันก็ไม่มีทางเลือกอื่นเหลืออยู่แล้ว” ลี่จุนถิงเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน อีกทั้งยังไม่ลืมที่จะปลอบโยน ลี่จีถอง “คุณป้าเองก็ไม่ต้องเสียใจไป สุนัขตัวนี้ไม่เชื่อฟังคนขนาดนั้น ต่อไปหากจะเลี้ยงก็เลี้ยงตัวที่เชื่อฟังสักหน่อยจะดีกว่า”

ลี่จีถองถูกคำพูดของลี่จุนถิงพูดเสียจนตนเองพูดไม่ออก ต่อให้เธอจะเดาได้ว่าลี่จุนถิงกำลังระบายความโกรธแทนเจียงหยุนเอ๋อ แต่เธอก็ไม่สามารถหาหลักฐานใดๆมาหักล้างได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงแค่อดทนอยู่เงียบๆ

ในระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน จู่ๆลี่จุนถิงก็พูดขึ้น “ใช่สิ คุณป้า เร็วๆนี้คฤหาสน์ของผมจะต้องทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค และอาจจะต้องใช้ยาฆ่าเชื้อบางอย่าง คาดว่าสภาพแวดล้อมในคฤหาสน์คงจะไม่ดีมากนัก คุณป้าลองดู ว่าสามารถย้ายออกไปพักที่อื่นได้หรือไม่? หากผมจัดการที่นี่เสร็จแล้ว คุณค่อยกลับมาอีกครั้ง”

หลังจากได้ยินลี่จีถองก็ขมวดคิ้วแน่น ลี่จุนถิงกำลังสนับสนุนเจียงหยุนเอ๋อใช่หรือไม่?

แม้ในใจจะไม่พอใจอย่างยิ่ง แต่ลี่จีถองก็ได้แต่ยอมตอบรับไปอย่างไม่เต็มใจนัก